บทที่ 710 ใครทำร้ายมู่วี่สิงได้
กริชที่เร่าร้อนอย่างแหลมคมแทงไปในทิศทางหนึ่ง แสงที่สะท้อนจากใบมีดทำให้ตาละลานมาก มู่วี่สิงตกใจหนึ่งวินาทีถึงจะตอบสนองว่าไปแยกมีดจากเธอ แต่มันก็สายเกินไป ใบมีดแทงทะลุไหล่ของเขาเรียบร้อยแล้ว
เลือดย้อมเสื้อผ้าเป็นสีแดงอย่างรวดเร็ว
เวินจิ้งหอบและก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว ใบหน้าเล็กๆของเธอซีดอย่างไม่มีเลือด สิ่งเดียวที่เธอทำก็คือการหลบหลีกและป้องกันไม่ให้เขาเข้าใกล้เธอ
มู่วี่สิงมองแก้มของเธอ หัวใจของเขาชัดเจนมาก เขารู้ว่าเธอเกลียดเขา และเขาก็รู้ว่าเธอกำลังอดทนอยู่ เขารู้ดีว่า เมื่อที่เธอแทงเข้าเข้ามาในเมื่อกี้ เธอไม่ได้ล้างแค้นเพื่อหลินยี่ แค่ทนความใกล้ชิดและสัมผัสของเขาไม่ได้ต่างหาก
เขาเริ่มเข้าใจว่าเมื่อเขาถามเธอว่าเจ็บไหม คำตอบของเธอมีเพียงคำเดียวนั่นคือเจ็บ
เธอไม่ได้เจ็บข้อมือ เหมือนตอนนี้เขาไม่ได้เจ็บไหล่
มันเจ็บใจ แม้ว่ามันไม่มีเนื้อและเลือด แต่มันจะทำให้เจ็บทรมานมาก
เขารู้ เขารู้ทุกอย่าง
มือของเวินจิ้งที่ถือกริชอยู่ไม่ยอมปล่อย มีความตื่นตระหนกในดวงตาของมู่วี่สิง ถามอย่างเสียงต่ำ”เอามีดมาให้ฉัน เดี๋ยวคุณจะทำร้ายตัวเอง”
อารมณ์ของเธอไม่มั่นคง เธออาจทำร้ายตัวเองได้
ปลายมีดยังมีเลือดไหลอยู่ เวินจิ้งก็ถอยหลังเรื่อยๆ อยู่ในระยะห่างกับเขา มือของเธอสั่นอย่างไม่หยุด
แม้ว่าจะไม่ชัดเจน แต่ควบคุมไม่ได้
เธอมองเขาอย่างตื่นตัว การหายใจของเธอกระวนกระวายใจมาก
มู่วี่สิงไม่กล้าเข้าใกล้เธออีก แค่พูดด้วยเสียงต่ำว่า”วางมีดลงนะ ฉันจะไม่แตะต้องตัวเธอ”
เขามองใบหน้าตกใจจนซีดเซียวของเธอ พูดอย่างเสียงเบาอีกครั้งว่า”เจิ้งจิ้ง ฉันสัญญา ฉันจะไม่แตะต้อง
คุณเด็ดขาด แค่คุณวางมีดลง”
เวินจิ้งแค่รู้สึกตลก มีดอันนี้เธอเอามาจากรถของหยูจิ่งห้วน เธอแค่ใช้มันป้องกันตัวเท่านั้น แต่ท่าทางของเขาดูเหมือนว่าเธอจะทำร้ายตัวหรือฆ่าตัวตาย
เธอจะไม่ทำอย่างนั้นเด็ดขาด
เลือดบนไหล่ของเขาไหลลงเยอะมาก แต่ดูเหมือนเขาจะไม่รู้ตัว ดวงตาของเขามองเธออยู่ตลอด
จนกระทั่งเธอถอยไปอีกด้านหนึ่งของเตียง ห่างไกลจากลมหายใจของเขา และไม่รู้สึกถึงแรงกดดันจากตัวเขา ประสาทของเธอถึงค่อยๆผ่อนคลายลง และมือของเธอก็ไม่สั่นมากนักแล้ว
เธอพูดอย่างเคร่งขรึม “คุณออกไปเถอะ”
มู่วี่สิงมองเธอ แต่ไม่ได้ขยับตัว
