บทที่ 702 เขาไม่จริงใจตั้งแต่แรก
มู่ซีตกใจกับท่าทางมู่วี่สิงมาก ยกเว้นต่อหน้าเวินจิ้ง ช่วงนี้ผู้ชายคนนี้น่ากลัวมากขึ้นเรื่อยๆ
เธอกังวลเบาๆ น้ำเสียงทั้งเสียใจและอึดอัด “ฉันไม่กล้าห้ามเธอ … เธอเป็นคุณหญิงของตระกูลมู่ ฉันเป็นแค่ลูกสาวปลอมที่พวกรับมาเลี้ยงเอง และคุณก็ตามใจเธอมาก อารมณ์ของเธอ…ก็ไม่ใช่สิ่งที่ฉันจะสามารถห้ามได้ค่ะ”
หัวใจของเวินจิ้งเย็นยะเยือกมาก ทั้งตัวรู้สึกหนาวสั่นสะท้านอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เธออยากจะถอยหนี อยากจะไปจากตรงนี้ แต่ทว่าเธอขยับขาไม่ได้เลย
พิงกำแพงไว้ เธอหายใจแรงๆ บอกกับตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าต้องใจเย็นๆ
ห้ามให้มู่วี่สิงเจอเธอเด็ดขาด… เธอต้องไปจากที่นี่
แค่เพิ่งจะเดินจากไป เสียงของคนรับใช้ก็ดังขึ้นจากบันไดด้านหลังว่า “คุณผู้หญิงคะ คุณผู้ชายอยู่ห้องหนังสือไม่ใช่เหรอคะ ทำไมคุณไม่เข้าไปล่ะคะ”
ความตื่นตระหนกในดวงตาของเวินจิ้งพลันแผ่กระจายไปยังจุดที่ลึกที่สุด ความกลัวและความลังเลก็หายไปหมด เหลือเพียงความคิดเดียว คือไปจากที่นี่
ในขณะนี้ ผู้ชายที่อยู่ในห้องหนังสือกำลังโกรธมาก เขาลุกขึ้นและผลักมู่ซีออก และเดินออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็ว
มู่ซีไม่ทันเตรียมตัว ก็ถูกเขาผลักไปที่เขาโต๊ะอย่างรุนแรง ความเจ็บอย่างหนักจากหน้าท้องไปถึงทั้งตัว
เธอรีบนั่งยองๆและกอดตัวไว้ทันที
“จิ้งจิ้ง”เสียงของผู้ชายเข้าใกล้เรื่อยๆ เวินจิ้งรู้สึกกลัวมาก อัตราความเร็วการเต้นของหัวใจเร็วจนเกือบทำให้เธอ
หายใจไม่ออก
ข้างหน้าก็คือประตูห้องนอน สมองของเธอว่างเปล่า รีบวิ่งเข้าไปข้างในทันที แล้วปิดประตูสุดแรง ล็อคมัน
อย่างสนิท
ร่างเพรียวของเธอพิงแผงประตูด้านหลัง ขาของเธอสั่นอย่างหนักมาก
“จิ้งจิ้ง เปิดประตู” เสียงต่ำของผู้ชายที่อยู่ข้างนอกดังขึ้น น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเร่งรีบ
เวินจิ้งปิดปากไว้ เธอก็ไม่ได้จะกรีดร้องหรือร้องไห้หนักอะไร แต่ก็ทำแบบนี้โดยไม่รู้ตัว
มู่วี่สิงกำลังเคาะประตูอยู่ เขาเคาะไม่เบาหรือหนักมาก แต่ทุกจังหวะก็กระแทกใจเธออย่างรุนแรง
เธอมีภาพลวงตาว่า วินาทีต่อไปผู้ชายคนนี้จะบุกเข้ามา …
เธอไม่กล้าคิดต่อ
