บทที่ 800 สิ่งที่สั่งคือสิ่งที่เธอชอบ
ในมือทั้งสองข้างมู่วี่สิงเต็มไปด้วยป๊อปคอร์นและน้ำแร่จึงไม่สามารถโอบรอบตัวเธอได้ แต่เมื่อเห็นเธอรับโทรศัพท์ก็รู้สึกไม่สบอารมณ์เอามากๆ
“มีอะไร” น้ำเสียงของเวินจิ้งไม่ได้กระตือรือร้นแต่ก็ไม่ได้เย็นชา
น้ำเสียงของลู่เซิ่นฟังรื่นหูอีกทั้งยังดูมีความสุข “ผมได้ยินมาว่าคุณซื้อเครื่องลายครามราคาสามร้อยล้านให้ครอบครัวเรา?”
เวินจิ้งพูดเยาะเย้ย “คุณคิดมากเกินไปแล้ว”
ลู่เซิ่นไม่แปลกใจ “คุณนายลู่ คุณให้ชู้ของคุณทำตัวดีๆกับผมหน่อยสิ ถ้ามีคนบอกว่าผมโดนสวมเขา เขาได้ใช้ชีวิตลำบากแน่ๆ”
ในตอนนี้สำหรับเขาแล้วมันเป็นเรื่องที่เขาจะปิดตาข้างหนึ่ง แต่เขาก็ต้องรักษาหน้าเช่นกัน
เวินจิ้งฮึดฮัด“มีเวลานักก็ไปจัดการเรื่องของตัวเองก่อนเถอะ”
หลายปีแล้วยังหาผู้หญิงของตัวเองไม่เจอ ยังจะมีใจมาคิดถึงภรรยาในนามคนนี้อีกอย่างนั้นเหรอ
เห็นได้ชัดว่าคุณชายลู่จี้ถูกจุดที่เขาเจ็บปวด รีบวางสายโทรศัพท์อย่างไม่พอใจทันที
เธอเก็บโทรศัพท์เพื่อจะถือป๊อบคอร์น เงยหน้าขึ้นมาสบตากับชายหนุ่ม
เขายกแขนขึ้นโอบรอบเอวของเธอ “พวกเธอคุยกันสนุกมากเหรอ”
แม้ว่ามันจะไม่หวานเลี่ยน แต่จากน้ำเสียงของเวินจิ้งแล้วฟังดูก็รู้ว่าเธอไม่ได้เกลียดลู่เซิ่น
เธอพูดผ่านๆอย่างเรียบนิ่งว่า “ก็อย่างนั้นแหละ”
เธอกระพริบตา ยิ้มอย่างไม่เต็มใจนัก “ฉันบอกว่าเราทุกคนต่างก็เดินเกมของตัวเองไม่ใช่เหรอ เพราะงั้นความสัมพันธ์จะแย่เกินไปไม่ได้”
แขนของชายหนุ่มกระชับขึ้นเล็กน้อย สายตาของเขาเย็นชา “ถ้าฉันไม่บังคับเธอ เธอวางแผนที่จะอยู่กับเขาไปตลอดงั้นเหรอ”
เวินจิ้งไม่เข้าใจว่าทำไมผู้ชายคนนี้ถึงโกรธ เธอถามไปด้วยอย่างสงสัย “ถ้าไม่มีนาย ฉันก็ไม่ได้แต่งงานกับนายและไปแต่งงานกับคนอื่น นี่เป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอ”
ใบหน้าของมู่วี่สิงขุ่นมัวมากขึ้น
เธอพูดถูก ถ้าเธอไม่แต่งงานกับเขา เธอก็จะแต่งงานกับคนอื่น
เวินจิ้งเลือกหนังสยองขวัญ พวกเขาเข้ามาช้า หนังกำลังฉายอยู่เธอตื่นเต้นมากเมื่อได้ยินเสียง แต่จู่ๆเธอก็กรีดร้องเมื่อมองไปที่หน้าจอ
“กรี๊ด!”
