บทที่ 73กระอักกระอ่วน
เวินจิ้งอึดอัดใจ ผู้ชายคนนี้ใช้ตำแหน่งบังคับเธอ!
“ฉันไม่รับปาก” เวินจิ้งปฏิเสธ
ทำไมเขาต้องการให้เธอไปทำงานนอกสถานที่ แล้วเธอก็ต้องไปด้วย….
“ฉันรู้ความคิดเห็นของคุณแล้ว แต่ผมไม่เห็นด้วย”น้ำเสียงของมู่วี่สิงหนักขึ้น
เวินจิ้งวางสายทันที การปกครองแบบเผด็จการ! ทรราช!
สูดหายใจเข้าลึกๆ เวินจิ้งมองดูกล่องจดหมาย นี่คือคำสั่งตรงที่ออกโดยประธาน ในเมื่อเป็นความต้องการของมู่วี่สิง คาดว่าต่อให้เธอประท้วงยังไงก็ไม่ได้ผล
แต่ว่า ก็คือรู้สึกโกรธ เขาไม่ได้ตกลงจะไปทำงานนอกสถานที่กับมู่วี่สิงนิ
ตอนเย็นเลิกงาน เวินจิ้งก็ไม่กลับบ้านพักตากอากาศ เธอไปกินฮอทพอตกับอั้ยเถียน
“เธอทำแบบนี้มันจะทำให้คุณหมอเสียใจจริงๆนะ เวินจิ้ง ตื่นเถอะ” อั้ยเถียนพูดกล่อมเธอ นึกไม่ถึงว่าคุณหมอมู่จะพาเวินจิ้งไปทำงานนอกสถานที่ด้วย นี่เป็นโอกาสที่คนจำนวนไม่น้อยอยากได้ แต่ก็เอื้อมไม่ถึง
นึกไม่ถึงว่าจะถูกเวินจิ้งปฏิเสธแบบนี้
“เธอไม่รู้สึกว่าเขาทำเกินไปหน่อยเหรอ ? เมื่อคืนฉันก็ไม่ได้รับปากว่าจะไปกับเขา นึกไม่ถึงว่าวันนี้เขาจะออกคำสั่งโดยตรงให้ฉันไป เขาไม่เคยคำนึงถึงความรู้สึกของฉัน”
สิ่งที่เวินจิ้งต้องการคือการให้เกียรติและความเข้าใจ ไม่ใช่แบบนี้ อะไรก็ต้องอิงตามที่เขาตัดสินใจ แต่เธอไม่สามารถตัดสินใจเองได้
“คุณหมอมู่เป็นเจ้าของบริษัท เธอเป็นเพียงพนักงานเล็กๆ เวินจิ้ง เธอต้องคิดแบบนี้ เจ้านายต้องการสนับสนุนเธอในตอนนี้
เวินจิ้งยังไม่ขยับ
มู่วี่สิงกลับถึงบ้านพักตากอากาศเวลาก็ดึกมากแล้ว ผู้ดูแลบ้านบอกว่าเวินจิ้งยังไม่กลับมา
เขาโทรหาเวินจิ้ง โทรติดแล้วแต่เวินจิ้งตัดสายทิ้ง
สีหน้าของชายผู้นั้นเย็นชาลง แล้วเขาก็ขับรถออกไป
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป มันยังคงเป็นร้านอาหารฮอทพอทครั้งที่แล้ว เวินจิ้งและอั้ยเถียนกำลังกินกันอย่างได้อรรถรส
มู่วี่สิงขมวดคิ้ว เปิดประตูแล้วเดินออกไป แต่ไม่ได้เข้าไป
ทุนเดิมเขาก็หล่อและสะดุดตาอยู่แล้ว ตอนนี้เขาพิงไปที่ประตูรถ ท่าขี้เกียจนี้ดูแล้วมีเสน่ห์ดึงดูดผู้คนมาก
อั้ยเถียนเห็นมู่วี่สิงก่อน จึงตบที่บ่าของเวินจิ้งเบาๆทันที “จิ้งจิ้ง สามีเธอมาแล้ว”
เวินจิ้งหันกลับไปมอง มู่วี่สิงอยู่ข้างนอกจริงด้วย
เธอเงียบแล้วปล่อยสีหน้าทันที
“ที่นี่มีประตูทางออกข้างหลังไหม?” เธอเช็ดมือแล้วถาม
“เธอจะหนีออกจากบ้านเหรอ?” อ้ายเถียนถามด้วยความประหลาดใจ
เวินจิ้งพยักหน้าอย่างมั่นใจ
มู่วี่สิงก้มหน้ามองโทรศัพท์ พอเงยหน้าขึ้น อั้ยเถียนและเวินจิ้งก็ไม่อยู่ที่นั่งที่เดิมแล้ว
เขาทำตาหยีแล้วมองตำแหน่งของเวินจิ้งในโทรศัพท์ก็ห่างกันแค่ไม่กี่ร้อยเมตร
เขากระตุกมุมปากเบาๆแล้วเดินตามไปอย่างรวดเร็ว
ข้ามไปถนนอีกฝั่ง เวินจิ้งกำลังโบกรถแท็กซี่
เมื่อเห็นว่ามู่วี่สิงกำลังเดินมา ความโกรธบนใบหน้าของเธอยิ่งชัดเจนมากขึ้น เธอรีบเปิดประตูแล้วเข้าไปนั่งทันที
“ ไปไหนครับน้อง?”คนขับรถถาม
เวินจิ้งก็ไม่รู้ เธอแค่คิดจะกำจัดผู้ชายคนนั้นออกไป
“วนอยู่แถวนี้ก่อนค่ะ”
เวินจิ้งหันหน้าไปมอง มู่วี่สิงตามเธอไม่ทัน
แล้วภาพของเขาก็ค่อยๆเลือนหายไป
หลังจากนั้นไม่นานเธอก็กลับไปที่บ้านเก่าของตระกูลมู่
นึกไม่ถึงว่ามู่วี่สิงกลับมาแล้ว เขานั่งอยู่ที่ห้องรับแขก ขาเรียวยาวไขว้กันอยู่ ดวงตาสีดำหลบตาเล็กน้อย บนตัวสวมเสื้อเชิ้ตพอดีตัว ท่าทีเกียจคร้านแต่ก็ยังดูสง่า
ผู้ชายคนนี้ ยิ่งนานวันเธอยิ่งรู้สึกว่าเขาลึกลับมากขึ้นเรื่อย ๆ
ยิ่งได้รู้จัก เธอยิ่งรู้สึกว่าไม่เข้าใจเขาเลยสักนิด
เดินเข้าบ้านพักตากอากาศ เธอไม่มองมู่วี่สิง เธอเดินตรงขึ้นห้องนอน
มู่วี่สิงเดินตามหลังเธอ เวินจิ้งก็ถูกลากเข้าไปในอ้อมแขนของเขาทันทีที่เขาเข้าไปในห้อง
“คุณหญิงมู่ อย่าโวยวายเลย”น้ำเสียงเขาแฝงไปด้วยความห่วงใย
“ฉันไม่ได้โวยวาย”เวินจิ้งหันหน้าหนีไม่สู้หน้ามู่วี่สิง
มู่วี่สิงจับคางเธอไว้ เวินจิ้งจึงทำได้แค่สบตากับเขา
“ไม่อยากไปทำงานนอกสถานที่กับผมถึงขนาดนี้เลยเหรอ?” เขาหยีตามองเธอ ด้วยใบหน้าตึงเครียด
เวินจิ้งกัดริมฝีปาก แล้วตอบว่าก็ไม่ใช่