ตอนที่ 1000 เมิ่งเทียนคือฟางเจิ้งจือ…
ทันใดนั้นหลี่ซาลืมตาขึ้น
คิดจะฆ่าข้าด้วยของแค่นี้งั้นรึ?!ไม่มีทาง! หลี่ซาคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว จากนั้นแผลเป็นบนหน้าผากของเขาก็เปิดออก
มันเปิดออกเผยให้เห็นดวงตาแต่ด้วยเหตุผลบางอย่างมันไม่ได้เป็นดวงตาที่เปล่งประกาย มันเป็นดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำโคลนสีดำราวกับหมึก
เป็น…เป็นไปไม่ได้! หลี่ซาไม่สามารถเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นได้
มันคือผนึก! มู่ซิงมองไปที่หน้าผากของหลี่ซาด้วยความตกตะลึง
ผนึก?! หลี่ซานิ่งอึ้งไปชั่วครู่ จากนั้นความสิ้นหวังก็เข้าแทนที่ความโกรธบนใบหน้าของเขา
ความกลัวถาโถมสู่จิตใจของเขาอย่างรวดเร็ว เขากำลังจม!
ภาพหนึ่งปรากฎขึ้นในจิตใจของหลี่ซามันเป็นภาพเดียวกับตอนที่เขาถูกกดลงไปในโคลนสีดำ
มันเป็นภาพกงล้อแห่งการจุติขนาดใหญ่
ฟ้าเขียว แดง เงิน ดำ แสงทั้งห้าเปล่งกระกายอยู่บนกงล้อแห่งการจุติ
ยิ่งไปกว่านั้นกงล้อแห่งการจุติกำลังกดทับอยู่ที่หน้าผากของเขา
ไม่!!! เสียงร้องของหลี่ซาดังขึ้นอีกครั้ง
เขาต้องการจะหนีแต่ไม่สามารถทำได้สายฟ้าสีม่วงพุ่งทะลุฉีกร่างกายของเขาออกเป็นชิ้นๆทันที
ยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่สามารถใช้พลังอะไรได้แม้แต่น้อยพลังในร่างกายของเขาถูกกงล้อแห่งการจุติผนึกไว้อย่างสมบูรณ์
กงล้อแห่งการจุติ?!
มันปรากฎขึ้นได้ยังไง? ไม่เขา…เขาไม่ใช่เมิ่งเทียน…
ตูม!ร่างกายของหลี่ซาไม่สามารถทนได้อีกต่อไปและระเบิดออกกลายเป็นฝนเลือดตกลงมาบนพื้น
หลี่ซาไม่ต้องการตายเช่นนี้เขาเป็นเทพเจ้า เขาเป็นตัวตนที่ทรงพลังจากยุคโบราณ เขาเป็นเทพปีศาจ!
อย่างไรก็ตามแม้เขาจะไม่เต็มใจแค่ไหนแต่เขาก็ไม่มีโอกาสที่จะรอดชีวิตแล้ว
ชีวิตของเขาจบลงอย่างรวดเร็ว!
ฉากที่เกิดขึ้นทำให้ตัวตนระดับเทพเจ้าทุกคนตกตะลึง
ในสถานการณ์สามต่อหนึ่งหลี่ซากลับถูกฆ่าโดยเมิ่งเทียนในเวลาสั้นๆ
เกิดอะไรขึ้น?
เมิ่งเทียนสามารถไขปริศนาวิชาบ่อโคลนของหลี่ซาได้ยังไง?ทำไมดวงตาปีศาจของหลี่ซาถึงถูกผนึก?
คำถามมากมายปรากฎขึ้นในใจของเหล่าตัวตนเทพเจ้า
ตอนนี้ดูเหมือนจะเหลือแค่สองแล้วสินะ? ฟางเจิ้งจือกล่าวขึ้นมาอีกครั้ง ดาบยาวเก้าเล่มถูกปักไว้อยู่บนพื้นรอบๆตัวเขา
เหมือนกับก่อนหน้านี้เขาไม่มองไปที่ฉินเซียนหรือมู่ซิง แต่เขามองไปที่หยุนชิงวู
แข็งแกร่ง!เขาแข็งแกร่งจริงๆ!
เทพสงครามเมิ่งเทียนสามารถเอาชนะพวกมันทั้งสามคนได้ด้วยตัวคนเดียว!
พวกเรายังมีความหวัง!
ฝ่ายมนุษย์ต่างประหลาดใจแต่มันก็ทำให้พวกเขามีความหวังเช่นกัน
ผู้อาวุโสเมิ่งเทียน… โม่ฉานฉือต้องการจะพูดอะไรบางอย่างแต่เขาบาดเจ็บสาหัสจนไม่มีแรงจะพูด
ดอกไม้ของฉินเซียนเป็นพิษ!
อาจจะไม่เพียงแค่นั้นดอกไม้ของฉินเซียนยังสามารถดูดซับพลังชีวิตจากเหยื่อที่มันจับเข้าไป ฮ่าฮ่าโจมตี! ใช้ค่ายกลควันเพื่อหลอกล่อความสนใจของพวกมัน จากนั้นก็ฆ่าหยุนชิงวู! ปิงหยางที่กำลังตื่นเต้นออกคำสั่งกลุ่มพันธมิตรฝ่ายมนุษย์
ค่ายกลควัน?หลอกล่อความสนใจ?
มันจะได้ผลงั้นหรือ?
นางมากับผู้อาวุโสเมิ่งเทียนทำตามที่นางบอกกันเถอะ!
ศิษย์ฝ่ายมนุษย์รู้สึกพูดไม่ออกแต่พวกเขาจำฉากที่เมิ่งเทียนถูกอุ้มมาโดยปิงหยางได้ พวกเขาจึงทำตามที่นางพูดในทันที
ควันเริ่มก่อตัวขึ้นขาว เทา ดำ ควันทุกสีถูกจุดขึ้นเท่าที่จะสามารถหาได้
ด้านหยุนชิงวูที่ยืนอยู่ท่ามกลางควันหลากสีกำลังจ้องมองไปที่ฟางเจิ้งจือแทนที่จะตอบเขานางกลับยกมือขึ้น
บนท้องฟ้านั้นเต็มไปด้วยดวงดาว
ตอนนั้นเองเสียงตะโกนดังก้องไปทั่วสนามรบ โจมตี!
โจมตี!
…
เสียงฝีเท้าเสียงของม้าพร้อมกับบรรยากาศอันน่าสะพรึงกลัวและทรงพลัง
กองทัพปีศาจและอสูรได้เดินทางมาถึงแล้ว!
ข้าเข้าใจแล้วดูเหมือนเจ้าจะมีแผนสำรองสินะ? ฟางเจิ้งจือรู้สิ่งที่หยุนชิงวูทำในทันที่เมื่อได้ยินเสียงกองทัพของปีศาจและอสูรดังมาแต่ไกล
หากเดาไม่ผิดหยุนชิงวูน่าจะให้กองทัพปีศาจและอสูรล้อมพื้นที่นี้ไว้ทั้งหมด
นางคิดจะจับมนุษย์ทุกคนในครั้งเดียว!
ใช้ตัวเองเป็นเหยือล่องั้นหรือ?
