บทที่ 873 ทำไมถึงยังไม่ยอมปล่อยหนูไป
บ้านตระกูลฉิน
หลังจากที่หลี่เหวยได้พูดสิ่งที่น่าประหลาดใจออกมา แต่กลับตกอยู่ในความเงียบ
ฉินหว่านที่ถูกเธอกระตุ้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น จึงลุกขึ้นยืน หันหน้าไปมองเธอ“แม่คะ!แม่หมายถึงอะไร!”
ดวงตาของหลี่เหวยมืดมนลง“ลูกลงมาก่อน ลงมาแล้วแม่จะบอกหนู”
ฉินหว่านลังเลอยู่สองสามวินาที ก็เลือกที่จะเชื่อใจเธอ แล้วเอาขาของเธอที่อยู่ด้านนอก กลับเข้ามา แล้วเปลี่ยนมาเป็นท่านั่งอยู่บนรั้ว“แม่พูดมาเถอะค่ะ”
หลี่เหวยยิ้มเยา“ถ้าหนูยังนั่งอยู่ตรงนั้น แล้วไม่คิดที่จะฆ่าตัวตายอีก ก็นั่งอยู่ตรงนั้นเถอะ”
หลังจากที่พูดออกไปอยู่หลายประโยค เธอเข้าใจจิตใจของฉินหว่านมาตั้งแต่แรก ฉินหว่านแค่ต้องการจะใช้วิธีนี้ เพื่อข่มขู่เธอและฉินซึ่งเทียน และเพื่อบีบบังคับให้หซู่หนานกลับมา ไม่ได้ต้องการที่จะฆ่าตัวตายจริงๆ
ถึงแม้ว่าจะรับไม่ได้ ที่เธอจะฆ่าตัวตายเพื่อความรักๆ ใคร่ๆ แบบนี้ แต่ในความคิดของหลี่เหวยก็ไม่ได้ตำหนิอะไรเธอ
ฉินหว่านให้ข้อมูลที่สำคัญมาก และอาจจะใช้เพื่อโน้มน้าวฉินซึ่งเทียนได้
ถ้าหากนี่ สามารถเป็นฟางเส้นสุดท้าย ที่ครอบงำความสมดุลของฉินซึ่งเทียน……
งั้นการสร้างปัญหาของฉินหว่านในครั้งนี้ ก็ไม่เปล่าประโยชน์
เธอเดาได้ไม่เลวเลย เดิมทีฉินหว่านไม่ได้ที่จะต้องการตายจริงๆ เมื่อถูกหลี่เหวยพูดแบบนั้น ก็ลังเลเล็กน้อย และในที่สุดก็ก้าวลงจากรั้ว แล้วเดินไปอยู่ข้างๆ หลี่เหวย“แม่คะ……ที่แม่บอกว่าจะให้ฉินซีจ่ายค่าตอบแทน……หมายถึงอะไรคะ?”
หลี่เหวยคิดวิธีได้อยู่ในใจแล้ว เงยหน้าขึ้นมองฉินหว่าน“หนูแค่ทำตามที่แม่บอกก็พอแล้ว”
ฉินหว่านรีบพยักหน้าทันที
หลี่เหวยเอนตัวไปกระซิบที่ข้างหูของเธอ
ดวงตาของฉินหว่านเบิกกว้างก่อน จากนั้นก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นการแสดงถึงความเข้าใจ
……
ฉินซึ่งเทียนรอที่ด้านล่างอย่างใจจดใจจ่อ เงยหน้าขึ้นไปจ้องมองร่างของฉินหว่าน
การสัมผัสระหว่างเขาและฉินหว่านมีไม่ค่อยมาก ตามธรรมชาติไม่ได้มีวิธีเหมือนกับหลี่เหวย ที่แค่มองแวบแรก ก็รู้ได้ว่าฉินหว่านไม่ได้ต้องการจะฆ่าตัวตายจริงๆ และยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุที่แท้จริง ว่าลูกสาวของตัวเองทำไมถึงจะกระโดดตึก ไม่มีพ่อแม่ที่ไหนไม่กังวลหรอก
โชคดีที่หลังจากหลี่เหวยขึ้นไปได้ไม่นาน ร่างของฉินหว่านก็หายออกไปจากรั้ว
ในที่สุดเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก หลังจากนั้นก็รู้สึกโกรธขึ้นมาเล็กน้อย
นี่ก็โตๆ กันแล้ว มีปัญหาอะไร ก็คิดแต่จะฆ่าตัวตาย!
