Gate of God – ตอนที่ 1011 โลกกลับหัว

ตอนที่ 1011 โลกกลับหัว

   ไม่ข้าสามารถขึ้นไปได้ด้วยตังเอง!  ปิงหยางมองฟางเจิ้งจือที่อุ้มหยุนชิงวูอยู่และปฏิเสธในทันที

  ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากที่ปฏิเสธนางพุ่งไปที่โซ่และกระโจนขึ้นไปเรื่อยๆอย่างมั่นคง

  จากนั้นนางก็หันหลังกลับ

  นางมองลงมาที่ฟางเจิ้งจือด้วยท่าทีอันเหนือกว่าจากนั้นนางก็กระโจนขึ้นไปด้านบนต่อไปเรื่อยๆ

  ต้องยอมรับว่าปิงหยางค่อนข้างว่องไวและรวดเร็วจริงๆแล้วมันเป็นเรื่องง่ายสำหรับนางที่จะปีนโซ่ด้วยความสามารถในระดับเซียนของนาง

  อย่างไรก็ตาม…

  ก่อนที่นางจะถึงจุดที่ความสูงประมาณสามสิบเมตรนางตัวสั่นราวกับโดนเข้ากับบางอย่าง ผมของนางตั้งขึ้น   เจ้าเป็นตัวล่อสายฟ้าที่ดี ฟางเจิ้งจือยิ้มและมองดูแผนภาพด้านล่างโซ่

  มันถูกวาดลงบนพื้นแต่บางส่วนกลับถูกลบออกไปเหลือเพียงร่องรอยเล็กน้อยเท่านั้น

  มันดูเป็นรูปแบบที่แตกต่างกันออกไปซึ่งสามารถจับคู่กับโซ่ทั้งเก้าเส้นได้

   อืมข้าพอเข้าใจแล้ว  ฟางเจิ้งจือพยักหน้าเบาๆ

  ทันใดนั้นเสียงตะโกนของปิงหยางก็ดังขึ้น

  ฟางเจิ้งจือยื่นมือออกไปรับปิงหยางที่ตกลงมาจากด้านบนได้ทันทวงที

  จากนั้นโดยไม่ต้องรอให้ปิงหยางพูดอะไรเขาพุ่งไปบนโซ่ทันที ปีกสีดำของเขากางออก

   อย่า…อย่าเหยียบบนโซ่…มันมีสายฟ้า… ปิงหยางดูกังวลเป็นอย่างมาก

   ข้ารู้ ฟางเจิ้งจือตอบกลับเรียบๆ

   บินเจ้าควรบิน…     เจ้าคิดว่าจะไม่มีกระแสไฟฟ้าถ้าพวกเราบินงั้นหรือ? ฟางเจิ้งจือรู้สึกพูดไม่ออก แต่เขาพบว่าเรื่องที่ปิงหยางพูดดูตลกมาก

  อย่างไรก็ตามเขารู้นิสัยของปิงหยางดี นางหัวดื้อและชอบการแข่งขัน แต่มันก็ทำให้นางดูน่ารักเช่นกัน

   ถ้าเจ้าบินจะถูกฟ้าผ่าด้วยงั้นหรือ?เจ้ารู้ได้ยังไง?  ปิงหยางไม่เชื่อฟางเจิ้งจือ

   เจ้าบอกข้า! 

   ข้าบอกเจ้าตอนไหน? 

   ใช่เจ้าบอกว่ามู่ฉิงเฟิงเคยเข้ามายังสถานที่แห่งนี้ หลังจากที่เขาเข้ามาเขาก็ออกไปและเรียกฉือกูเหยียนเข้ามา  ฟางเจิ้งจืออธิบายปิงหยางขณะพุ่งไปด้านหน้าเรื่อยๆ

   มันเกี่ยวกับการที่เจ้าบินแล้วจะถูกฟ้าผ่าได้ยังไง? ปิงหยางไม่เข้าใจ

   ดูแผนภาพบนพื้น แทนที่ทจะอธิบาย ฟางเจิ้งจือชี้ไปที่สัญลักษณ์บนพื้น

  ปิงหยางมองตามลงไปทันที  แม้นางจะอยู่สูงจากพื้นประมาณสิบเมตรแต่ก็เห็นสัญลักษณ์บนพื้นชัดเจน

