บทที่ 717 เธอจะอยู่ในใจเขาตลอดไป
มู่วี่สิงอยู่ในห้องพักผู้ป่วยจนถึงเย็นก่อนจะออกไป
ภายในรถ เขารับสายของเกาเชียน ปลายสายพูด“ประธานครับ แผนจะดำเนินการต่อเลยไหมครับ หลักฐานของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปพวกเรายังรวบรวมไม่พอ ถ้าดำเนินการตอนนี้ต้องเกิดความเสี่ยงแน่ๆครับ”
ใบหน้าหล่อเหลาของมู่วี่สิงฉายอยู่บนกระจกหลัง แลดูกระหายเลือดและเย็นชา “เปลี่ยนแผน ฉันไม่อยากให้โม่ถิงเซินรู้ตัว”
เกาเชียนเงียบสักพักก่อนตอบ “ถ้าอย่างนั้นผมจะรวบรวมหลักฐานต่อไปนะครับ”เขาถามอย่างลังเลต่อว่า “ประธานมู่ครับโม่ถิงเซินทำอะไรมักจะระวังตัว พวกเราน่าจจะยังยืดเวลาออกไปอีก”
“ตั้งแต่อานเวยวางมือ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ฉันไม่มีความอดทนขนาดนั้น ฉันอยากเห็นจุดจบภายในสามวัน”
ไม่รอให้เกาเชียนพูดจบ เขาก็วางสายไป สายตาเจือไปด้วยความอาฆาตมาดร้าย
โม่ถิงเซิน……ถ้าหากว่าไม่ใช่มัน……อา
เมื่อกลับถึงตระกูลมู่ มู่เฉิงเห็นเขากลับมาจึงถามด้วยน้ำเสียงผ่อนคลายแต่สีหน้าไม่ค่อยดีนัก
หยุดอยู่ชั่วครู่ จึงเดินมาหาพร้อมด้วยไม้เท้า “วี่สิง เธอเป็นไงบ้าง?”
สายตาของมู่วี่สิงที่มองกลับมาเรียบเฉย เย็นชาเหมือนคุยกับคนแปลกหน้า
เมื่อเขาเหลือไปเห็นมู่ซีที่อยู่ข้างหลังอย่างกล้าๆกลัวๆ พลันดวงตากลับเปลี่ยนเป็นดาบแหลมทิ่มแทงก่อน พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เธอยังไม่ฟื้น แต่มู่ซีตอนนี้ฉันไม่เข้าใจเธอเลย ไม่กี่วันมานี้เธอดูจะมีชีวิตที่ดีเหลือเกินนะ”
สีหน้ามู่ซีพลันขาวซีดด้วยความตกใจ เธอเดินออกไปข้างหน้าพร้อมน้ำตานองหน้า “พี่วี่สิง ฉันจะพูดอย่างไรให้พี่เชื่อ ฉันไม่ได้เป็นคนผลักเธอจริงๆ… …”
เธอรู้ตัวเองดีว่าเรื่องนี้ไม่สามารถพูดให้ชัดเจนได้ เวินจิ้งใส่ร้ายป้ายสีเธออย่างจงใจ
มู่เฉิงอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “วี่สิง มู่ซีพูดไปแล้วว่าไม่ใช่เธอ นี่แก… …”
พูดยังไม่ทันจบประโยคดี มู่วี่สิงก็พูดแทรกขึ้นมาอย่างไม่แยแส สายตาเต็มไปด้วยความประชดประชัน
“คุณชอบหลานสาวที่ฆ่าเหลนของคุณด้วยน้ำมือเธอเองมากสินะ ตอนนี้ทุกอย่างมันเป็นแบบนี้ คุณพอใจไหม?”
มู่เฉิงพลันหน้าซีดลง คำพูดที่ว่าทำให้เหลนตายนั้น สะกิดใจเขาขึ้นมา
ลูกของเวินจิ้ง เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตระกูลมู่ เป็นเหลนของเขาจริงๆ
เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ทุกข์ใจ
เขากำไม้เท้าในมือแน่น “นี่แกกำลังโทษฉัน?”