ที่จริงแล้ววันนี้เขาใจคอไม่ค่อยดี แล้วยังพบกับเหตุการณ์น่าตกใจแบบนี้ ในตอนนี้ก็รู้สึกโล่งใจ และยังโกรธมากด้วย
ดังนั้นฉินซึ่งเทียนจึงสังเกตการณ์อยู่ที่บันไดทางออก รอให้ฉินหว่านลงมาด้วยความโกรธ เตรียมพร้อมที่จะให้สั่งสอนกับเธอ
แต่ว่าทั้งสองคนกลับยังชักช้า ไม่ยอมลงมา
ฉินซึ่งเทียนที่จากโกรธมากๆ ทะยานไปจนถึงความวิตกกังวลอีกครั้ง ก็อดไม่ได้ที่จะขึ้นไปดูด้วยตัวเขาเอง ในที่สุดก็ได้ยินเสียงฝีเท้า
เขาก็ตะโกนขึ้นไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ“เป็นยังไงบ้าง?”
ฉินหว่านปิดหน้า และก้มหน้าลงต่ำ
หลี่เหวยที่มีสีหน้าท่าทางโกรธ“นี่เป็นสิ่งที่น่าผิดหวัง ฉันได้สั่งสอนไปก่อนแล้วค่ะ!”
ถึงแม้ว่าฉินซึ่งเทียนตั้งใจที่จะสั่งสอนเธอในตอนแรก แต่ความโกรธนั้น ก็ได้ถูกลบหายไปแล้วในตอนนี้ เมื่อเห็นฉินหว่านที่เป็นแบบนั้น คาดว่าหลี่เหวยได้ลงมือสั่งสอนเธออย่างโหดเหี้ยม ก็อดไม่ไหวที่จะเจ็บปวดใจ แล้วหันไปตำหนิหลี่เหวย“คุณสั่งสอนเธอทำไม!”
หลี่เหวยมองไปที่ฉินหว่าน อย่างไม่สบอารมณ์ ต่อความไม่เอาถ่านของเธอ“เด็กคนนี้!ไม่มีอนาคต!ผู้ชายของตัวเองก็ดูไม่ได้!”
ฉินซึ่งเทียนขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย“หมายถึงอะไร?คือ……หซู่หนาน?”
หลี่เหวยโบกมือ“คุณให้ลูกพูดเอง!”
ฉินหว่านยังคงปิดใบหน้าของเธอ ก้มหน้าลง และไม่พูดอะไร
ฉินซึ่งเทียนเห็นเธอที่เป็นแบบนี้ ก็ปวดใจอย่างมาก
ฉินหว่านที่ตั้งแต่เด็ก ก็โตมาจากข้างนอกกับหลี่เหวย เมื่อก่อนเขายังไม่มีความสามารถ ไม่มีวิธีรับพวกเขาสองแม่ลูกมาอยู่ใกล้ๆ และคาดว่าฉินหว่านได้รับการถูกรังแกตั้งแต่เด็ก จึงทำให้มีบุคลิกภาพได้แต่ยอมคนอื่นมาโดยตลอด ในปีนี้ที่ได้รับเข้ามาในตระกูลฉิน ก็ค่อยๆ ดีขึ้น
ฉินซึ่งเทียนรู้สึกผิดต่อเธอมาโดยตลอด
แต่เมื่อเห็นเธอเป็นแบบนี้ ก็ทำให้เขานึกถึงเมื่อตอนที่ก้าวเข้ามาสู่ตระกูลฉิน เป็นฉินหว่านที่กลัวจนตัวสั่งไปซะทุกสิ่งทุกอย่าง
เขาไม่สนใจคำตำหนิอะไรแล้ว ทั้งหัวใจเต็มไปด้วยความเจ็บปวด เดินตรงเข้าไป แล้วโอบไหล่ของลูกสาวไว้“ไป พวกเรากลับกันก่อน แล้วค่อยพูด”
หลี่เหวยเดินตามหลังพวกเขา ทั้งสามคนค่อยๆ เดินกลับบ้านใหญ่
ฉินซึ่งเทียนพาฉินหว่านไปที่ห้องหนังสือ และให้คนรับใช้นำน้ำร้อนขึ้นมาให้เธอหนึ่งแก้ว
ในที่สุดฉินหว่านก็ยอมวางมือที่จับหน้าเธอลง ฉินซึ่งเทียนเห็นรอยนิ้วมือที่ชัดเจน และคราบน้ำตา ก็อดไม่ได้ที่จะหันหน้าไปด่าหลี่เหวย“คุณลงมือหนักแบบนี้เพื่ออะไร!”
หลี่เหวยเหมือนที่สุดจะเรียกสติกลับคืนมาได้ ก็มองไปที่ใบหน้าด้านข้าง ที่แดงและบวมเป่งของฉินหว่าน การแสดงออกก็เปลี่ยนตื่นตระหนกเล็กน้อย เธอยื่นมือออกไปอย่างระมัดระวัง พยายามที่จะสัมผัสใบหน้าด้านข้างของฉินหว่าน“แม่……เมื่อกี้แม่โกรธมาก และตื่นเต้น ไม่ได้……ไม่ได้ควบคุมแรง……”
ใบหน้าของเธอเอง ก็ยังคงรอยนิ้วมือของฉินซี ที่ทิ้งไว้ในตอนเช้า กับฉินหว่านที่มีคนละข้าง มันก็ดูตลกเล็กน้อย เมื่อเห็นในแวบแรก
ฉินซึ่งเทียนถอนหายใจ ในที่สุดก็ไม่อาจฝืนตำหนิอะไรได้อีกแล้ว หมุนตัวให้คนรับใช้ไปเตรียมไข่ร้อนๆ หลังจากนั้นก็มานั่งข้างๆฉินหว่าน แล้วใช้น้ำเสียงที่อ่อนโยนที่สุดพูด“มีอะไรเหรอ หนูพูดกับพ่อสิ”
ฉินหว่านกลับยังคงก้มหน้านิ่ง
หลี่เหวยถอนหายใจออกมาเบาๆ“ก่อกรรมทำเข็ญไง……”
ฉินซึ่งเทียนหันหน้ามามองเธอ“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
หลี่เหวยจ้องไปที่ฉินหว่าน“หนูพูดสิ?หรือจะให้แม่บอกพ่อล่ะ?”
ฉินหว่านหยุดนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนที่จะพยักหน้าช้าๆ
หลี่เหวยหลับตาลง บีบมือเข้าหากัน มีอาการลังเลเล็กน้อย“ฉันจะพูดแล้วนะ…พ่อก็อย่าโกรธล่ะ”
ฉินซึ่งเทียนในที่สุดก็รู้สึกกังวล“คุณก็พูดมาสิ!”
หลี่เหวยเงยหน้าขึ้นมองเขา“หซู่หนานเลิกกับฉินหว่าน”
ฉินซึ่งเทียนเมื่อได้ยินก็ขมวดคิ้วขึ้น แล้วหันหน้าไปมองฉินหว่าน“เพียงแค่ผู้ชายคนนั้นต้องการจะเลิกกับหนู หนูถึงกับอยากตายเลยเหรอ?”
ฉินหว่านในที่สุดก็เปิดปาก แล้วพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า“เขา……จะเลิกกับหนู เพราะฉินซี”
“อะไรนะ?”ฉินซึ่งเทียนรู้สึกสับสนเล็กน้อย“ฉินซีเกี่ยวข้องอะไรด้วย?”
“เมื่อตอนที่เข้ามหาวิทยาลัย……ฉินซีไล่ตามหซู่หนาน ทั้งสองคน……ก็อยู่ด้วยกัน หลังจากนั้นฉินซีก็จากไปโดยไม่ลา และทิ้งเขา หซู่หนานในตอนนั้นผิดหวังมาก แต่ได้พบกับหนูเข้าพอดี ก็เลย……คบกับหนูค่ะ”
ฉินซึ่งเทียนรู้สึกมึนงงเล็กน้อยกับข่าว ใช้เวลาไม่นานในการตอบสนอง อย่างยากลำบาก“หนูพูดว่า……เมื่อก่อนหซู่หนานเป็นแฟนของฉินซีเหรอ?”
ฉินหว่านพยักหน้าด้วยความเสียใจ“เมื่อตอนหนูกับหซู่หนานอยู่ด้วยกัน หซู่หนานบอกกับหนูว่า พวกเขาเลิกกันแล้ว”
“หลังจากนั้นล่ะ?”ฉินซึ่งเทียนถามต่อ“แล้วพวกเขาที่เลิกกันไปแล้ว ทำไมถึงจะเลิกหนูล่ะ?”
“เพราะว่า……ฉินซีกลับไปหาเขาอีกครั้งค่ะ”ฉินหว่านหลับตาลง ราวกับมันยากที่จะพูดออกมา“เธอไปยั่วยวนหซู่หนาน และหซู่หนานก็รู้สึก……ขอโทษเธอ ดังนั้นถึงมาเลิกกับหนู……”
ฉินซึ่งเทียนคิดว่าตัวเอง ไม่ใช่คนล้าสมัย แต่ไม่เคยคิดว่าฉินซีจะทำเรื่องแบบนี้
เขาเปิดปากพูดอย่างไม่กล้าเชื่อ“แต่ว่าฉินซีเธอ……แต่งงานแล้วนี่?”
ฉินหว่านยิ้มอย่างโศกเศร้าเวทนา“ใช่ค่ะ หนูก็อยากจะถามเธอ ในเมื่อแต่งงานไปแล้ว ทำไมถึงยังไม่ยอมปล่อยหนูไป”