บทที่ 53 ฉันแคร์แค่เธอคนเดียวเท่านั้น
มือของเวินจิ้งสั่นเทาเพราะฤทธิ์ยาที่ทาลงไปบนแผลของเธอ ทำให้มือของเธอปัดไปโดนยาข้างๆล้มระเนระนาดลงมาหมด
หมอที่อยู่ข้างๆขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ : “นี่คือห้องตรวจฉุกเฉิน คนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปให้หมด!”
“แต่ผมคือสามีของเธอ ไม่ใช่คนอื่น” มู่วี่สิงพูดพร้อมกับเดินเข้ามา
หลังจากนั้นหมอก็ได้แต่พันแผลให้เวินจิ้งท่ามกลางสายตาที่หลากหลายที่จ้องมองมา พอพันแผลเสร็จ มู่วี่สิงก็อุ้มเธอขึ้นไปยังห้องพักคนไข้สุดหรูชั้นบนสุด
“มู่วี่สิง นายจะมาทำไม นายยังไม่หายดีเลยนะ!” เวินจิ้งพูดอย่างกังวล พลางมองผื่นแดงบริเวณผิวหนังของเขา
“มีเรื่องเกิดขึ้นกับเธอ แล้วคิดว่าฉันจะนั่งอยู่เฉยๆได้งั้นหรอ” มู่วี่สิงพูดเสียงเข้ม พอเขาเห็นแผลของเวินจิ้งเขาก็หน้าเครียดขึ้นมาทันที
“นายอย่ากังวลเกินไปหน่อยเลย ฉันกลับไปพักที่บ้านได้ ไม่จำเป็นต้องนอนที่นี่หรอก” เธอแค่โดนกัด ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย
“งั้นก็ได้” มู่วี่สิงตอบรับ แต่ตายังคงจ้องมองเธออยู่
พอเห็นมู่วี่สิงมองเธอแปลกๆอยู่นาน เธอก็ค่อยๆก้มหน้าต่ำลง
อั้ยเถียนที่พอเห็นว่ามู่วี่สิงมาก็รีบอาสาไปเอายาให้เธอ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่กลับมา
แต่กลับแอบส่งข้อความหาเวินจิ้งว่า ครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมามู่วี่สิงได้สั่งยุบกลุ่มแฟนคลับของตัวเองเรียบร้อยแล้ว!
เวินจิ้ง : ‘นี่มันอะไรกัน’
อั้ยเถียน : ‘เพราะเรื่องเธอแน่ๆ เธอคิดดูนะ พอเขามีกลุ่มแฟนคลับ ก็เท่ากับว่าเขาเป็นคนของแฟนคลับ เป็นคนของประชาชน จะทำอะไรก็ต้องนึกถึงแฟนคลับก่อน แต่ถ้าเขาสั่งยุบกลุ่มแฟนคลับ เขาก็จะเป็นแค่คนธรรมดาๆคนนึงของเธอ เท่ากับว่าเขาจะทำอะไรหรือคบใคร เขาก็ไม่ต้องแคร์ใครไง แล้วก็ไม่มีใครมีสิทธิ์มาทำอะไรเธอได้อีกด้วย’
เวินจิ้งตั้งใจอ่านข้อความของอั้ยเถียน และดูเหมือนว่า… สิ่งที่เธอพูดนั้นก็มีเหตุมีผลอยู่
พอเธอเงยหน้าขึ้นมองผู้ชายที่กำลังปอกแอปเปิ้ลให้เธออยู่ หัวใจของเธอก็เต็มไปด้วยความอบอุ่น
“มู่วี่สิง “ เธอเรียกเขา
“มีอะไรหรอ ยังเจ็บอยู่หรือเปล่า” มู่วี่สิงหันกลับมามองที่แขนของเธออย่างกังวล
เวินจิ้งส่ายหน้าและมองเขา : “ขอบคุณนะ”
“นี่โดนกัดจนเพี้ยนไปแล้วใช่ไหม อยู่ดีๆถึงพูดว่าขอบคุณน่ะ” มู่วี่สิงพูดพร้อมกับลูบหัวเธอ
เวินจิ้งยิ้มที่มุมปาก แต่ยังไม่ทันจะถึงวินาทีเธอก็ถามขึ้น…
“ทำไมนายถึงยุบกลุ่มแฟนคลับล่ะ” เวินจิ้งถาม
“ฉันไม่ชอบถูกเปิดเผยเรื่องส่วนตัวน่ะ”
“แต่… แฟนคลับของนายจะผิดหวังเอานะ”
“ตอนนี้ฉันแคร์แค่เธอคนเดียวเท่านั้น ส่วนคนอื่น ฉันไม่สน”
คำพูดของเขาทำให้เธออึ้งปนประหลาดใจ
ก็รู้อยู่ว่าพวกเขาไม่ได้เป็นสามีภรรยากันจริงๆ
แต่ทำไม… ท่าทางเขาถึงดูจริงจังมากขนาดนั้นนะ
…
ช่วงเย็น พอสองคนกลับมาถึงบ้าน เวินจิ้งก็ทายาให้เขาก่อน หลังจากนั้นเขาก็ทำแผลให้เธอ
“เจ็บ” เวินจิ้งขมวดคิ้ว พลางชักแขนกลับโดยไม่รู้ตัว
มู่วี่สิงจับแขนของเธอไม่ปล่อย พลางทำแผลให้เธออย่างนุ่มนวลสุดๆเท่าที่เขาจะทำได้
“อย่าขยับ” มู่วี่สิงออกคำสั่ง แล้วบรรจงทายาเข้าที่แผลของเวินจิ้งต่อ
เวินจิ้งกัดริมฝีปากของตัวเอง พยายามจะไม่ขยับแขน แต่ขยับขาแทน และจังหวะที่เธอขยับขานั้นเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาก้มลงไปพอดี…
ใช่แล้ว… ขาของเธอเตะเข้าที่หน้าของเขาอย่างจัง
“เวินจิ้ง!”
“ฉันผิดไปแล้ววว!” เวินจิ้งหน้าเครียดพลางมองไปที่เขาอย่างสงสาร
พอเขาเห็นอย่างนั้น ก็ไม่มีความโกรธหลงเหลืออยู่บนใบหน้าของเขาอีกเลย
เขาหายใจเข้าลึกๆ และพยายามทำใจร่มๆ : “ถ้าทนไม่ไหว ก็กัดฉันนี่”
เวินจิ้งมองเขาด้วยความสงสัย : “ได้จริงๆหรอ”
แต่เธอเจ็บจนทนไม่ไหวจริงๆนี่นา
“อืม” มู่วี่สิงพูดตอบ แล้วยื่นแขนซ้ายออกไปให้เวินจิ้ง
พอเขาทายาให้เธออีกครั้ง เธอก็ขมวดคิ้ว พยายามอดทนสุดๆแต่ก็ทนไม่ไหว ก็เลยกัดเข้าไปที่แขนของมู่วี่สิงอย่างเต็มแรง…
พอทายาเสร็จเขาก็พันแผลให้เธอ แขนซ้ายของเขานั้นชาจากการถูกเวินจิ้งกัด
“ขอโทษนะ” เวินจิ้งพูดด้วยความละอายใจ
“รู้ตัวด้วยหรอว่าตัวเองผิด” มู่วี่สิงเลิกคิ้วมองเธอ
เวินจิ้งที่ยังไม่ทันจะได้ตอบ ก็โดนเขาประกบริมฝีปากโดยไม่ทันตั้งตัว ริมฝีปากของเขานั้นบดขยี้ริมฝีปากของเธออย่างหนักหน่วง จนเธอรู้สึกหัวเสีย
“แล้วฉันผิดตรงไหนล่ะ” เวินจิ้งถามหน้าซื่อ
“วันหลังถ้าเธอเตะหน้าฉันอีกล่ะก็ เธอโดนแน่” มู่วี่สิงหรี่ตาพร้อมกับขยับยิ้มมุมปากอย่างซุกซน
หมอมู่ทำไมร้ายกาจขนาดนี้!
เธอไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย!
และก็ไม่ได้อยากจะโดนอะไรด้วย…
เวินจิ้งอายกับคำพูดของมู่วี่สิงเมื่อกี้มาก เธอคิดไปก็หน้าแดงไป
ดูเหมือนว่าคืนนี้เธอคงไม่กล้ามองหน้าเขาอีกแน่ๆ
…
พอตกดึก เวินจิ้งก็ได้แต่นั่งพิงเตียงแล้วหันหลังให้มู่วี่สิง
ปกติเธอกับเขาก็ไม่ได้นอนติดกันอยู่แล้ว แต่ก็ใช่ว่าจะห่างกันขนาดนั้น เหลือเพียงช่องว่างตรงกลางเล็กๆก็เท่านั้นเอง
พอมู่วี่สิงอาบน้ำออกมาเสร็จแล้วเห็นว่าเวินจิ้งนั่งอยู่ที่พื้น เขาก็เข้าไปโอบรัดเธอเอาไว้ในอ้อมกอดของเขา
มู่วี่สิงอยู่ในสภาพที่มีแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันไว้รอบๆเอวอย่างหลวมๆ จึงเผยให้เห็นมัดกล้ามเนื้อที่ชวนให้หลงใหลบริเวณอกของเขาอย่างชัดเจน
สายตาของเวินจิ้งลดต่ำลง เธอมองไปที่กล้ามหน้าท้องของเขาอย่างไม่อาจละสายตาได้
หุ่นเขาดีเกินไปแล้ว ชีวิตเขาจะดีเหมือนหุ่นเขาหรือเปล่านะ
“ชอบหรอ” มู่วี่สิงถามยิ้มๆพร้อมกับเชยคางเธอขึ้น
เวินจิ้งได้ยินอย่างนั้นก็เผลอพยักหน้าไปโดยไม่รู้ตัว แต่พอเธอรู้สึกตัวเธอก็รีบส่ายหน้าทันที
“ออกไปห่างๆหน่อยได้ไหมเล่า!” เธอพยายามผลักมู่วี่สิงออก แต่เป็นจังหวะเดียวกันกับที่มือของเธอแตะอยู่ที่บริเวณอกของเขา
อืมมม…
มู่วี่สิงขยับริมฝีปากบาง พร้อมกับเอาอีกมือนึงจับเตียงไว้ แล้วมองเธออย่างอ้อยอิ่ง
เวินจิ้งได้แต่คิดว่าเขาต้องคิดว่าเธอเป็นคนหื่นกามมากแน่ๆเลยตอนนี้…
แต่เธอไม่ได้ตั้งใจซะหน่อย!
“เธอจับเองนะ” มู่วี่สิงไม่ขยับ สายตาของเขานั้นยิ่งมองก็ยิ่งดูอันตราย
“เปล่าซะหน่อย!” เวินจิ้งผลักมือออกพร้อมกับกำลังลุกขึ้นออกจากอ้อมกอดของเขา
แต่ในขณะที่เธอกำลังลุกขึ้นนั้น เธอก็เซตกลงไปบนเตียง
พอมู่วี่สิงเห็นอย่างนั้น เขาก็รีบเข้าไปกอดเธอทันที โดยที่หน้าของเธอนั้นซุกอยู่ที่อกของเขา เธอเขินจนไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามองเขาเลย
“พวกเรานอนกันได้แล้วมั้ง” เธอดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดใบหน้า
มู่วี่สิงเอนตัวลงนอนข้างเธอ พร้อมกับดึงผ้าห่มออกแล้วจุ๊บเข้าที่หน้าผากของเธอ : “ฝันดีครับ คุณผู้หญิงมู่”
พอได้ยินอย่างนั้น หัวใจของเวินจิ้งก็เต้นรัวๆ ดูเหมือนว่า คืนนี้เธอจะต้องนอนไม่หลับอีกแน่ๆเลย
…
โชคดีที่วันนี้เป็นวันหยุด เวินจิ้งเลยไปโรงพยาบาลเพื่อไปฉีดยากันพิษสุนัขบ้า แต่ที่จริงน่าจะเรียกว่าพิษแมวบ้ามากกว่านะ
มู่วี่สิงก็ไปกับเธอด้วย แต่เขาถูกพวกแฟนคลับรุมล้อมเต็มไปหมด
“หมอมู่ ทำไมคุณถึงต้องยุบกลุ่มแฟนคลับด้วยล่ะ… “
“หมอมู่ อย่าทำอย่างนี้เลย พวกเราจะไม่ทำร้ายเวินจิ้งอีก… “
บรรดาแฟนคลับพูดไปก็ร้องไห้ไป บางคนก็แทบจะคุกเข่าขอร้องมู่วี่สิงตรงหน้า ความวุ่นวายนี้มันเกินจะควบคุมจริงๆ
กว่ามู่วี่สิงกับเวินจิ้งจะเข้าไปได้ ก็ต้องรอบรรดาเจ้าหน้าที่มาช่วยกันพวกเขาออกจากพวกบรรดาแฟนคลับก่อน
ความกลัวยังคงไม่หายไปจากใจของเวินจิ้ง
ดูเหมือนว่าคนเรานั้นจะสามารถทำได้ทุกอย่าง โดยเฉพาะเวลาที่บ้าคลั่งอะไรมากๆ
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องกังวลนะ” มู่วี่สิงโอบและตบที่ไหล่ของเธอเบาๆเป็นการปลอบ
เวินจิ้งยิ้มเฝื่อนๆ เธอเคยชื่นชอบคนดังมาก่อน เพราะงั้นเธอเลยพอจะเข้าใจความรู้สึกของพวกบรรดาแฟนคลับพวกนั้นอยู่บ้าง
แต่ถ้าเธอจะมองแบบเห็นแก่ตัว เธอก็ไม่อยากจะให้ใครมาไล่ตามมู่วี่สิงแบบนี้อีก
…
ช่วงบ่าย เวินจิ้งไปที่สถานีตำรวจ เพราะจับคนที่ส่งกล่องของขวัญนั่นได้แล้ว และเธอยังได้รับค่าตกใจมาอีกด้วย
พอออกมา เจี่ยนอีก็โทรหาเธอ ให้เธอกับมู่วี่สิงมากินข้าวด้วยกันที่บ้าน พอรู้อย่างนั้น เธอเลยจะไปรอมู่วี่สิงที่โรงพยาบาลก่อน