ฟางเจิ้งจือรู้ว่าหยุนชิงวูใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อให้เมิ่งเทียนออกมามันเป็นแผนที่สมบูรณ์แบบ อย่างไรก็ตามเขาไม่มีทางปล่อยให้มันเป็นไปตามแผนของนาง
ในเมื่อนางอยากจะเป็นเหยื่อนักฟางเจิ้งจือก็จะทำเช่นนั้น เขาจะใช้โอกาสนี้จับตัวหยุนชิงวูเพื่อควบคุมกองทัพปีศาจและอสูร
มันเป็นแผนของฟางเจิ้งจือ
ฟุ้บ!ฟางเจิ้งจือเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงสุดไปหาหยุนชิงวูโดยไม่สนใจฉินเซียนและมู่ซิง
ความจริงเขาไม่ได้ตั้งใจมาสู้กับตัวตนระดับเทพเจ้าทั้งสาม
แค่ฆ่าทิ้งไปคนเดียวก็เพียงพอแล้ว
นั่นเพราะเขาจะไม่ถูกล้อมทุกด้านหากเหลือตัวตนระดับเทพเจ้าเพียงสองคน
โอ้ไม่ระวัง! ท่านจักรพรรดินีน้อย! มู่ซิงเข้าใจแผนของฟางเจิ้งจือในทันที
เป้าหมายของฟางเจิ้งจือนั้นเป็นหยุนชิงวูมาตลอด
หลินยู่ปกป้องจักรพรรดินีน้อย! เร็วเข้าขวางเมิ่งเทียนเอาไว้! หลินยู่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเช่น เขาถอยกลับไปหาหยุนชิงวูโดยไม่ลังเล
อย่างไรก็ตามควันที่ลอยไปทั่วได้ล้อมรอบหลินยู่และหยุนชิงวูเอาไว้
เขาเห็นฟางเจิ้งจือไม่ชัดเจนเท่าไรนัก
ตูม!ทันใดนั้นเสียงระเบิดดังขึ้นพร้อมกับร่างหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านหน้าหลินยู่
ฉินเซียน!
ทั้งมู่ซิงและหลินยู่ตกตะลึงพวกเขาไม่ค่ดิดว่าฉินเซียนจะปรากฎตัวขึ้นและโจมตีในเวลาเช่นนี้
ทำไม?ข้าดูไม่ซื่อสัตย์ขนาดนั้น? ฉินเซียนกล่าวขึ้นมาอย่างเงียบขรึมต่างจากก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง
หยุดโจมตีเมิ่งเทียนให้ความสำคัญกับการปกป้องนายน้อยก่อนเป็นอย่างแรก รอจนกว่ากองทัพปีศาจและอสูรจะเดินทางมาถึง! หลินยู่ถอนหายใจด้วยความโล่งอกตราบใดที่ฉินเซียนไม่ทำเรื่องบ้าๆอีก หยุนชิงวูย่อมปลอดภัย
ตัวตนระดับเทพเจ้าเพียงห้าคนก็พอแล้วที่จะปกป้องหยุนชิงวู
นั่นคือสิ่งที่หลินยู่คิดเอาไว้หลังจากออกคำสั่งแล้วเขากับมู่ซิงก็รีบไปที่ด้านข้างของหยุนชิงวูในทันที
ห้า? ฟางเจิ้งจือหรี่ตาลง เขามีเวลาไม่มากพอ
เมื่อกองทัพปีศาจและอสูรมาถึงมนุษย์ห้าร้อยคนจะกลายเป็นไร้ประโยชน์ทันที ผลลัพธ์ก็คือเหลือเพียงเขาที่ต้องต่อสู้กับตัวตนระดับเทพเจ้า
ในเวลาเดียวกันเขาต้องป้องกันพวกกองทัพปีศาจและอสูรไปด้วย
ต่อให้เขาจะเก่งกาจแค่ไหนก็ไม่มีทางจัดการกองทัพปีศาจและอสูรทั้งหมดรวมถึงตัวตนเทพเจ้าทุกคนได้
เขาควรทำยังไง? ย้ายตำแหน่งในพริบตา?
ถ้าเขาทำแบบนั้นมีโอกาสน้อยที่จะผิดพลาดอย่างไรก็ตามมันเท่ากับตัวตนของเขาจะเปิดเผยเพราะเต๋าสวรรค์
มันเหมาะสมที่เขาจะเปิดเผยตัวตนตอนนี้งั้นหรือ?
