บทที่ 980 คนพูดไม่ได้ตั้งใจ แต่คนฟังกลับคิดมากไปเอง
แต่ว่ามือของอานหยันเพิ่งยื่นออกไป ก็ถูกลู่เซิ่นจ้องมองอย่างเยือกเย็น
สายตาของเขาเหมือนอย่างกับมีด ทำให้อานหยันดึงแขนกลับมาโดยไม่รู้ตัว
“ขอบคุณที่ต้อนรับ”
เป็นคำขอบคุณแท้ๆ อานหยันกลับรู้สึกเย็นเฉียบไปทั้งตัว
แต่ว่าชัดเจนมากลู่เซิ่นไม่มีท่าทีสนใจเธอเลย พูดคำนี้จบ เขาก็ทั้งอุ้มทั้งโอบกอด พาฉินซีกลับไป
อานหยันยืนอยู่หน้าประตู เห็นว่าฉินซีไม่มีท่าทีต่อต้านเลยสักนิด ได้แต่ปิดประตูอย่างเงียบๆ
เธอถูกกวนแบบนี้ สร่างเมาค่อนข้างมากพอสมควร
เธอดูยังไงก็รู้สึกว่า คนที่ไม่อยากหย่าร้าง ไม่เพียงแค่ฉินซีคนเดียวเท่านั้น
…………
ฉินซีไม่ได้เมาขนาดนั้น แต่ก็ไม่ได้มีสติอย่างสิ้นเชิง ลมหายใจยังมีกลิ่นแอลกอฮอล์ สายตาชอบจ้องมองแต่ที่เดียว หน้าตาท่าทางแตกต่างจากปกติอย่างมากมาย
ลู่เซิ่นมองดูอยู่ หายโกรธไปไม่น้อย
เมื่อสักครู่ตอนที่ฉินซีรับสาย ทีแรกเขาฟังเสียงของอานหยันไม่ออก ได้ยินแค่มีคนคนนึงบ่นข้างๆฉินซีทางนี้ว่าสามีเก่าอะไรนั่น
ชาข้างมือของลู่เซิ่นเกือบถูกเขาบีบจนแตกละเอียด เพราะฉะนั้นจึงไม่พูดมาก ก็มารับคนด้วยตัวเอง
“ทำไมจู่ๆถึงออกมาดื่มเหล้า?” เขายื่นมือไปจับมือของฉินซีเอาไว้ วางไว้ที่ฝ่ามือ
ฉินซีไม่ได้สะบัดออก หันหน้าไปมองเขาสักพัก ตอบแบบช้าๆ “อานหยันพูดว่า ฉลองให้กับการกลับมาโสดอีกครั้ง”
สีหน้าของลู่เซิ่นแข็งทื่อ และสายตาผ่อนคลาย
อานหยันใช่มั้ย เรื่องนี้ฉันจำไว้ล่ะ
น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยคำโกหก “คุณโสดได้ไง คุณมีสามีแล้วไม่ใช่หรอ?”
ฉินซีส่ายหน้าอย่างเข้มงวด “ฉันได้หย่าร้างเรียบร้อยแล้ว”
ลู่เซิ่นหรี่ตาและพูดต่อว่า” ไม่ ความจริงคุณไม่ได้หย่าร้าง”
ฉินซีขมวดคิ้ว “ทำไมคุณก็โกหกฉันเช่นกัน? ฉันพูดแล้วว่า ฉันได้หย่าร้างเรียบร้อยแล้ว”
ชัดเจนมากเธอเอาคำพูดของลู่เซิ่นเมื่อสักครู่ เห็นเป็นความหมายเดียวกันกับอานหยัน คิดว่าเธอเมาแล้ว จึงล้อเล่นกับเธอ
ลู่เซิ่นเห็นว่าเธอจะบ้าคลั่งในทันทีทันใด รีบปลอบใจเธอ “ได้ได้ รู้แล้ว คุณได้หย่าร้างแล้ว”
ไม่รู้ว่า………ตอนที่เธอรู้ความจริง สีหน้าท่าทางจะเป็นอย่างไร
ลู่เซิ่นคิดอยู่ในใจเงียบๆแป๊บนึง
แน่นอนฉินซีไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ เห็นว่าเขายอมรับแล้ว จึงพยักหน้าอย่างพอใจ จู่ๆก็จ้องหน้าเขาและบ่นๆออกมานึงคำ” คุณคือลู่เซิ่น?”
ลู่เซิ่นถูกเธอถามจนอยากขำออกมา “ฉันไม่ใช่ลู่เซิ่น ยังจะเป็นใครอีกหล่ะ?”