มือของเธอสั่นจนเกือบจะทำป๊อปคอร์นหก แต่โชคดีที่มู่วี่สิงรีบช่วยเธอถือมันไว้
มู่วี่สิงมองใบหน้าที่กลัวของเธอ ขมวดคิ้วและถามว่า “อยากเปลี่ยนเรื่องไหม”
เขาไม่คิดว่าเธอจะเลือกดูหนังสยองขวัญ แต่เมื่อมาคิดๆดูแล้ว เขาไม่ค่อยเข้าใจความชอบของเธอเลย
“ดูอันนี้แหละ” เวินจิ้งพูดอย่างดื้อดึง
ชายหนุ่มเลิกคิ้ว นั่งลงข้างๆเวินจิ้ง
แม้ว่านี่จะไม่ใช่ภาพยนตร์ 3 มิติ แต่เอฟเฟกต์และเสียงก็ยังคงให้ความรู้สึกที่น่าขนลุกไปทุกหนทุกแห่ง
แม้ว่าตอนนี้มู่วี่สิงจะไม่ได้กอดเธอ เวินจิ้งก็เริ่มโน้มตัวเข้ามาในอ้อมแขนและดึงมือของเขามาไว้ข้างหน้าเธอเพื่อกอด
หลังจากที่พลิกไปจนได้ที่เธอก็พูดขึ้นว่า “ถ้านายจะดื่มน้ำหรือกินป๊อบคอร์น ฉันจะป้อนนาย”
เมื่อเห็นเธอตื่นตระหนกและหวาดกลัว ชายหนุ่มก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้ “กลัวขนาดนี้แล้วยังจะดูหนังสยองขวัญอีก”
เวินจิ้งกอดแขนชายหนุ่ม ส่วนมืออีกข้างหนึ่งก็คว้าป๊อปคอร์นมากิน “ถ้าไม่กลัวก็ดูหนังสยองขวัญไม่สนุกสิ”
เธอใช้ประโยชน์จากช่องว่างในเพลงเปิดพูดต่อไปว่า “ฉันไม่คิดมาก่อนเลยว่าวันหนึ่งจะได้ดูหนังสยองขวัญในอ้อมแขนของแฟน”
นี่เป็นประสบการณ์ที่เธอไม่เคยมีมาก่อน แต่เธอเคยคิดถึงเรื่องนี้อย่างแน่นอน
มู่วี่สิงมองใบหน้าครึ่งหนึ่งของเธอที่มีผ้าพันคอปิดตาอยู่ ดวงตาของเธอส่องแสงในที่สลัว ความโกรธในงานประมูลหายไปโดยปริยาย ในขณะนี้ไม่เหลืออะไรเลยนอกจากความละมุน
เขาเอื้อมมือดึงผ้าพันคอของเธอลง เผยให้เห็นริมฝีปากและคางอันบอบบางของเธอ เหลือบมองไปที่แขนที่เธอจับอยู่ เขากอดเธอแน่นขึ้น พูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ “ฉันกอดเธอไว้แบบนี้ มืออีกข้างก็ป้อนป๊อบคอร์นให้เธอได้”
ไฟในโรงภาพยนตร์ดับสนิท เหลือเพียงแสงที่สาดมาจากจอฉาย เงาตกกระทบบนใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่ม เธอเหลือบไปมองจนรู้สึกได้ว่าหัวใจของเธอเต้นอย่างรุนแรง
เธอปล่อยกล่องป๊อปคอร์นที่ถือไว้ในมือทั้งสองข้าง ทันใดนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้นและจูบใบหน้าของชายหนุ่มอย่างแผ่วเบาพลางยิ้มหวาน “มู่วี่สิง ฉันชอบนาย”
มือที่เขากำลังจะหยิบป๊อปคอร์นแข็งทื่อ หัวใจของเขาอ่อนยวบโดยไม่ทันทั้งตัว อะไรบางอย่างกำลังพลุ่งพล่านจนกำลังจะล้นออกมา ทันใดนั้นแววตาของเขาก็ยิ่งลึกซึ้งมากขึ้นเรื่อยๆ