ฟางเจิ้งจือไม่สามารถตัดสินใจได้ถ้าเขาพลาดไม่สามารถจับตัวหยุนชิงวูได้ล่ะ?
เขากังวลเรื่องหมู่บ้านภูเขาทางเหนือมากที่สุดเขาต้องการให้ที่นั่นปลอดภัย
มีอะไรงั้นรึ?หรือเจ้าไม่อยากเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง? ขณะที่ฟางเจิ้งจือกำลังลังเล เสียงของหยุนชิงวูก็ดังขึ้น
มันไม่ได้ดังมากแต่ทำให้ฟางเจิ้งจือต้องเบิกตากว้าง
ฟางเจิ้งจือแทบจะยืนนิ่งอยู่กับที่
เทพสงครามเมิ่งเทียนข้าไม่เคยคาดคิดเลยว่าจริงๆแล้วเมิ่งเทียนคือฟางเจิ้งจือ ฟางเจิ้งจือนั้นเป็นเมิ่งเทียนตัวจริง! หลังจากพูดจบ หยุนชิงวูหันไปอีกด้านหนึ่ง และองค์หญิงปิงหยางแห่งอาณาจักรเซี่ย หืม…เป็นเวลาหกเดือนแล้วสินะหลังจากที่พวกเราพบกันครั้งสุดท้าย
…
อะไรกัน?!
หยุนชิงวูเรียกผู้อาวุโสเมิ่งเทียนว่ายังไงนะ?
ฟางเจิ้งจือ?!
เป็นไปได้ยังไง?ไม่ใช่ฟางเจิ้งจืออยู่ที่หมู่บ้านภูเขาทางเหนืองั้นหรือ? ยิ่งไปกว่านั้นฟางเจิ้งจือจะมีพลังเทียบเคียงกับเมิ่งเทียนได้ยังไง? หยุนชิงวูคิดอะไรอยู่กันแน่?
ปิงหยาง?หยุนชิงวูพูดว่าปิงหยาง? ไม่ใช่ว่านางอยู่ที่หอคอยหลิงหยุนงั้นหรือ? นางจะมาที่นี่โดยไม่มีเฉียนยู่มาด้วยได้ยังไง?
กลุ่มพันธมิตรฝ่ายมนุษย์ต่างตกตะลึงกับคำพูดของหยุนชิงวูพวกเขาต่างส่ายหัว
สำหรับพวกเขาแล้วนั้นแม้ฟางเจิ้งจือจะแข็งแกร่งเพียงใดแต่เขาก็ไม่สามารถต่อสู้กับตัวตนระดับเทพเจ้าได้
พวกเขาเห็นการต่อสู้บนภูเขาสวรรค์ตอนที่ฟางเจิ้งจือสู้กับเทพปีศาจผู้ควบคุมพื้นที่ว่าง ถ้าไม่มีฉือกูเหยียน ฟางเจิ้งจือคงตายไปแล้ว
ด้วยเวลาไม่ถึงหกเดือนนับจากการต่อสู้ครั้งนั้น
ฟางเจิ้งจือสามารถมีพลังเทียบเท่าได้กับเมิ่งเทียนและฆ่าตัวตนระดับเทพเจ้าได้อย่างง่ายดาย?มันจะเป็นไปได้ยังไง?
ไม่มีทาง!
ยิ่งไปกว่านั้นมันเป็นเวลาสี่เดือนตั้งแต่ที่เมิ่งเทียนเปิดเผยพลังของเขา
มันเป็นตอนที่เขาแยกเมืองเงาเลือดออกเป็นสองส่วนด้วยดาบเดียว
ใครจะเชื่อว่าฟางเจิ้งจือเป็นคนทำมัน?
