ตอนที่ 1004 หนทางออก
พลังของกองทัพปีศาจและอสูรนั้นเกินความคาดหมายของกลุ่มพันธมิตรอย่างมาก
ภายในเวลาหกเดือนเผ่าอสูรและปีศาจที่อ่อนแอกว่ามนุษย์ในตอนแรกกลับเปลี่ยนไปอย่างมากด้วยการนำของหยุนชิงวู
หยุนชิงวูมีความสามารถในการเป็นผู้นำอย่างมาก
อย่างไรก็ตามมันไม่สำคัญอีกต่อไปเมื่อหยุนชิงวูมอบทุกอย่างให้กับฉินเซียน
โจมตี!
ฆ่าพวกมัน…
เสียงตะโกนเสียงการโจมตีและเสียงคำรามของอสูรและปีศาจรวมถึงเหล่าสัตว์ร้ายดังขึ้นต่อเนื่อง พวกเขาพุ่งเขาหากลุ่มพันธมิตรฝ่ายมนุษย์แสดงให้เห็นถึงความได้เปรียบอย่างมาก
ราชาของเหล่าสัตว์ไร้แต่ละตัวนั้นมีขนาดร่างกายสูงใหญ่แทบจะเท่ากับภูเขาลูกย่อมเลือดไหลนองไปทั่วหลังจากที่พวกมันพุ่งเข้าหากลุ่มพันธมิตร
เหล่าศิษย์ฝั่งมนุษย์ทรุดตัวลงอย่าต่อเนื่อง
พวกเขาไม่ได้หนี…
อย่างไรก็ตามพวกเขาได้รับบาดเจ็บอย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่นานจากห้าร้อยคน มีห้าสิบคนที่ได้รับบาดเจ็บไปแล้ว
เลือดไหลนองทั่วพื้น
หยุนชิงวูทำไมเจ้าทำเช่นนี้? ฟางเจิ้งจือจับดาบแน่น
เจ้าจะทำเช่นไรหากเป็นข้า แทนที่จะตอบคำถามโดยตรงนางถามออกมาในขณะมองดูเหล่าศิษย์ฝ่ายมนุษย์มากมายที่ล้มลงตรงหน้า
… ฟางเจิ้งจือไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเพราะเขารู้อยู่แล้วว่าหยุนชิงวูตั้งใจทำเช่นนี้เพราะนางไม่มีทางเลือกอื่น นางถูกจับตัวได้!
โดยฟางเจิ้งจือ
แม้หยุนชิงวูจะไม่อยากยอมรับความจริงก็ตาม
ไม่ว่านางจะฉลาดแค่ไหนนางก็ไม่สามารถคาดเดาถึงผลลัพธ์นี้ได้ ดังนั้นนางจึงยอมรับความพ่ายแพ้เพราะประเมิณความสามารถของฟางเจิ้งจือต่ำเกินไป
หรือก็คือไม่มีใครคาดเดาได้ว่าฟางเจิ้งจือจะสามารถจับตัวหยุนชิงวูได้ในขณะที่นางได้รับการคุ้มกันจากตัวตนระดับเทพเจ้าถึงห้าตน
ดังนั้นนางจำต้องตัดสินใจ
ปล่อยพวกเขาลงห้ำหั่นในสนามรบ!
ถ้าหากนางหรือหลินยู่เป็นผู้บัญชาการกองทัพปีศาจและอสูร
แน่นอนว่ากองทัพจะสนใจความปลอดภัยของนางเป็นอย่างแรก
ดังนั้นหนทางเดียวคือล่าถอยหรืออาจมากกว่านั้น
กลุ่มพันธมิตรฝ่ายมนุษย์ไม่ได้โง่
พวกเขาไม่ยอมปล่อยให้เผ่าอสูรและปีศาจถอยกลับหนองน้ำยักษ์ง่ายๆและปล่อยให้อสูรและปีศาจกลายเป็นภัยคุกคามในอนาคตดังนั้นพวกเขาจะบังคับให้อสูรและปีศาจลงนามในสัญญาที่ไม่มีความนุติธรรมอย่างแน่นอน
เพื่อปกป้องความอยู่รอดของมนุษยชาติกลุ่มพันมิตรฝ่ายมนุษย์ต้องผนึกตัวตนเทพเจ้าอย่างแน่นอน
เหล่าตัวตนระดับเทพเจ้าจะเห็นด้วยหรือไม่?
