บทที่ 999 รู้สึกผิด
ฉินซีตื่นขึ้นจากเสียงรบกวนของนาฬิกาปลุก
เมื่อเธอลืมตาขึ้น ภายในห้องมีเพียงแค่เธอ
แม้เธอตื่นขึ้นมาคนเดียวเป็นเรื่องปกติ แต่วันนี้เธอกลับไวต่อความรู้สึก ลู่เซิ่นไม่อยู่
ฉินซีถอนหายใจเบาๆ ก่อนลุกขึ้นนั่ง
หากเลือกได้ เธอไม่ต้องการให้ตนเป็นเหมือนวัยแรกรุ่นเพิ่งตกหลุมรัก อยู่กับเรื่องในใจของตน
แต่สถานการณ์ของเธอในตอนนี้ ไม่ใช่เธอที่สามารถตัดสินใจได้คนเดียว ฉินซีสะบัดหัว ให้ตนหลุดจากความคิด
วันนี้ เธอมีเรื่องสำคัญกว่านั้นต้องทำ
…..
เมื่อฉินซีมาถึงสำนักงานบริษัททนาย เธอมาก่อนเวลานัดกว่าสิบนาที
ดีที่ทนายจ้าวไม่ได้นัดลูกความอื่น จึงให้เธอเข้าไปเลย
“ทำไมดูเหนื่อยแบบนั้น? ช่วงนี้พักผ่อนน้อยหรือ?” ทนายจ้าวอาวุโสกว่ามากโข เห็นขอบตาที่ดำช้ำของฉินซี จึงหวังดีตักเตือน
ฉินซีชะงัก ลูบไล้ขอบตาตนเอง : “ชัดเจนขนาดนั้นเชียว?”
ทนายจ้าวยื่นแก้วน้ำให้กับเธอ : “เธอนี่สู้ตายจริงๆ”
ทั้งคู่คุยเล่นอยู่หลายประโยค ก่อนเข้าเรื่อง
ฉินซีไม่เหมือนกับเมื่อวันที่เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดในห้องประชุมให้เขาฟังยาวเหยียด เพียงเอ่ยสั้นๆ : “เมื่อวันฉันถ่ายเอกสารการซื้อขายหุ้นให้คุณ วันนี้ฉันมาคุยเรื่องนี้”
ทนายจ้าวเตรียมการเอาไว้เรียบร้อย เขาพยักหน้าให้กับฉินซี : “ผมรู้อยู่แล้วคุณต้องมาเพราะเรื่องนี้”
ฉินซียิ้มอ่อน : “สัญญาฉันเซ็นเรียบร้อยแล้ว วันนี้ ฉันจะมาถามเรื่องการดำเนินการโอนหุ้น ต้องทำยังไงดี”
ทนายจ้าวคิดครู่หนึ่ง : “เรื่องนี้…..ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยาก”
ช่วงที่ฉินซีครอบครองหุ้นนั้น เธอได้หุ้นจากฉินซึ่งเทียนโดยตรง จึงไม่ยุ่งยากนัก
แต่ครั้งนี้เป็นการโอนถ่าย ฉินซีต้องรอบคอบไว้ก่อน
ทนายจ้าวอธิบายอย่างละเอียด ฉินซีจดใจความสำคัญลงในโทรศัพท์ : “หมายความว่า สำคัญที่สุดตอนนี้ มีเพียงเอกสารการดำเนินการเท่านั้น?”
ทนายจ้าวพยักหน้า ลังเลชั่วครู่ก่อนเอ่ย : “ไม่อย่างนั้น ตอนโอนส่งหุ้น ให้ผมไปกับคุณไหม? ยังไงซะทางด้านฉินซึ่งเทียนไม่มีทางไม่มีทนายไปด้วย ผมไปกับคุณ ไม่ผิดปกติอะไร”
ฉินซีชะงักไป ตะลึงในข้อเสนอของทนายจ้าว
ทนายจ้าวเกรงว่าคำแนะนำของตนวู่วามเกินไป จึงเอ่ยเสริม : “แน่นอนส่วนที่ต้องระวังผมบอกไปแล้ว เธอเองก็สามารถจัดการได้ด้วยดี เพราะเรื่องของแม่เธอ ผมถึงได้กังวลเกินเหตุ”
ท้ายประโยค เขาเอ่ยเสียงแผ่ว
ฉินซีหลับตาลง
แม้ทนายจ้าวไม่เคยพูดมาก่อน แต่ฉินซีรับรู้มาโดยตลอด หนึ่งปีมานี้ เขารู้สึกผิดมาโดยตลอด
รู้สึกผิดที่ไม่ได้ช่วยเหยาหมิ่นตรวจเช็คเอกสารสัญญาการหย่าร้าง ไม่เช่นนั้นเหยาหมิ่นคงไม่ถูกฉินซึ่งเทียนบีบจนไร้หนทาง
เพราะความรู้สึกผิดของเขา ถึงได้ช่วยฉินซีหาวิธีสืบทอดหุ้นต่อ ในตอนที่ฉินซีต้องการคำแนะนำจากผู้อาวุโส เธอสามารถหาทนายจ้าวได้เป็นเวลาแรก
“แน่นอน…..ฉันดีใจที่สุด” ฉินซีปวดหัวนิดหน่อย เพราะยากนักที่จะเอ่ยประโยค “เพียงแต่ไม่อยากรบกวนคุณ”
ทนายจ้าวโบกมือ : “ไม่เป็นไรหลอก! สถานที่ดำเนินการ ไม่ไกลจากที่นี่ ไปกับคุณ ใช้เวลาไม่มากนักหลอก แถมยัง…..เพื่อความสบายใจ”
แม้เสียงแผ่วเบา ท้ายที่สุดเขาเอ่ยประโยคนั้นออกมา
ฉินซีแหงนหน้ามองเขา
ทนายจ้าวเป็นบุคคลมีชื่อเสียงของแวดวงทนาย น้อยนักที่เขาจะว่าความแพ้ คนอื่นขอให้เขาว่าความให้ คิดค่าใช้จ่ายเป็นนาที
แต่เมื่อพบกับปัญหาของฉินซี เขามักละเมิดกฎไม่ทำตามหน้าที่ เป็นห่วงเป็นใยเธอเสมอ
ทีท่าหลับตาลงของเขา ยิ่งไม่บ่อยครั้งที่จะได้เห็น
ฉินซีกัดริมฝีปากแน่น ก่อนเอ่ยอย่างตั้งใจ: “ทนายจ้าว ไม่ว่าฉัน หรือว่าแม่ของฉัน เรารู้สึกขอบคุณคุณมาก สำหรับความช่วยเหลือที่ท่านมีให้กับเรามานาน ฉันรู้ดี อุบัติเหตุของแม่ฉัน ทั้งหมดเป็นความผิดของฉินซึ่งเทียนคนเดียว คนอื่นไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิด เพราะสิ่งนี้ ฉันไม่อยากให้คนดีอย่างคุณ ต้องแบกรับความรู้สึกผิด”
ทนายจ้าวสูดหายใจเข้าลึก แหงนหน้าขึ้นพร้อมหัวเราะ : “ต้องให้คุณปลอบใจผม เป็นความผิดพลาดของผู้อาวุโสอย่างผม”
ฉินซีหัวเราะตาม
ทนายจ้าวจ้องมองนาฬิกาบนผนัง ก่อนเอ่ยถาม : “คุณนัดฉินซึ่งเทียนไว้ตอนไหน?”
ฉินซีทบทวนสักครู : “สิบโมงครึ่ง”
ถ้างั้นเหลือเวลาอีกเพียงครึ่งชั่วโมง” ทนายจ้าวลุกขึ้นยืนเดินไปหยุดยืนข้างโต๊ะทำงาน หยิบซองเอกสารออกมา ก่อนยื่นให้กับเธอ “เรื่องที่คุณขอให้ผมช่วยสืบเมื่อครั้งก่อน ได้ความบ้างแล้วนิดหน่อย ทีแรกผมว่าจะรอให้ได้ข้อมูลมากกว่านี้ค่อยบอกคุณ แต่ในเมื่อเจอกันแล้ว ก็เอาให้คุณก่อนแล้วกัน”
ฉินซีรับซองเอกสารเปิดออกดู ถึงนึกขึ้นได้
หลายวันมานี้ยุ่งอยู่กับเรื่องการประชุม เธอจึงไม่มีเวลาสืบหาความจริงเกี่ยวกับเหยาหมิ่น เห็นซองเอกสารของทนายจ้าว ถึงนึกขึ้นได้
วันก่อนได้ฟังเรื่องของเจ้าของโรงแรมจากลู่เหวย เธอจึงยืมระบบข่าวกรองของอานหยันสืบหาคนที่ชื่อเห้อเสียง แต่ในระบบมีเพียงข้อมูลการจำคุก แต่กลับไม่มีข้อมูลโดยละเอียดของคดี
ตอนนี้ทนายจ้าวสืบได้แล้ว เป็นสาเหตุของการจำคุก
เอกสารไม่หนามาก ฉินซีอ่านจบในรวดเดียว
เธอขมวดคิ้ว แหงนหน้าขึ้นมองทนายจ้าว : “เพราะ…..เหตุนี้?”
ทนายจ้าวประหลาดใจเช่นเดียวกัน : “ใช่ ไม่มีเหตุอื่นอีก”
ฉินซีไม่อยากจะเชื่อ เธอก้มดูเอกสารอีกครั้ง
เห้อเสียง ปีก่อน ก่อคดีลักทรัพย์ ถูกตัดสินจำคุกสิบปี
ในเอกสารเขียนไว้เพียงไม่กี่ประโยค เห้อเสียงใช้บริษัทปลอมในการฉ้อโกง เป็นเงินจำนวนมาก ไร้ข้อมูลอื่นอีก
“บริษัทปลอม” ฉินซีเชยคาง ด้วยความสงสัย “บริษัทนี้ อาจเกี่ยวข้องกับฉินซึ่งเทียนหรือเปล่านะ?”
เมื่อได้เห็นความสกปรกของฉินซึ่งเทียน เธอไม่ลังเลที่จะใช้วิธีที่เลวร้ายที่สุดในการทดสอบเขา
ทนายจ้าวเพียงแค่ส่ายหน้า : “รายละเอียด ผมยังไม่ได้สืบ ยังสรุปไม่ได้ ตอนนี้ผมบอกได้เพียงว่า มีความเป็นไปได้ หลายวันมานี้ทนายที่ผมร่วมงานด้วย เกี่ยวข้องกับคดีเขาพอดี หากมีโอกาส ผมจะถามรายละเอียดห้มากกว่านี้”
ฉินซีพยักหน้ารับ : “รบกวนด้วยนะคะ”
ทนายจ้าวโบกไม้โบกมือ พร้อมลุกขึ้นยืน : “ได้เวลาแล้ว เราไปกันเถอะ”
ฉินซียันตัวลุกขึ้นตาม : “ได้”
ทั้งคู่เดินตามกัน ออกจากสำนักงาน