บทที่ 883นิรโทษกรรม
หซู่หนานยังจะถามต่อ ฉินซีกลับเก็บเอกสารไปก่อน
“ฉันดูหมดแล้ว”
เธอพลางพูด พลางเก็บเอกสารในมือวางบนโต๊ะทำงานของหซู่หนาน
“ฮะ?” หซู่หนานคิดไม่ถึงว่าเธอจะดูเสร็จเร็วขนาดนี้ ปฏิกิริยาไม่ทันในจังหวะนั้น
ฉินซีจัดเรียงเอกสารเสร็จ ก็ลุกขึ้นพร้อมพูดว่า “รบกวนนายล่ะ”
หซู่หนานลุกขึ้นตามจิตใต้สำนึก “คุณ……”
“ฉันไปดูที่อื่นบ้าง” ฉินซีพยักหน้ากับหซู่หนานอย่างห่างเหินและสุภาพ ว่าจะจากไปแล้ว
หซู่หนานไม่อยากยุติการอยู่ร่วมกันระหว่างสองต่อสองกับฉินซีลง เลยรีบพูดขึ้นว่า “เดี๋ยวผมไปกับคุณ”
ฉินซีขมวดคิ้วเบาๆ “ผู้จัดการหซู่น่าจะมีงานอีกเยอะ?งั้นฉันไม่รบกวนคุณดีกว่า ไปดูแผนกอื่น ฉันไปเองได้”
“ไม่รบกวนหรอกครับ”หซู่หนานรีบเดินออกมาจากโต๊ะทำงานของเขา ยืนข้างฉินซี “ถ้าคุณไปดูเอง อาจมีหลายอย่างที่ไม่เห็น ผมไปกับคุณดีกว่าครับ”
ในขณะที่ฉินซีจะปริปากปฏิเสธ ห้องทำงานของหซู่หนานก็ถูกเคาะดังขึ้น
ก่อนที่ทั้งสองจะเดินเข้ามาในห้องทำงาน ฉินซีเดินอยู่ข้างหลัง ตั้งใจที่ไม่ปิดประตู ทีนี้มีคนมา แค่เงยหน้าก็เห็นได้อย่างชัดเจน
กลับเป็นหลี่เหวย
ฉินซีคุ้นเคยกับธุรกิจของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปอยู่แล้ว ดังนั้นจึงยังไม่คุ้นเคยกับความจริงที่ว่าหลี่เหวยก็เป็นสมาชิกของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป เมื่อเงยหน้าขึ้นมาเห็นเธอ ก็ขมวดคิ้วถามออกมาว่า “เธอมาที่นี่ทำอะไร?”
หลี่เหวยไม่คิดว่าเมื่อเผชิญหน้ากับฉินซีก็ถามคำถามตำหนิเลย เลยอดที่จะประชดกลับไม่ได้ว่า “ฉันรึป่าวที่ควรถามทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่?”
ฉินซีเพิ่งจะนึกได้ว่าตอนนี้หลี่เหวยเป็นผู้บริหารของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปแล้ว เธอมาโผล่ที่นี่ก็สมเหตุสมผลอยู่
เธอกลอกตาในใจ ไม่อยากจะเสียเวลามาเถียงกับหลี่เหวย ถือกระเป๋าตัวเองขึ้นมาว่าจะเดินออกจากห้อง
หลี่เหวยกลับไม่ได้จะปล่อยเธอไปง่ายๆ หันข้างมาขวางประตูไว้ “เธอยังไม่ได้ตอบคำถามของฉันเลย ฉินซี ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่ห้องทำงานของหซู่หนาน?”