แน่นอนว่าไม่
จากนั้นมันจะกลายเป็นความวุ่นวาย
หรือมากกว่านั้นแม้ว่าหลินยู่จะสามารถโน้มน้าวให้ตัวตนระดับเทพเจ้ากลับไปอย่างเต็มใจ แล้วหยุนชิงวูจะรอดกลับไปยังเผ่าพันธ์ของนางหรือไม่? เป็นไปไม่ได้!
เนื่องจากหยุนชิงวูเป็นผู้ริเริ่มสงครามทั้งหมดพันธมิตรฝ่ายมนุษย์คงไม่ยอมปล่อยนางไป แม้นางจะไม่ถูกฆ่าแต่ต้องถูกกักขังตลอดชีวิตไปอย่างแน่นอน
แม้ข้าจะแพ้เจ้าแต่เผ่าอสูรและปีศาจจะไม่แพ้เพราะข้า ทำเหมือนที่เจ้าทำ เจ้าบอกว่าความทะเยอทะยานเพียงอย่างเดียวของเจ้าคือการได้ใช้ชีวิตที่สงบสุข อยู่กับครอบครัวที่เจ้ารักในหมู่บ้านเล็ก แต่สุดท้ายเจ้า…เจ้าก็ไม่สามารถทำได้ หยุนชิงวูพูดหลังจากเห็นฟางเจิ้งจือเงียบไป
หุบปาก…เจ้าไม่เข้าใจหรือ? ข้าบอกหลายครั้งแล้วว่าข้าไม่ใช่ฟางเจิ้งจือ!
มันต้องเป็นเจ้าแน่นอนข้าไม่เชื่อ!
ได้งั้นเจ้าคิดว่าข้าจะไม่กล้าทำอะไรหลังจากที่เจ้ามอบอำนาจสั่งการให้กับฉินเซียนแล้วงั้นหรือ? ฟางเจิ้งจือไม่คิดจะเถียงต่อ
อย่างน้อยข้าก็ยังมีชีวิตอยู่ หยุนชิงวูไม่กลัว
ฟางเจิ้งจือจับที่คอของหยุนชิงวูและสัมผัสได้ถึงความเรียบเนียนและอบอุ่นเขารู้ดีว่านางจะตายหากเขาบีบมือเพียงเล็กน้อย
เขาควรฆ่านางเลยไหม?
เขาสามารถฆ่านางได้ไหม?
ฟางเจิ้งจือถามตัวเองอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ก้าวเท้าเข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จากส่วนลึกในใจของเขามีความเกลียดชังหยุนชิงวู ที่นางหลอกใช้เขาให้ทำลายสวรรค์ทั้งเก้าชั้น ทั้งยังมอบกล่องดำและศิลาเซียนทั้งสิบสามชิ้นให้กับเขา
หลังจากนั้นมันคือจุดเริ่มต้นของการต่อสู้ในศาลาเต๋าสวรรค์
ถ้าสวรรค์ทั้งเก้าชั้นไม่ถูกทำลายฟางเจิ้งจือจะไม่กลายเป็นศัตรูกับศาลาเต๋าสวรรค์และเซียนสามคนจากเกาะจันทราดำคงไม่มีโอกาสได้โจมตีเขา
อย่างไรก็ตาม… ถ้าไม่ใช่เพราะศิลาเซียนทั้งสิบสามชิ้นตอนนี้เขาจะเป็นเช่นไร?
ไม่สามารถคาดเดาได้
ฟางเจิ้งจือรู้สึกถึงความขัดแย้งในใจกับหนึ่งชีวิตตรงหน้า
อย่างไรก็ตามเมื่อคิดถึงชีวิตของจางหยางปิงและชาวบ้านกว่ายี่สิบคนมันทำให้เขาไม่พอใจอย่างมาก
จางหยางปิงคือคนที่พาเขาจากหมู่บ้านภูเขาทางใต้ไปยังหมู่บ้านภูเขาทางเหนือและทำให้เขามีโอกาสได้เรียนรู้แล้วฟางเจิ้งจือจะไม่แก้แค้นให้เขาได้อย่างไร?
ฆ่าหยุนชิงวูและแก้แค้นให้ลุงหยางปิง!
เจ้าแน่ใจหรือว่าข้าไม่กล้าฆ่าเจ้า ฟางเจิ้งจือกำมือแน่นอีกครั้งแววตากลายเป็นสีแดงเลือด
… สีหน้าของหยุนชิงวูกลายเป็นขาวซีดเพราะหายใจไม่ออกอย่างไรก็ตามนางไม่ได้ดิ้นรนเลยแม้แต่น้อย นางเพียงแค่จ้องมองลึกลงไปในดวงตาของฟางเจิ้งจือ
ผู้อาวุโสเมิ่งเทียนตอนนี้ …ตอนนี้ไม่ใช่เวลาฆ่าหยุนชิงวู! ในตอนนั้นเสียงของโม่ฉานฉือก็ดังขึ้น
ร่างของฟางเจิ้งจือสั่นไหวแทนที่จะตอบรับโม่ฉานฉือเขามองไปยังเหล่าศิษย์มากมายที่ล้มตายอยู่กับพื้น
ความตาย!
บางครั้งมันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก!
โจมตีด้วยดาบมีดหรือแรงระเบิดก็สามารถฆ่าได้ทั้งหมดเหมือนกับหยุนชิงวูจะตายทันทีเพียงเขาบีบมือเล็กน้อย
เจ้าอยากตายจริงหรือ? ฟางเจิ้งจือพูดด้วยน้ำเสียงที่โกรธแค้น
ตาย…ฮ่าฮ่า มันมีอะไร…ไม่ดีงั้นหรือ? หยุนชิงวูใช้ความพยายามอย่างมากในการพูด
หยุนชิงวู!!! ฟางเจิ้งจือไม่เคลื่อนไหวอีกต่อไป เขารู้ว่าสามารถฆ่าหยุนชิงวูได้อย่างง่ายดาย แต่จะเกิดอะไรขึ้นหลังจากทำเช่นนั้น
ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรหากกองกำลังอสูรและปีศาจมีฉินเซียนเป็นผู้นำมันเป็นเรื่องที่สามารถคาดเดาได้
ใช่แล้ว!
เขาสามารถหาโอกาสอีกครั้งเพื่อฆ่าฉินเซียนแต่หลังจากฉินเซียนตาย ก็จะมีตัวตนระดับเทพเจ้าคนอื่นได้รับตำแหน่งนั้นต่อไป
มันจะกลายเป็นวัฏจักรจะมีอีกกี่คนที่ฟางเจิ้งจือต้องฆ่า
ตราบที่ประตูเทพเจ้าของอสูรและปีศาจยังเปิดอยู่ก็จะมีตัวตนเทพเจ้าสืบทอดตำแหน่งต่อไป
ที่สำคัญที่สุดคือ…
หากไม่มีหยุนชิงวูตัวตนระดับเทพเจ้าจะกลายเป็นสิ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้
เหมือนกับฉินเซียน
ตัวตนระดับเทพเจ้ามากมายมีบุคคลิกแปลกๆคล้ายกับฉินเซียนอย่างเช่นโจวฉี เมื่อคนที่คอยคุมหายไป พวกเขาจะกลายเป็นเครื่องมือสังหารที่บ้าคลั่ง ไม่เพียงแค่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จะตกอยู่ในอันตรายเท่านั้น แม้แต่อาณาจักรทั้งสี่ก็ต้องเผชิณหน้ากับการสังหารหมู่เช่นกัน
เมื่อถึงตอนนั้นโลกทั้งใบจะตกอยู่ในความโกลาหล
เขาควรทำยังไง?
ดขาควรทำยังไงดี?
ฟางเจิ้งจือรู้ว่าหยุนชิงวูกำลังเดิมพันว่าเขาไม่สามารถเห็นศิษย์ฝ่ายมนุษย์ล้มตายไปต่อหน้าต่อตาได้นางเดิมพันว่าฟางเจิ้งจือไม่สามารถทนดูโลกทั้งใบต้องกลายเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยการเข่นฆ่าได้
เมิ่งเทียนปล่อยจักรพรรดินีน้อย ถ้าเจ้ากล้าฆ่านาง …ข้ามู่ซิงจะทำให้มนุษยชาติชดใช้เป็นพันเท่า! เสียงของมู่ซิงดังขึ้นอีกครั้ง
ในฐานะตัวตนระดับเทพเจ้าเขาไม่ได้ทำตามคำสั่งของฉินเซียน เขากำลังรอให้ฟางเจิ้งจือปล่อยหยุนชิงวู
ปล่อยนายน้อย!
เมิ่งเทียนเจ้าตัวคนเดียวไม่มีทางเอาชนะได้!
ตัวตนระดับเทพเจ้าอีกสองคนเริ่มพูดขณะที่พวกเขาเดินเข้าใกล้ฟางเจิ้งจือด้วยแววตาที่เย็นชา
สำหรับฉินเซียน…
เขายังคงเคลื่อนที่ไปมาและหยุดลงท่ามกลางกองกำลังอสูรและปีศาจเห็นได้ชัดว่าเขารู้ถึงพลังของฟางเจิ้งจือและตัดสินใจที่จะมีเหล่าทหารคอยคุ้มกันอยู่รอบตัวเขา
ฮ่าฮ่าเมิ่งเทียนพวกมนุษย์ทุกคนไม่มีทางหนีไปได้! เสียงหัวเราะของฉินเซียนเต็มไปด้วยความบ้าคลั่งในขณะที่ดอกไม้เริ่มเบ่งบานขึ้นบนพื้นอีกครั้ง
ดอกไม้มากมายโจมตีใส่เหล่าศิษย์ฝ่ายมนุษย์และกลืนกินพวกเขาเข้าไป
มันเป็นฉากที่โหดร้าย ฉากนี้ทำให้ฟางเจิ้งจือเดือดดาลเพราะความโกรธ
ตัวตนระดับเทพเจ้า…
แน่นอนว่าเขาจะไม่ยอมให้ตัวตนระดับเทพเจ้าได้ขึ้นเป็นผู้นำกองกำลังปีศาจและอสูรอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามเพื่อควบคุมตัวตนระดับเทพเจ้าพวกนี้ไว้เขาต้องปล่อยตัวหยุนชิงวูเพราะมีแต่นางเท่านั้นที่สามารถหยุดการสังหารหมู่ของพวกเขาได้
อย่างไรก็ตามเมื่อเขาปล่อยหยุนชิงวูทุกอย่างจะกลับไปเริ่มใหม่อีกครั้ง
ฟางเจิ้งจือไม่สามารถทำเช่นนั้นได้
เป้าหมายของหยุนชิงวูคือยกระดับพลังอำนาจของเผ่าอสูรและปีศาจที่สำคัญหยุนชิงวูทำมันด้วยความยากลำบากเมื่อเปรียบเทียบกับตัวตนระดับเทพเจ้า
มันจะเป็นวงจรที่ไม่จบสิ้น
เขาไม่สามารถทั้งปล่อยนางหรือฆ่านางได้
นอกจากนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือบุคคลิกของฟางเจิ้งจือเขาเป็นคนที่จะไม่ปล่อยไก่ขนไฟที่เขาจับได้ไป ดังนั้นเขาจะปล่อยหยุนชิงวูไปได้ยังไง?
มู่ซิงทำไมเจ้าถึงไม่โจมตีอีกคิดจะขัดคำสั่งงั้นหรือ?! ในขณะนั้นเองเสียงของฉินเซียนก็ดังขึ้นและเห็นได้ชัดว่ามันเป็นการเตือนครั้งสุดท้าย
เมิ่งเทียน!
เจ้าบังคับให้พวกเราต้องลงมือ!
ตาย!
มู่ซิงและตัวตนระดับเทพเจ้าอีกสองคนที่ล้อมรอบฟางเจิ้งจืออยู่ในที่สุดก็โจมตี ลำแสงที่แหลมคมก็พุ่งไปยังลำคอของฟางเจิ้งจือ
นอกจากนั้นยังมีคลื่นอากาศซ่อนอยู่ภายใต้ลำแสงที่พุ่งเข้ามา
การโจมตีสองครั้ง!
การโจมตีของตัวตนระดับเทพเจ้าสองคนในเวลาเดียวกัน
ฟางเจิ้งจือไม่จำเป็นต้องคาดเดาแต่เขารู้ดีว่าหลังจากการโจมตีสองครั้งก็จะมีการโจมตีครั้งที่สามจากตัวตนระดับเทพเจ้าอีกคน
เขาจะป้องกันการโจมตีของตัวตนระดับเทพเจ้าสามคนกับหยุนชิงวูด้วยมือข้างเดียวได้ยังไง?
หลบเขาทำได้แค่หลบ!
อย่างไรก็ตามสำหรับเขาแล้วมันเป็นเรื่องง่ายแค่ไหนที่จะหลบการโจมตีจากตัวตนระดับเทพเจ้าถึงสามคน?
บาดแผลที่ลึกปรากฎขึ้นที่แขนและต้นขาของฟางเจิ้งจือเลือดไหลออกมาราวกับหยดน้ำ
ฟางเจิ้งจือรู้ดีว่าเขาไม่สามารถถ่วงเวลาต่อไปได้อีก
เกือบครึ่งของกลุ่มพันธมิตรฝ่ายมนุษย์ล้มตายและปิงหยางถูกปิดล้อมโดยราชาอสูรสองตนสถานการณ์ค่อนข้างแย่ เขาควรจะหนี?
ที่ไหน?
กองกำลังอสูรและปีศาจปิดล้อมพวกเขาและเหล่าศิษย์ยังคงอยู่ห่างจากปราสาทสีดำ
เดี๋ยวก่อน!
ปราสาทสีดำ!
ดวงตาของฟางเจิ้งจือเบิกกว้างอย่างกะทันหันเขาสร้างตำนานเกี่ยวกับ ‘แหล่งพลังเทพเจ้า’ ขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ และเนื่องจากเป็นเรื่องที่สร้างขึ้นมันจึงไม่ใช่เรื่องจริง
อย่างไรก็ตามแม้ว่าตำนานนั้นจะไม่ใช่ความจริงแต่แหล่งพลังเทพเจ้านั้นมีอยู่จริง
ความจริงนี้ไม่สามารถปฏิเสธได้ความจริงที่หยุนชิงวูนำกองกำลังปีศาจและอสูรมาเพียงเพื่อจะพิสูจน์เรื่องของแหล่งพลังเทพเจ้า
แหล่งพลังเทพเจ้า…
ใช่แล้วแหล่งพลังเทพเจ้า!
หยุนชิงวูไม่รู้ตำแหน่งที่แน่นอนของแหล่งพลังเทพเจ้าแต่นางมีความเข้าใจมันมากที่สุดในโลก
และตอนนี้หยุนชิงวูอยู่ในมือของเขา
เขาสามารถใช้ประโยชน์จากหยุนชิงวูเพื่อตามหาแหล่งพลังเทพเจ้าจากนั้นกลุ่มพันมิตรฝ่ายมนุษย์จะมีพลังเพิ่มขึ้นมากกว่ากองกำลังอสูรและปีศาจ วัฎจักรแห่งความตายนี้จะถูกลบล้าง
จากนั้น…
หยุนชิงวูจะถูกฆ่าหากเขาต้องการ
ยิ่งกว่านั้นแม้ว่ากลุ่มพันมิตรฝ่ายมนุษย์จะไม่ได้มีพลังเพิ่มขึ้นจากแหล่งพลังเทพเจ้าตราบใดที่พวกเขายังคงยืนหยัดต่อสู้กับกองกำลังอสูรและปีศาจ สักวันปัญหาย่อมถูกแก้ไข
มันอาจฟังดูยาก
อย่างไรก็ตามตามตรรกะแล้วมันเป็นเรื่องง่ายมากมันคือ…
กฎแห่งความสมดุล เมื่อฝ่ายหนึ่งอ่อนแอมากกว่าอีกฝ่ายผลลัพธ์คือเขาจะถูกฆ่า อย่างไรก็ตามหากมีพลังเท่าเทียมกันต่างฝ่ายต่างก็ไม่อยากทำอันตรายต่อกัน
ข้าเป็นอัจฉริยะจริงๆ! ฟางเจิ้งจือรู้สึกโล่งอกอย่างมากเมื่อเขาคิดเรื่องนี้ออกสิ่งเดียวที่เหลือคือการแก้ปัญหาตรงหน้า สายตาของเขาหันมองฉินเซียนที่กำลังโจมตีอย่างโหดเหี้ยมท่ามกลางกองกำลังอสูรและปีศาจ
เจ้าบ้านั่นอยู่ค่อนข้างไกลออกไป…
หากเขาไม่สามารถฆ่าฉินเซียนได้เขาจะหนีจากกำลังอสูรและปีศาจได้ยังไง?
……………………………………..