มู่วี่สิงเคาะประตูต่อ “จิ้งจิ้ง ฟังฉันนะ เปิดประตูก่อน”
เขาไม่เคยตื่นตระหนกแบบนี้มาก่อน แม้แต่ได้รับโทรศัพท์ของคุณปู่ เขาก็สงบตลอดเวลา นอกจากจะต้องทำให้หลินยี่ได้รับการโทษ เขาไม่มีความรู้สึกอื่นใดๆเลย
“อย่าเคาะ อย่าเคาะเลย”เวินจิ้งพึมพำ สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะกรีดร้อง “มู่วี่สิง ฉันบอกให้คุณอย่าเคาะแล้วไง”
เสียงเคาะประตูด้านนอกหยุดทันที
เสียงต่ำของผู้ชายดังขึ้นอีกครั้ง “จิ้งจิ้ง เปิดประตู”
ข้างในไม่มีเสียงใดๆเลย เงียบเหมือนไม่มีใครอยู่ข้างใน
เขาตื่นตระหนก และอดไม่ได้ที่จะเคาะประตูต่อเรื่อยๆ “จิ้งจิ้ง เปิดประตู”
ร่างกายของเวินจิ้งค่อยๆเลื่อนลง พิงประตูนอนขดตัวไว้ แขนโอบรอบเข่าและใบหน้าของเธอฝังอยู่ในเส้นผมสีดำ
“จิ้งจิ้ง ถ้าคุณไม่เปิดประตู ผมจะเข้าไปเองนะ”
สายตาของเวินจิ้งเย็นชาตลอด “มู่วี่สิง ฉันบอกแล้ว ห้ามเข้ามา”
เสียงของเธอไม่สูงหรือต่ำมาก แต่ก็พอที่ทำให้ผู้ชายที่อยู่ข้างนอกได้ยินอย่างชัดเจน
มือของเธอที่วางบนเข่าค่อยๆกำหมัดแน่นๆ และข้อต่อเป็นสีขาว เธอกำแน่นมาก เช่นเดียวกับเส้นประสาทที่ตึงอยู่อย่างแน่นๆ
เพิ่งนึกได้ว่ามีโทรศัพท์ติดตัวอยู่ เธอรีบหยิบออกมา เก็บความตึงเครียดและแรงสั่นสะเทือนไว้ เธอพบเบอร์ของพี่ชายอย่างรวดเร็วจากเบอร์ติดต่อ…
แต่ยังไม่ทันโทรติด เสียงต่ำและเย็นชาของผู้ชายที่อยู่นอกประตูก็ดังขึ้นอีกครั้ง “จิ้งจิ้ง เพื่อความปลอดภัยของพี่ชายคุณ ผมขอเตือนคุณอย่าไปหาเขา”
สายตาของเธอจ้องอยู่กับเบอร์ของพี่ชายอย่างนาน
ลังเลอยู่นานหนึ่งนาทีเต็มๆ โทรศัพท์ของเธอก็ลื่นล้มลงกับพื้น
เธอแค่รู้สึกหนาวมาก หนาวเหลือเกิน คิดว่าตัวเองควรร้องไห้ออกมาอย่างหนักด้วยซ้ำ แต่เธอไม่สามารถบีบน้ำตาได้เลย
เธอเชื่อว่าพี่ชายต้องไม่เป็นอะไรแน่นอน
มุมปากของเวินจิ้งค่อยๆยิ้มออกมา ทั้งขมขื่นและเยาะเย้ย ผู้ชายคนนี้ทำให้ความรู้สึกอย่างต่ำของเธอเพิ่มขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า
เธอยังมีความคาดหวังในตัวเขา เธอคิดว่าพวกเขาจะไปต่อด้วยกันได้จริงๆ
เธออยากจะส่งของขวัญชิ้นหนึ่งให้กับเขา แต่เธอยังไม่ได้ส่งออกไปเลย เขาก็ส่งของขวัญชิ้นใหญ่ให้เธอก่อนล่ะ
“มู่วี่สิง” เธอหลับตา เสียงแหบมาก”ที่คุณพาฉันกลับมาจากพี่ชายตั้งแต่แรก ใช้สัญญาหย่าหลอกฉันกลับมาก็เพื่อที่จะใช้ฉันจัดการพี่ชายใช่มั้ย”
เขาโหดร้ายจริงๆ โหดกว่าที่เธอคิดไว้เยอะ
แต่ทำไมเขาต้องจัดการกับพี่ชาย ทำไม …
“ทำไมคุณถึงทำกับเขาแบบนี้ …ฉันทำผิดกับตระกูลมู่เอง ไม่เกี่ยวกับเขา มู่วี่สิง …ทำไมคุณถึงโหดร้ายแบบนี้ด้วย”
ห่างกันแค่ประตูอันหนึ่ง แต่ดูเหมือนว่าจะเหวกั้นไว้
มู่วี่สิงยืนอยู่ข้างนอก เสียงต่ำและเย็นเยือก “จิ้งจิ้ง ให้ฉันเข้าไป”
เวินจิ้งไม่รู้เลยว่าตัวเองร้องไห้อยู่หรือเปล่า “คุณจะพูดอะไร ก็พูดอยู่ข้างนอกแค่พูดแล้วกัน”
เธอรู้ดีว่าประตูนี้ไม่สามารถกั้นเขาได้ ถ้าเขาจะเข้ามาจริงๆ ก็จะมีวิธีมากมาย และเธอก็รู้ว่า เขาจะทำอะไรเธอก็ไม่มีทางห้ามได้เลย
มู่วี่สิงอยู่ข้างนอกอย่างเงียบๆตั้งนาน แล้วก็หันตัวจากไปเลย
เวินจิ้งกอดเข่าอย่างแน่น นิ้วของเธอสั่นอยู่ตลอด
ผ่านไปไม่กี่นาที เสียงเดินที่อยู่นอกประตูก็ดังขึ้นอีกครั้ง เธอได้ยินเสียงกุญแจเปิดประตูอย่างชัดเจน และประตูก็ถูกเปิดไว้ในวินาทีถัดไป
มู่วี่สิงยืนอยู่ตรงหน้าเธอ หญิงสาวกอดตัวนอนขดอยู่บนพื้น ผมสีดำปิดหน้าสวยๆของเธอไว้ เขามองไม่เห็นการแสดงออกของเธอ
เวินจิ้งถามอย่างเสียงต่ำว่า “ตกลงคุณทำอะไรกับพี่ชายฉัน”
เขาแค่ย่อตัวลงและยกใบหน้าเล็กๆของเธอขึ้นด้วยนิ้วยาว”วันนี้คุณไปไหนมา”
เธอไปไหนแล้ว ..
เขากลัวว่าเธอจะไปหาพี่ชายเหรอ
“ตอนนี้ฉันอยู่ที่นี่แล้ว คุณกังวลอะไรอีก” เธอเงยหน้าขึ้น การแสดงออกบนใบหน้าเธอน่าเกลียดยิ่งกว่าร้องไห้อีก “กลัวว่าฉันจะไปรายงานพี่ชายเหรอ”
เขาเอื้อมมือไปอุ้มเธอกลับไปที่เตียง “อย่านั่งที่พื้น มันหนาว”
เขาปัดผมที่แก้มของเธอออก” ในใจของเธอ หลินยี่อ่อนแอขนาดนี้เลยเหรอ เป็นห่วงแบบนี้”
“มู่วี่สิง คุณเป็นสามีของฉัน เขาเป็นพี่ชายของฉัน แม้ว่าเขาจะแข็งแกร่งมาก แต่คุณก็ทำแบบนี้ไม่ได้ คุณทำแบบนี้กับฉันไม่ได้”
ดวงตาของเธอเบิกกว้าง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความกล่าวหา
เขาทำแบบนี้กับเธอได้ยังไง
เธอเอื้อมมือออกไปจะเช็ดน้ำตาบนใบหน้า มันเปียกอย่างที่คิดไม่มีผิด และอารมณ์ที่หัวเราะตัวเองก็ค่อยๆพลุ่งพล่านในใจเธอ เธอมารับความอับอายชัดๆเลย
เขาไม่จริงใจตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ไม่มีอะไรที่เขาทำไม่ได้หรอก