เวินจิ้งยิ้มอย่างเย้ยหยัน”ฉันจะอยู่ที่นี่ คุณไม่ต้องเป็นกังวลว่าฉันจะวิ่งหนี ไม่ใช่ สบายใจได้เลย ฉันจะไม่วิ่งหนีแน่นอน”
“โอเค”ผ่านไปสักพัก เขาถึงจะพูดว่า “ฉันจะออกไป แต่คุณอย่าจับมีดอีกนะ”
เมื่อกี้เธอเอามีดป้องกันตัว ถ้าครั้งหน้าเธอทำร้ายตัวเองอย่างหมดสติจะทำไงล่ะ
เวินจิ้งเห็นเขาออกจากห้องนอนและปิดประตูด้วย ประสาทที่ตึงเครียดอยู่ตลอดถึงค่อยๆผ่อนคลายลงและนอนลงบนเตียงอย่างหมดแรง
ไม่มีแรงสักนิดเลย
เธอนอนขดตัวอยู่บนเตียง ราวกับว่าสติสัมปชัญญะของเธอหายไปหมด หลับตาและนิ้วจับผ้าห่มแน่นๆอย่างแรง แรงจนแผลมีเลือดไหลอีก
มู่ซีได้ยินเสียงเดินก็รีบวิ่งไปทันที เมื่อเธอเห็นบนไหล่ผู้ชายเต็มเลือด ตกใจจนแทบจะกรีดร้องออกมาด้วย
“พี่วี่สิง ทำไมคุณถึงได้รับบาดเจ็บล่ะ”
เมื่อมู่เฉิงได้ยินเสียง ก็มองมาด้วยความประหลาดใจ เมื่อเห็นสีแดงขนาดใหญ่บนไหล่ของมู่วี่สิงก็ตกใจขึ้นมา”คุณเป็นอะไร”
มู่วี่สิงไม่มีการแสดงออกใดๆ ใบหน้าหล่อเหลาของเขาดึงอยู่ตลอด ไม่ได้มองพวกเขาเลย
หยิบกล่องยามาโดยตรง มู่ซีรีบเข้าไปช่วย มู่วี่สิงไม่ได้เงยหน้าขึ้น”ออกไป”
มู่ซีเม้มปากอย่างเสียใจ “แต่คุณบาดเจ็บอยู่ ให้ฉันช่วยทายาให้คุณนะ เมื่อก่อนฉันเคยเรียนรู้วิธีทายามาฉันช่วยคุณได้นะคะ”
มู่เฉิงเดินมาพร้อมกับไม้เท้าและเป็นห่วงมาก”ไปโรงพยาบาลเถอะ… “
แต่วินาทีต่อมานึกถึงอะไรขึ้นมา กัดฟันพูดว่า”เวินจิ้งทำร้ายคุณใช่ไหม เธอเอามีดแทงคุณใช่หรือเปล่า”
เธอทำได้ยังไง เธอทำร้ายหลานชายของเขาแบบนี้ได้ยังไง
มู่ซีอยากเข้าหาเขา แต่ก็ไม่กล้า เธอไม่สงสัยเลยว่ามู่วี่สิงจะทำให้เธอออกไปได้จริงๆ
ตอนนี้ทั้งตัวของเขาเย็นชาไปหมด ดวงตาของเขาไม่เคยมองพวกเขาเลย ความห่างไกลทำให้ผู้คนไม่กล้าเข้าใกล้
เขาถอดเสื้อผ้าออก และทายาให้ตัวเองอย่างไม่ชินมือ มู่ซีอดไม่ได้ที่จะน้ำตาไหลขณะที่เห็นบาดแผลที่น่ากลัวของเขา
เธอพึมพำอย่างไม่พอใจ”เธอจะทำมากไปแบบนี้ได้ยังไง พวกคุณเป็นสามีภรรยากัน เธอใช้มีดแทงคุณได้ยังไง พี่วี่สิง … ถ้าคุณยังอยู่กับเธอต่อ สักวันเธออาจอยากฆ่าคุณอย่างหมดสติก็เป็นไปได้นะคะ”
เธอยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้สูงมาก ตอนนี้เวินจิ้งเป็นคนบ้าจริงๆ
มู่เฉิงยิ่งกังวลไปอีก”วี่สิง คุณอยู่กับเธอต่อไม่ได้แล้ว ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าเธอจะทำอะไรอีกเลย”
