flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 535 ร้องเพลงให้เธอฟัง

บทที่ 535 ร้องเพลงให้เธอฟัง

เวินจิ้งรู้สึกได้อยู่แล้ว แม้ปลายนิ้วของเธอก็สัมผัสได้ถึงอุณหภูมิที่ร้อนระอุ

เธอรีบดึงมือกลับทันที และหันหลังให้มู่วิสิง”ไม่เล่นล่ะ ฉันง่วงนอนแล้ว”

“ฉันร้องเพลง คุณให้ฉันอีกครั้ง นะๆ”มู่วี่สิงจูบหูของเธอเยอะมากและกระซิบว่า

ร่างกายของเวินจิ้งแข็งไปสักพัก ดวงตามองมู่วี่สิง

ดูเหมือนว่า … ก็ดีนะ

ในวินาทีต่อมา ร่างกายของเธอก็ถูกมู่วี่สิงขยับเข้าไปแล้ว เขาหาเนื้อร้องของเพลงในโทรศัพท์

สายลมค่อยๆพัดพาความสุขอย่างซึ้งใจ

ฉันก็อยากจับมือคุณแน่นๆ

กอดคุณอย่างโรแมนติกและชมพระอาทิตย์ตก

นับนิ้วไว้เมื่อกลัวความมืด

เวลาจะผ่านไปเร็วมาก

ฉันจะเฝ้ารอและดูแลเธออย่างระวัง

พิงไหล่ฉันตอนฝนตก

เมื่อนอนไม่หลับจำไว้ว่าต้องคิดถึงฉัน

จะฝันถึงฉันในสามวินาที

นั่งบนลูกโป่งไปชมวิวกับคุณ

ดูดวงดาวทุกอันที่จะหัวเราะได้

อยากไปทั่วโลกกับคุณในทั้งฤดูร้อน

เสียงของมู่วี่สิงลดระดับลง แต่ก็ร้องความรู้สึกแฮปปี้ของเพลงนี้ออกมาได้เหมือนกัน

ถึงแม้จะมีเสียงแผ๊นเล็กน้อย แต่ฟังแล้วข้อบกพร่องเล็กน้อยนี้ไม่มีผลไม่ดีต่อเพลงเลย

“มู่วี่สิง คุณโกหกฉันอีกแล้ว”เวินจิ้งหน้าบึ้ง

“ฉันโกหกอะไรคุณ”มู่วี่สิงขมวดคิ้ว

“คุณร้องเพลง … ก็โอเค”เวินจิ้งพูดอย่างจริงจัง

“มีแต่คุณเท่านั้นที่คิดอย่างนั้น”มู่วี่สิงยิ้ม

เขายังจำได้ว่าเคยไป KTV ครั้งหนึ่งตอนฝึกงาน เมื่อเขาเปิดปากเพื่อนร่วมงานต่างก็ปิดหูกันหมด…

หลังจากนั้นก็มีคนแนะนำให้เขาไปเรียนร้องเพลง ตอนนั้นความกดดันสูง ก็ถือว่าไปผ่อนคลายแล้วกัน ได้เรียนแค่”ฤดูร้อน”เพลงเดียว

“จริงๆ”เวินจิ้งพยักหน้าอย่างมั่นใจ

ในวินาทีต่อมา มู่วี่สิงก็กลายเป็นหมาป่าและพุ่งเข้าไป

สิ่งที่เวินจิ้งยังอยากพูดถูกปิดกั้นไว้แล้ว…

วันรุ่งขึ้น เมื่อเวินจิ้งตื่นขึ้นมา มู่วี่สิงก็ไปแล้ว

ผ้าปูที่อยู่ข้างๆยังอุ่นอยู่ เขาคงเพิ่งไปไม่นาน

มีข้อเข้ามาในโทรศัพท์ มู่วี่สิงส่งมา

“ตอนบ่ายมาหาฉันที่บริษัทมู่ซือกรุ๊ป”

บริษัทมู่ซือกรุ๊ปเหรอ

เวินจิ้งนึกออกว่า คดีความร่วมมือที่เธอมีส่วนร่วม บริษัทมู่ซือกรุ๊ปก็มีส่วนร่วมด้วย มู่วี่สิงคงไปจัดการงานนี้มั้ง

