บนที่ 748 ยังไงก็อยากเจอเธอเป็นครั้งสุดท้าย
เวินจิ้งตกตะลึง เธอไม่รู้จริงๆว่าตระกูลหยีและตระกูลหลิงมีความสัมพันธ์แบบนี้ ในเมื่อสามารถแต่งงานกับตระกูลหลิงได้ ก็คงมีฐานะสูงเหมือนกัน ทำไมหยีเป่ยโจวต้องเปิดร้านกาแฟด้วย
เธอยิ้ม “หลิงเหยา ฉันมีเสน่ห์มันผิดตรงไหนไม่ทราบ หยีเป่ยโจวรู้ว่าฉันเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว และเขาก็ไม่เคยบอกฉันว่าเขาชอบฉัน ตัวเองไม่สามารถทำให้ผู้ชายรักได้ ก็อย่ามาใส่ร้ายคนอื่น”
พูดจบเธอก็วางสายไปอย่างเย็นชา เพราะโทรศัพท์มีสายอื่นโทรเข้ามา
แม้ว่าเสียงของผู้ชายจะอ่อนโยน แต่ก็มีความสงสัยอยู่ “คุณโทรศัพท์กับใครเหรอ”
เวินจิ้งคลึงนิ้วรอบมุมเสื้อและตอบอย่างเกียจคร้านว่า “แฟนเก่าของคุณ”
“หลิงเหยา เธอโทรหาคุณทำไม” เขาจำไม่ได้เลยว่าทำไมตอนนั้นเขาถึงอยู่กับหลิงเหยา อาจจะเป็นเพราะว่าอยากกระตุ้นเวินจิ้งมั้ง
ไม่อย่างนั้นเขาจะอยู่กับผู้หญิงคนนั้นได้ยังไง เขาเกลียดเธอด้วยซ้ำ
“เธอโทรมาบอกว่าฉันแย่งผู้ชายของเธอ”
โทรศัพท์ทางนู้นเงียบไปสักพัก น้ำเสียงที่อ่อนโยนก็มีความรุนแรงเล็กน้อย “ฉันสั่งอาหารเช้าให้คุณแล้วคุณไม่ต้องทำเองแล้ว กินข้าวดีๆ ตอนเย็นฉันจะกลับไปอยู่กับคุณนะ”
เขาโกรธเหรอ
เธอยิ้ม “มู่วี่สิง คุณห้ามไปหาเรื่องหยีเป่ยโจวนะ เขาก็แค่ชอบฉันเฉยๆ เขาไม่ได้พูดและทำอะไรเลย”
อาจ… จริงๆแล้วก็ไม่ได้ชอบมั้ง
พวกเขาเจอกันแค่สองครั้งเอง ความรู้สึกที่ หยีเป่ยโจวมีต่อเธอคงไม่ได้ลึกซึ้งมากหรอก วันหลังเธอก็ตั้งใจอ่านหนังสือที่บ้าน ไม่ไปเรียนชงกาแฟแล้วกัน
น้ำเสียงของผู้ชายคนอ่อนโยนขึ้น พูดอย่างไม่พอใจว่า “คุณไม่ได้ชอบเขา ฉันจะไปหาเรื่องเขาทำไมล่ะ”
เสียงกริ่งประตูดังขึ้น เธอพูดเบาๆว่า “เอาล่ะ อาหารที่คุณสั่งไว้มาถึงแล้ว ฉันจะไปกินข้าวแล้วนะ”
เธอไม่ได้ถามว่าเขาอยู่ที่ไหน กำลังทำอะไรอยู่ ดูเหมือนว่าหลังจากทำเรื่องนั้นเสร็จ เธอก็ไม่ได้เย็นชาเหมือนเดิมแล้ว แม้ว่ายังเฉยเมยก็ตาม
แต่ว่ามันก็ต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป เมื่อคืนเธอเต็มใจให้เขา วันพรุ่งนี้เธออาจจะให้หัวใจเขาก็ได้
เขามีเวลามาก ไม่ต้องรีบ
“คนดี กินเยอะๆนะ คุณผอมเกินไป”
เมื่อเปิดประตู เป็นอาหารตามสั่งจริงๆ เวินจิ้งไม่ได้คุยกับเขาต่อ วางสายและเอาอาหารเข้าบ้าน