ทันทีที่หซู่หนานเห็นหลี่เหวย ในใจก็เริ่มรู้สึกไม่ดี
ตอนเช้าเขาเพิ่งจะได้รับคำอภัยจากฉินหว่าน ก็ใช้เหตุผลว่าตัวเองต้องมาทำงานมาอ้าง เลยไม่อยู่นานก็ออกจากบ้านตระกูลฉินแล้ว เลยไม่ได้เจอฉินซึ่งเทียนและหลี่เหวย
เขาวางแผนไว้แล้ว แค่เขาโอ๋ฉินหว่านได้สำเร็จ ฉินหว่านก็คงมีวิธีที่จะให้ฉินซึ่งเทียนและหลี่เหวยยอมรับเขาได้อยู่แล้ว ก็เลยไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก แค่คิดว่าวันนี้ว่างๆจะโทรหาหลี่เหวย พูดว่าตัวเองขอโทษแล้ว และฉินหว่านก็ให้อภัยตัวเองแล้วเหมือนกัน
แต่ว่าหลี่เหวยมาเจอฉินซีอยู่ในห้องทำงานของตัวเอง ก็คงไม่เหมือนเดิม
เขาไม่รู้ว่าฉินหว่านพูดอะไรไปกับหลี่เหวยบ้างแล้ว ไม่รู้ว่าหลี่เหวยรู้หรือยังว่าเมื่อวานเป็นเพราะตัวเองใจร้อนเลยพูดออกมาว่า “ยังรักฉินซี”
หลี่เหวยจงใจเน้นคำว่า “ห้องทำงานของหซู่หนาน” สายตาก็มองมาที่เขาและฉินซีไม่หยุด เห็นได้ชัดว่ากำลังสงสัย
หลังของหซู่หนานออกเหงื่อเล็กน้อย
กว่าเขาจะโอ๋ฉินหว่านเสร็จในเช้านี้ คราวนี้ถ้าเจอกับหลี่เหวยเข้าอีก ความพยายามของตัวเองก็คงเสียไปเปล่าๆ
ดังนั้นในขณะที่ฉินซียังไม่ได้ตอบ หซู่หนานก็รีบแย่งตอบก่อน “ฉินซีมาดูกิจการของบริษัท”
“กิจการ?”สายตาของหลี่เหวยระแวงขึ้นมา มองฉินซีขึ้นและลง “เธอจะมาดูกิจการอะไร?”
ฉินซีตอบอย่างสบายๆ “ตอนนี้ฉันเป็นผู้อำนวยการของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป มาดูกิจการของบริษัท แปลกตรงไหนเหรอ?”
หลี่เหวยสำลักไปทีหนึ่ง
เมื่อวานผู้หญิงคนนี้เข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการในที่ประชุมผู้ถือหุ้น วันนี้ก็มาแสดงอำนาจที่บริษัทซะแล้ว หากยังคงเป็นแบบนี้อีกต่อไป สักวันเธอคงจะรวบบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปเป็นของตัวเองแน่!
หลี่เหวยคิดถึงเรื่องนี้ ลืมเรื่องที่“ฉินซีอยู่ห้องทำงานของหซู่หนานโดยสองต่อสอง”ไปแล้ว ทั้งหัวมีความคิดแค่ว่า“ฉินซีจะมายึดอำนาจแย่งบริษัท”
แต่ฉินซีขี้เกียจไปคิดเล็กคิดน้อยกับหลี่เหวยที่คิดอะไรในตอนนี้ เธอเดินขึ้นมาตรงหน้าหลี่เหวย “ขออนุญาตผ่านทาง”
หลี่เหวยอยากจะพูดอะไรสักอย่าง ข้างหลังมีน้ำเสียงอึดอัดลอยมา “ประธานหลี่……”
หลี่เหวยหันกลับมา เป็นผู้จัดการในแผนกหนึ่งของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ในมือเขาถือเอกสาร เห็นได้ชัดว่ามาให้หซู่หนานเพื่อเซ็นต์ชื่อ
ต่อหน้าคนอื่นหลี่เหวยไม่อยากขวางฉินซีไว้เพื่อพูดอะไร เพียงแค่ถอยไปสองสามก้าว ไปจากห้องทำงานของหซู่หนาน
ฉินซีพึงพอใจกับผลลัพธ์นี้มาก เธอยิ้มให้กับผู้จัดการของแผนก แล้วเดินออกจากห้องไป
ฉินซีเดินดูบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปไปรอบหนึ่ง
มีพนักงานของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปที่ได้ดูข่าวในเมื่อวาน ยังคงจำใบหน้าของเธอได้บ้าง
แต่พวกเขาดูเหมือนจะให้ความสนใจกับข่าวฉาวของเธอมากกว่าตัวเธอเองซะอีก จับกลุ่มซุบซิบนินทากัน วิเคราะห์ว่าเธอเป็นลูกสาวแท้ๆของฉินซึ่งเทียนหรือเปล่า แล้วคนที่แต่งงานกับเธอสรุปคือใคร ไม่ได้มีคนเท่าไหร่ไปสนใจเหตุผลที่เธอมาที่นี่
ผู้จัดการในแผนกก็ท่าทีเฉยเมยใส่เธอ แม้จะรู้ว่าเธอเป็นผู้อำนวยการแล้ว แต่ก็รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับฉินซึ่งเทียนแย่มาก จะเอาใจเธอหรือไม่เอาใจเธอ เหมือนจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด
ดังนั้นผู้จัดการส่วนมากเลือกที่จะก้มหน้าทำงาน โดยแสร้งทำเป็นว่าไม่เห็นเธอ
ฉินซีก็รู้สึกโอเคที่ไม่ถูกใครมารบกวน เดินวนเองไปหนึ่งรอบ เมื่อดูมาถึงแผนกทรัพยากรบุคคล ก็หยุดฝีเท้ากะทันหัน
เธอยังจำสถานการณ์ที่ตัวเองถูกหยุดอยู่นอกประตูในเช้านี้ คราวนี้เป็นเพราะเจอหซู่หนาน ถ้าคราวหน้าล่ะ?
จะเข้าไม่ได้ไปตลอดคงไม่ได้มั้ง?
พนักงานรายงานและใบสมัครบัตรพนักงานก็อยู่ที่นี่ ถ้าเธออยากได้บัตร……ก็เอาที่ตรงนี้มั้ง?
ผู้จัดการแผนกเห็นเธอเดินเข้ามา อึ้งไปสักพัก ก่อนที่จะปั้นยิ้มออกมา “คุณหญิงฉิน คุณ……มีเรื่องอะไรเหรอครับ?”
“ฉันต้องการบัตรที่ผ่านเข้าออกได้”ฉินซีไม่ได้อยากเปลืองน้ำลายกับเขา เข้าประเด็นทันที
ผู้จัดการชะงักไปสักพัก ก็เอื้อมมือไปหาโทรศัพท์บนโต๊ะ “ผม……ผมถามดู……”
“ตอนนี้ฉันเป็นผู้อำนวยการของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป”ฉินซีจ้องมองเขา “มีอะไรไม่ถูกกฎเหรอ?”
ผู้จัดการเหงื่อแตก “ไม่ใช่ครับ คือว่า……”
“งั้นก็รีบทำให้ฉัน”ฉินซีพูดโดยไม่สมัครใจ
ผู้จัดการดูเหมือนจะร้องไห้แล้ว เขาไม่กล้าให้คีย์การ์ดกับฉินซีง่ายๆโดยที่ไม่ได้ถามฉินซึ่งเทียนก่อน แต่ฉินซีจ้องตัวเองแบบนี้ แล้วเขาก็ไม่มีโอกาสถามฉินซึ่งเทียนด้วย
ลังเลไปพักหนึ่ง เขาคิดแผนที่ได้ผลดีทั้งสองฝ่ายขึ้นมา “คีย์การ์ดของพวกเราต้องการกรอกข้อมูลก่อนทำ ต้องการเวลานิดนึงครับ เอางี้ไหมครับ ผมเอาคีย์การ์ดชั่วคราวไปก่อน เข้าประตูได้ แต่บางฟังก์ชันไม่สามารถใช้ได้ หลังจากที่ทำของคุณเสร็จ ค่อยนำไปให้คุณ แบบนี้ได้ไหมครับ?”
ฉินซีดูท่าทีที่หวาดกลัวของเขาก็รู้สึกสงสาร จริงๆเธอแค่ต้องการคีย์การ์ดหนึ่งใบเท่านั้น ในบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปเธอก็ไม่ได้มีห้องทำงาน ฟังก์ชันอื่นไม่จำเป็นต้องใช้อยู่แล้ว ดังนั้นเลยไม่บังคับเขา พยักหน้าตกลง “ได้ นายเอามาให้ฉันเลย”
ผู้จัดการราวกับได้นิรโทษกรรม รีบลุกแล้วออกมา