  จากนั้นดวงตาของนางก็เบิกกว้าง

   เจ้า..เจ้ารู้เรื่องนี้มานานแล้วหรือ? ใบหน้าของปิงหยางกลายเป็นสีแดงทันทีที่เห็นสัญลักษณ์บนแผนภาพ

   ข้าเองก็พึ่งเห็นมันเช่นกัน ฟางเจิ้งจือไม่ได้โง่พอที่จะบอกว่าเขาเห็นมันตอนที่นางตกลงมา

  เขาอาจจะถูกกัดถ้าพูดเช่นนั้นออกไป

  ยิ่งไปกว่านั้นเขามั่นใจว่าแผนภาพเกี่ยวกับโซ่ทั้งเก้าเส้นจริงๆ

  แต่ปิงหยางได้ทดสอบมันให้กับเขา

  ดังนั้นต่อให้เขาโง่แค่ไหนก็น่าจะเดาสัญลักษณ์บนพื้นได้เขาเดาว่าสัญลักษณ์บนพื้นถูกสร้างขึ้นหลังจากที่มู่ฉิงเฟิงพาฉือกูเหยียนมาที่นี่

  มู่ฉิงเฟิงเป็นใคร?

  เขาเป็นผู้นำศาลาเต๋าสวรรค์หนึ่งในเซียนที่ทรงพลังที่สุดในดินแดนศักดิ์สิทธิ์

  ด้วยระดับพลังของเขาเหตุผลเดียวที่มู่ฉิงเฟิงออกไปจากปราสาทหินสีดำแห่งนี้ทั้งๆที่สำรวจไปได้แค่ครึ่งเดียวเป็นเพราะเขาเจอปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยแค่พลังอย่างเดียว

  ถ้าไม่สามารถใช้พลังแก้ไขได้ก็ต้องใช้สติปัญญาแน่นอนว่ามู่ฉิงเฟิงก็มีมันเช่นกัน เขาไม่จำเป็นต้องออกไปขอความช่วยเหลือถ้าเขาพบกับดักธรรมดาๆ

  แต่ความจริงคือมู่ฉิงเฟิงกลับไปพาฉือกูเหยียนมาด้วย

  เช่นนั้นหมายความว่าท่ามกลางผู้คนในศาลาเต๋าสวรรค์มีเพียงฉือกูเหยียนที่สามารถแก้ปริศนานี้ได้

  คำตอบนั้นอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว

  มู่ฉิงเฟิงได้ฝึกทั้งดาบและจิตใจแม้เขาจะทรงพลังแต่ในเรื่องการแก้ปัญหาและวิเคราะห์สิ่งต่างๆเขาไม่สามารถเปรียบเทียบกับฉือกูเหยียนที่เติบโตขึ้นมาจากกองตรวจการศักดิ์สิทธิ์ได้ นางได้ศึกษาทั้งเรื่องการทหาร เขตแดน กับดัก ค่ายกลตั้งแต่ยังเด็ก

  แน่นอนว่าอีกข้อที่สามารถพิูจน์ได้

  ไม่มีศพของกลุ่มพันธมิตรฝ่ายมนุษย์อยู่ที่นี่

  ฟางเจิ้งจือขยับร่างกายเล็กน้อยเขาไม่แปลกใจกับกระแสไฟฟ้าที่เกิดขึ้น เขาขยับปีกและบินไปยังโซ่อีกเส้นทันที

   เจ้าไร้ยางอายเจ้าไม่ได้บอกว่าคิดออกแล้วงั้นหรือ?!  ปิงหยางกำลังเป็นบ้า

   ข้าพูดแบบนั้นงั้นรึ? ฟางเจิ้งจือทำเป็นไรเดียงสา

  มันเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่เข้าใจสัญลักษณ์ที่ถูกลบออกไปด้วยการมองเห็นเพียงครั้งเดียวยิ่งไปกว่านั้นความรู้ของเขาในเรื่องพวกนี้ก็ด้อยกว่าฉือกูเหยียนมาก

  คำว่า’พอใช้ได้’นั้นน่าจะอธิบายความเข้าใจของฟางเจิ้งจือในการสร้างค่ายกลหรือเขตแดนได้

  อย่างไรก็ตามฟางเจิ้งจือนึกออกบางส่วนแล้ว

   กรี้ด…ข้ากำลังจะตาย! ปิงหยางกรีดร้องหลังจากได้สติ

   เจ้าโง่หรือไงต่อให้พวกเราถูกฟ้าผ่าข้าก็เป็นคนแรกที่ถูกฆ่าตาย!  ฟางเจิ้งจือพูดไม่ออก

   หืม?ทำไม? ปิงหยางไม่เข้าใจ แต่ท่าทีของนางกลับไปเป็นปกติ เห็นได้ชัดว่าก่อนหน้านี้นางแค่แกล้งทำไปเท่านั้น

   เจ้าไม่รู้สึกงั้นหรือว่าโดนฟ้าผ่าแต่ทำไมไม่เจ็บ? 

   อืมดูเหมือนจะเป็นอย่างที่เจ้าพูด…ทำไมกัน? 

   เพราะข้าบังให้เจ้าไง! 

   ข้าเข้าใจแล้วข้าไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น อย่างไรก็ตามทำไมเจ้าบังให้แต่ข้ายังโดนไฟดูดอยู่  ปิงหยางพยักหน้าด้วยความสับสนอีกครั้ง

   พวกเราควรแบ่งปันความเจ็บปวดซึ่งกันและกันไงข้ากลัวเจ้าจะว่างจนหลับไป 

   … ปากของปิงหยางอ้าออกเล็กน้อยขณะมองฟางเจิ้งจือและกำหมัดแน่น

  อย่างไรก็ตามนางไม่ได้ต่อยฟางเจิ้งจือ

  เพราะขณะที่นางกำมือนางเห็นฟางเจิ้งจือขยิบตาจากนั้นสายฟ้าก็ผ่าลงมาที่พวกเขา

  จากนั้นฟางเจิ้งจือก็กระโดดไปยังโซ่สีดำอีกเส้น

  เห็นได้ชัดว่าฟางเจิ้งจือถูกไฟฟ้าดูดอีกครั้ง

  อย่างไรก็ตามครั้งนี้ปิงหยางกลับไม่รู้สึกว่าตัวเองถูกไฟดูดนางเพียงรู้สึกชาและไม่มีความเจ็บปวดแม้แต่น้อย

   เจ้าไร้ยางอาย… หัวของปิงหยางโน้มตัวเข้าหาฟางเจิ้งจือนางรู้ว่าแม้ฟางเจิ้งจือจะไม่ยอมรับแต่เขาได้ปิดกั้นสายฟ้าที่มาจากโซ่สีดำทั้งหมดด้วยตัวเอง

  ส่วนกระแสไฟฟ้าที่ส่งมาถึงตัวนางก่อนหน้านี้…

  นั่นเป็นเพราะฟางเจิ้งจือยังไม่สามารถเข้าใจพลังของสายฟ้าได้ทั้งหมด

  …

  ด้วยความรวดเร็วของฟางเจิ้งจือไม่นานพวกเขาทั้งสามคนก็เข้าใกล้กับเมฆสายฟ้าสีดำที่ลอยอยู่เหนือโซ่ทั้งเก้าเส้น

  ยิ่งพวกเขาเข้าใกล้มากเท่าไรเสียงสายฟ้ายิ่งดังมากขึ้นเท่านั้น

  ทันทีที่พวกเขาทั้งสามทะยานเข้าใส่สายฟ้าปิงหยางสัมผัสได้ถึงความอบอุ่น ชุดเกราะสีดำปรากฎขึ้นบนร่างของนางพร้อมกับแสงสีทองที่เปล่งออกมา

