“ไอศกรีม?”
ขณะที่ทุกคนกำลังสงสัยว่าไอศกรีมคืออะไร แสงและน้ำแข็งที่ล้อมรอบ ฟาง เจิ้งจือ ก็คล่อยหลุดออกมา
ดูเหมือนดักแด้
มันน่าแปลกมาก
เจ้าหน้าที่ทุกคนไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น ปกติ น้ำแข็งไม่น่าละลายได้นี่?
แต่อยู่ดีๆทำไมมันถึงหลุดออกมา?
หนานกง มู่ เองก็ตกใจ แต่หน้าของเขาก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมา ในฐานะที่เขาเป็นคนควบคุมพลังนี้ เขารู้ดีถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
มันไม่ได้ถูกต่อต้าน แต่เหมือนเป็นการหลอมรวม
“หลอมรวม ?!”
“ในขณะที่สายลมฤดูใบไม้ผลิพัดผ่าน ดอกไม้นับล้านก็ผลิบาน!”เสียงของ ฟาง เจิ้งจือ ดังขึ้นอีกครั้ง ออร่าความเย็นแผ่ปกคลุมร่างกายเขา
“เจ้า … เจ้ามี … “ ท่าทีของ หนานกง มู่ เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เขาไม่อยากจะเชื่อ
“ฟ้าเป็นน้ำแข็ง เขียวเป็นไม้ แต่ไม้ไม่ใช่ไม้ แต่เป็นชีวิต! “ ฟาง เจิ้งจือ บ่นกับตัวเอง จากนั้นเขาก็มองไปที่ หนานกง มู่ “นั่นคือสิ่งที่เจ้าบอกข้า!”
“ไม่มีทาง!” หนานกง มู่ กำดาบในมือแน่น เขาไม่อาจยอมรับได้ว่าสิ่งตรงหน้าจะเกิดขึ้น
วิชาลับฟ้าและเขียวเป็นสิ่งที่ตระกูลหนานกง หลายรุ่นไม่สามารถเรียนรู้ได้ ความยากของมันนั้นเป็นที่รู้กันดี ตอนที่หนานกง มู่ ตัดสนใจเรียน ไม่มีใครสนับสนุนเขา
แต่ หนานกง มู่ ก็เลือกละทิ้งสิ่งอื่นเพื่อเรียนรู้มัน
เหตุผลก็ง่ายนิดเดียว
หนานกง เฮา!
เขาเป็นคนที่มีพรสวรรค์สูงสุดในตระกูลหนานกง เขาไม่เพียง แต่ได้รับการชื่นชมและยกย่องจากคนในอาณาจักรเท่านั้น เขายังอยู่ในฐานะพิเศษภายในตระกูลอีกด้วย
หนานกง เฮา นั้นเป็นคนสมบูรณ์แบบ
ความสามารถ ความฉลาด เขาเป็นที่สุดในตระกูลเขานั้นเจิดจ้าเกินไป
ใครก็ตามที่พูดถึงตระกูลหนานกง ก็ต้องพูดถึงชื่อนั้น
หนานกง เฮา!
ไม่มีใครรู้ว่ามีอีกคนที่อยู่ในรุ่นเดียวกัน ต่อให้รู้ เขาก็เรียกกันว่า น้องชายของ หนานกง เฮา
น้องชาย!
น้องชาย!
หนานกง มู่ ได้ยินคำนี้มาตลอดชีวิตของเขา เขาเป็นน้องชายของ หนานกง เฮา ตลอดเวลา
เขาไม่ได้เกลียดพี่ชายของเขา หนานกง เฮา รักเขาเหมือนที่พ่อแม่ทำ อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ทำให้เขาต้องการพิสูจน์ตัวเองมากยิ่งขึ้น
เขาจะทำอย่างนั้นได้อย่างไร?
เรียนรู้วิชารบมังกร?
