Gate of God – ตอนที่ 255

ตอนที่ 255 เลือดสีม่วง

ฉิน ซูเหลียน ไม่ได้พูดอะไร แต่นางยืนอยู่ข้างๆ ฟาง เฮ่าเตอ นี่คือวิธีที่นางสนับสนุนสามีของตัวเอง และเต็มใจที่จะรับผิดชอบในการกระทำของลูกชาย

 

แม่ทัพจ้องไปที่พวกเขาทั้งสอง ด้วยความเหยียดหยาม

 

แม้จะรู้ว่าพ่อแม่ของ ฟาง เจิ้งจือ นั้นเป็นชาวบ้านธรรมดา แต่เขาก็คาดหวังว่าจะดูภูมิฐานกว่านี้ อย่างน้อยที่สุดก็ควรจะอ่านหนังสืออก แต่ทั้งสองคนกลับเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดา

 

เขาทั้งสองสามารถเลี้ยงดูผู้ที่มีความสามารถแบบนั้นขึ้นมาได้ยังไง

แม้ว่าแม่ทัพจะไม่อยากเชื่อ แต่เขาก็รู้สึกโล่งใจ เพราะทั้งสองคนเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดา

“เจ้าเป็นพอแม่ของ ฟาง เจิ้งจือ งั้นรึ?” แม่ทัพถาม

 

“ใช่” ฟาง เฮ่าเตอ ตอบ

“เอาตัวพวกเขาไป!” แม่ทัพสั่ง

 

ขณะที่ได้ยิน ท่าทีของรองแม่ทัพก็เปลี่ยนไปทันที พวกเขาลังเลใจ เพราะเคยได้ยินมาว่า ฟาง เจิ้งจือ ฆ่าทหารไปแล้ว 2 คน

พวกนั้นถูกจัดการเพราะไปดูหมิ่นพ่อแม่ของเขา

พ่อแม่ของ ฟาง เจิ้งจือ คือจุดอ่อนที่ใหญ่หลวงของเขา แต่พวกเขาก็เป็นเหตุให้ ฟาง เจิ้งจือ ต้องบ้าคลั่ง

 

“ท่านแม่ทัพ กระผมคิดว่าเราควรจะ … “

“ทำไม? เจ้าจะให้ข้าทำเองรึ? “ แม่ทัพไม่อยากจะเป็นศัตรูกับ ฟาง เจิ้งจือ ถ้าไม่จำเป็น ฟาง เจิ้งจือ นั้นเป็นคนที่มีชื่อเสียง

 

ผู้ที่มีคะแนนสูงที่สุดในการทดสอบทั้งระดับมณฑลและระดับเมือง

เข้าถึงระดับสะท้อนสวรรค์ตั้งแต่อายุ 15 นอกจากนี้ยังไม่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับกองตรวจการศักดิ์สิทธิ์อย่างแน่ชัด

 

แม้ผลของการทดสอบระดับจักรพรรดิจะยังไม่ออก แต่ความสามารถของ ฟาง เจิ้งจือ ก็เป็นที่ประจักษ์ในสายตาของทุกคนแล้ว

แต่ เขามีทางเลือกหรือไม่กัน?

ตั้งแต่ที่เขารับภารกิจนี้และเข้ามาสู่หมู่บ้านภูเขาทางเหนือนั้น เขารู้ว่ามีเพียงวิธีเดียวเท่านั้น

 

เขา หรือ ฟาง เจิ้งจือ จะต้องตาย

 

ทำไมเขาต้องเป็นศัตรูกับคนที่ไม่มีทางชนะได้แน่ๆ?

“รับทราบ!” รองแม่ทัพทั้ง 3 คนกัดฟันแน่นเมื่อได้ยินคำสั่ง พวกเขาอาจจะมีความลังเล แต่พวกเขารู้ดีว่าถอยหลังกลับไม่ได้อีกแล้ว

การจับกุมทั้งสองคนเป็นหนทางเดียวที่ ฟาง เจิ้งจือ จะยอมจำนน

ในขณะที่ ฟาง เจิ้งจือ ยอมจำนนแล้ว พวกเขาจะฆ่าฟาง เจิ้งจือ

“พวกเจ้าอย่าหวังจะได้ทำร้ายท่านลุง!” จาง หลี่ ยืนขวางพวกเขา

“หลบไปซะ!” รองแม่ทัพตวาด

รองแม่ทัพอีก 2 คน ลงมาจากม้า พวกเขาชักดาบออกมา พร้อมที่จะจู่โจมทันที

 

“ข้ามศพข้าไปก่อน!”

