บทที่ 582 ไม่มีความคิดถึงใดๆ
“เจียงฉี ขอโทษจริงๆ นะ”เวินจิ้งตอบเสียงหนักแน่น“รบกวนคุณบอกกับศาสตราจารย์เฉินให้หน่อยนะ ว่าตอนนี้ฉันไม่มีเวลามากพอ ที่จะทำให้โครงการการวิจัยนี้เสร็จร่วมกับคุณได้”
“เวินจิ้ง”ใบหน้าของเจียงฉีพลันมืดมนลง
“ถ้ามันเป็นเพราะผม ผมก็พร้อมจะออกจากโครงการนี้ แล้วให้นักศึกษาคนอื่นๆ เข้าร่วมแทน!”เจียงฉีพูดอย่างโกรธๆ
เวินจิ้งเงยหน้าขึ้นมอง ด้วยความประหลาดใจ นี่มันเป็นไปได้ยังไง
……
โครงการการวิจัยนี้ แต่เดิมเป็นเพราะเจียงฉี ถึงทำให้เกิดความสำเร็จที่โดดเด่นนี้
“เจียงฉี ทั้งๆ ที่คุณรู้……”
“เวินจิ้ง ผมได้บอกกับศาสตราจารย์เรียบร้อยแล้วว่า คุณจะร่วมโครงการนี้ให้เสร็จไปด้วยกัน ตอนนี้คุณจะไปบอกเขาว่า คุณไม่เข้าร่วม นั่นจะทำให้ศาสตราจารย์คิดว่า คุณกำลังหลอกเขาอยู่”
เวินจิ้งชะงัก เผชิญหน้ากับการคุกคามของเจียงฉี เธอโกรธมาก
“เจียงฉี ฉันไม่ได้ตอบตกลงคุณ ทำไมคุณถึงทำตามใจตัวเอง”
“ผมไม่มีทางออก เวินจิ้ง ผมทำเพื่อคุณ”น้ำเสียงของเจียงฉีผ่อนคลายลงเล็กน้อย และมองเข้าไปในดวงตาของเวินจิ้ง
เวินจิ้งเม้มริมฝีปาก แล้วก็พูดอย่างหนักแน่นว่า“ฉันจะบอกกับศาสตราจารย์เอง”
เมื่อพูดจบ เธอก็รีบออกไป เจียงฉีวอกแวก แล้วก็รีบไล่ตามไปทันที
“เวินจิ้ง คุณปฏิเสธผมเหรอ!”เจียงฉีหน้าบึ้ง ร่างสูงเข้ามาขวางอยู่ตรงหน้าเธอ
“ฉันไม่ได้ปฏิเสธคุณ แต่ฉันหวังว่าคุณจะเคารพฉัน”เวินจิ้งตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ผมเคารพคุณ แต่ว่าคุณเคารพผมก่อนไหม?ถ้าหากว่าคุณไม่เข้าร่วมโครงการนี้,งั้นโครงการนี้ก็จะไม่ดำเนินต่อไป”น้ำเสียงของเจียงฉี เย็นชามากเช่นกัน“นี่เป็นสติปัญญา และกำลังของพวกเรา มาตลอดมากกว่าครึ่งเดือนเลยนะ เวินจิ้ง!”
ในขณะที่พูด ดวงตาของเจียงฉีก็เริ่มเป็นสีแดง
เวินจิ้งรู้ดีว่า เจียงฉีให้ความสำคัญกับโครงการนี้มาก
“เวินจิ้ง,คุณไม่ต้องกังวล,ผมไม่มีความคิดถึงใดๆ ต่อคุณเลย”เจียงฉีพูดอย่างจริงจัง ในทุกๆ คำพูด
“ผมยังไม่ได้บอกกับศาสตราจารย์ ให้คุณตัดสินใจเอง เมื่อกี้ผมก็แค่โมโหมากไปหน่อย ขอโทษด้วย”
เมื่อพูดจบ เจียงฉีก็หมุนตัวออกไป
เวินจิ้งยืนตะลึงอยู่ตรงนั้น นึกถึงคำพูดของเจียงฉี แล้วก็คิดถึงมู่วี่สิง จนกระทั่งช่วงบ่าย เธอถึงไปที่ห้องทำงานอย่างอืดอาดยืดยาด
หลังจากอธิบายกับศาสตราจารย์ว่า เธอจะเข้าร่วมในหัวข้อวิจัยเรื่องนี้ เวินจิ้งก็บอกว่า เธออาจจะมีเวลาไม่มาก ดังนั้นจึงหวังว่า จะมีการจัดการให้มีนักศึกษาเข้ามาร่วมด้วย และศาสตราจารย์เฉินก็เห็นด้วย
เมื่อออกจากห้องทำงาน เจียงฉีก็มาได้ทันเวลา
“ตัดสินใจแล้วเหรอ?”เจียงฉีถาม
“อืม”
เจียงฉีพยักหน้าช้าๆ เวินจิ้งไม่ได้อยู่ต่อ แล้วรีบกลับไปที่หอพัก
ในเวลาเดียวกัน เป่ยเฉิง
หลังจากการประชุมในช่วงบ่ายจบลง เขากลับไปที่โรงแรม ตอนกลางคืนยังมีงานเลี้ยง แต่เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะเข้าร่วม
เขาบอกให้ส้งวี่มาหา“พรุ่งนี้คุณมาพูดสุนทรพจน์ตอนจบแทนผม”
มู่วี่สิงส่งต้นฉบับสองฉบับให้โดยตรง
ส้งวี่ขมวดคิ้ว“ให้ผมขึ้นเวที?ผมไม่ใช่ศาสตราจารย์ ด้านประสาทวิทยาที่มีชื่อเสียงด้วย ทุกคนคงไม่ทำให้ผมขายหน้าหรอกนะ”
เขาเป็นแค่นักธุรกิจคนหนึ่ง ที่ทั้งตัวมีกลิ่นสาบของเงิน และการพูดสุนทรพจน์ให้กับนักวิชาการเหล่านี้ ซึ่งผลลัพธ์ที่จะออกมา ขาดตกบกพร่องอย่างหลีกหนีไม่ได้แน่นอน
“งั้นคุณลองคิดหาวิธี,พรุ่งนี้ผมจะไม่อยู่เป่ยเฉิง”มู่วี่สิงกำชับ
“รีบกลับไปหาเวินจิ้งเหรอ?ถ้าเป็นผม ผมจะบอกว่า เธอเป็นนักเรียนของคุณ แล้วก็ให้เธอมาด้วยกันกับคุณ”ส้งวี่จับไปที่คาง
เขาก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน ที่จะพามู่ซือซือมาด้วย
ทันทีที่คำพูดนั้นเงียบลง ดวงตาที่เย็นชาของมู่วี่สิง ก็จ้องมองไปที่เขา ส้งวี่ก็เงียบลงทันที
เขาถอนหายใจ แล้วก็ตอบออกไปว่า“ผมคิดว่า ผมไม่เหมาะกับการพูดสุนทรพจน์นี้ และมันก็แปลกๆ ที่การประชุมมีการขยายเวลาอย่างกะทันหัน ซึ่งมันก็ทำให้ทุกอย่างยุ่งเหยิง และทำให้แผนการทำงานของผมสะดุด”
เมื่อได้ฟัง มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ความเย็นชาในดวงตาแผ่ซ่าน
“และไม่รู้ว่า บริษัทหลิงซื่อมีเจตนาแอบแฝงอะไร”และประโยคนี้ ทำให้มู่วี่สิงต้องเงยหน้าขึ้นมอง
“บริษัทหลิงซื่อ?”
“ใช่ การจัดการประชุมครั้งนี้ บริษัทหลิงซื่อเป็นคนจัดการ รวมทั้งกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมายด้วย ผมก็ยุ่งจนจะตายอยู่แล้ว ไม่พูดต่อแล้ว คุณคิดเองแล้วกันว่าจะทำยังไง การพูดสุนทรพจน์นี้ ผมไม่สามารถทำได้จริงๆ”ส้งวี่โบกมือไปมา
เขาแค่ไม่ต้องการที่จะพบกับสายตาอันว่างเปล่า ทันทีที่ขึ้นบนเวทีในวันพรุ่งนี้
ทันทีที่ส้งวี่ออกมา ก็เห็นเข้ากับมู่ซือซือ กำลังผลักให้หลิงเหยาเข้ามาหา
เพราะว่าหลิงเหยาก็อยู่ที่เป่ยเฉิง ไม่กี่วันนี้มู่ซือซือไปเป็นเพื่อนเธอ เขาก็ถูกเมินเฉยมาเป็นเวลานานแล้ว
“ซือซือ หลิงเหยา พวกคุณมากันได้ยังไง”
“มู่วี่สิงยังไม่ได้ทานข้าวใช่ไหมคะ?ถ้างั้น พวกเราไปร้านอาหารทานข้าวกันก่อน ถ้าดึกกว่านี้ อาจจะสังสรรค์ไม่ทันนะ”มู่ซือซือตอบ
ส้งวี่ไม่มีความคิดเห็นใดๆ แต่เป็นเรื่องยาก สำหรับคนบ้างานอย่างเขาที่จะพูด
“ถ้าคุณชวนมู่วี่สิงได้ ผมก็โอเค”
หลิงเหยาขมวดคิ้ว มองไปที่ประตู ที่ถูกแง้มไว้อยู่ครึ่งหนึ่ง
“ฉันเข้าไปดีกว่า”มู่ซือซือเคาะประตู แล้วเดินเข้าไป
เมื่อมู่วี่สิง เห็นเธอผลักหลิงเหยาให้เข้ามาด้วยกัน ความเย็นชาในดวงตาก็แผ่ซ่านขึ้นมา
“พี่คะ พวกเราไปทานข้าวด้วยกันดีไหมคะ?”