หนานกง มู่ รู้ว่าในด้านของพลัง หนานกง เฮามีเวลาฝึกฝนและทรัพยากรมากกว่าเขา
ถ้าเขาเลือกฝึกวิชารบมังกร ต่อให้เขาทำได้ดีเทียบเท่า ก็ไม่มีใครสนใจ
เขาจึงเลือกวิชาลับเขียวฟ้า เขาเลือกทางที่ไม่มีใครสนับสนุน
ความคิดของเขาเป็นเรื่องง่าย เขาต้องการปัญหาในตระกูลที่ยังคงอยู่มานาน เขาอยากสร้างเส้นทางใหม่ให้กับตระกูล และทุกคนรับรู้ตัวตนของเขา
เพื่อให้บรรลุสิ่งนี้…
ทุกๆวัน ทุกๆปี เขาพยายามหนักกว่าคนอื่น เพื่อให้เข้าใจวิชาลับเขียวฟ้าอย่างลึกซึ้ง เขาอ่านหนังสือนับไม่ถ้วน เขานั่งอยู่กับตัวเองในห้องสมุดหลายๆวัน…
ในที่สุดเขาก็ประสบความสำเร็จ
พ่อของเขาซึ่งเป็นหัวหน้าตระกูล ยกย่องเขาต่อหน้าสาธารณะเป็นครั้งแรก
นอกจากนี้เขายังขอให้ หนานกง มู่ บันทึกวิธีทำความเข้าใจวิชาลับเขียวฟ้า มันจะถูกเก็บไว้ในห้องสมุด
มันเป็นวันที่มีความสุขที่สุดของ หนานกง มู่ เขาใช้เวลาตลอดทั้งเดือน เขียนรายละเอียด วิธีทำความเข้าใจจากนั้นเขาก็มอบให้พ่อของเขาด้วยความเคารพ
พ่อของเขาก็ยินดีเมื่อเห็นหนังสือเล่มนี้ เขารีบจัดงานฉลองและประกาศเกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้
พวกผู้ใหญ่ต่างตื่นเต้นและยกย่อง หนานกง มู่ ที่ทำเพื่อตระกูล
ตอนนั้น หนานกง มู่ รู้สึกว่าตัวเองมีค่าครั้งแรก
เขาอาจจะถูกเลิกเรียกว่าน้องชายของ หนานกง เฮา เขาคงถูกเรียกว่า หนานกง มู่
วันเวลาผ่านไป
หนังสือที่เขาเขียนยังคงอยู่ในห้องสมุด ไม่มีใครไปยืม ไม่มีใครแม้แต่จะมองไปที่มัน
ฝุ่นเกาะที่ปกหนังสือ หนานกง มู่ ก็ไปเช็ดออก ฝุ่นเกาะอีกครั้ง เขาก็ไปเช็ดออกอีกครั้ง…
ต่อเนื่องเป็นเวลาหนึ่งปี …
ในที่สุด หนานกง มู่ ก็พบว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เมื่อผู้คนเรียกเขา ก็เรียกว่าน้องชายของ หนานกง เฮา ไม่มีใครพูดถึงหนังสือที่เขาใช้เวลาเขียนกว่า 1 เดือน
คืนนั้นเขาลุกขึ้นยืนเงียบ ๆ ในห้องสมุดพร้อมกับจ้องมองหนังสือเล่มนั้น
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเขาไม่เคยมองไปที่มันอีกเลย เขาปล่อยให้ฝุ่นเกาะที่ปกหนังสือ
จากนั้นความคิดเดียวของเขาคือเอาชนะพี่ชายให้ได้ด้วยวิชาลับเขียวฟ้า! นั่นเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้ตระกูลเชื่อว่า วิชาลับเขียวฟ้า ไม่ได้อ่อนแอกว่าวิชารบมังกร มันดีกว่าด้วยซ้ำ!
ยังไงก็ตาม …
ความเชื่อของ หนานกง มู่ ได้แตกเป็นเสี่ยงๆ เมื่อ ฟาง เจิ้งจือ เข้าใจความลึกลับของวิชาลับเขียวฟ้า
“ข้าไม่เชื่อเรื่องนี้เด็ดขาด ไม่!” หนานกง มู่ กรีดร้องในหัวใจ
เขารู้ว่า ฟาง เจิ้งจือ นั้นมีพรสวรรค์ เขาเคยได้ยินว่า ฟาง เจิ้งจือ เคยเรียนวิชาของ เหยียน ซิว จากแค่ดูเพียงครั้งเดียว
แต่นี่เป็นวิชาลับเขียวฟ้า!
มันเป็นความภูมิใจหลายชั่วคนของตระกูลหนานกง!
หนานกง มู่ ไม่สามารถเชื่อได้ เหล่าเจ้าหน้าที่ก็ไม่อาจเชื่อได้เช่นกัน แต่ความจริงก็คือความจริง
ตอนนี้ ฟาง เจิ้งจือ กำลังใช้วิชาเดียวกับ หนานกง มู่ วิชาลับเขียวฟ้า
“้เจ้าไร้ยางอายนั่นทำอย่างนั้นได้ยังไง?” ปากของ ปิง หยาง อ้าค้างด้วยความตื่นเต้น
ในเลาเดียวกันเจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่ถืออาหารอยู่ในมือรีบวิ่งเข้ามา
“องค์หญิง อาหารของท่านอยู่นี่แล้ว!”
“หลบไปซะเจ้าโง่ เจ้าขยะ!” ปิง หยาง สบถคำพูดที่เคยได้ยินมาจาก ฟาง เจิ้งจือ ทันทีจากนั้นก็มองไปที่เจ้าหน้าที่อย่างขุ่นเคือง
“อะไรกัน?!” ปากของเจ้าหน้าที่อ้าค้างด้วยความสับสน
“ขยะ!” ปิง หยาง ตะโกนออกมา
“รับทราบ ฝ่าบาท!” เขาไม่กล้าอยู่ที่นี่อีกต่อไป เขาวางจานบนพื้นและทิ้งไว้ในระยะเวลาอันสั้นเขาวางจานบนพื้นและรีบวิ่งหนีไป
…
บนเวที
หนานกง มู่ กัดริมฝีปาก ขณะมองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ มือของเขายังคงกำแน่น
“เจ้าเรียนรู้วิชาลับเขียวฟ้าไดยังไงกัน!”
“วิชาลับเขียวฟ้า? ข้าไม่รู้! “ ฟาง เจิ้งจือ กล่าวตามความเป็นจริง
“เจ้าไม่ได้? งั้นเจ้า… “
“โอ้ เจ้ากำลังพูดถึงเรื่องนี้งั้นหรือ? มันค่อนข้างต่างกับวิชาลับเขียวฟ้า ข้าพึ่งนึกออกก่อนหน้านี้ เต๋านั้นไร้สิ้นสุดและมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โลกนี้ดำรงอยู่ด้วยกฎแห่งเต๋า” ข้าไม่เคยเข้าใจคำพูดนี้มาก่อน ข้าคิดว่าเต๋าให้กำเนิดสิ่งหนึ่ง จากหนึ่งเป็นสอง สองเป็นสาม และเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ!” ฟาง เจิ้งจือ อธิบาย
“เต๋าให้กำเนิดสิ่งหนึ่ง จากหนึ่งเป็นสอง สองเป็นสาม…” หนานกง มู่ พึมพัมกับตัวเอง เขารู้ว่ามันหมายความว่าอะไร แต่เขาไม่รู้ว่า ฟาง เจิ้งจือ พูดขึ้นมาทำไม
“ใช่ ข้าไม่รู้ว่ามันไร้สิ้นสุดยังไง! จนกระทั่งเจ้าบอกว่าเขียวคือไม้แต่ไม่ใช่ไม้ มันหมายถึงชีวิต! ข้าต้องขอบคุณเจ้า ! “ ฟาง เจิ้งจือ กล่าวด้วยความจริงใจ
มันเป็นความจริงใจของ ฟาง เจิ้งจือ เขาเหมือนถูกเติมเต็มหลังจากเข้าใจสิ่งต่างๆ
ความลับของวิชาเขียวฟ้าอยู่ที่ความสามารถในการควบคุมการเติบโตของน้ำแข็ง ดังนั้น ด้วยการควบคุมชีวิต เขาสามารถปล่อยความเย็นออกมาจากร่างได้
“ขอบคุณข้า?” ปากของ หนานกง มู่ อ้าออกเล็กน้อย เขาต้องการพูดอะไรบางอย่าง แต่เขาไม่สามารถหาคำพูดเพื่อแสดงความรู้สึกได้
“โอ้ใช่สิ ข้าต้องขอบคุณเจ้าที่ทำให้ข้าได้เรียนรู้วิชาใหม่!” ฟาง เจิ้งจือ ไม่รู้ว่า หนานกง มู่ คิดอะไรอยู่
“วิชาใหม่?” หนานกง มู่ ตัวแข็งค้าง
หลังจาก ฟาง เจิ้งจือ พูดจบ หนานกง มู่ ก็เห็น ดาบแสงหยกเขียว ฟาง เจิ้งจือ ถือมันไว้ในมือ
ถือดาบแสงไว้ในมือ!
มันเป็นภาพที่แปลกประหลาด
อย่างไรก็ตามเขารู้ดีว่านี่หมายถึงอะไร
หัวใจของ หนานกง มู่ สั่นสะท้านราวกับมันจะหลุดออกมาจากอก
เจ้าหน้าที่ผู้นั่งชมอยู่ก็เช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้น ปิง หยาง, องค์จักรพรรดิ, องค์รัชาทยาท, ราชาต้วน ก็เช่นเดียวกัน
“นั่นมัน…พี่เหยียน “ ปิง หยาง ตกตะลึง นานงไม่สามารถยอมรับได้
“นั่นมันล้านคมดาบ! มันเป็นวิชาลับสุดยอดของกองตรวจการศักดิ์สิทธิ์! “
“เป็นไปได้ยังไงกัน?”
“ไม่มีทางมันจะต้องเป็นของปลอม เหตุใดกองตรวจการศักดิ์สิทธิ์ จะต้องสอนมันให้กับคนนอก?! “
เจ้าหน้าที่ทั้งหมดรู้สึกกลัวทันทีที่เห็นดาบแสงในมือ ฟาง เจิ้งจือ มันเป็นวิชาล้านคมดาบ
“อ้อ…นี่เรียกว่าวิชาล้านคมดาบงั้นหรือ?” ฟาง เจิ้งจือ พึ่งเคยได้ยินชื่อเป็นครั้งแรก ครั้งแรก เขาเห็น ซิง เฮา ใช้มัน
จากนั้นก็อีกครั้งโดย ฉือ กูเหยียน
เขาคิดเสมอว่ามันเป็นท่าที่เท่ห์มาก เมื่อดาบแสงกลายเป็น แสงนับล้าน มันเป็นสิ่งที่ดูเจ๋งมาก!
ดังนั้น หลังจากเข้าใจ เต๋านั้นไร้สิ้นสุดและมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โลกนี้ดำรงอยู่ด้วยกฎแห่งเต๋า เขาจึงตัดสินใจลองทำมันทันที
“ข้ามาแล้ว!” ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้จับดาบแสงอีกต่อไป
เขาคิดว่ามันไม่ค่อยมั่นคงเมื่ออยู่ในมือเขาเท่าไร ถ้าเขาไม่ปล่อยมัน ตอนนี้มันอาจระเบิดอยู่ในมือของเขา เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาใช้มัน
เขาไม่มีประสบการณ์มาก่อน
ดาบแสงหยกเขียว ลอยออกจากมือเขา