“ซิง เฮ่า กลับมาแล้วรึ?”
“ทำไมถึงเร็วขนาดนี้!”
หลังจากเพึ่งได้รู้ข่าวเหตุการณ์ที่ภูเขาคังหลิงไม่นานมานี้ เมื่อได้ยินเสียงประกาศอีกเจ้าหน้าที่ทุกคนต่างตกตะลึง
“ให้เขาเข้ามาเร็ว!” จักรพรรดิ หลิน มู่ ไป่ ก้าวออกจากหอบัลลังก์เพื่อต้อนรับเขา
ไม่นานนัก ซิง เฮ่า ก็สวมชุดสีม่วงเข้ามา
“ฝ่าบาท ข้าล้มเหลวโปรดลงโทษข้า!” ซิง เฮ่า คุกเข่าลง
“เจ้าหน้าที่ซิง ลุกขึ้นเถอะ ข้ารู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่บนเขาคังหลิงเจ้าได้ปกป้องเสาหลักของอาณาจักรเราไว้ เจ้าล้มเหลวที่ไหนกัน? “ จักรพรรดิปลอบโยนเขา
“ใช่แล้ว ซิง เฮ่า เป็นท่านที่ได้รับความทุกข์ทรมารมากในครั้งนี้!”
“ดีแค่ไหนแล้วที่ท่านกลับมาได้”
“เหตุผลที่ข้าสามารถช่วยกองทัพทลายภูผาและหน่วยปีกสีชาดให้รอดพ้นจากการทำลายล้างได้นั้นเป็นเพราะความกล้าหาญของฑูตแห่งดาบ และความช่วยเหลือของ ฉือ กูเหยียน ในการต่อสู้แม้ว่าข้าจะมีความผิด แต่ข้าหวังให้ฝ่าบาทมอบรางวัลให้กับพวกเขา”ซิง เอ่าคุกเข่าลง
“ฟาง เจิ้งจือ?!”
“เขาเองก็อยู่ที่นั่นด้วยงั้นรึ?”
“ผู้ที่พึ่งเข้าสู่ระดับสะท้อนสวรรค์จะทำอะไรได้?”
เจ้าหน้าที่เริ่มถกเถียงในคำพูดของ ซิง เฮ่าจดหมายของเขามาถึงเมืองหลวงเมื่อ 2 วันก่อน
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้พูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากนัก
เจ้าหน้าที่ไม่รู้ว่า ฟาง เจิ้งจือ ได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเขาทำอะไร หัวหน้ากองตรวจการความมั่นคงถึงขอให้มอบรางวัลแก่เขา?
ซิง เฮ่า ไม่เคยมีส่วนร่วมกับด้านการเมือง และไม่เคยขอให้มอบรางวัลแก่เจ้าหน้าที่คนใด!
จักรพรรดิไขว้เขวเล็กน้อยเขารู้จักนิสัยของ ซิง เฮ่า ดี เขาไม่เคยขอรางวัลให้กับพวกมือใหม่ แต่ตอนนี้เขากลับขอ เด็กหนุ่มคนนั้นน่าจะทำเรื่องที่สำคัญมากเอาไว้
“เจ้าหน้าที่ซิง เจ้าอุตส่าห์ รีบกลับมา ข้าอยากจะหยุดการโต้เถียงเรื่องนี้จนกว่าจะถึงวันพรุ่ง! “ จักรพรรดิโบกมือให้เขา
“ขอรับ”
“จบการประชุม!”
“ซิง เฮ่า เชิญท่านไปที่หอสมุด”
“รับทราบ ฝ่าบาท!”
ยู่ ยี่ปิง มองไปที่ ซิง เฮ่า แววตาของเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวังแผนของเขาเกือบจะสมบูรณ์แบบแล้ว
ถึงอย่างนั้น ซิง เฮ่า ดันกลับมาในเวลาแบบนี้ ทำให้แผนต้องพังทลายลง
เขาจะรับมันได้อย่างไร?