อาหารสามอย่างและซุป 1 ไม่ได้เยอะมาก แต่ทุกอย่างทำได้สวยงามมาก ความร้อนและกลิ่นหอมผ่านเข้าสู่จมูกของเธอในเวลาเดียวกัน ท้องที่หิวอยู่ก็พอใจกับอาหารที่อยู่ตรงหน้าเธอทันที ทำให้เธออารมณ์ดีไปด้วย
หลังจากล้างหน้าแปรงฟันเสร็จ เธอก็รีบไปกินข้าว
มู่วี่สิงคงรู้ว่าเธอจะไม่มีแรงทำอาหาร เขาจึงสั่งอาหารให้เธอ เขารู้ว่าเธอชอบอะไรและไม่ชอบอะไร แล้วยังรู้ว่าเธอจะตื่นตอนไหน
เธอก้มหน้าและกินอาหารกลางวันเงียบ ๆ
ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมงเมื่อกินข้าวเสร็จ เธอเก็บโต๊ะเสร็จและกำลังจะไปอ่านหนังสือ โทรศัพท์ที่วางบนโต๊ะกาแฟก็ดังขึ้นอีกครั้ง
หยีเป่ยโจว
เวินจิ้งขมวดคิ้ว แต่ไม่ได้ลังเลนานมาก ก็รีบรับสายและยิ้มเบาๆ” คุณหยีค่ะ”
เสียงของทางนั้นอ่อนโยนมาก “กินข้าวยังครับ”
“เพิ่งกินเสร็จค่ะ”
ผู้ชายยิ้มเบาๆ “ฉันแค่อยากถามคุณว่า เมื่อไหร่คุณจะมีเวลามาเรียนชงกาแฟครับ”
เวินจิ้งอึ้งไปสักพัก พูดด้วยน้ำเสียงที่มีความขอโทษเล็กน้อยว่า “ฉันคงไม่ได้ไปอีกแล้ว ตอนนี้ฉันกำลังเรียนภาษาต่างประเทศด้วยตัวเอง คงไม่มีเวลามากค่ะ”
“คุณกำลังเรียนภาษาต่างประเทศเหรอ ต้องการครูสอนไหม”
เธอกระพริบตา “ยังไม่ต้องค่ะ”
หยีเป่ยโจวเงียบไปสักพัก และยิ้มอย่างเอือมระอา “เธอโทรไปหาคุณแล้วใช่ไหมครับ”
“คุณหมายถึงหลิงเหยาเหรอคะ”
“เธออารมณ์ไม่ค่อยดี” น้ำเสียงของหยีเป่ยโจวดูคลุมเครือและระมัดระวังมาก “เธอไม่ได้พูดอะไรที่รุนแรงใช่มั้ยครับ”
“ไม่ต้องห่วง เธอรังแกฉันไม่ได้หรอกค่ะ”
แม้ว่าอารมณ์ของเธอจะอ่อนโยนกว่า แต่หลิงเหยาจะแข็งแกร่งกว่า แต่เธอไม่ใช่เวินจิ้งที่เหมือนเมื่อสามปีก่อนแล้ว เธอจะทนการกลั่นแกล้งของคนอื่นได้ยังไง
“เวินจิ้ง” จู่ๆหยีเป่ยโจวก็เรียกชื่อของเธอ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเรียกเธอแบบนี้ “ฉันอยากเจอคุณ ออกมาได้ไหมครับ”
เวินจิ้งขมวดคิ้ว
เสียงของหยีเป่ยโจวค่อยๆดังขึ้นจากทางนั้น “ฉันคิดว่านี่น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ถ้าคุณเต็มใจจะมา”
เธอปฏิเสธที่จะเรียนชงกาแฟต่อ หมายความว่าเธอปฏิเสธความรู้สึกของเขาแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ว่าเธอแต่งงานไปแล้ว แต่เขาก็ไม่เคยคิดจะบอกให้เธอรู้
เวินจิ้งตอบตกลงอย่างรวดเร็ว “ได้ค่ะ งั้นฉันจะไปที่ร้านกาแฟ”