ฉินซีกลับส่ายหน้า ไม่ได้ตอบคำถามนี้กับเขา “ถ้างั้นตอนนี้เราจะไปไหน?”
ลู่เซิ่นยักคิ้ว “คุณอยากไปไหน?”
สีหน้าท่าทางฉินซีจริงจังมาก “ฉันจะกลับไปที่รีสอร์ทชิงหยวน”
ลู่เซิ่นโล่งใจ ริมฝีปากมีรอยยิ้มออกมา “วางใจ เรากลับไปเดี๋ยวนี้แหละ”
จิตใต้สำนึกของฉินซีเลือกที่จะเชื่อเขา เพราะฉะนั้นฟังเขาพูดแบบนี้ปุ๊บ จึงพยักหน้าทันที
น่าจะเมาแล้ว ค่อนข้างเชื่องช้า เพราะฉะนั้นตั้งแต่ต้นจนจบฉินซีก็ไม่รู้เลยว่า ตัวเองถูกลู่เซิ่นจูงอยู่ อยู่ในอ้อมกอดของเขามาโดยตลอดทาง
ตอนที่ถึงรีสอร์ทชิงหยวน เวลาก็สายแล้ว
ฉินซีหลับอยู่ในรถยนต์แบบเบลอๆ ลู่เซิ่นไม่ได้ปลุกเธอ แค่เอาเสื้อคลุมไว้ที่ไหล่ของเธอ รอรถยนต์จอดเรียบร้อย ถึงก้มตัวลงเรียกอย่างเบาๆ “ฉินซี? ถึงบ้านแล้ว ตื่นเถอะ”
ฉินซีถูกเขากวนจนตื่นและลืมตาขึ้นมาแบบเบลอๆ
ถึงแม้นอนหลับแค่ตื้นๆ แต่ว่าเธอเป็นคนที่ขับแอลกอฮอล์ออกไปจากร่างกายค่อนข้างช้ามาก ขณะนี้ก็เลยยังไม่มีสติอย่างสิ้นเชิง
เธอลืมตาปุ๊บ ก็คือหน้าของลู่เซิ่นที่ขยายจนใหญ่
เธอแค่คิดว่าตัวเองฝันไป บ่นๆอยู่นึงคำ “คุณอยู่ที่นี่ได้ไง?”
แก้มของเธอกับลู่เซิ่นแนบชิดกันมาก เพราะฉะนั้นได้ยินอย่างจริงๆจังๆ ยิ้มแย้มและหยิกแก้มเธอ “ฉันรับคุณกลับมาเมื่อกี้นี่เอง คุณช่างไม่มีหัวจิตหัวใจเอาซะเลย”
ฉินซีบ่นๆคำนึงอะไรสักอย่าง ตาใกล้จะปิดอีกแล้ว ลู่เซิ่นรีบยื่นมือออกไปพยุงเธอให้นั่งตัวตรง “เอาหล่ะ ไม่นอนแล้ว เดี๋ยวขึ้นไปค่อยนอน ถึงบ้านแล้ว”
ฉินซีถูกกวนจนไม่พอใจ ลืมตาและขมวดคิ้ว เหลือบมองลู่เซิ่น” คุณอย่าโกหกเลย”
ลู่เซิ่นขมวดคิ้ว” โกหกอะไร?”
ฉินซีผายมือแบบหน้าตาจริงจัง “ฉันมีบ้านที่ไหนกันหล่ะ ฉันไม่มีบ้านแล้ว”
เธอเป็นขี้เหล้า พูดจาไม่มีมันสมอง พูดแบบนี้ เป็นเพราะว่าตอนที่อยู่บ้านอานหยันเมื่อกี้ เธอก็พูดแบบนี้แหละ ฉินซีรู้สึกมีเหตุผล จึงจำไว้และพูดออกมาเท่านั้นเอง
แต่ว่าคนพูดไม่ได้ตั้งใจ คนฟังกลับคิดมากไปเอง
สีหน้าลู่เซิ่นแข็งทื่อไปไม่น้อย ยื่นมือไปถูแก้มของฉินซี “ทำไมคุณจะไม่มีบ้าน……….”
ที่นี่ก็คือบ้านของคุณ? ฉันเป็นคนในครอบครัวคุณไง?
ถ้าหากไม่ได้ทำเพื่อแผนการของเขาที่วางไว้ในวันข้างหน้า มองดูสีหน้าที่บึ้งๆและสายตาที่ผิดหวังของฉินซี เขาแทบจะบอกกับฉินซีไปทุกอย่างแล้ว
แต่ว่าสุดท้ายเขาก็อดทนไว้
พ่อบ้านรู้สึกตั้งนานแล้ว เจ้าไปใกล้อีกนิด ก็ได้กลิ่นเหล้า มองหน้าลู่เซิ่นอย่างประหลาดใจ “คุณนายดื่มเหล้าหรือครับ?”
ลู่เซิ่นพยักหน้า “สั่งให้ในครัวเตรียมอาหารที่สร่างเมาฉันพาเธอขึ้นไปบนตึกก่อน”
พ่อบ้านรีบตอบรับและออกไป
ลู่เซิ่นยื่นมืออุ้มฉินซีขึ้นมาในแนวขวาง “กะจะเดินไปบนตึก
คนที่เมาเหล้า ความจริงร่างกายก็ค่อนข้างหนักอยู่แล้ว แต่ว่าฉินซีเองตัวเบาเกินไป เพราะฉะนั้นแค่อุ้มไว้แบบนี้ สำหรับลู่เซิ่น ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย
แต่ว่าหลังจากเข้าใกล้กับห้องนอน จู่ๆเธอก็สะบัดและดิ้นรนขึ้นมา
ต่อให้เป็นลู่เซิ่นก็ควบคุมไม่ไหว ได้แต่ปล่อยเธอลงไป ถามแบบขมวดคิ้ว “คุณทำอะไรเนี่ย?”
เขาเป็นคนที่ไม่มีความอดทนมาแต่ไหนแต่ไร คืนนี้เผชิญกับฉินซี แทบจะใช้ความอดทนที่ตัวเองมีอยู่ทั้งหมดไปจนหมดสิ้นแล้ว
——วันหลังต้องจับตาดูเธอให้ดีๆ อย่าให้เธอดื่มเหล้าจนเมาอีก
แต่ว่าชัดเจนมากฉินซีในตอนนี้ไม่เข้าใจความหมายลึกๆของเขา หลังจากดิ้นรนยืนอยู่ที่พื้น จะเดินไปอีกทาง
ลู่เซิ่นยื่นมือขวางทางไว้ “คุณจะไปไหน? ห้องอยู่ทางนี้”
ฉินซีส่ายหน้าแบบหน้าตาจริงจัง “ทางโน้นเป็นห้องนอนหลัก ตอนนี้ฉันไม่ควรนอนห้องนอนหลักแล้ว”
ลู่เซิ่นขมวดคิ้ว “เพราะอะไร? นอกจากห้องนอนหลัก คุณอยากนอนที่ไหนอีก?”
ฉินซีชี้ไปที่ห้องนอนแขก “ตอนนี้ฉันได้หย่าร้างกับลู่เซิ่นเรียบร้อยแล้ว นอนกับเขาต่อไป มันจะไม่ดี”
ลู่เซิ่นเห็นท่าทางที่ส่ายหน้าของเธอ อยากหัวเราะออกมาทันที และอยากโมโหด้วย
ฉินซีเมาแล้ว ทำไมหน้าตาท่าทางถึงเป็นแบบนี้?
แต่ว่าเขาไม่ตอบ ฉินซีจึงถือว่าเขารับปากแล้ว จะเดินไปทางห้องนอนแขกโดยตรง
ลู่เซิ่นรีบยื่นมือ โอบเธอไว้ในอ้อมกอด โกหกไปแบบมั่วๆ “ตอนนี้ห้องนอนแขกกำลังจัดเก็บอยู่ คุณไปรอที่ห้องนอนหลักก่อน รอให้จัดเก็บเรียบร้อย จะมีคนมาเรียกคุณไปเอง”
ฉินซีเงยหน้าขึ้นมามองเขา “จริงๆ?”
ตาของลู่เซิ่นไม่กระพริบด้วยซ้ำ พยักหน้าด้วยสีหน้าที่จริงจัง “ใช่ ไม่เชื่อคุณถามพ่อบ้านดูสิ”
พ่อบ้านที่มาส่งซุปถูกเอ่ยชื่อแบบไม่รู้อีโหน่อีเหน่ มองดูสีหน้าลู่เซิ่น พยักหน้าแบบไม่รู้สาเหตุ
ฉินซีจึงไม่ดิ้นรนอีกแล้ว “อ๋อ ถ้างั้นจัดเก็บเรียบร้อยแล้วก็อย่าลืมเรียกฉันนะ”
พูดจบ หน้าตาเหมือนน่าสงสารและกล้ำกลืนมาก ถึงเดินไปที่ห้องนอนหลัก
ลู่เซิ่นมองร่างเงาเธอไว้ ส่ายหน้า มุมปากกลับมีรอยยิ้ม
เป็นจริงซะด้วย กับขี้เมาไม่สามารถพูดด้วยเหตุผล