มือของเขาเปลี่ยนทิศทาง เชยคางเธอขึ้นและประทับจูบลงไปลุ่มลึก ราวกับว่าเขากำลังจะกินเธอเข้าไปในท้องของเขา
เขาไม่ละจากริมฝีปากของเธอจนเธอแทบหมดลมหายใจ ลมหายใจที่แผดเผามาพร้อมกับอุณหภูมิที่ร้อนระอุ “จิ้งจิ้ง ฉันรักเธอ”
กระแสไฟฟ้าเคลื่อนจากหัวใจแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย ใบหน้าของเวินจิ้งค่อยๆกลายเป็นสีแดง แต่ ณ เวลานี้แสงนั้นมืดสลัวเกินไป มู่วี่สิงมองไม่เห็น เธอปรับการหายใจของตัวและอดไม่ได้ที่จะจูบที่คางของเขาอีกครั้ง
มุมปากของมู่วี่สิงยกขึ้นโดยอัตโนมัติ เขาหยิบป๊อปคอร์นสองสามชิ้นป้อนเข้าปากเธอ เสียงทุ้มแหบแห้ง “ฉันจะดูหนังกับเธอก่อน”
อ้อมกอดของชายหนุ่มอบอุ่นมาก เวินจิ้งดูหนังอย่างตั้งใจ บางครั้งที่มีป๊อปคอร์นป้อนเข้าปากของเธอ มีบางช่วงที่ริมฝีปากของเธอพาดผ่านปลายนิ้วของเขาพอดี
เมื่อดูหนังจบ ใบหน้าของเวินจิ้งซีดเซียว
ในห้องอาหาร มู่วี่สิงเลือกตำแหน่งริมหน้าต่างและนั่งลงข้างๆเธอ
“ฉันจะสั่งของที่เธอชอบกินให้นะ” เขาถือเมนูและถามเธออย่างเอาใจ
เวินจิ้งส่ายหัว เธอเอาเมนูวางไว้ตรงกลางและทั้งคู่ก็ดูด้วยกัน
พวกเขาไม่ได้ไปร้านอาหารตะวันตกหรูหรา แต่กลับหาร้านหม้อไฟที่ครึกครื้นและสะอาดแทน
สิ่งที่เขาสั่งคือสิ่งที่เธอชอบทั้งหมด
เวินจิ้งยิ้มและสั่งสิ่งที่เขาชอบด้วยความคุ้นเคย
หลังจากที่พนักงานเสิร์ฟนำเมนูออก มู่วี่สิงก็โน้มใบหน้าอันหล่อเหลาเข้ามาใกล้ “เธอยังจำได้เหรอ”
เวินจิ้งกระพริบตาและมองเขาด้วยรอยยิ้ม“แน่นอนว่าฉันยังจำสิ่งที่นายชอบได้ นายก็ยังจำได้ใช่ไหม”
เธอมองเขาคิ้วขมวด เอ่ยถามขึ้น “ที่จริงแล้วนายเริ่มชอบฉันเมื่อไหร่”
เธอยังจำตอนที่เขาขอเธอแต่งงานได้ เขาเคยพูดว่าไม่มีทางชอบเธอหรอก
อย่างนั้นเขาก็กลืนน้ำลายตัวเองมานานแล้วสิ?
เมื่อได้ยิน มู่วี่สิงก็ละสายตาไป ใบหน้าหล่อเหลาของเขานิ่งเฉย
เวินจิ้งขยับเข้ามาใกล้ กุมมือของเขาไว้และถามเบาๆ “บอกฉันหน่อย เมื่อกี้ฉันกลัวไปหมดแล้ว นายช่วยรีบพูดอะไรดีๆเพื่อปลอบฉันที”
ชายหนุ่มเลิกคิ้ว ยิ้มน้อยๆและพูดขึ้น “เธอแน่ใจเหรอว่าคำตอบของฉันจะทำให้เธอมีความสุข?”
“นายกล้าทำให้ฉันไม่มีความสุขเหรอ”เวินจิ้งย่นคิ้วจ้องเขา
ดวงตาของเธอไม่ได้หวาดกลัว แต่เต็มไปด้วยความโกรธของผู้หญิงตัวเล็กๆ มู่วี่สิงยื่นมือมาบีบใบหน้าที่อ่อนนุ่มของเธอ เสียงทุ้มต่ำเต็มไปด้วยการเอาใจ “ตั้งนานแล้ว นานมากๆแล้ว ก่อนที่เราจะแต่งงานกัน ทีนี้รู้แล้วรึยัง”