อีกเรื่องคือปิงหยาง
นางเป็นธิดาของเฉียนยู่นั่นเป็นความลับที่ทุกคนรู้ดีและหอคอยหลิงหยุนเลือกที่จะไม่เข้าร่วมสงครามครั้งนี้
ดังนั้นปิงหยางจะปรากฎตัวที่นี่ได้ยังไง?
นอกจากศิษย์ฝ่ายมนุษย์แล้วนั้นแม้แต่โม่ฉานฉือยังส่ายหัวเมื่อได้ยินคำพูดของเมิ่งเทียน
ฮ่าฮ่าฮ่า… ฟางเจิ้งจือหัวเราะเขาอยากจะร้องไห้ให้กับสิ่งที่หยุนชิงวูพูดออกมาจริงๆ เขาไม่ได้เตรียมใจเอาไว้ทำให้เขาหัวเราะออกไปด้วยเสียงที่สั่นเล็กน้อยทั้งๆที่เขาพยายามสงบใจอย่างเต็มที่แล้ว
ข้าควรจะเดาออกให้เร็วกว่านี้ หยุนชิงวูเมินเฉยต่อเสียงหัวเราะของฟางเจิ้งจือ นางยังคงพูดต่อไป มีเพียงฟางเจิ้งจือเท่านั้นที่เข้าใจตัวข้าเป็นอย่างดี ไม่มีทางเป็นเมิ่งเทียน
งั้นรึ?เจ้าคิดว่าข้าเข้าใจเจ้าดีงั้นรึ? ฟางเจิ้งจือกำมือแน่น
พูดถึงเรื่องนี้แผนของเจ้าสมบูรณ์แบบ เทพสงครามเมิ่งเทียน…คงมีแต่เจ้าที่คิดแผนแบบนี้ออกมาได้ อย่างไรก็ตามข้าไม่เข้าใจว่าเจ้าสามารถปรากฎตัวขึ้นในดินแดนภูเขาทางใต้และหมู่บ้านภูเขาทางเหนือในเวลาเดียวกันได้เช่นไร จากการคำนวณของข้าน่าจะมีเซียนอีกคนอยู่ที่หมู่บ้านภูเขาทางเหนือใช่หรือไม่? หยุนชิงวูพูดกับตัวเองต่อไปเรื่อยๆและไม่สนใจฟางเจิ้งจือ
ไม่มีทาง..หมู่บ้านภูเขาทางเหนือคือที่ไหนข้าไม่รู้เรื่องที่เจ้าพูด! ขณะที่ฟางเจิ้งจือกำลังจะพูดว่า’ไม่มีทางเป็นแบบนั้น’ เขานึกได้ในทันที
เขาเกือบจะเปิดเผยความจริงออกไปว่าตัวเองรู้เรื่องหมู่บ้านภูเขาทางเหนือถ้าเขาเป็นเทพสงครามเมิ่งเทียนตัวจริงเขาจะรู้เรื่องนั้นได้ยังไง?
เทพสงครามเมิ่งเทียนแห่งอาณาจักรเซี่ยไม่รู้จักหมู่บ้านภูเขาทางเหนืองั้นหรือ? หยุนชิงวูก้าวเดินไปหาฟางเจิ้งจือและมองไปที่เขา
ฟางเจิ้งจือเริ่มเหงื่อตก นางฉลาดมากแต่ละประโยคที่นางพูดเต็มไปด้วยกับดัก
เขาไม่สามารถตอบนางว่า’ใช่’หรือ’ไม่’ได้ไม่อย่างนั้นเขาจะพบกับปัญหาใหญ่
วิธีที่ดีที่สุดคือเงียบ
คิดจะถ่วงเวลางั้นรึ?ไร้เดียงสามาก! ขณะที่ฟางเจิ้งจือพูด ดาบยาวลอยเข้ามาใกล้เขาทีละเล่ม…
ดาบยาวเก้าเล่มล้อมรอบตัวเขาพวกมันเปล่งแสงสีเงินอ่อนๆ
……………………………………..