มู่วี่สิงหันหน้ามา ใบหน้าของเขาเรียบเฉยไร้ความรู้สึก “ใช่ ผมโทษคุณ โทษที่คุณเอาภรรยาและลูกของผมกลับมาไม่ได้ บ้านหลังนี้ ยังไงผมก็ไม่กลับมาเหยียบอีก”
มู่เฉิงตกตะลึง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตระหนก มองดูชายหนุ่มที่ขึ้นชั้นบนไปด้วยความโมโห
เมื่อกี้เขาเพิ่งจะพูดว่าอะไร? เขาจะไม่กลับมาอีกแล้วเหรอ
“คุณปู่” น้ำตาของมู่ซีรินไหลลงมา “พวกเราจะทำอย่างไรดี… …”
การกระทำของเวินจิ้งครั้งนี้ โหดร้ายเกินไป
มู่วี่สิงแค่กลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้า กินอาหารพอประทังความหิว เขาให้คนรับใช้เก็บของที่จำเป็นให้ ก่อนจะรีบกลับไปโรงพยาบาล
จนกระทั่งถึงวันถัดมา เวินจิ้งยังคงไม่ฟื้น แพทย์ให้ความเห็นว่า เมื่อการผ่าตัดสิ้นสุดลง อย่างช้าที่สุดคือวันมะรืนเธอถึงจะตื่นขึ้นมา
มู่วี่สิงไม่มีกะจิตกะใจจะกินข้าว เขาโทรตรงไปหาหมอเจ้าของไข้ให้เข้ามาหา “ทำไมเธอยังไม่ตื่น”
สีหน้าของชายหนุ่มโหดเหี้ยมขึ้นมา “ถ้าฝีมือผ่าตัดของคุณไม่ดี คุณก็ไม่ต้องมาทำงานที่โรงพยาบาลหนานเฉิงอีก”
ความหมายของคำพูดเขาเต็มไปด้วยการข่มขู่ ทุกวันที่หมอผู้น่าสงสารเหล่านั้นเข้ามาตรวจเวินจิ้ง พวกเขาก็ต้องพบเจอกับความน่ากลัวของเขา
เขาโคตรซวยเลยจริงๆ ที่ต้องเจอกับเรื่องแบบนี้
เขารีบเรียกให้หมออีกสองคนเข้ามาตรวจเธออีกรอบ ผ่านไปสิบนาที สีหน้าพลันเคร่งขรึมขึ้น
มู่วี่สิงรู้สึกเหมือนมีกรงเล็บอันแหลมคมบาดเข้ามาภายในจิตใจเขา “พูดมา ทำไมเธอยังไม่รู้สึกตัว?”
ในที่สุดหมอเจ้าของไข้ก็โดนผลักออกมาอย่างช่วยไม่ได้ เขาขยับแว่นตาก่อนที่จะพูดด้วยเสียงสั่นๆว่า “คือแบบนี้ครับ คุณนายมู่ไม่ใช่ยังไม่ฟื้น แค่ แค่จิตใต้สำนึกเธอไม่ยอมที่จะตื่นขึ้นมาครับ ดังนั้นก็เลยยังคงไม่ได้สติ สาเหตุไม่ใช่เพราะว่าบาดเจ็บหรือเกิดจากการแท้งบุตรแต่อย่างใดครับ ”
เธอแค่ แค่ไม่ฟื้นขึ้นมาเพราะว่าจิตใต้สำนึกไม่ยินยอมที่จะตื่นขึ้นมา
มู่วี่สิงงุนงง มองตรงไปยังหญิงสาวที่หลับใหลอยู่บนเตียง เขารู้สึกเหมือนจิตใจโดนกดทับจนปวดไปหมด
เธอไม่อยากจะตื่นขึ้นมา
คนที่ยินยอมที่จะไม่ตื่นขึ้นมาเผชิญกับโลกใบนี้อีกแล้ว ไม่ใช่เพราะว่าบาดเจ็บอย่างร้ายแรง ถ้าอย่างนั้นก็เพราะว่า ชีวิตที่เหลืออยู่นั้นไม่มีความหมายอะไรแล้ว
เธอเกลียดเขาไม่ใช่เหรอ? ไม่ใช่ว่าต้องการที่จะล้างแค้นเขาเหรอ?
ทำไมปล่อยให้ตัวเองหลับใหลไม่ตื่นขึ้นมาแบบนี้
มู่วี่สิงเงยหน้าขึ้นมา พร้อมมองหมอคนนั้นด้วยสายตาเย็นชา “ผมเรียกพวกคุณมาไม่ใช่เพื่อให้บอกผมเรื่องไร้สาระ ถ้าหากว่าเธอยังไม่ตื่น พวกคุณเตรียมหางานใหม่ได้เลย”
บนหน้าผากของเหล่าแพทย์มีเหงื่อเม็ดโตซึมไหลลงมา หนึ่งในนั้นที่เป็นหน่วยกล้าตายได้ถูกผลักออกมา “ท่านประธานครับ ตอนนี้ร่างกายของคุณนายมู่ยังคงอ่อนแอ บวกกับจิตใจที่ซึมเศร้าของเธอเลยทำให้เธอยังไม่ฟื้นขึ้นมาครับ ท่านอย่าได้เป็นกังวลเลย รอให้ร่างกายของเธอค่อยๆฟื้นตัว ถ้าหากว่าท่านคุยกับเธอทุกวัน สติของเธอจะไม่ถูกกดทับโดยจิตสำนึกครับ ”
มองไปยังชายหนุ่มที่ยังคงไม่ได้ตอบรับอะไรพวกเขา เหล่าแพทย์ต่างก็ออกอาการประหม่าทันที
หลังจากประตูถูกปิดลง ภายในห้องเงียบจนได้ยินเสียงหายใจ
มู่วี่สิงเดินไปยังข้างๆเตียง มองไปยังหญิงสาวที่ยังคงหลับใหลไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมา บางทีอาจจะเป็นเพราะข้างหูเขามีแต่ความเงียบงันจนเกินไป จึงได้มีความหวาดกลัวไหลเข้ามาภายในจิตใจของเขาอย่างท่วมท้น ก่อนที่จะก้มลงไปกอดเธอไว้แน่น
“จิ้งจิ้ง” เขากระซิบชื่อเธอด้วยเสียงทุ้มต่ำ เขากดแก้มลงไปบนใบหน้าที่อ่อนนุ่มทว่าเย็นเยียบของเธอ ลมหายใจของเธอมีแต่กลิ่นยา เขากดจูบลงบนแก้มของเธออย่างนุ่มนวล เขาค่อยๆจูบไปตามผิวเนื้อขาวผ่องของเธอ “จิ้งจิ้ง คุณเกลียดผมมากไม่ใช่เหรอ ไม่อยากแก้แค้นผมแล้วเหรอ? ถ้ายังนอนอยู่แบบนี้จะ… …”
ร่างสูงยังคงทาบทับผ่านบนร่างบาง แต่เขายังคงกังวลเกี่ยวกับบาดแผลบนตัวเธอจึงไม่ได้ลงน้ำหนักไป
ทุกคำพูดติดอยู่บนริมฝีปากบางของเธอ “อย่าคิดที่จะตายหรือนอนไม่ตื่นขึ้นมาเพื่อแก้แค้นผมแบบนี้ ผมรู้ว่าคุณได้ยิน จิ้งจิ้ง”
แสงแดดยามเย็นสีส้มอบอุ่นส่องกระทบเข้ามาภายในห้อง ชายหนุ่มอุ้มหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงขึ้นมากอดด้วยมือข้างเดียว ใบหน้าที่หล่อเหลานั้น มองตรงไปยังเวินจิ้งด้วยสายตาหลงใหล
เขาหันไปด้านข้างแต่ไม่ได้กดน้ำหนักตัวลงไป มู่วี่สิงกอดเธอไว้ในอ้อมอกขณะที่กำลังนอนตะแคงเข้าหา ก่อนจะจูบลงบนระหว่างคิ้วของเธอ
ในห้องพักที่เงียบสงบมีเพียงเสียงแหบต่ำของชายหนุ่มดังขึ้น “แค่คุณตื่นขึ้นมา แค่คุณยังอยู่กับผม คุณจะแก้แค้นอะไรผมก็ได้”
“คุณไม่ชอบมู่ซี ผมก็จะไล่เธอไป คุณปู่ของผมที่เคยทำร้ายคุณด้วย หลังจากที่เราออกไปจากตระกูลมู่กันแล้ว คุณชอบเด็กใช่ไหม พวกเราจะมีลูกด้วยกันหลายๆคนกันไง”
เขาออกแรงจับที่แขนเธอโดยไม่รู้ตัว
เขาเสียลูกอีกคนไปอีกครั้งแล้ว ถ้ามีอีกครั้งจริงๆ ไม่สามารถมีได้อีก
“จิ้งจิ้ง” เขาอดไม่ได้ที่จะก้มไปจูบเธออีกครั้ง ตอนเธอตื่นเธอต้องไม่อนุญาตให้เขาจูบอย่างแน่นอน ครั้งก่อนตอนจูบเธอ ก็โดนแทงไปหนึ่งครั้ง
ตอนนั้นก่อนที่เขาจะได้พบเธออีกครั้ง เขาก็รู้แจ้งแล้วว่า ตลอดชีวิตนี้ ไม่ว่าจะเป็นการแก้แค้นให้มู่ซือซือก็ดี หรือไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ดี ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าเวินจิ้งอีกแล้ว
เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เธอจะอยู่ในใจเขาตลอดไป