  สายฟ้าไหลผ่านชุดเกราะสีดำแต่นางกลับไม่รู้สึกเจ็บปวด

  นางรู้สึกสนุกสนานมาก

   เจ้าไร้ยางอายแข็งแกร่งมาก… ปิงหยางเงยหน้ามองร่างในชุดเกราะสีดำที่จับมือของนางเอาไว้แน่น

  ตูม!สายฟ้าสีทองพุ่งลงมาจากท้องฟ้า

  ฟางเจิ้งจือบิดร่างไปด้านข้างเล็กน้อยเพื่อหลบมันและทะยานขึ้นไปด้านบนอีกครั้ง

  ด้านปิงหยางนางตกใจมากจนปากของนางอ้าค้างนางไม่สามารถเชื่อได้ว่าฟางเจิ้งจือนั้นเร็วขนาดหลบสายฟ้าได้

   เมื่อ…เมื่อไรข้าถึงจะมีพลังระดับนี้บ้าง… 

  ตูม!

  ขณะที่ปิงหยางกำลังคิดนางพบว่าเมฆสีดำที่เต็มไปด้วยสายฟ้าได้หายไปและพบว่านางได้อยู่ในโลกใหม่

  เสียงของสายฟ้าได้หายไป

  ตรงหน้านางเป็นฉากอันงดงามชวนตกตะลึงมีภูเขาทอดยาวไปสุดสายตา

  ด้านล่างณ จุดที่พวกนางอยู่เป็นภูเขาสูงที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้โบราณ  อย่างไรก็ตามสิ่งที่แปลกคือ…

  ต้นไม้โบราณเหล่านั้นขึ้นกลับหัวปลายยอดของพวกมันติดอยู่กับพื้น

  ปิงหยางมองไปรอบๆพร้อมกับปากที่เปิดกว้างไม่ใช่แค่ต้นไม้เท่านั้นที่เป็นแบบนี้ แม้แต่น้ำตกยังไหลจากก้นเบื้องสู่ด้านบนของภูเขา

  ยิ่งไปกว่านั้นภูเขาก็กลับด้านพวกมันห้อยอยู่กลางอากาศ

  นั่นหมายความว่าพวกเขาไม่ได้ยืนอยู่บนยอดเขาแต่เป็นด้านล่างสุด

  หมู่เมฆลอยไปมาเหนือหัวพวกเขา

   ว้าวที่นี่งดงามจริงๆ!  แม้ว่านางจะตกใจแต่นางกลับพูดเอ่ยชมความงดงามออกมาเป็นอย่างแรก

   อืมมันสวยงามมากจริงๆ  ฟางเจิ้งจือพยักหน้าอย่างจริงจัง

  แม้ว่าโลกเบื้องหน้าพวกเขาจะกลับหัวกลับหางแต่ฉากตรงหน้าเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยคิดว่าจะได้เห็น  คำว่า’งดงาม’ไม่เพียงพอที่จะอธิบายฉากตรงหน้า

  อย่างไรก็ตามสิงที่แปลกคือมีดวงตาจำนวนมากกำลังจ้องมองพวกเขา

   ใครกัน! 

   พวกเจ้าเป็นใคร?! 

  คนสองคนที่กำลังชื่นชมความงดงามของธรรมชาติโดยไม่สนใจพวกเขาแม้แต่น้อย

  ยิ่งไปกว่านั้นมีเรื่องที่ทำให้พวกเขาตกใจยิ่งกว่าเดิมเพราะพวกเขาเห็นหญิงสาวในชุดสีขาวกำลังสลบอยู่

   นั่น… 

   หยุนชิงวู! 

   นายน้อยของอสูรและปีศาจ! 

  ดวงตาทุกคู่เบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อ

   ใช่แล้วเป็นหยุนชิงวู ข้าบังเอิญจับตัวนางได้  ฟางเจิ้งจือกล่าวขึ้นขณะเห็นดวงตาจำนวนมากกำลังมองมาที่พวกเขา  ……………………………………..

 

Gate of God

Gate of God

GoG, 神门
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2015 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Gate of Godเรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset