บทที่ 977 เอาความกล้ามาจากไหน
เสียงกริ่งมือถือของฉินซีได้ทำลายความเงียบสงบ เป็นเบอร์โทรแปลกๆอีกแล้ว
เซ้นส์ของฉินซี คนที่โทรมาน่าจะเป็นฉินซึ่งเทียน
หลังจากเลื่อนขึ้นไปเพื่อรับสาย เป็นแบบนี้จริงๆซะด้วย
ฉินซึ่งเทียนโมโหชัดเจนมาก ถึงได้ทำเรื่องโทรศัพท์มาอย่างไม่หยุดหย่อนแบบนี้
เพิ่งรับสายขึ้นมา เสียงของฉินซึ่งเทียนก็ดังออกมาจากทางโน้นแล้ว
“ฉินซี แกไปเอาความกล้ามาจากไหน ถึงได้วางสายฉัน ฉันจะบอกให้นะ แกอย่าคิดว่าพึ่งพาอาศัยตระกูลลู่ก็ทำตามใจชอบอย่างที่ตัวเองต้องการ เรื่องที่แกทำ ต้องได้รับกรรมตามสนองแน่นอน แกไปบอกกับลู่เซิ่นซะ ถ้าแน่จริงอย่าเล่นตุกติกลับหลัง มาสู้กับฉันตรงๆได้เลย”
ฉินซียื่นมือออกไปแบบน่ารำคาญ อยากวางสายไปซะ
คราวนี้ฉินซึ่งเทียนเหมือนกับเสียสติไปแล้ว พูดจากับเขาก็ล้วนเป็นการดึงไอคิวของตัวเองให้ต่ำลง
แต่ว่ามือถือของเธอถูกลู่เซิ่นเอาไปแล้ว
ห้องรับประทานอาหารเงียบสงบมาก เสียงของฉินซึ่งเทียนก็ดังเหลือเกิน ลู่เซิ่นนั่งอยู่ข้างๆตัวเอง คิดว่าได้ยินจนชัดแจ๋วทีเดียว
เพราะฉะนั้นเขาจึงรับสายขึ้นมาปุ๊บ ก็พูดกับคนตรงข้ามอย่างนิ่งๆว่า “ไม่ต้องรบกวนฉินซีมาพูดกับฉันหรอก มีอะไร คุณพูดกับฉันตรงๆได้เลย”
ฉินซึ่งเทียนทางโน้นฟังออกว่าเป็นเสียงของลู่เซิ่น หยุดชะงักไปหลายวินาที แต่ว่าเขายังโมโหอยู่ จึงไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ถึงกับเอ่ยปากออกมาจริงๆ “ลู่เซิ่น เมื่อก่อนฉันเห็นนายเป็นผู้ด้อยอาวุโส ไม่รู้เรื่องรู้ราว ทำผิดนิดๆหน่อยๆให้อภัยได้ แต่ว่าการกระทำของนายตอนนี้ ช่างเกินไปแล้ว หรือว่าตระกูลลู่สอนนายออกมาเป็นคนเจ้าเล่ห์ที่เล่นตุกติกแบบนี้หรือ?”
ลู่เซิ่นกลับไม่ได้ถูกเขากระตุ้นจนโมโห น้ำเสียงยังคงนิ่งๆ” เล่นตุกติกลับหลัง ตระกูลลู่ไม่ได้สอนฉันหรอกนะครับ ประธานฉินท่านต่างหากที่เป็นคนสอนผมเอง ผมยังได้เรียนรู้วิชาอื่นจากท่านอีกด้วย อย่างเช่นทำลายครอบครัวคนอื่น และแต่งรูปเคลื่อนย้ายหน้าคนอื่น วันหลังหากมีโอกาส อยากให้ท่านได้เห็นได้รู้สักหน่อย”
ปากของเขาคำก็”ท่าน”สองคำก็” ท่าน” ความหมายแฝงไปด้วยการประชดประชันมากยิ่งขึ้น
ฉินซึ่งเทียนถูกทำให้จุกอกไม่เบาเลยทีเดียว สักพักถึงออกเสียง” ลู่เซิ่น นายอย่าถูกผู้หญิงฉินซีคนนั้นหลอก คำพูดของเธอล้วนเป็นคำพูดที่หลอกลวงทั้งนั้น นายไม่จำเป็นต้องผูกความแค้นกับบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปเราแบบนี้”
ลู่เซิ่นตอบกลับไปช้าๆ “ประธานฉิน ผมว่าท่านยังไม่เข้าใจ เมื่อก่อนผมมีเรื่องกับบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป เป็นเพราะว่าท่านทำให้ฉินซีต้องลำบากอยู่ตลอดเวลา ผมทนดูไม่ไหว แต่ว่าตอนนี้ผมหาเรื่องบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป เป็นเพราะว่าท่านทำให้ผมลำบากเสียแล้ว พูดแบบนี้ คุณเข้าใจหรือยัง?”
น้ำเสียงของเขายังนิ่งๆ แต่ว่าฉินซีที่ฟังอยู่ทางนี้ ยังรู้สึกได้ถึงแผ่นหลังที่เย็นเฉียบไปทั่ว
เสียงของฉินซึ่งเทียนไม่มีความมั่นใจแล้ว น้ำเสียงอ่อนลงมา อยากใช้ไม้อ่อน” ลู่เซิ่น ฉินซีไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีอะไร เธอซ่อนความลับเรื่องใหญ่โตเช่นนี้ไม่พูดออกมา ใครจะไปรู้ว่ามีจุดประสงค์อะไร? ฉันได้พูดกับแม่นายเรียบร้อยแล้ว หวังดีกับนายทั้งนั้น นายต้องการผู้หญิงแบบไหน วันหลังฉันหาให้นายเอง นายอย่าดื้อรั้นจะเอาแต่เธอคนเดียวสิ ถูกเธอหลอกแล้วยังไม่รู้ตัวอีก ฉันเปิดเผยกับนาย ธุรกิจของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปก่อนหน้านี้ เพราะนายเข้ามาวุ่นวาย บริหารธุรกิจต่อไปไม่ไหวแล้ว ฉันคิดตั้งหลายวิธี ถึงหาโอกาสนี้ได้ อยากเปลี่ยนอาชีพให้กับบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป นายเข้ามาวุ่นวายแบบนี้ จะทำให้บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปเราตายฉิบหายได้นะ ทำไมนายต้องทำให้บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปของเราลำบากถึงขั้นนี้หล่ะ?”
พูดจนถึงสุดท้าย ถึงกับมีความหมายอ้อนวอนและขอความเห็นอกเห็นใจแฝงด้วย
ฉินซีอยู่ข้างๆ ได้ยินอย่างชัดถ้อยชัดคำ หดหู่ใจขึ้นมา และลามไปจนถึงทั่วร่างกาย
ต่อให้รู้ดีว่าฉินซึ่งเทียนเป็นคนยังไง ไม่เคยคาดหวังกับเขาใดๆ แต่ว่าได้ยินเขาทำลายชื่อเสียงลูกสาวแท้ๆของตัวเองจนไม่แยกแยะผิดชอบชั่วดีแบบนี้ จะให้พูดว่าไม่โกรธแค้นเลยสักนิด มันก็ไม่จริงอะ
แต่ว่าสิ่งที่ตอบกลับให้กับฉินซึ่งเทียนไปนั้น มีแต่เสียงหัวเราะเยาะเย้ยและการดูถูกดูแคลนของลู่เซิ่นเท่านั้น “ฉินซึ่งเทียน แกอย่าคิดว่าแกแน่ เอารูปถ่ายที่แต่งเรียบร้อยมาหลอกลวงแม่ฉัน ทำให้เธอต้องนอนโรงพยาบาล แกไม่มีสิทธิ์มาอบรมสั่งสอนฉัน และไม่มีสิทธิ์ประเมินค่าของฉินซี สำหรับเรื่องของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ฉันรู้แน่นอนว่าบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปจะพึ่งโอกาสครั้งนี้เพื่อเปลี่ยนอาชีพ ถึงเข้ามาวุ่นวาย มิเช่นนั้นจะทำให้คุณเสียเปรียบและสั่งสอนคุณได้หรือ? คุณคิดว่าแค่นี้ก็ถือว่าทำให้คุณลำบากแล้วหรือ? ไม่ นี่แค่เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้นเอง”
ฉินซึ่งเทียนเห็นว่าเขาไม่เอาทั้งไม้อ่อนและไม้แข็ง ความโกรธแค้นจึงลุกขึ้นมาอีกแล้ว” ลู่เซิ่น นายกำลังจะต่อกรกับเราใช่มั้ย? ได้ เราได้เห็นดีกันแน่นอน”
ตั้งแต่ต้นจนจบน้ำเสียงของลู่เซิ่นล้วนนิ่งเฉย” ได้ เราได้เห็นดีกัน”
พูดจบ เขายื่นมือวางสายไปเรียบร้อยเเล้ว
ฉินซีฟังอยู่ข้างๆ มีความอึ้งกิมกี่เล็กน้อย
เธอไม่เคยเห็นลู่เซิ่นด่าคนขนาดนี้มาก่อน
เหมือนกับว่า……. ดึงดูดคนเป็นพิเศษ
ลู่เซิ่นยื่นมือถือให้กับฉินซี สั่งไปแบบไร้ความรู้สึก “วันหลังถ้าเขาหาเรื่องคุณอีก คุณพูดกับผมได้เลย”
ฉินซีไม่มีนิสัยขี้ฟ้อง แต่ว่ามองดูสีหน้าลู่เซิ่น แต่ก็ยังตอบรับและพยักหน้า
ตอนเย็นลู่เซิ่นเหมือนมีงานต้องทำ ไม่เสียเวลาอีกแล้วหันหลังและออกไปเลย
ไม่รู้ว่าพ่อบ้านมีจุดประสงค์อะไร เข้ามาใกล้ๆข้างกายฉินซี พูดเสียงเบา” เช้าวันนี้ประธานลู่ออกไปแล้วแท้ๆ ไม่รู้ว่าทำไม ถึงได้ตั้งใจกลับมาทานข้าวเที่ยง”
ฉินซีหัวเราะ
ทำไม? คงไม่ใช่เหตุผลเดียวกับตัวเองหรอกนะ? วันหลังเขาจะไม่ได้ทานอาหารของรีสอร์ทชิงหยวนแล้ว
พ่อบ้านไม่ได้อยู่นานๆ เหลือแต่ฉินซีเพียงคนเดียวซึ่งอยู่ในห้องรับแขกที่ว่างเปล่า
เดิมทีเธออยากรวบรวมสมาธิเพื่อเรียบเรียงคำพูดที่ลู่เหวยพูดในตอนเช้า แต่ว่าความคิดกลับผิดเพี้ยนไปโดยไม่รู้ตัว คิดถึงลู่เซิ่นซะงั้น
ปฏิกิริยาของลู่เซิ่นทำให้เธอเอาแน่เอานอนไม่ได้
ตอนที่เผชิญกับตัวเอง สำหรับเรื่องการหย่าเรื่องนี้ นิ่งสงบมากอย่างชัดเจน
หน้าตาที่ทำกับฉินซึ่งเทียนเมื่อสักครู่ เหมือนกับว่าโกรธแค้นกับเรื่องการหย่าร้างครั้งนี้มาก
แต่ว่าเขาไม่ได้เอ่ยปากไล่ตัวเองออกไป และไม่มีท่าทีรั้งตัวเองไว้
เขาคิดยังไงกันแน่นะ?
ฉินซีถอนหายใจโดยไม่รู้ตัวอีกแล้ว บีบฝ่ามือ และดึงสมาธิตัวเองกลับมา
ในมือถือบันทึกข้อความที่ลู่เหวยส่งมา
เห้อเสียง……
ฉินซีดูรูปถ่ายที่เบลอๆรูปนั้นอยู่สักพัก ส่งข้อความให้กับอานหยัน
“ถ้าหากมีเวลาแล้วก็ ช่วยฉันสืบหาคนคนนึงได้มั้ย?”
ข้างหลังข้อความหมายเหตุฐานะของเห้อเสียง และรูปถ่ายที่เบลอๆภาพนั้น
อานหยันเหมือนยุ่งๆอยู่ ผ่านไปสักพักถึงตอบกลับ “ไม่มีปัญหา ฉันกลับไปตอนดึกค่อยช่วยคุณดูว่า คนคนนี้เป็นยังไงบ้าง?”
ฉินซีหยุดชะงักไปหลายวินาที ถึงตอบกลับ” เขาอาจจะรู้เรื่องราวของแม่ฉันนิดหน่อยกับเรื่องนั้น ฉันต้องหาเขาพบให้ได้”
คราวนี้อานหยันตอบกลับมาอย่างเร่งด่วนว่า”ได้เลย”
ฉินซีไม่รบกวนเธออีก เพียงแค่ดูรูปถ่ายใบนั้นอยู่สักพักจนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
เจ้าของโรงแรงคนนี้ มีเบาะแสจริงหรือ?
ถ้าหากเหมือนกับครั้งก่อน สุดท้ายก็เสียเวลาเปล่าหล่ะ?
คิดถึงตรงนี้ ฉินซีส่ายหน้า
ไม่ได้ ต้องไม่เอาความคิดที่ติดลบเช่นนี้มาครอบครองสมองสิ
ไม่ว่าจะเป็นข่าวอะไรก็ตาม ขอแค่สามารถฝ่าฟันอุปสรรคไปได้ เธอล้มเลิกไม่ได้เด็ดขาด
ไม่ว่าจะเป็นความหวังสุดท้ายก็ตาม เธอก็จะรักษาเอาไว้
เพราะว่าความหวังครั้งสุดท้ายครั้งนี้ ความเป็นไปได้สูงมากอาจจะคืนความบริสุทธิ์ทั้งหมดให้กับเหยาหมิ่น