Gate of God – ตอนที่ 259

ชาวบ้านทุกคนต่างตกตะลึง

 

พวกเขาคิดว่ากองทัพได้ถูกจัดการแล้ว  พวกเขาไม่คิดว่ากองทัพจะฉวยโอกาสตอนที่ ฟาง เจิ้งจือ วางอาวุธลง

เหล่าชาวบ้านต่างไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อย

อยางไรก็ตาม ฟาง เจิ้งจือ เข้าใจ นี่เป็นการดิ้นรนครั้งสุดท้ายของ เหล่ารองแม่ทัพ ถ้า ฟาง เจิ้งจือ ไม่ตาย คงเป็นพวกเขาเองที่ต้องตาย

นอกจากนี้ทหารนั้นใช้ชีวิตตามคำสั่งที่ไดรับมา

แม้ว่าพวกเขาจะกลัว ฟาง เจิ้งจือ แต่พวกเขาก็เคารพคำสั่งและทำตามคำสั่งที่ได้รับ ทหารยังคงปาหอกเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

ที่สำคัญ ฟาง เจิ้งจือ นั้นได้ฆ่าคนไปเป็นจำนวนมาก บางคนก็เป็นพี่น้อง บางคนก็เป็นเพื่อนแท้

ทุกคนได้ใช้เวลามาด้วยกันหลายปี

ฉิน ซูเหลียน หน้าซีด ขณะเห็นฝนหอกที่ล่วงหล่นลงมา นางคิดจะปกป้อง ฟาง เจิ้งจือ ด้วยตัวของนางทันที

ฟาง เจิ้งจือ สามารถเดาได้ว่า ฉิน ซูเหลียน คิดจะทำอะไร ตั้งแต่ตอนที่เขาเห็นหอกพุ่งเข้ามา

 

เพราะว่า…

ฉิน ซูเหลียน นั้นเป็นแม่ของเขา

ก่อนที่ ฉิน ซูเหลียน จะได้ไปไหน ฟาง เจิ้งจือ ก็ดึงแม่ของตัวเองมาไวในอ้อมแขน

ความกลัวของ ฉิน ซูเหลียน ลดลง บนหน้าผากของนางมีเหงื่อไหลออกมา นางคิดได้ว่าตัวเองได้ทำผิดพลาด นางไม่ควรรีบร้อนวิ่งออกมาเช่นนี้ ไม่ว่าจะฆ่าทหารไปมากแค่ไหน แต่ ฟาง เจิ้งจือ ก็ยังคงเป็นลูกชายของนาง

 

ลูกชายเพียงคนเดียว

ฟาง เจิ้งจือ มองไปที่ ฉิน ซูเหลียน หลังของเขาตอนนี้กำลังเผชิญหน้ากับฝนหอก ร่างกายของเขาคือโล่เพียงอย่างเดียวในตอนนี้

เขารู้ว่าเมื่อเผชิญหน้ากับหอกนับพัน ใช้หินกันจะดีที่สุด แต่เขาจะไปหาทรายมาจากไหนกัน?

ดังนั้น เขาจึงลองพยายามใช้น้ำเพื่อลดความเร็วของหอก อย่างไรก็ตาม มันเป็นเรื่องยากที่หอกจะพลาดเป้า

เขากำลังจะตายจริงๆ?!

 

ฟาง เจิ้งจือ เศร้าเล็กน้อย แต่เขาก็ทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลัง เขาได้พบกับชาวบ้านที่คอยดูแลเขา ไดพบกับครอบครัวที่อบอุ่น

“ตู้ม..ตู้ม… “

 

เสียงสะท้อนดังจากด้านหลังเขา

ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกว่า ควรจะพุ่งใส่เป้าหมายแล้ว อย่างไรก็ตาม พื้นที่น้ำที่เขาควบคุมไม่ได้ถูกโจมตีแม้แต่น้อย แล้วเสียงมาจากไหน?

ขณะที่เขากำลังคิดนั้น…

เขาหันกลับไปด้ยสัญชาติญาน

เขาเห็นบางสิ่งบางอย่างที่น่าทึ่ง มีดาบแสงสีเขียวอยู่ท่ามกลางฝนหอก …

ไม่!