“ซิง เฮ่า แห่งกองตรวจการความมั่นคง?! ทำไมคนที่ไม่เคยสนใจเรื่องการเมือง ถึงพูดถึง ฟาง เจิ้งจือ?ครั้งก่อนก็ราชาหลี่ฉิน คราวนี้ก็กองตรวจการความมั่นคง ตระกูลเหยียน ตระกูหนานกงเองก็ด้วย …เดี๋ยวก่อนสิตระกูลหนานกง …ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด อัจฉริยะที่หายไปกว่า 4ปี น่าจะปรากฎตัวขึ้นเร็วๆนี้! “
“หนานกง เฮ่า! 4 ปีก่อน เขาเอาชนะผู้ที่อยู่ในระดับอภินิหารได้ แม้ตัวเองจะอยู่แค่ระดับสะท้อนสวรรค์ก็ตาม ผ่านมา 4 ปีแล้ว …ความสามารถของเขาตอนนี้ ช่างเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นยิ่งนัก! “
รัฐมนตรีฝ่ายซ้าน ยู่ ยี่ปิง รู้สึกถึงความสำคัญของ “พลัง” ในศาลดี
ฟาง เจิ้งจือ อยู่ในจุดสูงสุดของเขาแล้วเขาผ่านอุปสรรคทั้งหมดตั้งแต่การทดสอบระดับมณฑลไปจนถึงระดับจักรพรรดิ นี่เป็นช่วงเวลาแห่งขุมพลัง
อย่างไรก็ตามเมื่อ ‘ขุมพลัง’ นี้แตกหัก ผลที่จะตามมานั้นไม่สามารถหยั่งถึง ‘ฟันเฟือง’ ทั้งหมดจะทำให้เขาต้องสูญสิ้น
“การทดสอบระดับสภา จะเป็นที่ที่เขาต้องพ่ายแพ้!”
…
7 ถัดมา หมู่บ้านภูเขาทางเหนือได้ต้อนรับกลุ่มคนพิเศษ
พวกเขาเป็นอาจารย์ที่ดีที่สุดทางดิแดนตอนเหนือ พวกเขามีความยโสและภูมิใจมาก พวกเขาควรจะสอนอยู้ในโรงเรียนที่ดีของแผ่นดิน ไม่ใช่หมู่บ้านที่ทุรกันดารแบบนี้
พวกเขาจะไม่โกรธได้ยังไง
อย่างไรก็ตามความโกรธของพวกเขาก็ไม่ได้อยู่นานนัก
ภายในครึ่งวัน ฟาง เจิ้งจือ เป็นเหมือนแสงของดวงอาทิตย์พวกเขาเดินไปรอบหมู่บ้านและกระจายความสุขไปทั่ว
การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ ปิง หยาง สับสน นางไม่เข้าใจว่า ฟาง เจิ้งจือ ทำอะไรกับอาจารย์พวกนี้
ทัศนคติของพวกเขาดูเหมือนจะเปลี่ยนไปแล้ว!
ปิง หยาง กลายเป็นอากาศธาตุเมื่อ ฟาง เจิ้งจือ ได้พบกับพวกอาจารย์
หลังจากที่พบกับเหล่าอาจารย์ ฟาง เจิ้งจือ ได้มอบทองชิ้นหนึ่งให้พวกเขา
บรรดาอาจารย์รู้สึกตะลึง ในฐานะอาจารย์ จักรพรรดิให้ค่าตอบแทนแก่พวกเขา พวกเขาจะรับทองคำแท่งจากผู้อื่นได้อย่างไร?
ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกไม่แปลกใจกับท่าทีของเหล่าอาจารย์และได้บอกเพิ่มว่า “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเขาจะเพิ่มเงินเดือนให้ 4 เท่า เป็นเบี้ยพิเศษจากข้าเอง เพื่อแรงจูงใจในการสอน! “
เหล่าอาจารย์อยู่ในความสับสน อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขารู้สึกถึงทองในมือ พวกเขาก็หัวเราะออกมา
ไม่มีใครโง่
เงินพิเศษนี้จะเป็นเงินชดเชยที่พวกเขาต้องทนลำบากอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้
ฟาง เจิ้งจือ รู้ว่าอาจารย์พวกนี้คิดออะไรเงินสามารถซื้อพวกเขาได้แค่ชั่วคราว เพื่อที่จะซื้อใจพวกเขาได้ทั้งหมด ต้องมอบความหวังให้แก่พวกเขา
ฟาง เจิ้งจือ นั้นทำให้พวกเขารู้สึกถึงความหวังที่ไม่เคยพบมาก่อน
มันเป็นความหวังที่พวกเขาไม่ได้เพ้อฝันขึ้นมาเอง
เขาแค่เพียงพูดเกี่ยวกับแผนการศึกษาในใจ เขาอธิบายเกี่ยวกับการรับนักเรียนและหลักสูตรพื้นฐาน เขายังบอกเกี่ยวกับการแบ่งนักเรียนออกเป็นชั้นต่างๆ เกรด วิชา ที่ใช้
ตอนแรก พวกอาจารย์ยังดูไม่มั่นใจเท่าไรนัก แต่ตอนนี้ความคิดของพวกเขาเริ่มเปลี่ยนไป
ใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมง พวกเขาถึงจะยอมรับ
