บทที่ 485 ไม่ทิ้งกัน
กลับมาถึงหอพัก หลิงเหยาก็เห็นแหวนในมือของเวินจิ้งทันที
“โอ้ว นี่อะไรกันเหรอ”
“มู่วี่สิงบอกว่าเราหมั้นกันก่อน” เวินจิ้งบอกข่าวดีนี้ด้วยรอยยิ้ม
“เร็วเหมือนนี่ เมื่อไหร่”
“วางแผนจะเป็นสัปดาห์หน้า” เวินจิ้งยิ้ม
“ดูพวกคุณสิ แต่งงานใหม่โดยตรงไม่ดีเหรอ”
เวินจิ้งอึ้งไปสักพัก “เอ่อ ฉันบอกมู่วี่สิงว่า เรื่องแต่งงาน ต้องรอให้ฉันเรียนจบก่อน”
ตอนนี้เธอต้องเทเวลาทั้งหมดให้กับการเรียน
“งั้นต้องรอสองปี มู่วี่สิงจะรอไหวเหรอ ผู้หญิงที่อยากอยู่กับเขา คงต่อแถวจากทางเหนือของเมืองยาวถึงทางใต้มั้ง”
“ฉันเชื่อเขา”
“โอเค ฉันเชื่อว่าความรักของพวกเธอแข็งแกร่งกว่าจินเจี้ยน ฉันจะรอค่อยงานแต่งของพวกเธอนะ”
สองวันต่อมา มู่วี่สิงได้ส่งแผนงานสำหรับงานหมั้นให้เธออย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นความคิดใหม่ๆของแผนกประชาสัมพันธ์ของบริษัท
สถานที่จัดงานหมั้นจะจัดที่เมืองที่ติดกับทะเลที่ใกล้กับหนานเฉิง จัดงานมั้นที่หาดทราย
แต่เวินจิ้งรู้สึกว่า … หรูหราเกินไป
งานหมั้นจัดแบบง่ายๆก็พอ
เธอบอกมู่วี่สิงตามความคิดของเธอ “ฉันคิดว่าแค่ทานข้าวกับเพื่อนที่คุ้นเคย และประกาศว่าเราหมั้นกันแล้ว แค่นี้ก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องจัดพิธีพิเศษหรอก”
เมื่อได้ยินเหล่านี้ มู่วี่สิงก็ขมวดคิ้ว พวกเขาไม่เคยมีประสบการณ์ในขั้นตอนนี้มาก่อน เพราะฉะนั้นเขาเลยอยากจัดหรูหราให้เธอหน่อย ชดเชยความเสียดายของครั้งก่อน
“งานหมั้นครั้งนี้ ในสายตาของฉัน ก็ถือว่างานแต่งงานอย่างเป็นทางการแล้ว” มู่วี่สิงมองเธอด้วยความรัก
เวินจิ้งอึ้งไป ถึงจะเป็นงานแต่งงาน เธอก็รู้สึกว่า … จัดง่ายๆก็พอ
เมื่อก่อนเพราะคุณปู่ยังมีชีวิตอยู่ การแต่งงานครั้งนั้นต้องต้อนรับแขกและให้เกียรติผู้ใหญ่ทั้งสองตระกูล ก็เลยจัดงานอลังการมาก แต่จริงๆแล้วเธอชอบงานแต่งที่มีแต่ญาติและเพื่อนที่สนิทที่สุดมากกว่า ด้วยการอวยพรพวกเขา เธอกับมู่วี่สิงบอกคำสัญญาซึ่งกันและกัน
แบบนี้ก็พอแล้ว
“มู่วี่สิง คุณเข้าใจใช่ไหม” เวินจิ้งมองเขาด้วยความหวัง
“จิ้งจิ้ง ถ้าไม่อยากลำบากเกินไป งั้นเราจะจัดง่ายๆ หลังจากงานหมั้น เราไปพักผ่อนกัน ดีไหม” มู่วี่สิงเข้าใจความคิดของเธอ
“ได้ค่ะ หลังจากสัปดาห์หน้าก็เป็นวันหยุดวันชาติพอดี”
มู่วี่สิงสั่งให้พนักงานของแผนกประชาสัมพันธ์เข้ามา ยกเลิกขั้นตอนทั้งหมดของพิธีหมั้น จัดเฉพาะการร่วมทานอาหารค่ำกับเพื่อน สำหรับรายชื่อ มู่วี่สิงให้เวินจิ้งจัดการเองเลย
“เพื่อนของฉันมีไม่กี่คน คุณก็รู้จักกันหมด”
“โอเค งั้นก็ตกลงตามนี้”
จากวันนี้ถึงวันหมั้น เหลืออีก5วัน สถานที่ไม่ต้องจัดเป็นพิเศษ เวินจิ้งแค่ต้องเลือกชุดตาข่ายก็พอ
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่งานหมั้น แต่เธอก็รอคอยมากเหมือนกัน
เรื่องงานหมั้น เวินจิ้งบอกหลินเวยตอนที่เธอกลับบ้านเมื่อวันหยุดสุดสัปดาห์
“สัปดาห์หน้าแม่จะไม่อยู่ในหนานเฉิง คงต้องพลาดงานหมั้นของหนู” หลินเวยพูดอย่างผิดหวัง
สัปดาห์หน้าเป็นการประชุมสรุปประจำปีของบริษัทหลินซื่อ เธอต้องกลับประเทศ C.
“ค่ะ ฉันจะถ่ายทอดวิดีโอสดให้แม่ดูนะ” เวินจิ้งยิ้ม
“หนุ่มสาวอย่างพวกหนูสนุกสนานให้เต็มที่เลยนะ แม่จะไม่รบกวน” พูดเสร็จ หลินเวยก็หยิบสร้อยคอมรดกออกมาจากตู้
“นี่คือสร้อยคอเมื่อแม่หมั้นกับพ่อของหนู คุณยายให้แม่ ตอนนี้แม่จะให้หนูต่อนะ”
เวินจิ้งมองดูมรกตที่ฝังไว้บนสร้อยนี้ สีใสสวยงามมาก ต้องมีค่ามากแน่นอน
“คุณแม่ ขอบคุณค่ะ”
“รอให้หนูแต่งงานอย่างเป็นทางการ แม่จะให้หนูเยอะกว่านี้ ตอนนี้หมั้นก่อนก็ดีเหมือนกัน รอให้หนูเรียบจบก่อนค่อยแต่งงานก็ไม่สายเกินไป มู่วี่สิงเด็กคนนี้ แม่รู้สึกว่าเขาก็ค่อนข้างดี” ตอนนี้หลินเวยคิดว่ามู่วี่สิงดีมาก
เมื่อเวินจิ้งเกิดเรื่อง เขาก็อยู่เคียงข้างเธอไม่ทิ้งกัน
ตอนนี้ในสายตาของหลินเวย คนที่ดีต่อลูกสาว นี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
วันหมั้นใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เวินจิ้งทั้งดีใจและทั้งตื่นเต้น
ในเวลาเดียวกันก็ใกล้ถึงวันหยุดแล้ว คุณหมอและพยาบาลในโรงพยาบาลกำลังพูดถึงแผนการท่องเที่ยวในช่วงวันหยุด “เวินจิ้ง แล้วคุณล่ะ วันชาตินี้จะไปเที่ยวที่ไหนเหรอ”
“ฉันเหรอ ฉันจะไปพักผ่อนซีเฉิง”
ซีเฉิงอยู่ข้างๆหนานเฉิง หลังจากจัดงานหมั้นกับมู่วี่สิงเสร็จ สองคนจะไปเที่ยวที่ซีเฉิงสักหลายๆวัน
เวินจิ้งไม่อยากไปสถานที่ที่ไกลเกินไป เพราะปกติมู่วี่สิงก็จะเดินทางไปต่างเมืองและต่างประเทศทำงานตลอด วันหยุดไปผ่อนคลายในที่ใกล้ๆก็ดีแล้ว
“ฉันก็อยากไปซีเฉิง แต่โรงแรมในซีเฉิงดูเหมือนจะถูกจองเต็มไปหมดแล้ว โทษฉันที่ช้าเอง … “
“โรงแรมของซีเฉิงจองเต็มแล้วเหรอ” เวินจิ้งก็ตกใจ
เธอกับมู่วี่สิงเหมือนยังไม่ได้จองห้องเลย
ปกติวันหยุดเธอไม่ค่อยออกไปเที่ยว เลยจำไม่ได้ว่าสถานที่ท่องเที่ยวคนจะเต็มในช่วงวันหยุด
หลังจากเลิกงานออกจากโรงพยาบาล เธอก็ไปบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปโดยตรงเลย
มีรถแท็กซี่อยู่หน้าประตู และเวินจิ้งบอกที่อยู่ของบริษัทมู่ซื่อกรู๊ปโดยตรง
ฉันโทรหามู่วี่สิงระหว่างทาง แต่ไม่มีคนรับสายตลอด คงประชุมอยู่