“พี่ยังมีธุระ”
“หา มีธุระ แต่ก็ยังต้องทานข้าวนะคะ?พวกเราไม่ได้ทานข้าวมาด้วยกันนานแล้วนะคะ”มู่ซือซือดึงแขนพี่ชาย พร้อมทั้งทำน้ำเสียงออดอ้อน
แต่ว่า……มู่วี่สิงก็ไม่ไหวติง
“ส้งวี่,คุณพาซือซือไปทานข้าว”
“พี่คะ มันจะมากเกินไปแล้วนะ!”มู่ซือซือกระทืบเท้าของเธอ ด้วยความโกรธ
“ซือซือ พี่ยุ่งมาก”
“ฉันไม่สน ถ้าพี่ไม่ไปทานข้าวกับฉัน ฉันจะไม่ยอมไป”มู่ซือซือนั่งลงอย่างดื้อดึง
“ซือซือ พวกเราไปทานข้ากันเถอะ พี่ชายคุณกล่าวสุนทรพจน์ต่อกันหลายๆ งาน คุณก็อย่าไปกวนเขาเลย พวกเราซื้อกลับมาให้เขาก็ได้”ส้งวี่เดินเข้ามา เพื่อทำให้เรื่องนี้จบลงด้วยดี
เขาคิดว่า ถ้าหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป จะไม่มีใครได้ทานข้าวเลย
มู่ซือซือเม้มริมฝีปาก ในขณะนี้ หลิงเหยาก็ผลักรถเข็นเข้ามา
“วี่สิง เป็นเพราะฉัน ที่ทำให้คุณไม่อยากไปทานข้าวกับซือซือหรือเปล่าคะ?ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็ ฉันไปทานคนเดียวก็ได้ค่ะ”หลิงเหยาพูดด้วยความเศร้าสร้อย
“ไปกันเถอะ”มู่วี่สิงตอบรับทันที และวางงานที่อยู่ในมือลงทั้งหมด
มู่ซือซือเลิกคิ้วขึ้นทันที“ฉันรู้ว่าพี่รักฉันมากที่สุด”
“นับว่าเธอมีปัญหามากที่สุด”มู่วี่สิงส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้
ร้านอาหารอยู่ที่ชั้นล่าง แม้ว่าจะมีแค่สี่คน แต่พวกเขาก็เป็นแขกวีไอพี พนักงานเสิร์ฟได้จัดห้องส่วนตัวไว้ให้
หลิงเหยานั่งข้างๆ มู่วี่สิง โดยมีมู่ซือซืออยู่อีกด้านหนึ่ง
เพียงไม่นาน มู่วี่สิงก็ได้รับการแจ้งเตือน สีหน้าของเขามืดมนลงทันที
วินาทีต่อมา เขามองไปทางหลิงเหยา หน้าตาเศร้าสร้อย
หลิงเหยาตกตะลึงกับสายตาของเขา……
“ส้งวี่ มีอะไรเหรอ?”เธอถามอย่างกังวล
“เธอสมัครมาเป็นผู้ช่วยของฉันเหรอ?”มู่วี่สิงหรี่สายตามอง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา
หลิงเหยาพยักหน้าช้าๆ“คือตอนนี้ ฉันไม่สะดวกที่จะทำงานที่โรงพยาบาล พอดีกับที่มหาวิทยาลัยF มีตำแหน่งงานว่าง ฉันก็เลย……”
“ผมไม่ต้องการผู้ช่วย”มู่วี่สิงตอบอย่างเย็นชา
“พี่คะ เหยาเหยาก็ถูกคัดเลือก โดยการสมัครเข้าไปอย่างถูกต้อง แล้วตอนนี้ทางมหาวิทยาลัยก็ได้ยืนยันแล้วด้วย”เสียงของมู่ซือซือดังขึ้นข้างหูเขา
“ฉันพูดแล้ว ฉันไม่ต้องการผู้ช่วย”มู่วี่สิงพูดซ้ำ อย่างไม่อดทน
ส้งวี่ที่อยู่ข้างๆ มองฉากนี้ รู้สึกถึงปัญหาได้เกิดขึ้นแล้วจริงๆ
“เป็นเพราะฉันถูกเลือกให้เป็นผู้ช่วย คุณถึงพูดแบบนี้เหรอคะ?”หลิงเหยากัดริมฝีปาก ดวงตาของเธอแดงขึ้น