คนที่ฟื้นขึ้นมาพยายามสังเกตุว่าเกิดอะไรขึ้น
ทุกคนลุกขึ้นมาพร้อมๆกัน
ทหารรู้สึกอาจจะเกิดอันตรายได้ “ปกป้ององค์จักรพรรดิ!”
“ปกป้ององค์จักรพรรดิ!”
…
“มัน…มันคือดวงตาสะกดจิต!”
หนึ่งในเหล่าเจ้าหน้าที่จำหินสีฟ้านั้นได้ อย่างไรก็ตามมันสายเกินไปแล้ว หลังจากสังเกตเห็นมันสักพัก เขาก็หน้าทิ่มพื้นอีกครั้ง
“ดวงตาสะกดจิต!”
“ปิดตาซะ อย่าไปมองมัน!”
เสีงกรีดร้องและความวุ่นวายเกิดขึ้นทันที
ฟาง เจิ้งจือ ชูมันขึ้นเหนือหัว แสงส่องออกมาในทุกทิศทาง …
“ฟาง เจิ้งจือ เจ้ามันไร้ยางอาย!”
ทันใดนั้นมีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา มันเป็นเสียงของ ปิง หยาง
ปิง หยาง กำลังโกรธ! นางเป็นลมและเกือบจะล้มลงไปที่พื้น!
ถ้าไม่ใช่องค์จักรพรรดิได้กอดนางไว้ ชื่อเสียงของนางคงลอยไปกับขยะในคลองแล้ว
ราชาต้วน องค์รัชทายาท ต่างถูกพยุงโดยคนที่อยู่รอบๆ ใบหน้าของพวกเขาปกคลุมไปด้วยฝุ่นและโคลนดำ
ปากของ ฟาง เจิ้งจือ กระตุกเมื่อได้ยินเสียง ปิง หยาง แต่เขาก็ไม่ไดสนใจ
เขายังคงทำให้ดวงตาสะกดจิตส่องแสงออกมา
เขาจำได้ว่าแม้แต่ ซิง เฮ่า แหงกองตรวจการศักดิ์สิทธิ์ ยังล้มลงกับพื้นเมื่อมองมัน
ในเมืองตงหลิน เขาได้ใช้ระเบิดแฟลชและดวงตาสะกดจิต จัดการกับ ยู่ เหวินกู เช่นกัน
ยิ่งเป็นตอนนี้เจอกับ หนานกง มู่ เขาจะไม่ใช้งั้นหรือ?
ถ้ามีคนหนึ่งที่นิ่งสงบเวลาตอนนี้…
นั่นคือ เหยียน ซิว เมื่อเห็นแสงสีขาว เขารู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นทันที เขารีบหันหน้าหนี
“เพราะ ฟาง เจิ้งจือ ?!”
“ฟาง เจิ้งจือ นี่เป็นการทดสอบระดับสภา เป็นการต่อสู้ที่ยุติธรมม เจ้ากล้าทำแบบนี้ได้ยังไง!”
“นี่เป็นการกระทำที่… “
เมื่อเจ้าหน้าที่เริ่มได้สติ เขาเริ่มก่นด่าพวก ฟาง เจิ้งจือ ทันที
“ข้าใช้เจ้านี่ไม่ได้งั้นรึ?” ฟาง เจิ้งจือ โบกดวงตาสะกดจิตไปมาอย่างไร้เดียงสา
“เจ้า..?” เจ้าหน้าที่ทั้งหมดไม่มีทางเลือกนอกจากระงับความโกรธและกลืนคำพูดกลับไป ดวงตาสะกดจิตเป็นสมบัติระดับต่ำ และไม่ใช่สิ่งต้องห้าม
พวกเขาไม่สามารถเอาผิด ฟาง เจิ้งจือ ได้
ราชาต้วนกำมือแน่น ในฐานะราชาเขาไม่เคยถูกทำเช่นนี้มาก่อน! เขาได้ถูกทำให้อับอายต่อหน้าเจ้าหน้าที่จำนวนมาก!
“ฟาง เจิ้งจือ!”
ท่าทีขององค์รัชทายาทก็เต็มไปด้วยความน่าเกลียดเช่นกัน คนที่มีอำนาจเป็นอันดับ 2 ของอาณาจักร จะตกหลุมพลางของ ฟาง เจิ้งจือ ได้ยังไงกัน?