สีหน้าของมู่วี่สิงยังเย็นชาเหมือนเดิม”พวกคุณประหลาดใจกับผลลัพธ์แบบนี้เหรอ”
มู่เฉิงโกรธมากจนพูดไม่ออก และออร่าก็อ่อนลงไปบ้าง”คุณหมายความว่ายังไง”
ผู้ชายก้มหัวลงไม่พูดอะไรอีก มู่เฉิงอยากจะพูดอะไรต่อ ร่างหนึ่งเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว นั่นก็คือลี่หนานเฉิง
“เพื่อนรัก เราไปกันได้แล้ว … “
แต่เมื่อเขาเดินเข้าใกล้ก็ตกใจขึ้นมา”คุณได้รับบาดเจ็บได้ยังไง”
ทั้งๆที่เมื่อเข้าเจอกับหลินยี่ยังไม่ได้รับบาดเจ็บเลย และเห็นได้ชัดเลยว่านี่เป็นบาดแผลมีด ใครจะสามารถทำร้ายมู่วี่สิงได้ล่ะ
มู่วี่สิงพันผ้าพันแผลเรียบร้อยและพูดอย่างเย็นชาว่า”ให้ลูกน้องที่เก่งที่สุดของคุณมาเฝ้าเวินจิ้ง”
ลี่หนานเฉิงเดาออกได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น”อืม รู้แล้ว”
พวกเขาต้องทะเลาะเพราะเรื่องของหลินยี่แน่ เขาไม่ได้คิดมากและรีบออกไปคุยโทรศัพท์
เมื่อเขากลับมา มู่วี่สิงได้พันผ้าพันแผลเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลังจากใส่เสื้อโค้ทแล้ว มู่ซีก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า”พี่วี่สิง คุณเปลี่ยนเสื้อผ้าตัวใหม่จะดีกว่าไหมคะ”
มู่วี่สิงเดินออกไปโดยตรง มู่เฉิงตะโกนมาจากข้างนอกว่า”มู่วี่สิง คุณจะไปไหนอีก ได้รับบาดเจ็บก็พักผ่อนไป”
แต่ผู้ชายไม่ได้หยุดเดินเลย
ในรถ ลี่หนานเฉิงนั่งอยู่ที่เบาะผู้โดยสาร หันหัวมองผู้ชายที่หลับตาอยู่ และสั่งให้คนขับขับรถ
พอมาถึงโรงพยาบาล มู่วี่สิงก็รีบจัดการงานที่ค้างไว้ในช่วงนี้ งานรักษาหยุดไปแล้ว แต่เขาต้องทำการตัดสินในเรื่องสำคัญของโรงพยาบาล
จนถึงตอนเย็นๆ เขาถึงทำงานส่วนใหญ่ให้เสร็จ
เมื่อลี่หนานเฉิงมาก เกาเชียนเฝ้าอยู่ข้างนอก
“คุณลี่ มีข่าวของหลินยี่หรือเปล่า เขาตายแล้วจริงๆเหรอ”เกาเชียนถามอย่างเป็นห่วง
เจ้านายอยู่ข้างในไม่ได้ออกมาเป็นแปดชั่วโมงแล้ว ก็ได้กินหรือดื่มอะไรด้วย เขาไม่กล้าเข้าไปรบกวนเลย
“ยังไม่มีข่าว แต่เราสั่งคนไปหาศพอยู่ตลอด ตอนนั้นยิงพลาดไม่โดนตรงกลางหัวใจ แต่ไต้ทะเลเต็มไปด้วยหินโสโครก มันยากที่จะบอกว่าจะรอดเรือเปล่า”
ตอนนั้นเขายืนอยู่ข้างหลังมู่วี่สิง ก็เลยรู้ดีว่ากระสุนได้เบี่ยงเบนไปจากหัวใจ แต่แนวปะการังและน้ำทะเล มันยากที่คิดว่าสภาวการณ์ปัจจุบันจะดีเลย