 

มันเป็นดาบแสงจำนวนมาก

ดาบแต่ละเล่มเชื่อมต่อกันราวกับใยแมงมุม ดาบแสงเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันหอก

ทันทีที่หอกปะทะเข้ากับใยแมงมุมแสง ดาบแสงพลันระเบิดกลายเป็นแสงเล็กๆน้อยๆ ก่อนพวกมันจะกลับมารวมกันใหม่อีกครั้งหนึ่ง

“เต๋านั้นไร้สิ้นสุด สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา กฎที่ควบคุมโลกคือเต๋า! “ เสียงอันคมชัดดังขึ้นข้างๆเขา จากนั้นร่างหนึ่งที่สวมชุดสีดำก็พุ่งลงมาจากท้องฟ้า ราวกับอุกกาบาต

ไม่นานร่างนั้นก็มาหยุดข้างๆ ฟาง เจิ้งจือ

นางสวมหมวกหนังปิดบังส่วนหัวของนาง

ภายใต้หมวก ดวงตาอันสดใสจ้องมองไปยังเหล่าทหารและศพที่เต็มไปด้วยเลือด นางขมวดคิ้ว

“ฉือ กูเหยียน?” ฟาง เจิ้งจือ ตกใจ เขาไม่รู้ว่าตัวเองออกมาจากกลืนกินโลกได้ยังไง แต่เขาคิดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับสายฟ้าสีดำ

แล้ว ฉือ กูเหียยน ออกมาได้ยังไง?

 

“เต๋านั้นไร้สิ้นสุด สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา กฎที่ควบคุมโลกคือเต๋า! 

ฟาง เจิ้งจือ นั้นรู้ความหมายของคำพูดอันคลุมเคลือนี้

มันเป็นการตีความคำว่าเต๋า มันบอกว่าเต๋าแสดงถึงการเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงที่ไม่ได้เกิดขึ้นแบบสุ่ม แต่เปลี่ยนแปลงไปตามกฎและข้อบังคับ…กฎแห่งเต๋า  

สามารถอ้างอิงได้จาก หยิน และ หยาง รวมถึงธาตุทั้งห้าเช่นกัน ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนมาจากพื้นฐานง่ายๆ มันแสดงให้เห็นถึงเต๋า

 

แต่ทำไมนางมาพูดเรื่องนี้ตอนนี้?

ฟาง เจิ้งจือ มองไปที่ใยแมงมุมแสงบนหัว ทันใดนั้นเขาก็เข้าใจในทันที!

 

เต๋าให้กำเนิดสิ่งหนึ่ง จากหนึ่งก็กลายเป็นสอง สาม…และมันจะเป็นแบบนี้ต่ไปเรื่ยๆ !

 

ในที่สุดเขาก็เข้าใจ!

ฉือ กูเหยียน สามารถสร้างดาบแสงจำนวนมากขึ้นมาได้ภายในครั้งเดียว เมื่อใดก็ตามที่ถูกทำลายมันก็จะสร้างตัวเองใหม่ เป็นวัฏจักรที่จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ถือเป็นหนึ่งในวิชาตั้งรับท่ทรงพลังที่สุด

“มันคือความแตกต่างด้านความสามารถของพวกเราสินะ มากมายเหลือเกิน…?” ฟาง เจิ้งจือ นั้นเก่งกาจด้านทฤษฎี อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้มีประสบการณ์มากนัก

แต่ ฉือ กูเหยียน มีความเชี่ยวชาญด้านนี้มาก

นางสามารถป้องกันฝนหอกได้อย่าง่ายดาย ทหารทั้งหมดตกตะลึงกับสิ่งที่พวกเขาเห็น

มันเป็นผลงานของคนที่อยู่ในระดับสะท้อนสวรรค์อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามมีไม่กี่คนที่ทำแบบนี้ได้

หญิงนางหนึ่ง…

ความคิดหนึ่งเกิดขึ้นในใจของเหล่าทหาร พวกเขาไม่อยากเชื่อ เป็นไปไม่ได้! นางจะมาปรากฎตัวที่หมู่บ้านเล็กๆเช่นนี้ได้ยังไง?