มองไปนอกหน้าต่าง ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายและรถไม่ได้ติดมาก ถนนของหนานเฉิงเธอเกือบรู้หมด แต่นี่ไม่ใช่ทางที่ไปบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปเลย
เวินจิ้งขมวดคิ้วและมองคนขับรถ “ไปผิดทางหรือเปล่าคะ”
แต่คนขับไม่ได้พูดอะไร เวินจิ้งเพิ่งเห็นว่าคนขับใส่หมวกอยู่ และเกือบปิดใบหน้าไปครึ่งหนึ่ง
แต่ว่ามีความคุ้นเคยเล็กน้อย
มู่เหิง
เวินจิ้งหน้าซีดทันที มู่เหิงออกมาได้ยังไง
“มู่เหิง จอดรถ” เวินจิ้งพูดอย่างโกรธ
แต่ที่ตอบสนองเธอคือการเพิ่งความเร็ว รถก็ขับไปที่ห่างไกลมากขึ้น
เธอจับถือโทรศัพท์ คิดจะส่งข้อความให้มู่วี่สิง แต่วินาทีต่อมา มู่เหิงจอดรถกะทันหัน มือของเวินจิ้งสั่นเบาๆและโทรศัพท์ก็ตกลงไปบนพื้น
มู่เหิงลงจากรถแล้วเปิดประตูที่นั่งหลัง เขาหยิบโทรศัพท์ของเวินจิ้งขึ้นมาก่อน แล้วโยนมันลงถังขยะที่อยู่ข้างนอกอย่างเย็นชา
ในเวลานี้ มีคนขับอีกคนนั่งลงในที่นั่งคนขับแล้ว และมู่เหิงก็นั่งอยู่ข้างๆเวินจิ้ง
“คุณประหลาดใจที่เห็นฉันใช่ไหม” มู่เหิงยิ้มอย่างเย็นชา “ฉันถูกประกันตัวออกมาชั่วคราว”
“คุณจะทำอะไร” เวินจิ้งกลัวเบาๆ และถอยหลังตลอด
แต่แท็กซี่ก็แคบแค่นี้ เธอถอยไปไหนไม่ได้
“ทำอะไรเหรอ ต้องลักพาตัวคุณและข่มขู่มู่วี่สิงสิ ไม่งั้นฉันจะต้องติดคุกอย่างเดียว” มู่เหิงจู่ๆก็บีบคอของเวินจิ้นแน่น แรงไม่น้อย เวินจิ้งขาดอากาศหายใจและหน้าซีดไปเรื่อยๆ …
“มู่เหิง ถ้าฉันเป็นอะไรไป มู่วี่สิงไม่ปล่อยคุณแน่ๆ” เวินจิ้งพูดเบาๆ
เมื่อเห็นว่าเวินจิ้งเกือบจะหายใจไม่ออก เขาค่อยปล่อยมือ
ในเวลานี้ บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป
มู่วี่สิงกลับไปที่ห้องทำงาน โทรศัพท์ที่วางบนโต๊ะมีสายโทรเข้าตั้งหลายสาย ซึ่งเป็นสายโทรเข้าของเวินจิ้งทั้งหมด เขาโทรกลับ แต่ไม่มีคนรับสาย
เวลานี้เวินจิ้งออกจากโรงพยาบาลแล้ว
ในขณะนี้ เกาเชียนมารายงานว่า “คุณมู่ มู่เหิงได้รับการประกันตัวออกมาชั่วคราวเมื่อบ่ายนี้ครับ”
เมื่อได้ยินอย่างนี้ ใบหน้าของมู่วี่สิงก็เครียดทันที
“ตรวจสอบที่ตั้งโทรศัพท์ของเวินจิ้งเดี๋ยวนี้”
เกาเชียนรับสั่ง ตกใจกับออร่าที่เปลี่ยนเยือกเย็นอย่างรวดเร็วของเจ้านาย