มันเป็นความอัปยศชัดๆ!
แต่ ฟาง เจิ้งจือ เองไม่ได้สนใจเรื่องนี้ เขามองไปรอบๆและเก็บดวงตาสะกดจิตเข้าไปหลังไม่เห็นใครเป็นลมอีกแล้ว
เขาไม่สนใจพวกเจ้าหน้าที่ เพราะคู่ต่อสู้ของเขาคือ หนานกง มู่ ที่ยังคงยืนอยู่
“อ้าว เจ้าไม่เป็นลมงั้นรึ?” ฟาง เจิ้งจือ ถามอย่างสงสัย
เพราะหนานกง มู่ อยู่ใกล้เขามากที่สุด เขาควรจะได้รับผลกระทบมากที่สุดจากระเบิดแฟลช ฟาง เจิ้งจือ ไม่เชื่อว่า หนานกง มู่ จไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย
“ตระกูลหนานกง นั้นฝึกฝนจิตใจ จิตใจของพวกเรานิ่งสงบดั่งสายน้ำ และแข็งแกร่งดังหินผา” ดวงตาของ หนานกง มู่ เปิดออก ด้วยความสงบมั่นคง
สายตาของเขาดูเหมือนทะเลสาบที่ไม่ได้ถูกอะไรรบกวนเลยแม้แต่น้อย
“หรือพูดได้อีกว่า ตัวของเรานั้นคืออยู่กับจิตใจ แต่จิตใจของเรานั้นหาได้น่าเชื่อถือไม่!” ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้าและยิ้มออกมา
“จิตใจของทุกคนต่างกัน ใจของบางคนก็เชื่อถือได้” หนานกง มู่ กล่าวอบ่างสงบ
ฟาง เจิ้งจือ อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ หนานกง มู่ ไม่ให้โอกาสเขา
หนานกง มู่ ไม่คิดจะให้เขาถ่วงเวลาอีกต่อไป
เขาพุ่งใส่ ฟาง เจิ้งจือ พร้อมดาบฟ้าและเขียว รังสีดาบสองอันประสานกันกลายเป็นมังกรขนาดใหญ่สองตัว
ดาบสีฟ้าในมือขวา และสีเขียวในมือซ้าย
ฟ้าคือน้ำแข็ง เขียวเป็นไม้
เป็นสองธาตุที่ดูไม่น่าเข้ากัน
ไม้จะตายถ้าสัมผัสกับน้ำแข็ง
ครั้งสุดท้ายที่ ฟาง เจิ้งจือ เห็นคือในโลกแห่งเซียน คราวนี้มันดูประสานกันอย่างสมบูรณ์มากกว่าครั้งก่อน
เห็นได้ชัดว่า หนานกง มู่ นั้นแข็งแกร่งขึ้นกว่าไม่กี่เดือนที่แล้ว
“ฟ้าเป็นน้ำแข็ง เขียวเป็นไม้ อย่างไรก็ตาม ไม้นั้นไม่ใช่ไม้ แต่เป็นชีวิต! ทุกอย่างในโลกนี้ล้วนมีชีวิต น้ำแข็งเองก็เช่นกัน” ฟาง เจิ้งจือ จำสิ่งที่ หนานกง มู่ เคยพูดได้
เขาใช้วิชาเงาสายลมเพื่อหลบทันที
เขากลายเป็นเป็นเงาและหายตัวไปจากบริเวณที่แสงทั้งสองพุ่งเข้าใส่
“ฉ่า ฉ่า ฉ่า!”
ไม่ถึงเสี้ยวนาที บางสวนของเวทีถูกแช่แข็ง แม้แต่พรมแดงก็ถูกแช่ ไม่นานครึ่งหนึ่งของเวทีก็กลายเป็นสีขาว
“วิชาลับเขียวฟ้าของตระกูลหนานกง!”
“ไม่น่าแปลกใจเลยมันเป็น การโจมตีที่ทรงพลังมาก! “
“ฟาง เจิ้งจือ คงไม่มีแม้แต่โอกาสได้ใช้วิชาของตัวเอง”
“หนานกง มู่ อยู่ขั้นสูงสุดในระดับสะท้อนสวรรค์ ด้วยวิชาลับเขียวฟ้า ข้าคิดว่าต่อให้มีมากกว่า 5 คนก็ไม่สามารถจัดการเขาได้! “
เจ้าหน้าที่ทุกคนโห่ร้องด้วยความกลัวเมื่อเห็นน้ำแข็งบนเวที จากนั้นพวเขาก็ส่ายหัวให้กับ ฟาง เจิ้งจือ
กลลวงทั้งหมด…
นั้นไร้ประโยชน์เมื่อเจอกับพลังที่แท้จริง
อย่างไรก็ตามพวกเขาประหลาดใจมากที่ไม่เห็นว่า ฟาง เจิ้งจือ ใช้ดาบของตัวเอง
เขาไม่ได้มีดาบหรือ?
เป็นไปไม่ได้ ทุกคนรู้ว่า ฟาง เจิ้งจือ มีดาบของ เมิ่ง เทียน
ดาบเล่มนั้นชื่อดาบไร้ร่องรอย!
“ทำไมไม่ใช้ดาบของเจ้าละ?” หนานกง มู่ มองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ ด้วยความนิ่งสงบ
“ข้าแค่มาพูดคุยกับเจ้าเฉยๆ จะเป็นยังไงถ้าพวกเราต่อสู้โดยไม่ใช้ดาบ? “ ฟาง เจิ้งจือ ปัดน้ำแข็งที่ไหล และถามออกไปด้วยความคาดหวัง
“ต่อสู้ด้วยมือเปล่า?” หนานกง มู่ มองไปที่ดาบเขียวและฟ้า เขาลังเล ถ้าไม่มีดาบเขาจะไม่สามารถใช้วิชาลับออกมาได้อย่างเต็มที่
มันจะเป็นการทิ้งความได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา
เขารู้ว่าการต่อสู้มือเปล่า ทำให้เขาได้เปรียบ ยังไงก็ตามดาบเขียวและฟ้าของเขาก็ยังอ่อนด้อยกว่าดาบไร้ร่องรอยของ ฟาง เจิ้งจือ
“ข้า… ไม่เห็นด้วย!” หนานกง มู่ ส่ายหัว
“ทำไมถึงไม่ล่ะ?”
“ข้าไม่อยากจะเอาเปรียบเจ้า” หนานกง มู่ กล่าวด้วยความมุ่งมั่น
“งั้นก็เข้ามา!” ฟาง เจิ้งจือ กล่าวด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย
“เจ้าจะไม่ใช้ดาบจริงๆงั้นรึ?”
“ไม่!”
“งั้นข้าจะทำให้เจ้าได้เห็นพลังที่แท้จริงของวิชาลับเขียวฟ้า!” สายตาของ หนานกง มู่ เรืองรอง และยกดาบขึ้นมาทันที
“โอ้…? ข้าคิดว่าเจ้าจะไม่ใช้ดาบซะอีก ข้าเลย… “ ฟาง เจิ้งจือ คิดว่าถ้าเขาไม่ใช้ หนานกง มู่ ก็จะไม่ใช้
เขาไม่ได้นึกว่า หนานกง มู่ จะมีปฎิกริยาแบบนี้
ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกว่าสู้ด้วยมือเปล่านั้นดูน่าสนุกยิ่งกว่า อย่างไรกตาม หนานกง มู่ นั้นเป็นคนที่ไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วมเท่าไร เขากระโจนเข้าใส่ ฟาง เจิ้งจือ ทันที
เขาฟันดาบเขียวและฟ้า ไปที่พื้น
แสงสีฟ้าและเขียวระเบิดออกมาอีกครั้ง
ฟาง เจิ้งจือ เคยเห็น หนานกง มู่ ใช้วิชานี้มาก่อน เขาใช้มันป้องกันการโจมตีของ หยิง ซาน
แต่ครั้งนี้ เขากลับใช้มันโจมตี
พร้อมกับเสียงดังสนั่น “ตู้ม” แสงทั้งสองสีพุ่งขึ้นสูงเสียดฟ้า เกิดเกร็ดหิมะกระจายตัวไปทั่วลานประลอง
“ฉ่า ฉ่า ฉ่า!”
เสียงของการแช่แข็งดังขึ้น เห็นได้ชัดว่าน่้แข็งเริ่มก่อตัวรอบๆแสงสีเขียวฟ้า
“การเบ่งบานของดอกไม้นับล้าน!” หนานกง มู่ พึมพัม
จากนั้นแสงทั้งสองก็ระเบิดออก กลายเป็นแสงมากมายกระจายอยู่ทั่วท้องฟ้า
ฟาง เจิ้งจือ เตรียมใช้วิชาเงาสายลมอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามเขารู้สึกว่าขาเขาไม่ขยับ จากนั้นเขาก็รู้สึกหนาวจัดขึ้นมา
เขาไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากตัวสั่น
นี่เป็นครั้งแรกที่ ฟาง เจิ้งจือ รู้ถึงความร้ายกาจของวิชานี้
หนานกง มู่ สามารถเผชิญหน้ากับ หยิง ซาน ได้แม้ หยิง ซาน จะอยู่ในระดับอภินิหาร รวมถึงทำให้ หยิง ซาน บาดเจ็บได้ด้วยวิชาลับเขียวฟ้า
มันแต่กต่างจากสิ่งที่ ฟาง เจิ้งจือ ทำ
ฟาง เจิ้งจือ ใช้กลอุบาย แต่ หนานกง มู่ ใช้ความสามารถล้วนๆ
“การเคลื่อนไหวที่ดี!”
“การเบ่งบานของดอกไม้นับล้าน นั้นเป็นวิชาเขตแดนที่ทรงพลังที่สุดของวิชาลับเขียวฟ้า โดยใช้พลังแห่งการเติบโตสร้างเขตแดนต้นไม้น้ำแข็ง ไม่มีอะไรสามารถหลีกหนีไปได้! “
“หนี? ข้าสามารถทำลายมันได้ไหม “
“ฮ่าฮ่า มันไม่ใช่ต้นไม้ธรรมดา เจ้าไม่สามารถเห็นต้นไม้เหล่านี้ด้วยดวงตาของตัวเองได้! “
“หรือมันจะเป็น…ต้นไม้ในมิติพิเศษ?”
“ใช่แล้ว!”
เหล่าเจ้าหน้าที่ต่างตะลึงกับสิ่งที่เห็น จองมองไปยังแสงที่เกิดขึ้น ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
เต๋าแห่งต้นไม้ ในมิติพิเศษ!
วิชาลับเขียวและฟ้าสามารถโจมตีมิติพิเศษของคนอื่นได้ ไม่น่าแปลกใจที่ไม่มีใครสามารถเรียนรู้ได้ตลอดหลายศตวรรษ และไม่ต้องแปลกใจที่มันเป็น 1ใน 2 วิชาที่ดีที่สุดของตระกูลหนานกง
ขณะที่เหล่าเจ้าหน้าที่กำลังถกเถียงกันอยู่ ฟาง เจิ้งจือ เหมือนถูกแช่แข็ง ตั้งแต่ที่เศษเสี้ยวของแสงสัมผัสเข้ากับเท้าของเขา เขาคิดว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง
ความเย็นนั้นไม่ได้ปกคลุมเขาจากข้างนอก
เขารู้สึกว่ามันรุกรานเข้ามาในเส้นเลือดของเขา มันพุ่งไปที่หัวใจของเขา
“การเบ่งบานของดอกไม้นับล้าน!”
ฟาง เจิ้งจือ คิดได้ว่าดอกไม้เหล่านั้นเป็นยังไง มันหมายถึงเส้นเลือดและเส้นพลังของเขา
ฟาง เจิ้งจือ ไม่กล้าชักช้าอีกต่อไป ถ้าเขายังยืนอยู่ตรงนี้ เขาต้องกลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็งแน่นอน
พลังงานภายในมิติพิเศษของเขาเริ่มเคลื่อนไหว ขณะที่เขาพยายามต่อต้านความเย็น
ยังไงก็ตาม …
น้ำแข็งที่เกาะทำให้ ฟาง เจิ้งจือ เคลื่อนไหวได้ช้าลงยิ่งขึ้น ก่อนที่เขาจะแก้ปัญหาที่ขาได้ เ