จากนั้น ฟาง เจิ้งจือ ก็ได้เผยไพ่ตายออกมาอีกเขาทำให้ทุกคนมั่นใจกันว่าการเป็นหุ้นส่วนกันในครั้งนี้ทุกคนจะได้ประโยชน์
ฟาง เจิ้งจือ จะแบ่งรายได้ 20% จากโรงเรียน ให้อาจารย์แต่ละคนอย่างไรก็ตามเฉพาะอาจารย์ผู้ที่อยู่เกิน 3 ปีเท่านั้น
มันไม่ได้เป็นเรื่องที่ดูเอาเปรียบ เพราะถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เงิน แต่พวกเขาก็จะอยู่ที่นี่ 3 ปีอยู่แล้ว
ฟาง เจิ้งจือ รู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะซื้อใจอาจารย์ 50 คนอย่างไรก็ตามถ้าพวกเขาสอนตามแผนของ ฟาง เจิ้งจือ ผลลัพธ์จะเป็นตัวบอกทุกอย่างเอง
เขาได้เสนอไอเดียเกี่ยวกับ ‘หุ้น’ ให้พวกเขาทุกคน
3ปีจากนี้…
เมื่อพวกเขาห็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ฟาง เจิ้งจือ มั่นใจว่าอย่างน้อยก็ต้องมีคนตัดสินใจที่จะอยู่กับเขาอย่างแน่นอน
ต่อให้แผนการศึกษาของเขาจะล้มเหลว แต่การสอนของอาจารย์ 50 คน อย่างน้อยก็จะสร้างประโยชน์มากมายให้กับนักเรียน
แค่นี้ก็พอแล้วสำหรับเขา
…
การก่อสร้างในหมู่บ้านภูเขาทางเหนือดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
2 วันต่อมา
ฉือ กูเหยียน และ ปิง หยาง ได้จากไปพร้อมกัน ฉือ กูเหยียน ได้บอกกับ ฟาง เจิ้งจือ เรื่องหนึ่ง “ซิง เฮ่า ได้กลับไปที่เมืองหลวงแล้ว!”
ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้ไปสนใจอะไรมากนักถ้าฝนมันจะตกเขาก็หยุดไม่ได้ ทั้งหมดที่ทำได้ก็แค่เพียงซื้อร่มเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้นเขายังยุ่งอยู่กับการกลิ้งบอลหิมะลงจากภูเขา และยิ่งช่วงนี้เขาต้องคอยอธิบายกฎและการจัดการเรื่องต่างๆให้กับเหล่าอาจารย์
หวัง อันฮุย เป็นคนกลางในการอธิบายเรื่องเหล่านี้
ทุกอย่างดำเนินไปตามแผน อย่างไรก็ตาม ฟาง เจิ้งจือ กำลังรอคนคนหนึ่งอยู่ผู้ที่รู้ข้อมูลอย่างกว้างขวาง
เขาคิดว่า ซูจิว จะมา แต่เป็น วู่ จวี้เอ๋อ
รถม้าสีดำมาหยุดอยู่หน้าประตูจากนั้นชายสวมหน้ากากก็ลงมาและนำเงินเข้ามาในบ้าน ฟาง เจิ้งจือ
ไม่มีใครพูดอะไรออกมา
กล่องเงินถูกวางเอาไว้จนเต็มบ้าน
ชาวบ้านไม่เชื่อสายตาของพวกเขา
“เงิน … หาง่ายขนาดนี้เลยหรือ?”
ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้พูด หรือ หยุดพวกเขาริมฝีปากของเขากระตุกขณะที่เขาพึมพำกับตัวเองว่า “นี่อาจทำได้ง่ายกว่าการตรวจสอบ … เหตุผลที่ทำให้พวกเขาเปลี่ยนไปเป็นเงินที่เห็นได้ชัดมากเกินไป”
หลังจากการขนส่งเงินเสร็จสิ้น ประตูรถม้าถูกเปิดออก แต่ไม่มีใครก้าวออกมา
ฟาง เจิ้งจือ ไม่มีทางเลือก จึงเดินเข้าไปแทน
เขาเจอเข้ากับกลิ่นหอมของชา
“ข้าได้ยินว่าเจ้ากำลังสร้างโรงเรียน?” เสียงดังขึ้น
“มันอาจจะเป็นแค่ข่าวลือ ทำไมเจ้าต้องจริงจังด้วย?” ฟาง เจิ้งจือ เดินไปนั่งที่โต๊ะข้างในรถม้า
มีหญิงสาวนางหนึ่งนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
นางสวมเสื้อสีน้ำเงิน กระโปรงสีดำเย็บปักด้วยลายสีทอง บนไหล่มีผ้าคลุม คิ้วโค้งเป็นทรงราวกับภาพวาดศิลปะ ผิว มีแต้มสีแดงอยู่กลางหน้าผาก
นางช่างงดงาม ท่าทางของนางนั้นไร้ที่ติ
ความงามของ วู่ จวี้เอ๋อ นั้นไม่มีใครเปรียบได้เสน่ห์ของนางปรากฎอย่างชัดเจน
“แล้วถ้าข้าเห็นมันด้วยตาตัวเองละ?”
“ในเมื่อเจ้าเห็นแล้ว ข้าก็ไมาสามารถปิดบังเจ้าได้อีกต่อไป… “ ฟาง เจิ้งจือ ยกชาขึ้นมาจิบ และดื่มมันจนหมดในรอบเดียว
“ถ้วยเก้ามังกรชั้นสูง แต่เจ้ากลับจิบชาอย่างไร้มารยาทเช่นนี้?” วู่ จวี้เอ๋อ กล่าวอย่างไม่พอใจ
“มาตรฐานของเจ้านั้นดูสูงขึ้นนะ จากการพบกันครั้งล่าสุดของเราา เจ้ามีเหตุผลอะไรงั้นรึ? “ ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มและถาม
“ตอนนี้เจ้าเป็นเจ้าหน้าที่ระดับ 4 และกำลังจะสร้างโรงเรียน ศักยภาพของเจ้าก็ควรจะเพิ่มขึ้น เป็นธรรมดาที่มาตรฐานของข้าต้องสูงขึ้น “
“แล้ว?”
“เมื่อข่าวเรื่องที่เกิดขึ้นที่นี้ไปถึงเมืองหลวง เหล่าเจ้าหน้าที่ต้องเรียกให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบแน่นอน อย่างไรก็ตาม ตอนที่ ซิง เฮ่า กลับไป องค์จักรพรรดิก็ได้เลิกคุยเรื่องนี้ เขายังไม่ได้สั่งให้เจ้ากลับไป “
“ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะมีหูมีตาอยู่ในศาลเช่นกัน”
“ข้าคิดว่าอาจจะมีการถกเถียงเรื่องนี้อีกครั้งเมื่อเจ้ากลับไปยังเมืองหลวงชะตากรรมของเจ้าจะต้องถูกตัดสิน”
“เจ้าเดินทางมาใกล้เพื่อจะบอกข้าแค่นี้?” ฟาง เจิ้งจือ รินชาให้ตัวเอง
“หรืออีกนัยหนึ่ง ตราบใดที่เจ้าไม่กลับไปยังเมืองหลวง เรื่องนี้ก็จะไม่ถูกแก้ไข ฝ่ายกฎหมาย ไม่สามารถจับตัวเจ้าได้หากไม่มีคำสั่ง เจ้าสามารถเป็นฑูตห่งดาบได้ต่อไปและดำเนินกิจการโรงเรียนของเจ้า 2 ปีจากนี้…” วู่ จวี้เอ๋อ พูดต่อ
“จะเกิดอะไรขึ้น?”
“เมื่อการทดสอบระดับสภาเริ่มขึ้น เจ้าสามารถไปเข้าร่วมได้ โรงเรียนของเจ้าก็จะยังดำเนินต่อไป ข้าแน่ใจว่าเจ้าจะกลับบ้านมาด้วยตำแหน่งอันสูงส่ง สุดยอดพรสวรรค์” วู่ จวี้เอ๋อ ยกแก้วชาขึ้นจิบ
“ทั้งหมดนี้ฟังดูดี แต่เหตุผลของเจ้าที่บอกให้ข้ารอถึง 2 ปี ดูอ่อนแอไปหน่อย เจ้าบอกว่าปัญหาจะถูกแก้ไขถ้าข้ากลับไปที่เมืองหลวง แล้วทำไมข้าไม่ควรแก้ปัญหานี้เร็วๆละ? “ ฟาง เจิ้งจือ โยนเม็ดแตงโมเข้าปากและเคี้ยว
“ถ้าข้าบอกว่าข้ามีข่าวกรองบอกมาว่า ถ้าเจ้ากลับเมืองหลวงตอนนี้ เจ้าจะพบกับช