“งั้นก็ลงนรกไปซะ!” รองแม่ทัพตวัดดาบขึ้น ปลายดาบฟาดลงไปที่ร่างของ จาง หลี่ อย่างรวดเร็ว

จาง หลี่ เคยมีประสบการณ์ต่อสู้กับพวกสัตว์ร้ายมาก่อน แม้จะไม่ทรงพลังเท่ารองแม่ทัพแต่ก็ไม่ได้ไร้ความสามารถ

ขณะที่เห็นดาบฟาดลงมา เขาเคลื่อนตัวหลบไปข้างๆ อย่างไรก็ตามดาบของรองแม่ทัพนั้นเร็วมากจนเฉียดไหล่ของเขาไปเล็กน้อย

“สู้กับพวกมัน!”

“ถ้าหากไม่มีครอบครัวฟาง เราก็ไม่มีวันนี้!”

“เจิ้งจือ มีปัญหาเพราะหมู่บ้านของเรา เราจะต้องรับผิดชอบ! สู้กับพวกมัน! “

“ใช่แล้ว จะให้เกิดอะไรกับครอบครัวฟาง ไม่ได้ ไม่งั้นพวกเราคงไม่มีหน้าไปพบ เจิ้งจือ แน่! “

เมื่อพวกชาวบ้านเห็นอย่างนั้นก็เริ่มฮึกเหิมขึ้น พวกเขาทั้งหมดเริ่มโจมตีด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเขามี

พวกเขาเขวี้ยงจอบ, พลั่ว, ช้อนซ้อม, เสาไม้, ก้อนหิน …

รองแม่ทัพททั้ง 3 คน ไม่อยากจะเชื่อ ทั้งหมู่บ้านกล้าก่อกบฏได้ยังไง?

“พวกเจ้าอยากเป็นกบฏกันนักใช่ไหม? ! “ รองแม่ทัพที่ทำให้ จาง หลี่ บาดเจ็บกล่าวขึ้น เขาเริ่มตวัดดาบอีกครั้ง

 

“พลังของเขาช่างน่าหวาดกลัว”

 

“แปะ!”

ขณะที่พวกชางบ้านกำลังหายตกตะลึง ก็เกิดเสียงหนึ่งดังขึ้น

รองแม่ทัพไม่อยากจะเชื่อเมื่อก้มลงดูที่หน้าอกตัวเอง มีก้อนโคลนอยู่บนหน้าอกของเขา มีคนโยนมันมา

 

ชาวบ้านกล้าที่จะต่อต้านกองทัพ?!

 

รองแม่ทัพโกรธมาก เขามองไปที่กลุ่มคนและตระหนักได้ว่าทุกสายตากำลังจับจ้องมาอย่างขึงขัง

 

“เทียน หว่าจื้อ!”

“เขาคือ … เทียน หว่าจื้อ! “

เด็กตัวน้อยวัย 3 ขวบ ถือธนูไม้เล็งมาที่รองแม่ทัพนางสวมชุดตัวหลวมและมีน้ำมูกไหลออกมา

“สารเลว!” เด็กอายุ 3 ขวบแผดเสียงของนางออกมานางมีความกล้าอย่างน่าทึ่ง

 

“ข้ายิงโดน ข้ายิงโดน!”

ชาวบ้านทุกคนเงียบสงัด ขณะที่นางกำลังตื่นเต้น

แม้ฝ่ายตรงข้ามจะมีแค่ 4 คน แต่ชาวบ้านทั้งหมดก็ไม่ใช่คู่มือของพวกเขา

 

พวกเขาแค่ทำทา่าทีไปอย่างนั้น ไม่มีใครคิดจะทำร้ายพวกแม่ทัพจริงๆ

“ยิงเขาเลย!”

 

“เขวี้ยงใส่พวกเขา!”

อย่างไรก็ตามการยิงของ เทียน หว่าจื้อ ได้ทำให้เด็กคนอื่นๆร่าเริง ภายในเวลาไม่นาน ก่อนดิน ก้อนโคลน ก็ถูกขว้างไปที่รองแม่ทัพ

เด็กๆหลายคนในหมู่บ้านชอบเล่นหนังสติ้ก น้องคนสุดท้องอายุไม่ถึง 2 ขวบ และอายุมากที่สุดก็ 7 ขวบ

“ปัก ปัก ปัก ปัก ปัก!” เสียงยังคงดังขึ้นต่อเนื่อง

แม้ทัพไม่สามารถระงับความโกรธได้อีก การต่อต้านของชาวบ้านก็เพียงพอที่จะเรียกว่ากบฏได้แล้ว

“ฆ่า!” แม่ทัพ ออกคำสั่ง วิธีเดียวที่จะหยุดความวุ่นวายได้คือการฆ่า

ทันทีที่เขาออกคำสั่งเสร็จ ดาบคู่สีดำก็ปรากฎออกมา อันหนึ่งใหญ่ อีกอันนั้นเป็นดาบบางๆ

 

“ฟุ้บ!” เขาเหวี่ยงดาบเข้าหาฝูงชน

 

เพียงไม่นาน ชาวบ้าน 4-5 คน ได้รับบาดเจ็บ

ในฐานะผู้ที่คุ้มกันรอบๆภูเขาคังหลิง แม่ทัพมีระดับพลังอยู่ในระดับสะท้อนสวรรค์ขั้นสูง  1 ใน 3 รองแม่ทัพ นั้นอยู่ในระดับสะท้อนสวรรค์ขั้นต้น ส่วนอีก 2 คนอยู่ในระดับผนวกดารา ชาวบ้านไม่มีทางต่อสู้กับพวกเขาได้

“อ๊าก?! ข้าเจ็บ!”

“พวกเขากำลังจะฆ่าเรา!”

 

“สู้กับพวกเขา!”

ชาวบ้านไม่ได้วิ่งหนี มันอาจจะเป็นการตัดสินใจที่โง่เขลา แต่พวกเขาก็คิดดีแล้ว

ถ้าพวกเขาหนีไปตอนนี้ ทุกอย่างจะไม่สามารถหวนกลับไปได้

 

“เป็นแค่สวะ!” ใบหน้าของแม่ทัพดำมืดยิ่งขึ้น เขาคิดจะใช้การโจมตีครั้งเดียวเพื่อกดดันชาวบ้าน เขาไม่คิดว่าพวกชาวบ้านกลับลุกฮือขึ้นมา

ชาวบ้านบางคนได้ยกธนูล่าสัตว์ขึ้นมา

 

“ยิง!”

หน่วยล่าสัตว์มักถือธนูอยู่ในมือตลอดเวลา ตอนนี้ลูกศรอันแหลมคมกว่า 30 ดอก พุ่งเข้าใส่ 4 แม่ทัพ

“เหอะ ช่างหาญกล้า!” แม่ทัพก้มหัวลงเมื่อเห็นลูกธนู ก่อนจะระเบิดคลื่นพลังสีแดงออกมา ก่อนมันจะกลายเป็นเปลวเพลิงเมื่อเข้าไปใกล้ชาวบ้าน

มันการเป็นเขตแดนเปลวเพลิง

ลูกศรถูกเผาไหม้และทำลายทันที ก่อนจะตกลงไปที่พื้น

“พวก เศษสวะ ข้าจะสังหารพวกเจ้าให้หมดทุกคน!”แม่ทัพเริ่มตวัดดาบไปมา และใช้เปลวเพลิงเพื่อกดดันชาวบ้าน หลายคนติดอยู่ในทะเลเพลิง

“อ่า … อา..อา … “

“ดับไฟเร็ว!”

 

“น้ำ น้ำอยู่ไหน… “

ชาวบ้านไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน พวกเขารู้ว่าแม่ทัพนั้นแข็งแกร่ง แต่ไม่นึกว่าจะแข็งแกร่งขนาดนี้

นี่คือพลังของผู้มีอำนาจใช่หรือไม่?

“เขาเป็นผู้ฝึกพลัง!”

“นี่คือพลังของเต๋าแห่งการสรรค์สร้างงั้นรึ?”

ชาวบ้านหลายคนเคยได้ยิน แต่ไม่เคยเห็นมาก่อน

“หยุด!” ขณะที่ชาวบ้านกำลังตื่นตระหนกมีเสียงดังขึ้น จากนั้นนักปราชญ์คนหนึ่งก็ก้าวออกมา

“ท่านแม่ทัพ ท่านอยู่ในระดับสะท้อนสวรรค์ แต่คิดจะทำร้ายคนธรรมดางั้นรึ?!”

“เจ้าคือใคร?!” แม่ทัพ ระวังตัวทันที เมื่อเห็นชายวัยกลางคนเดินออกมา

“ข้า หวัง อันฮุย เป็นอาจารย์ของหอแห่งเต๋าที่นี่ และเป็นคนของกองตรวจการศักดิ์สิทธิ์! “ ชายวัยกลางคนตอบอย่างเคร่งขรึม

“คนของกองตรวจการศักดิ์สิทธิ์?”

 

“ใช่”

“ฆ่ามันซะ!” แม่ทัพมีท่าทีจริงจัง  อย่างไรก็ตาม เขาเกรงกลัวว่าอาจารย์คนนี้จะรายงานไปที่กองตรวจการศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมาก

 

รองแม่ทัพทั้ง 3 คน วิ่งไปทาง หวัง อันฮุย ทันที พวกเขาเข้าใจเจตนาของแม่ทัพดี

“เจ้ามันรังแกคนอ่อนแอ!” หวัง อันฮุย ท่าทีเปลี่ยนไปทันที เขาไม่ได้อยากตัวเองเข้าไปยุ่งกับปัญหา แต่เขาทนเห็นชาวบ้านถูกรังแกไม่ได้

“สารเลว! เจ้าไม่เพียงแต่คุกคามและจับตัวลูกชายของพวกเรา? ข้าจะไม่ให้เจ้าได้มีโอกาสได้ทำอีก! “ ฟาง เจิ้งจือ เป็นคนสุภาพ แต่เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผลักดันให้เขาเป็นแบบนี้

 

เขาเอาดาบจ่อที่คอ

 

เลือดไหลออกมาจากลำคอ ดาบได้เจาะผ่านผิวหนังลงไปแล้ว

ฉิน ซูเหลียน เองก็ถือกริชไว้ในมือ นางเล็งไปที่หัวใจ ทั้งหมดที่นางจะทำคือกดมันลงไป

“เจ้าทั้งสอง … หยุดก่อน!” แม่ทัพกังวลทันที

ถ้าเขาสามารถจับกุมทั้ง 2 คนได้ ก็จะจับกุม ฟาง เจิ้งจือ ได้ แต่ถ้าพวกเขาตาย?

การจับกุม ฟาง เจิ้งจือ จะไม่เป็นเรื่องง่ายอีกต่อไป

 

จะเป็นยังไงถ้า ฟาง เจิ้งจือ ไม่เผยตัวออกมา? จะเกิดอะไรขึ้น ถ้า ฟาง เจิ้งจือ กลับไปที่เมืองหลวงและประกาศสิ่งที่พวกเขาทำที่นี่? ผลที่ตามมาอาจเป็นเรื่องเลวร้าย เขาต้องกำจัด ฟาง เจิ้งจือ ให้ได้ก่อนที่ทุกอย่างจะเลวร้ายไปมากกว่านี้

“ท่านลุงเฮ่าเตอ อย่าทำอย่างนั้น!”

 

“น้องเฮ่าเตอ อย่า!”

“ครอบครัวฟางอย่าทำอะไรโง่ ๆ ถ้า เจิ้งจือ เห็นเข้า พวกเราคงเข้าหน้าเขาไม่ติด! “

จาง หยางปิง และ จาง หลี่ ตะโกนร้องขึ้นมาทันที ชาวบ้านอื่นๆก็ตะโกนขึ้นมาเช่นกัน บางคนที่เคยได้รับการช่วยเหลือจาก ฟาง เจิ้งจือ ก็คุกเข่าอ้อนวอน

 

Gate of God

Gate of God

GoG, 神门
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2015 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Gate of Godเรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset