บทที่ 94 ตัดสินใจเลือกลูกชายของฉัน
เวินจิ้งทำหน้านิ่งๆ ผลักเขาออก
มู่วี่สิงทำหน้าบูดบึ้งและในที่สุดเขาก็ขยับหม้อตุ๋นเข้ามา
ตั้งแต่เด็กเขาไม่ชอบรสชาติของตีนเป็ดเลย แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ดื่มไปแล้วรู้สึกว่า…โอเค
“ทำไมคุณดูเหมือนถูกทรมาน” เวินจิ้งถามด้วยอารมณ์เคือง
เมื่อตอนที่เธอชิมมัน เธอรู้สึกว่ารสชาติก็ไม่เลว
“รู้ก็ดี เวินจิ้งมีแผนจะตอบแทนรางวัลฉันอย่างไร? หืม?” มู่วี่สิงก็กอดเธออีกครั้ง และกลิ่นของตีนเป็ดก็ได้จู่โจมริมฝีปากเธอ
เธอตกใจ พระเจ้า นี่คือห้องรับแขก
มู่วี่สิงไม่อายผีสางเทวดาบ้างเลยหรือไง!
เธอก้มศีรษะด้วยความอับอาย เวินจิ้งรู้สึกเหมือนตัวเองได้ลิ้มรสตีนเป็ดเข้าไป
ถึงแม้ว่ามู่วี่สิงนั้นจะได้พักผ่อน แต่เวินจิ้งยังต้องไปที่ห้องปฏิบัติการอยู่ดี
เธอคุ้นเคยกับงานที่นี่ เธอได้เรียนรู้จากที่นี่มากกว่าที่เทียนอีเสียอีก ไม่มีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน เธอมองดูหนังสือและพิจารณาการสอบเข้าใหม่
เมื่อเลิกงาน เวินจิ้งได้ถามมู่วี่สิงว่ามีอะไรที่อยากกินหรือเปล่า เธอจะได้ซื้อเข้าไปให้
“ตอนนี้ฉันอยากกินเธอ” มู่วี่สิงตอบนิ่งๆแต่กลับไม่ได้ตอบอะไรที่จริงจัง
ใบหน้าของเวินจิ้งนั้นแดงก่ำ “อยากกินแต่ก็กินไม่ได้”
“เหรอ? คืนนี้ลองดู”
เวินจิ้ง ……..
“ฝันไปเถอะ”
เธอวางหูโทรศัพท์และยังคงเป็นห่วงอยู่ มู่วี่สิงคุณนี่จริงๆเลย
วันนี้เนื่องจากการจราจรติดขัดบนถนน คนขับก็คาดไม่ถึงว่าจะดึกเช่นนี้ ท้องฟ้ามืดครึ้ม
ในเวลานี้ มีรถแท็กซี่จอดอยู่ตรงด้านหน้าของเวินจิ้ง เมื่อประตูรถเปิด ร่างที่คุ้นเคยก็รีบวิ่งเข้าไปหาเวินจิ้ง
ผมของฉือซินยุ่งเหยิง เธอใส่ชุดของคนป่วยเหมือนกับคนวิกลจริตเธอต้องการที่จะกระโจนเข้าหาเวินจิ้ง
เธอหลบหลีกได้ แต่ฉือซินก็ได้จับเธอเอาไว้
“เวินจิ้งใช่ไหม?” ฉือซินเบิกตากว้าง
เวินจิ้งก็พบว่า ดวงตาของฉือซิน….บอด
“คุณน้าฉือ ปล่อยฉันก่อน” เวินจิ้งพยายามอย่างเต็มที่เพื่อควบคุมน้ำเสียงของเธอ
“คือเธอจริงๆ! เวินจิ้ง นังผู้หญิงต่ำทราม ยั่วยวนลูกชายฉัน เกลียดลูกชายฉันที่ไม่เอาแก แกเลยแก้แค้นเขา….” ฉืซินทั้งตะโกนทั้งร้องไห้และชี้ไปยังเวินจิ้ง
สองบอดี้การ์ดที่มักปกป้องเวินจิ้งรีบวิ่งเข้ามา และคุ้มกันเวินจิ้งเอาไว้
ฉือซินดูตื่นตระหนก รอบๆกายเธอเหมือนมีผู้คนเพิ่มมากขึ้น
“แกทำไมต่ำทรามได้ขนาดนี้! เวินจิ้ง ครอบครัวฉือของเราไม่ได้เป็นหนี้บุญคุณแก ในตอนที่แม่แกเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ครอบครัวแกไม่ใช่เหรอที่มายืมเงินค่าผ่าตัดเรา แล้วตอนนี้ล่ะ ไม่สำนึกบุญคุณกันเลย…”
“น้าฉือ…ฉันคืนเงินให้คุณแล้ว หลังจากที่ฉันและฉืออี้เหิงเลิกกันแล้ว ฉันก็ไม่มีความเกี่ยวข้องใดกับบ้านฉืออีก” เวินจิ้งกล่าวอย่างใจเย็น
แต่เห็นได้ชัดว่านี่น่าตื่นเต้นกว่าสำหรับฉือซิน เธอคิดจะยื่นมือออกมา “เหอะ อย่าพยายามเคลียร์มันเลย เวินจิ้ง ฉันจะทำเพื่อลูกชายของฉัน…”
ใบหน้าของเวินจิ้งไม่แสดงอาการใดๆ สั่งให้ผู้คุ้มกันส่งเธอกลับไปที่โรงพยาบาลจิตเวช
แต่ยังไม่ทันที่จะได้ก้าวไปไหน ทันใดนั้นผู้สื่อข่าวจำนวนมากก็วิ่งออกมา ในขณะนั้น ทุกอย่างที่ฉือซินได้กล่าวไว้ก็ได้ถูกบันทึกไว้แล้ว
“ทุกคนช่วยฉันตัดสิน ผู้หญิงคนนี้เพราะอะไรถึงยังกล้ายืนอยู่ตรงนี้อีก!”
ทันทีที่เสียงนั้นสงบลง ความใจเย็นของเวินจิ้งก็หมดลงในพริบตา เธอก้าวไปข้างหน้าและยืนอยู่ตรงหน้าฉือซิน “ฉือซิน หากไม่บ้าก็สามารถพูดไร้สาระได้ เธอทำให้ตัวเองต้องอับอายและทำให้ลูกชายของคุณฉืออี้เหิงต้องขายหน้า”
“เวินจิ้ง คนที่อับอายคือเธอ คนที่ผิดคือเธอ เธอกลัวว่าครอบครัวฉือของฉันนั้นน่าสังเวชไม่พอหรือไง…”