ตอนเช้าเรียนทฤษฎีเสร็จ เวินจิ้งถือหนังสือก็จะไปเลย

ในเวลานี้ เธอได้รับสายจากที่เบอร์แปลกหน้า

“เวินจิ้ง ฉันคือเจียงฉี”

ผ่านไปครึ่งชั่วโมง โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยหลินไห่

เจียงฉีควรออกจากโรงพยาบาลในวันนี้ แต่เวินจิ้งเข้ามาเห็นว่า อาการบาดเจ็บของเขาหนักขึ้น …

“คนพวกนั้นลงมืออีกแล้วเหรอ “เวินจิ้งถามอย่างตื่นตระหนก

ตอนแรกเจียงฉีเจ็บแค่ใบหน้า แต่ตอนนี้มือและเท้าของเขาบาดเจ็บไปด้วย …

“ใช่”เจียงฉีก้มหัวลง”เมื่อวานหลิงเหยามาหาฉัน เธอบอกฉันเรื่องที่เธอเคยอยู่กับมู่วี่สิง เธอบอกว่า …การโจมตีไม่ใช่ฝีมือตระกูลหลิง แต่เป็นเพราะมู่วี่สิงอิจฉาฉัน”

เวินจิ้งตะลึงและไม่เข้าใจในชั่วขณะ

“นี่หลิงเหยาพูดแบบนั้นเหรอ”เวินจิ้งถามอย่างไม่เชื่อ

เธอกับหลิงเหยาพักอยู่ในหอเดียวกัน สองคนเคยคุยเรื่องส่วนตัวมากมาย แต่ยกเว้นเรื่องที่เธอเคยอยู่กับมู่วี่สิง

เป็นเพราะว่า … ตอนนั้นเธอกำลังอยู่กับมู่วี่สิง หลิงเหยาก็เลยไม่บอกเธอเหรอ

แต่มู่วี่สิงก็ไม่ได้บอกเธอเรื่องนี้ เขาจะไม่โกหกเธอแน่นอน เธอเชื่อมาตลอด

“ใช่ เธอบอกว่าเธอจะสั่งคนมาปกป้องฉัน แต่คนพวกนั้นก็ยังมาทุบตีฉันในทุกคืน … “

เวินจิ้งเม้มปาก ใบหน้าค่อยๆซีดไป

“ที่ฉันหาคุณ แค่อยากเตือนคุณว่า มู่วี่สิงอาจไม่ใช่คนดี เขาทำกับฉันแบบนี้ ไม่ใช่เพราะเขายังชอบเหยาเหยาอยู่หรอ”

เวินจิ้งไม่รู้ว่าเธอจากไปยังไง จนถึงตอนนี้ เธอก็ยังไม่เชื่อ

มู่วี่สิงที่เธอรู้จัก จะเป็นคนใช้กำลังกับคนอื่นแบบนี้ง่ายๆได้ยังไง

และ … เขาจะชอบหลิงเหยาได้ยังไง… เป็นไปได้ยังไง…

ไม่ … เธอไม่เชื่อ

อยู่ที่ไม่ไกล หลิงเหยายืนอยู่หน้าลิฟต์ ใบหน้าของเธอเย็นเยือกเมื่อเห็นเวินจิ้ง

“หลิงเหยา ทำไมคุณไม่เคยบอกฉันว่าคุณกับมู่วี่สิงเคยอยู่ด้วยกัน”เวินจิ้งเดินเข้าใกล้ แต่สีหน้าของเธอไม่ได้สงบเหมือนหลิงเหยา

ถ้าสิ่งที่เจียงฉีบอกเธอเป็นความจริง งั้นมู่วี่สิงและหลิงเหยาต่างก็หลอกเธอเต็มๆเลย

“ฉันคิดว่าคุณรู้แล้ว”

“มู่วี่สิงไม่เคยบอกฉันเรื่องของพวกคุณ “เวินจิ้งกัดปากแน่ๆ

“เราเป็นเพื่อนร่วมห้องกัน เขาอาจจะคิดว่าถ้าบอกคุณ จะทำให้ความสัมพันธ์ของเราอึดอัด”

หลิงเหยาในตอนนี้ กลายเป็นคนแปลกหน้าในสายตาของเวินจิ้ง

“ฉันไม่เชื่อว่ามู่วี่สิงจะทำแบบนี้ “เวินจิ้งพูดอย่างมั่นใจ

“เวินจิ้ง เมื่อก่อนฉันสูญเสียความทรงจำไป เพราะฉะนั้นจึงลืมความทรงจำระหว่างฉันกับมู่วี่สิงไปหมด แต่ตอนนี้ฉันจำทุกอย่างได้แล้ว”ท่าทีของหลิงเหยาในตอนนี้ มีความเจริญรุ่งเรือง

เมื่อห้าปีก่อน เธอเกือบเสียชีวิตเนื่องจากการจมน้ำ ก็เป็นเพราะประสบการณ์นี้เลยทำให้เธอสูญเสียความทรงจำ

หลังจากนั้นพี่ชายเล่าเรื่องทั้งหมดที่เคยเกิดขึ้นให้เธอฟัง แต่ยกเว้นไม่ได้บอกเธอเรื่องในอดีตของเธอกับมู่วี่สิง

จนกระทั่งเธอท้อง เผลอล้มลงโดนหัวโดยไม่ได้ตั้งใจ ถึงค่อยๆจำบางอย่างได้

“ฉันคิดว่า ฉันจะพยายามอยู่กันเขาให้ได้”พูดเสร็จ หลิงเหยาก็เดินด้วยรองเท้าส้นสูงและออกจากสายตาของเวินจิ้งอย่างรวดเร็ว

เวินจิ้งตัวสั่นเบาๆ ร่างกายของเธอสั่นไปทั้งตัวโดยไม่สามารถควบคุมได้เลย

เธอถือหลิงเหยาเป็นเพื่อนดีที่สุดมาโดยตลอด

แต่ตอนนี้ มิตรภาพนี้กำลังสลายไปพร้อมกับการฟื้นความทรงจำของหลิงเหยา

น้ำตาในดวงตาเกือบจะไหลออกมา แต่เธอก็อดทนไว้ จนเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดจังหวะความคิดของเธอ

เมื่อเห็นเป็นสายโทรมาของมู่วี่สิง เธอก็ปิดโทรศัพท์อย่างโมโหโดยตรงและวิ่งออกจากโรงพยาบาล

เธอไม่รู้ว่าจะไปไหน ตอนนี้อั้ยเถียนใช่ชีวิตกับเสี้ยงหง เธอก็ไม่สะดวกจะไปที่นั่น

มีแต่กลับไปที่บ้านตระกูลหลิงอย่างเดียว

เวลานี้หลินเวยยังไม่กลับมา เวินจิ้งกลับห้องของตัวเอง เอาหัวของเธอฝังอยู่ในหมอน

คำพูดของเจียงฉี คำพูดของหลิงเหยาและคำพูดของโจวเซิน วนอยู่ในสมองของเวินจิ้งตลอด

พวกเขาทุกคนกำลังบอกเธอว่า มู่วี่สิงหลอกลวงเธอ

แต่ทั้งๆที่สองคนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งในเมื่อคืนนี้ และเธอฝากจริงใจให้กับเขา จะยอมให้ได้ผลแบบนี้ได้ยังไงล่ะ

เอามือถือออกมาและกดปุ่มเปิดเครื่อง แต่ก็ไม่สำเร็จ

แม้กระทั่งมือถือก็แกล้งเธองั้นเหรอ

ในเวลานี้ ที่บริษัทมู่ซือกรุ๊ป

มู่วี่สิงพยายามโทรหาเวินจิ้ง แต่ก็ปิดเครื่องตลอด ความเย็นชาในดวงตาของเขาก็ค่อยๆมากขึ้น

“เดี๋ยวคุณเป็นประธานของการประชุมนี้ “หลังจากสั่งส้งวี่แล้ว มู่วี่สิงก็รีบออกไปอย่างรอดเร็ว

มีรถคันหรูหราจอดอยู่หน้าประตูของบริษัทมู่ซือกรุ๊ป มีผู้หญิงที่แต่งตัวหรูหราและสง่างามนั่งอยู่ที่นั่งข้างหลัง

เมื่อเธอลงจากรถ ดวงตาของมู่วี่สิงก็หยุดลงไป

“นางหลิง”เขาทักทายอย่างสุภาพ

“วี่สิง จะให้เกียรติทานข้าวกับฉันไหม ถ้าคุณปฏิเสธ ฉันจะเสียหน้ามากนะ”

“ฉันไม่กล้าครับ” ใบหน้าของมู่วี่สิงเย็นชาขึ้น

หลิงเหยาก็อยู่ในรถด้วย

flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

Options

not work with dark mode
Reset