หยีเป่ยโจวดูเหมือนจะไม่คิดว่าเธอจะตกลงเร็วอย่างนี้ ความสุขในน้ำเสียงก็ไม่ทันที่จะเก็บไว้ “ผมจะรอคุณนะครับ”
เธอวางหนังสือและเดินกลับห้องนอนเปลี่ยนชุด
หยีเป่ยโจวนั่งรอเธอในที่นั่งที่เธอชอบมากที่สุด เวินจิ้งเข้ามาก็เห็นแล้ว
เธอเดินไปนั่งตรงข้ามเขา รับเมนูที่บริกรส่งให้และสั่งกาแฟโปรดของเธอ
เธอยิ้มให้เขาเบาๆ “คุณหยี”
ดูเหมือนว่าได้ยินเสียงเขาถึงรู้ว่าเธอมาถึงแล้ว หยีเป่ยโจวมองผู้หญิงที่นั่งตรงข้ามเขา แต่ไม่คิดว่าจะได้เห็นผิวของเธอที่สัมผัสกับอากาศโดยทำการกระทำที่ไม่รู้ตัว แม้ว่าเธอจะสวมผ้าพันคอ ลอยจูบที่ลึกมาก
เขากระพริบตา “ไม่คิดว่าคุณจะเป็นคุณนายมู่ครับ”
“ฉันก็ไม่เคยคิดว่าคุณชายของตระกูลหยีจะมาเปิดร้านกาแฟที่นี่ค่ะ”
สายตาที่ หยีเป่ยโจวมองเธอจริงจังมาก “คุณอยู่กับเขามีความสุขไหมครับ”
เขายิ้ม แม้ว่าหลิงเหยาจะเป็นคู่หมั้นของเขา แต่เขาก็เพิ่งรู้ว่าเธอเกือบจะแต่งงานกับมู่วี่สิงไปแล้ว
คนที่สามารถทำได้ทุกอย่างในเมืองหนานเฉิง
แล้วเขาชอบภรรยาของมู่วี่สิง
“เขาคงรักคุณมาก” เขาพึมพำ
ก็ไม่รู้ว่ามันเป็นความรู้สึกเองหรือเปล่า เพราะว่าสามารถทำให้ผู้ชายที่ฐานะสูงมากคนนั้นยกเลิกสัญญาการแต่งงานกับตระกูลหลิง เลือกที่จะอยู่กับเวินจิ้งผู้หญิงที่ดูเหมือนไม่ได้มีตระกูลที่ดีมาก แถมยังแต่งงานกับเธอด้วย นี่เป็นเรื่องที่น่าตกใจมากอยู่ในวงการไฮโซ
“คงเป็นแบบนั้นมั้ง” เวินจิ้งเอียงหัวและยิ้มเบาๆ
ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องของพี่ชาย เธออาจพูดได้อย่างมั่นใจว่าเขารักเธอมาก และตอนนี้เธอก็ไม่สงสัยเลยว่าผู้ชายคนนั้นรักเธอ แต่เธอไม่สามารถประเมินได้ว่าเขารักเธอมากแค่ไหน ก็ไม่กล้าประเมินอีกเลย
หยีเป่ยโจวมองดวงตาของเธอตรงๆ “แล้วคุณล่ะ คุณรักเขาไหม”
เขาไปตรวจสอบมาอย่างรอบคอบแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองเริ่มตั้งแต่ 4 ปีที่แล้วและจนถึงตอนนี้ไม่เคยหย่าร้างกันเลย แต่แยกกันอยู่ 3 ปีแล้ว
ทำไมเธอยังยอมอยู่กับมู่วี่สิง
อีกอย่าง เขายังตรวจสอบพบว่าพี่ชายของเวินจิ้งดูเหมือนจะอะไรกับมู่วี่สิง เรื่องนี้ซับซ้อนเกินไป เขาก็ไม่ได้สอบสวนให้ชัดเจน
แต่เขาคิดว่า ชีวิตแต่งงานของทั้งคู่คงไม่มีความสุข มีหลายสิ่งหลายอย่างที่กั้นอยู่ระหว่างพวกเขา
เพราะฉะนั้น เขาถึงยืนยันที่จะเจอเธอเป็นครั้งสุดท้าย