บทที่ 846 สงสัยหนักมาก
แต่งงานกับใคร เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว แน่นอนว่าไม่มีทางปรากฏในกระดานประกาศด้านนอก แต่ฉินซีไม่มีตำแหน่งอะไรภายในบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป จึงไม่มีการประกาศเอกสารใดๆเป็นการภายในเช่นกัน
คนที่เธอแต่งงานด้วยจึงเป็นปริศนา
แต่ขั้นตอนการแต่งงานนั้นมีอยู่จริง เอกสารทางกฎหมายปลอมแปลงไม่ได้
ตั้งแต่เมื่อวานที่ข่าวแพร่สะพัดออกไปก็มีนิตยสารกอสซิปหลายเล่มแข่งขันกันหาข่าวให้วุ่น แต่สื่อส่วนใหญ่ก็คว้าน้ำเหลว สื่อไม่กี่เจ้าที่มีช่องทางหาข่าวก็ดูเหมือนว่าจะเก็บเป็นความลับ ปิดปากสนิทไม่เปิดเผยข้อมูลออกไปภายนอก
เมื่อเป็นเช่นนี้ ยิ่งกระตุ้นให้ผู้คนสงสัยมากยิ่งขึ้น
การประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นเริ่มสิบโมงเช้า ตั้งแต่เริ่มข่าวเช้าเจ็ดโมงก็มีข่าวที่ดึงดูดความสนใจหลั่งไหลออกมาไม่หยุด
สื่อสายเศรษฐกิจทุกสำนักต่างอภิปรายว่าการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนผู้ถือหุ้นครั้งนี้ของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปจะส่งผลอย่างไรบ้าง แต่สื่อบันเทิงและนิตยสารกอสซิปไม่ได้จำกัดแต่หัวข้อน่าเบื่อพวกนี้ ข่าวกอสซิปแพร่สะพัด เดี๋ยวก็บอกว่านี่เป็นก้าวแรกของเส้นทางการแก้แค้นของลูกสาวบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป เดี๋ยวก็บอกว่าเธอยังไม่แต่งงานจริงๆ ทั้งหมดล้วนแต่งขึ้น เดี๋ยวก็พูดอีกว่าเธอแต่งงานสายฟ้าแลบ การสมรสก็เป็นเพียงบันไดเพื่อเอาหุ้นคืน อีกเดี๋ยวก็เล่าว่าคู่สมรสของเธอคือลูกมหาเศรษฐี สักพักก็เล่าอีกว่าเป็นคนจนที่หวังตกถังข้าวสารพูดไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็โยงไปถึงเรื่องในอดีตที่ แม่ฉินถูกจับได้ว่ามีชู้จนสุดท้ายกระโดดตึกฆ่าตัวตาย
ทั้งจริงทั้งเท็จ แยกแยะไม่ออก
กอสซิปคนรวยเป็นข่าวที่คนดูข่าวชอบมากที่สุดเสมอ ทุกคนรอเผือกกันสนุกสนานถึงจะดูข่าวเศรษฐกิจไม่รู้เรื่องก็เฝ้าข่าวรอดูข่าวการประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น
โลกภายนอกวุ่นวาย แต่ฉินซีไม่รับรู้
หรืออาจพูดได้ว่า เธอรู้ เพียงแต่ไม่แยแส
ในสายตาของคนรับใช้ เธอเหมือนทุกวันไม่มีอะไรแตกต่าง ตื่นนอนสีหน้าปกติลงมากินมื้อเช้า จากนั้นก็ขึ้นไปเลือกเสื้อผ้า เตรียมตัวออกจากบ้าน
ใช่ว่าฉินซีเองจะไม่รู้สึก แม้แต่คนรับใช้หนุ่มสาวในรีสอร์ทชิงหยวนยังสนใจข่าวซุบซิบวันนี้มาก อาศัยตอนที่พ่อบ้านไม่สนใจ สายตาคอยมองเธออยู่เรื่อย แม้ว่าจะถูกพ่อบ้านดุให้หยุด แต่อีกเดี๋ยวสายตาก็ยังมองสอดส่องอีก
เห็นได้ว่าตอนนี้เธอออกไปจะต้องพบกับสื่อแบบไหน
แต่เธอกลับไม่คิดจะเอามาใส่ใจ
สิ่งที่เธอจะทำวันนี้ เพียงแต่ประกาศกับฉินซึ่งเทียนอย่างเป็นทางการ เธอต้องการทวงทุกอย่างที่เป็นของเธอคืนก็เท่านั้น
แน่นอนว่าเธอต้องการแก้แค้น แต่ไม่ใช่ตอนนี้
เพราะมีบางเรื่อง เธอยังไม่ได้เตรียมให้เรียบร้อย
รอจนทุกอย่างพร้อมแล้ว ทุกสิ่งที่เธอสูญเสียไปจะคืนกลับมาในมือเธอในที่สุด
ทางด้านลู่เซิ่นระหว่างประชุมก็ดูรายงานข่าวแบบปิดเสียงไปด้วย
เขานั่งคนเดียวที่มุมหนึ่งของโต๊ะยาว จึงไม่มีคนเห็นว่าเขาจ้องมองหน้าจอโทรศัพท์ตลอดเพื่อดูอะไร
แน่นอน แม้ว่าจะมีคนนั่งข้างๆ เห็นเขาดูรายงานสดของสถานีโทรทัศน์ก็ไม่กล้าถามอะไรมากอยู่ดี
เพราะดูแล้วเหมือนรายงานข่าวธรรมดาข่าวหนึ่งเท่านั้น
ถึงแม้คนอื่นดูไม่ออก แต่หลินหยังดูไม่ผิดแน่นอน
แม้ว่าลู่เซิ่นทำท่าประชุมจริงจัง แต่ที่จริงแล้วจดจ่ออยู่กับโทรศัพท์มือถือ
ถ้าเขาจำไม่ผิด เวลานี้ น่าจะเป็นเวลาที่การประชุมใหญ่ของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปใกล้จะเริ่มแล้ว
ลู่เซิ่นกำลังดูอะไร…ไม่ต้องพูดก็รู้ชัด
แต่หลินหยังไม่เข้าใจอยู่ดี สื่อใหญ่ที่สุดคือบริษัทในเครือของบริษัทลู่ซื่อ เขาสั่งหลินหยังให้แจ้งไปแล้ว อะไรเผยแพร่ได้ หรืออะไรที่ไม่ได้ ทุกอย่างอยู่ในความควบคุมของเขาทั้งหมด
อย่างนั้นทำไมเขายังนั่งจ้องใจจดใจจ่อขนาดนี้
ความสงสัยนี้หลินหยัง ทำได้แต่ครุ่นคิดในใจ เขาต้องมีสมาธิจดจ่อ บันทึกรายงานการประชุมให้เรียบร้อยไม่อย่างนั้นเดี๋ยวลู่เซิ่นต้องการข้อมูล เขาจะถามอะไรก็ไม่รู้ไม่ได้
แต่หลินหยังคาดเดาไม่ถูกต้องทั้งหมด
ก่อนฉินซีจะปรากฏตัว แม้เขาจะมองหน้าจอมือถือ แต่สมาธิยังคงอยู่กับการประชุม บางครั้งก็หยุด จับข้อผิดพลาดได้หลายที่
กระทั่งฉินซีปรากฏตัว
ลู่เซิ่นเคาะโต๊ะ “พักสิบนาที”
คนอื่นไม่กล้าเห็นต่างแต่อย่างใด พากันมองหน้า แล้วหยุดประชุม
ลู่เซิ่นลุกขึ้น เดินออกไปห้องรับรอง ปรับเสียงคลิปให้ดังขึ้น
……
การประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นเริ่มสิบโมงตรง เก้าโมงเช้าพวกผู้ถือหุ้นทยอยเดินทางมาถึง ส่วนใหญ่จะขับรถตรงเข้าไปจอดที่ลานจอดรถใต้ดินไม่สนใจสื่อที่ไล่ตามรุมล้อม บางคนลงรถที่หน้าประตูใหญ่ ส่วนใหญ่ก็ปฏิเสธการสัมภาษณ์ของสื่อไม่ปริปากแต่อย่างใด
ฉินซีปรากฏตัวตอนเก้าโมงครึ่งไม่ถือว่าสาย แต่ก็ไม่ถือว่าเร็วมากเป็นเวลาที่ดึงดูดความสนใจของผู้คน
เธอกลัวว่าป้ายทะเบียนรถยนต์ของลู่เซิ่นจะถูกถ่ายภาพจนเปิดเผยข้อมูล จึงนั่งรถของเขามาลงก่อนถึงบริษัทหลายช่วงถนน แล้วค่อยต่อรถแท็กซี่มาลงที่หน้าประตูบริษัทฉินชื่อกรุ๊ป
รถแท็กซี่เข้าไปจอดในลานจอดรถใต้ดินของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปไม่ได้ แต่เธอก็ไม่กริ่งเกรง ลงรถที่หน้าประตูอย่างผ่อนคลาย
วันนี้ฉินซีสวมชุดสูทสีดำ และสวมรองเท้าส้นสูงสีแดง รวบผมมวยขึ้น ทั้งตัวดูสง่างาม ฉายออร่าผู้บริหารหญิงระดับสูง
รูปลักษณ์ของเธอสะดุดตา สื่อมวลชนแทบจะเห็นเธอในทันทีไม่รู้ว่าใครเป็นคนตะโกน “ฉินซีอยู่ตรงนั้น” สื่อจึงพากันเฮโลไปทางนั้น รุมล้อมรอบตัว ฉินซีแทบจะยัดไมโครโฟนเข้าไปในปากของเธอ
“คุณฉิน ขั้นตอนการรับหุ้นของคุณถูกต้องจริงมั้ยคะ”
“คุณฉิน คุณแต่งงานกับใครกันแน่ครับ”
“…แต่งงานเพื่อรับมรดกหรือเปล่าคะ”
“คุณฉิน คุณแต่งงานแล้วจริงๆ หรือครับ”
ไฟแฟลชส่องจ้าจนเกือบทำให้ตาลาย ใบหน้าฉินซีเปื้อนยิ้มตลอดไม่ปริปากตอบคำถามแต่อย่างใด
ลู่เซิ่นที่อยู่ตรงหน้าจอขมวดคิ้ว
วันนี้ตัวละครหลักของการประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นนอกจากฉินซึ่งเทียนแล้วก็คือฉินซี ฝ่ายแรกยังมาไม่ถึง หรืออาจจะมาถึงแล้วแต่ตรงไปที่ลานจอดรถใต้ดิน
ในกลุ่มสื่อที่อออยู่หน้าประตูมีบางคนมีสิทธิ์เข้าไปในพื้นที่สื่อหลังจากนี้ สัมภาษณ์ในงานแถลงข่าวหลังการประชุมเสร็จสิ้น แต่บางคนไม่มีโอกาสเข้าไป คนที่พวกเขาดักสัมภาษณ์ได้ที่หน้าประตู จึงเป็นแหล่งข่าวทั้งหมดที่พวกเขามี
ตอนนี้เห็นฉินซีย่อมไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆ แน่
ฉินซีเดินทางมาคนเดียว แต่จำนวนสื่อมวลชนกลุ่มใหญ่ ในตอนแรกยังทำตามกฎระเบียบ รักษาระยะห่างจาก ฉินซีแต่ยิ่งเข้าใกล้ประตูใหญ่ของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปเท่าไร พวกนักข่าวยังไม่ได้คำตอบอะไรก็ร้อนใจจนควบคุมไม่ได้
ถ้าช่างภาพอยู่ใกล้เกินไปจะถ่ายรูปไม่ได้ แต่นักข่าวไม่มีข้อจำกัดนี้ พากันรุมล้อม ฉินซีบางคนถึงกับขวางทาง ทำให้เธอแทบเดินต่อไปไม่ได้ และไม่ทันระวังเบียดเธอด้วย
ฉินซีขมวดคิ้ว แต่เธอยังไม่ทันพูดอะไรก็มีกลุ่มบอดี้การ์ดฝ่าวงล้อมเข้ามาประชิดตัว
บอดี้การ์ดเข้ามาอย่างกะทันหัน พวกนักข่าวในที่นั้นไม่ทันระวังตัว แม้พวกนักข่าวจะยืนเบียดเสียดติดกัน แต่ไม่อาจว่องไวไปกว่าบอดี้การ์ดที่ฝึกฝนมาโดยเฉพาะ กระทั่งพวกเขารู้สึกตัว ฉินซีก็ถูกพวกบอดี้การ์ดล้อมอยู่ตรงกลางแล้วไม่มีช่องให้แทรกเข้าไป