รองแม่ทัพทั้งหมดต่างหน้าซีดทันที

 

ตาของพวกเขาเบิกกวาง ขณะมองไปยังคนที่ป้องกันการโจมตีของพวกเขา พวกเขารู้สึกสิ้นหวัง

ทันใดนั้น เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากไกลๆ

“พี่เหยียน ท่านเดินเร็วเกินไปแล้ว, ข้าตามทไม่ทันนะ!” ไม่นาน ร่างในชุดเกราะสีแดงเพลิง ก็ประโดดขึ้นมาที่หลังคาบ้านหลังหนึ่ง

ชุดเกราะของนางสะท้อนแสงอาทิตย์ยามเช้า มือด้านหนึ่งถือหอกสีแดง มีแสงไฟสีทองลุกโชนที่ปลายหอก

เมื่อทหารเห็นร่างนี้ ชื่อหนึ่งก็ปรากฎขึ้นมาในหัวทันที

“ปิง หยาง!”

“องค์หญิงที่องค์จักรพรรดิทรงรักใคร่มากที่สุด!”

ทหารทุกคนไม่อยากจะเชื่อว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น แค่ชุดเกราะก็เห็นๆกันอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นหอกในมือ …

 

พระเจ้าช่วย…

นั่นคือหอกหอกฉีหลิน ซึ่งเป็นหนึ่งในสิบสมบัติอันยิ่งใหญ่ที่สุดของอาณาจักรเซี่ย

“พี่เหยียน!”

 

“ปิง หยาง เรียกนางว่าพี่เหยียน?!”

“มีเพียงคนเดียวนั้นที่เป็นไปได้ ฉือ กูเหยียน จากกองตรวจการศักดิ์สิทธิ์ ที่แม่แต่องค์จักรพรรดิยังต้องให้เกียรตินาง!” 

“เป็น ฉือ กูเหยียน จริงๆ!”

ทหารทุกคนต่างถอยออกไป จากนั้นทุกคนก็คุกเข่าลง

 

“ยินดีที่ได้พบ องค์หญิง และท่าน ฉือ กูเหยียน!”

“องค์หญิง!”

 

“ท่าน ฉือ กูเหยียน?!”

 

ชาวบ้านไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น อย่างไรก็ตามทหารได้ทรุดตัวลงคุกเข่าแล้ว

“พวกเราเป็นเพียงคนธรรม พวกเราทราบซึ้งเป็นอย่างมากที่ได้พบพวกท่าน!”

หลังจากถกเถียงกันจบแล้ว ชาวบ้านต่างคุกเข่าลง เมื่อเห็น ฉือ กูเหยียน ยืนอยู่ข้างๆ ฟาง เจิ้งจือ พวกเขาต่างตกตะลึง

 

พวกเขาทั้งหมดจำได้

นางคือ กูหยาน ที่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในหมู่บ้านมาเกือบเดือนหนึ่ง

“นางเป็นเจ้าหญิง?!

“ข้า หวัง อันฮุย ยินดีที่ได้พบท่าน ฉือ กูเหยียน และ องค์หญิง!” หวัง อันฮุย รีบพุ่งไปข้างหน้า และคุกเข่าทันที

เขาไม่ได้ไปที่ลานเมื่อวานนี้ ยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่ได้เจอ ฉือ กูเหยียน กว่า 8 ปี เขาจึงไม่รู้เรื่องที่นางมาที่นี่

เขาราวกับอยู่ในเงามืดเพียงคนเดียว

อย่างไรก็ตามเมื่อได้ยินเสียงทหารและเดินเข้าไปใกล้ๆ เขาก็รู้ในทันทีว่านี่คือนายของเขา ฉือ กูเหยียน ธิดาแห่งกองตรวจการศักดิ์สิทธิ์

ทุกคนต่างคุกเข่า

ฟาง เฮ่าเตอ และ ฉิน ซูเหลียน ต่างพูดไม่ออก เขาคิดว่า ฉือ กูเหยียน อาจจะมาเป็นลูกสะใภ้

แต่ตอนนี้…นางเป็นดั่งเจ้าหญิง มันจะเป็นไปได้งั้นรึ?

