บทที่ 1000 รับผิดชอบการกระทำของตน
ทนายจ้าวพูดถูก สถานที่ดำเนินการห่างจากสำนักงานไม่มาก ทั้งคู่ใช้เวลาเดินเพียงไม่กี่นาที ถึงจุดหมาย
ฉินซึ่งเทียนไม่ได้มาด้วยตนเอง เขาวานทนายส่วนตัวมาเท่านั้น
ฉินซีพอเดาความคิดเขาออนอยู่บ้าง ก็แค่ตอนนี้ตนไร้ประโยชน์อะไรแล้ว ไม่อยากเสียเวลากับตนแม้สักนิด
ทนายของฉินซึ่งเทียนเป็นคนเดียวกันกับที่เจอที่ประชุม
เขามาก่อนเวลา ยืนรออยู่ก่อนแล้วที่หน้าประตู
ฉินซีเดินเข้าไป กล่าวทักทาย : “รอนานไหม”
เขาหันกลับมา คิดจะกล่าวคำทักทายกลับ แต่กลับพบทนายจ้าวที่อยู่ด้านหลัง เขาชะงักไป
ฉินซีหันขวับไปมองอย่างประหลาดใจ พบเพียงสีหน้าเรียบเฉยของทนายจ้าว ที่พยักหน้าไปทางทนายของฉินซึ่งเทียน
เขาระแวดระวังอย่างเห็นได้ชัด ไม่พูดอะไรมาก พลางเดินนำเราเข้าไป
“ตามสัญญา ตอนนี้บัญชีคุณมีร้อยละสามสิบของทั้งหมดจากที่ตกลงกันไว้ หลังดำเนินการเสร็จ คุณจะได้ที่เหลือไป หุ้นที่เหลือ20เปอร์เซ็น ผ่านการตรวจสอบเรียบร้อย หากไม่มีปัญหาอะไรเซ็นได้เลยครับ”
ทนายของฉินซึ่งเทียนดีกว่าตัวเขาเองหลายเท่าตัวนัก พูดง่าย ตรงไปตรงมา
แต่ฉินซีกลับรู้สึกเขาประหลาดนัก แต่กลับบอกไม่ถูกตรงไหนกันแน่ที่ผิดแปลก
ทุกอย่างเป็นไปอย่างรวดเร็ว ทนายของฉินซึ่งเทียนเตรียมทุกอย่างเอาไว้แล้ว ฉินซียื่นเอกสารให้กับทนายจ้าว เขาตรวจดูอย่างละเอียด ก่อนพยักหน้า ฉินซีเซ็นชื่อ ยื่นคืนให้กับเขา
ฉินซึ่งเทียนไม่ได้มาด้วย ทุกอย่างรวดเร็วกว่าที่คิด เพียงเซ็นชื่อเท่านั้น หุ้นบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปในมือเธอ โอนถ่ายออกไปหมดแล้ว
ขณะเดียวกัน เสียงแจ้งเตือนข้อความในโทรศัพท์ดังขึ้น
บัญชีธนาคารเธอมีตัวเลขเพิ่มขึ้นมหาศาล
ฉินซีกำสัญญาเอาไว้ในมือ พร้อมความรู้สึกหวิวเกิดขึ้นในใจ
เธอทำทุกอย่าง แม้แต่งงานกับคนอื่นเพื่อให้ได้หุ้นมา จะขายทิ้ง กลับง่ายดายเช่นนี้
นั่นหมายความว่า ความสัมพันธ์สุดท้ายของเธอกับบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป จบสิ้นลงแล้ว
“เรียบร้อย” ทนายฉินซึ่งเทียนกล่าว “งั้นผมไปก่อน”
ฉินซีพยักหน้า
ทนายจ้าวที่ยืนห่างออกไป เห็นว่าทนายของฉินซึ่งเทียนขึ้นรถไปแล้ว จึงหันหลังกลับสำนักงานพร้อมฉินซี
“ทนายของฉินซึ่งเทียนคนนี้ เมื่อก่อนใช้ได้เลย” ทนายจ้าวกล่าวระหว่างทาง “เขามีชื่อเสียงจากการว่าความเกี่ยวกับเศรษฐกิจการเงิน ฉินซึ่งเทียนออกเงินเป็นจำนวนมากเพื่อซื้อตัวเขา”
ฉินซีทบทวนลักษณะของทนายคนนั้น กลับจำได้เพียงภาพที่เขาควักผ้าเช็ดหน้าเช็ดหยาดเหงื่อเท่านั้น เธออดไม่ได้ที่จะถาม : “คุณบอกว่า…..เขาเก่งมาก?”
ทนายจ้าวพยักหน้า : “นั่นเป็นเรื่องเมื่อหลายปีก่อน หลายปีมานี้เขาอยู่กับฉินซึ่งเทียน ไม่ค่อยได้ว่าความ เราจึงไม่ค่อยได้เอ่ยถึงเขา ไม่คิดว่า เจอกันอีกที กลับเป็นหมาที่คอยช่วยฉินซึ่งเทียน”
ฉินซีพยักหน้า แต่ก็ยังสงสัย
ทนายจ้าวไม่ใช่คนที่จำรายละเอียดคนอื่น ทำไมกลับเป็นเดือดเป็นร้อนเพราะคนนอกเช่นนี้ ไม่เหมือนเขาเลย
เมื่อลองคิดดูอีกที ตอนทนายคนนั้นเผชิญหน้ากับทนายจ้าว เขามีความอึดอัดบนใบหน้าแวบหนึ่ง
ฉินซีรู้สึกว่า ระหว่างทั้งคู่ มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกว่านั้น
“ผมขี้บ่นไปใช่ไหม” ทนายจ้าวหันหน้ากลับ ส่งเสียงหัวเราะให้กับฉินซี “อายุเยอะแล้ว มักนึกถึงเรื่องเก่าเสมอ อย่างเช่นทนายของฉินซึ่งเทียน เมื่อก่อนที่เขาฝึกงานกับผม ผมไม่คิดเลย ว่าฝึกเขา เพื่อเป็นคนรับใช้ของฉินซึ่งเทียน”
ฉินซีตระหนกกับสิ่งที่ได้ยิน : “หมายความว่า…..เขาเป็นนักเรียนของคุณ?”
เช่นนี้ ทนายคนเมื่อกี้มีอาการไม่เป็นตัวของตัวเอง เพราะว่า…..หลบสายตาทนายจ้าว
ทนายจ้าวสะบัดมือ : “ไม่นับว่าเป็นนักเรียน อาจารย์ที่โรงเรียนเขา เป็นเพื่อนของผม เพราะคำไหว้วานของอาจารย์คนนั้น ผมถึงช่วยสอนเขาอยู่หลายปี”
ฉินซีตะลึง
สามารถทำให้ทนายจ้าวเสียดายเช่นนี้ ต้องไม่ใช่เพียงช่วยสอนอยู่หลายปีเป็นแน่
เมื่อนึกถึงคำทนายจ้าว “ซื้อตัวเป็นเงินจำนวนมาก” คงเพราะ ฉินซึ่งเทียนใช้เงินจำนวนมากซื้อตัวเขาจากทนายจ้าว
ฉินซีไม่อยากเชื่อ ทนายจ้าวทำได้เพียงยิ้มตอบ “มีความสัมพันธ์กันเล็กน้อยจริงๆนั่นแหละ แต่หลังจากที่เขาไปอยู่บริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ก็ไม่มีความสัมพันธ์อะไรต่อกันแล้ว”
ทนายจ้าวปล่อยวางเรื่องนี้ไปมาก
อันที่จริง ทนายของฉินซึ่งเทียนคนนี้ เป็นเพื่อนเขาไหว้วานตนจริงนั่นแหละ แต่ความสัมพันธ์ไม่เพียงแค่ช่วยสอนตอนฝึกงาน
ทนายจ้าวเห็นว่าเขามีพรสวรรค์ ต้องการฝึกสอนเขา เพื่อสืบทอดต่อจากตน
และเพราะเขาฝากความหวังที่ยิ่งใหญ่ในตัวเด็กคนนี้ ถึงได้เกือบเป็นโรคหัวใจ เมื่อตอนที่เขาถูกฉินซึ่งเทียนซื้อตัวไป
แต่เขาจะไปให้ได้ ทนายจ้าวไม่สามารถห้ามได้
ประสบการณ์ของเขา ทำให้ฉินซีนึกถึงหซู่หนาน
ต่างเป็นคนมีความสามารถ อันที่จริงสามารถทำเรื่องที่ยิ่งใหญ่ในสังคมได้
เพียงเพราะความโลภ จึงเดินตามฉินซึ่งเทียน
หลายปีผ่านไป พวกเขาเป็นเพียงสุนัขรับใช้ของฉินซึ่งเทียน ไม่ใช่การยืนหยัดด้วยตนเอง
ฉินซึ่งเทียนคิดจะทำอะไรกันแน่ ถึงได้ทำลายชีวิตคนมากมาย?
ไม่มีใครรู้
แต่ฉินซึ่งเทียนไม่ใช่คนเดียวที่ต้องรับผิดชอบ
พวกมองไม่เกินหัวแม่เท้า ง่ายต่อการถูกล่อลวง สมควรต้องรับผิดชอบด้วยเช่นกัน
เมื่อนึกถึงตรงนี้ ฉินซึ่งเทียนรู้สึกล้าขึ้นมา
ทนายจ้าวนึกถึงเรื่องนี้ด้วยรึป่าวนะ สีหน้าเขาดูหมองลงอย่างชัดเจน
ฉินซีเดินมาถึงหน้าสำนักงานทนาย ยืนอยู่ที่รถของตน ก่อนหยุดฝีเท้าลง
“ไม่ขึ้นไปนั่งพักหรือ?” ทนายจ้าวเอ่ย “ขึ้นไปดื่มอะไรก่อนสิ”
ฉินซีส่ายหน้า : “ไม่เสียเวลาคุณดีกว่า ฉันไปก่อน”
ทนายจ้าวไม่บังคับเธออีกต่อไป เพียงแค่หยิบเอกสารออกจากกระเป๋า ยื่นให้กับฉินซี
“เธอเก็บไว้ก่อน ไว้ได้อะไรมากกว่านี้ แล้วจะติดต่อไป”
ฉินซีเอื้อมมือรับ ก่อนพยักหน้า “ทนายจ้าว ขอบคุณนะคะ”
ทนายจ้าวใบหน้าเปื้อนยิ้ม: “หนูนี่ จะเกรงใจอะไร?”
ฉินซีโบกมือลา ก่อนเดินขึ้นรถ
เธอขับรถออกไป พร้อมรอยยิ้มที่ค่อยๆจางหายไป