“ลูก คุกเข่าเร็ว! ทักทายองค์หญิงทั้ง 2!”  ฉิน ซูเหลียน ดึง ฟาง เจิ้งจือ ขณะที่ตัวเองกำลังคุกเข่า นางคิดว่า ฟาง เจิ้งจือ ไม่รู้เรื่องนี้

“ท่านแม่ลุกขึ้น! ท่านพ่อไม่ต้องคุกเข่า! ฟาง เจิ้งจือ ดึง ฉิน ซูเหลียน ขึ้นมา

 

ฉือ กูเหยียน เองก็เดินไปช่วยพยุง ฉิน ซูเหลียน ขึ้นมาด้วยความเคารพ

 

“ท่านลุง ท่านป้า งุกขึ้นเถิด ข้าไม่ต้องการให้พวกท่านคุกเข่า ! “ ฉือ กูเหยียน ใช้พลังที่มองไม่เห็นกันไม่ให้ ฟาง เฮ่าเตอ คุกเข่าลง

“ตื่นได้แล้ว! ลุงหยางปิง! ทุกคนได้ได้สติสักที มีอะไรที่น่าคุกเข่าให้กัน?  ฟาง เจิ้งจือ มองไปทาง ปิง หยาง

 

ปิง หยาง โกรธทันที

“ฮึ่ม ข้าเป็นองค์หญิงนะ ทำไมพวกเขาถึงจะไม่คุกเข่าให้ข้า? “ อย่างไรก็ตามนางเห็นว่า ท่าทีของ ฟาง เจิ้งจือ เปลี่ยนไป นางจึ้งกล่าวเพิ่มทีนที  “ชาวหมู่บ้านภูเขาทางเหนือเหนือทุกคน โปรดยืนขึ้น!”

เจตนาของนางนั้นง่ายๆ ทหารยังคงคุกเข่าอยู่เหมือนเดิม

เมื่อไดยินดังนั้น ชาวบ้านทุกคนต่างลุกขึ้นด้วยความกลัว

ปิง หยาง เดินเข้ามาหา ฟาง เจิ้งจือ

“เจ้าไร้ยางอาย ข้า… ข้าคิดว่าเจ้าตายไปแล้วเสียอีก! ถ้าไม่ใช่เพราะพี่เหยียนบบอกว่าเจ้าจะกลับมาที่นี่ … “ ปิง หยาง สังเกตุเห็นหอกที่ปักอยู่ตามพื้น สายตาของนางพลันเปลี่ยนเป็นเยือกเย็นเมื่อมองไปที่ทหาร

“พวกเจ้ากล้าทำร้ายเจ้าหน้าที่ระดับ 4 ได้ยังไง!”

ทุกคนต่างตกตะลึงกับสิ่งที่ได้ยิน เจ้าหน้าที่ระดับ4? ใครกันที่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับ4?

หรือว่า…

 

เป็นไปได้ยังไง?!

ตามปกติการทดสอบน่าจะพึ่งสิ้นสุด แม้ว่า ฟาง เจิ้งจือ จะผ่าน แต่ก็ไม่มีทางจะเป็นเจ้าหน้าที่ได้เลย ยิ่งไปกว่านั้น ระดับ4?

 

ระดับ4….

มันเป็นเรื่องที่ใครคาดเดาไม่ได้แม้แต่น้อย

เมื่อรองแม่ทัพได้ยินต่างตัวแข็งค้างทันที พวกเขานั้นรู้ดีว่ากว่าจะเพิ่มระดับได้นั้นยากขนาดไหน

ตั้งแต่อนไหนที่มีคนได้ระดับ 4 จากการทดสอบระดับจักรพรรดิ?

อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ถูกกล่าวโดย ปิง หยาง  

Gate of God

Gate of God

GoG, 神门
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2015 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Gate of Godเรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset