ไม่มีใครคิดว่า เหยียน ซิว จะใช้วิธีนี้
พวกเขารู้สึเหมือนได้ช่วยเหลือเด็กออกมาจากฆาตกร แต่เด็กคนนั้นกับกลายเป็นฆาตกรโหดเหี้ยมเสียเอง
พวกเขาไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง
การโจมตีของ เหยียน ซิว นั้นสูสีกับ ซิง ฉิงซุย เพราะเหตุนี้ทุกคนจึงคาดว่า เหยียน ซิว จะสู้อย่างยุติธรรมแบบทั่วๆไป
อย่างไรก็ตาม เหยียน ซิว ได้ตัดสินใจดึงวิธีนี้มาใช้
ไม่มีใครคาดคิดแม้แต่น้อย
ฟาง เจิ้งจือ ใช้ตอนเริ่มการต่อสู้ แต่ เหยียน ซิว กลับนำออกมาใช้ในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด
ทุกคนคิดว่าเขายังคงความบริสุทธิ์ได้แม้จะมีเพื่อนที่ไม่ดี?
เจ้าหน้าที่ทุกคนไม่เข้าใจ อย่างไรก็ตามพวกเขาทั้งหมดปิดตาของพวกเขาตามสัญชาตญานทันที
พวกเขาสามารถเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ดวงตาสะกดจิต? อีกครั้ง? มันเป็นความอัปยศที่พวกเขาไม่สามารถยอมรับได้
พวกเขาจะทนถูกทำให้ตาบอดด้วยแสงสีขาว 2 ครั้งภายใน 1 วันได้ยังไงกัน
ดังนั้นครั้งนี้ทุกคนจึงหลับตาลง
ทันใดนั้นเกิดการระเบิดขนาดใหญ่ขึ้นบนเวที ตามมาด้วยเสียงแตกของบางอย่าง
เจ้าหน้าที่ทุกคนเปิดตาและจ้องที่เวที
พวกเขาทั้งหมดต่างกลัวกับสิ่งที่เห็น
บนนั้นมีเพียงคนเดียวที่ยืนอยู่ …
ส่วนอีกคน…
เขานอนอยู่บนพื้น
เหยียน ซิว ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่มองไปยัง ซิง ฉิงซุย ที่นอนคว่ำอยู่ จากนั้นเขาก็โค้งคำนับต่อองค์จักรพรรดิและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ
หลังจากนั้นเขาก็เดินออกมาจากเวที
ทุกอย่างดูเป็นเรื่องปกติมาก ไม่มีอะไรหยาบคายหรือดูไม่สมควร อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ทุกคนมอง เหยียน ซิว อย่างสงสัย
“เขาใช้การลอบโจมตีจริงๆงั้นรึ?”
“ข้าคิดว่าไม่ใช่นะ? “
“จากสิ่งที่ข้าเห็น ด้วยความสามารถของเขาก็เหนือกว่าอยู่แล้ว เขาสามารถชนะได้ด้วยความสามารถอย่างเดียว ทำไมเขาถึงใช้วิธีนี้กัน? “
เหล่าเจ้าหน้าที่อยู่ในความสับสน
พวกเขาไม่คิดว่า เหยียน ซิว ผิดที่ทำเช่นนี้ เพราะชัยชนะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด แต่พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมต้องใช้วิธีนี้ทั้งๆที่ไม่จำเป็น
ท่าทีของ ซิง ฉิงซุย ก็แปลกไปเช่นกัน เขาไม่ได้ต้องการแพ้ด้วยวิธีดังกล่าว แต่เขาก็ดูไม่ได้ติดใจมากเท่าไรนัก
เขาลุกขึ้นยืนเงียบๆ ปัดฝุ่นออกจากเสื้อผ้าและเดินไปหา เหยียน ซิว จากนั้นเขาก็โค้งคำนับ “ขอบคุณ!”
“ด้วยความยินดี!” เหยียน ซิว พยักหน้า
“ขอบคุณ?!”
“ซิง ฉิงซุย ขอบคุณ เหยียน ซิว? “
“เกิดอะไรขึ้น?”
เจ้าหน้าที่ทุกคนก็สับสนในสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่มีใครเข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้
“โอ้ ข้าเข้าใจแล้ว!” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งดูเหมือนจะเข้าใจ
“อะไรงั้นรึ?” เจ้าหน้าที่อีกคนถามทันที
“ซิง ฉิงซุย ยังคงไม่หายจากอาการบาดเจ็บ ดังนั้นผลของการต่อสู้ได้ถูกกำหนดไว้แล้ว อย่างไรก็ตามด้วยนิสัยอันดังทุรันของ ซิง ฉิงซุย เขาต้องสู้จนตัวตายแน่นอน! มันจะส่งผลให้อาการของเขาแย่ลงและส่งผลต่อการทดสอบระดับสภา! “
“โอ้ เหยียน ซิว ต้องการให้ ซิง ฉิงซุย เก็บพลังไว้ตอนการทดสอบระดับสภา นั่นเป็นเหตุผลที่เขาใช้วิธีการแบบนี้! “
“ข้าคิดว่ามันเป็นคำอธิบายที่ดีที่สุด!”
“ไม่แปลกใจเลยว่าเขาเป็นลูกหลานของตระกูลเหยียน เขามีคุณธรรมและศีลธรรมอย่างสูง ไม่ใช่แบบเจ้าเด็กอีกคนหนึ่ง! “
เจ้าหน้าที่ทุกคนเข้าใจเบื้องหลังการกระทำของ เหยียน ซิว
ปิง หยาง ไม่พอใจ การถกเถียงของเหล่าเจ้าหน้าที่ นางโกรธมาก “พวกเขาใช้วิชาเดียวกัน ทำไม ฟาง เจิ้งจือ กลับถูกพูดว่าไร้ยางอาย แต่ เหยียน ซิว มีคุณธรรม? ถึงแม้ … ฟาง เจิ้งจือ จะไร้ยางอายนิดหน่อยก็เถอะ! “
อย่างไรก็ตาม ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้ได้สนใจ ไร้ยางอาย? แล้วไงละ!
มีแต่คนงี่เง่าเท่านั้นแหละที่พยายามต่อสู้กันด้วยความเหนื่อยยากท่ามกลางสนามรบ
พวกเขารู้สึกดีที่ได้รับบาดเจ็บหรือไงกัน?
ความเชื่อมั่นของ ฟาง เจิ้งจือ นั้นง่ายๆ เขาหลักเลี่ยงเรื่องที่จะทำให้ถูกโจมตี ร่างกายนี้ได้มาจากพ่อแม่ของเขา เขาจะปกป้องให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้
…
การต่อสู้ของ เหยียน ซิว และ ซิง ฉิงซุย จบลงแล้ว หมายความว่า เหยียน ซิว ได้เขาสู่รอบชิงแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดมอง เหยียน ซิว ต่างไปจากเดิมแล้ว
ใครจะคิดว่าผู้ที่อยู่เพียงระดับผนวกดาราตอนที่สอบระดับจักรพรรดิ จะมาไกลขนาดนี้
ท่ามกลางเสียงพูดคุย ฟาง เจิ้งจือ ก้าวขึ้นไปบนเวที
ฝ่ายตรงข้ามของ ฟาง เจิ้งจือ เป็นชายวัยกลางคนที่อยู่ในระดับสะท้อนสวรรค์ขั้นกลาง เขามาถึงที่นี่หลังจากผ่านการต่อสู้อันหนักหน่วงมากมาย นอกจากนี้เขายังได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากการสู้ครั้งก่อน
เขาหอบหายใจขณะที่ก้าวขึ้นไปบนเวที
นอกจากนี้เสื้อของเขายังเปื้อนเลือด
แต่อีกด้าน ฟาง เจิ้งจือ ยังคงดูสงบอยู่หลังจากสู้กับ หนานกง มู่ ชุดของเขาไม่ต่างจากเดิม ชายเสื้อพัดไปตามแรงลม…
“ขอบคุณท่านมากที่ช่วยชีวิตของข้าออกมาจากโลกแห่งเซียน ยังไงก็ตามข้าคงต้องทำร้ายท่านวันนี้! “ ชายวัยกลางคนโค้งคำนับ
“เจ้าไม่ฉลาดพอที่จะยอมแพ้งั้นรึ?” เป็นครั้งแรกที่ ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกว่าตัวเองจะชนะ
เขาชอบความรู้สึกนี้จริงๆและอยากให้มันกินเวลานานกว่านี้
“ข้ามาไกลแล้ว จะยอมรับง่ายๆได้ยังไงกัน?” เขากัดฟันแน่น แม้เขาจะรู้ว่าผลลัพธ์เป็นยังไง แต่เขาก็ไม่ได้ขี้ขลาดคิดจะหลีกหนีมัน
“ก็จริง งั้นข้าจะให้เจ้าโจมตีข้า 3 ครั้ง ข้าจะไม่เคลื่อนไหวออกจากตรงนี้เด็ดขาด!” ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้าและเดินไปที่ขอบเวที
“โจมตี 3 ครั้ง? ไม่เคลื่อนไหว?” ชายวัยกลางคนไม่เข้าใจว่า ฟาง เจิ้งจือ ทำอะไรอยู่ อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้รู้สึกโดนดูถูก
ฟาง เจิ้งจือ ได้พิสูจน์ความสามารถของตัวเองแล้วหลังจากต่อสู้กับ หนานกง มู่ แน่นอนว่าเขามีสิทธิ์ที่จะพูดแบบนี้
ยังไงก็ตาม …
ชายวัยกลางคนเหลือบไปมองที่มือซ้ายของเขา เขามีบางสิ่งซ่อนอยู่ที่นี้ ซึ่งเขาใช้เวลาหลายปีเตรียมมัน
ถ้า ฟาง เจิ้งจือ ไม่เคลื่อนไหวจริงๆ นี่ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับเขา
แต่ เมื่อนึกถึงข้อเท็จจริงที่ ฟาง เจิ้งจือ เคยช่วยชีวิตเขามาก่อน ตอนนี้ ฟาง เจิ้งจือ ให้เขาโจมตีฟรี 3 ครั้ง การใช้วิธีไร้ยางอายแบบนี้มันไม่ถูกต้อง
ไม่ใช้?
ใช้?
เขารู้สึกขัดแย้งกันเป็นอย่างมาก สุดท้ายเขาก็กัดฟัน เขาจะทำทุกอย่างเพื่อชัยชนะและเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ
ถ้าเขาได้ที่ 2 …
รวมกับที่เป็นกลุ่มแรกในการทดสอบด้านปัญญา
เขาก็น่าจะเป็น 3 อันดับแรกของการทดสอบระดับจักรพรรดิ
“ฟาง เจิ้งจือ ข้าขอโทษ! ถ้าข้าได้เป็น 3 อันดับแรก ข้าจะชดเชยให้แก่ท่าน! “ ชายวัยกลางคนคิดกับตัวเองขณะที่ดวงตาเป็นประกาย
ฟาง เจิ้งจือ อยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุด
เขาอยู่ที่ขอบเวที มันง่ายมากที่ใครจะทำเขาตกลงไป
ชายวัยกลางคนไม่ลังเลอีกต่อไป เขายกดาบและพุ่งเข้าไป
การต่อสู้ระยะประชิดเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ยิ่งไปกว่านั้น ฟาง เจิ้งจือ จะไม่หลบไปไหน
เขาเชื่อมั่นในดาบของตัวเอง
ฟาง เจิ้งจือ เอียงตัวไปด้านข้าง เขาเอามือผลักดาบของชายวัยกลางคนที่ห่างจากเขาไม่ถึง 1 ฟุต ออกข้างๆ ชายวัยกลางคนถูกผลักไปทางขวาเช่นเดียวกัน
“เขาไม่เคลื่อนไหวออกจากตรงนั้นจริงๆ!” ชายวัยกลางคนยินดีมาก นี่เป็นโอกาสอันดีที่จะสร้างชื่อให้กับตัวเอง
เขาไม่ลังเลอีกต่อไป เขาหันกลับไป, ออร่าอันทรงพลังไหลออกจากตัวเขา เขาเหวี่ยงดาบจากซ้ายไปขวา สร้างเส้นสีน้ำเงินขึ้นมาบนอากาศ
มันเกิดเป็นคลื่นพลัง ประกอบด้วยแสงสีขาวบางๆ มันคือดาบแสงบางๆ
ในเวลาเดียวกันเขาก็เอามือซ้ายไว้ด้านหลังจากนั้นก็อ้าออก
หลังจากที่ ฟาง เจิ้งจือ ป้องกันการโจมตีของเขาแล้ว เขาสามารถโจมตีสวนเพื่อให้ ฟาง เจิ้งจือ กระเด็นออกจากเวทีไปได้
ชายวัยกลางคนยิ้มอย่างมั่นใจว่าเขาจะเป็น 1 ใน 3 อันดับแรก อย่างไรก็ตามรอยยิ้มของเขาก็มีได้ไม่นานนัก
ฟาง เจิ้งจือ หายไป
ราวกับสายลม ฟาง เจิ้ง หายตัวไปจากสายตาของเขา ไม่มีใครยืนอยู่ที่ตำแหน่งนั้น
นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
ข้าคิดว่าเขาจะไม่เคลื่อนที่?!
ชายวัยกลางคนตกใจ จากนั้นเขารู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ แต่มันก็สายเกินไป เขารู้สึกถึงสายลมกรรโชกแรงเหนือหัวของเขา
“ด้านบน?!” เขาเงยหน้าขึ้น ดาบของเขาพร้อมป้องกันการโจมตีจากด้านบน
อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเงยหน้าขึ้น
เขากลับตัวแข็งค้าง
เขาเห็นลูกบอลสีขาวกำลังตกลงมาที่เขา เมื่อเข้ามาใกล้ดวงตามันก็ระเบิดออก
“ตาของข้า ตาของข้า!” ชายวัยกลางคนกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
จากนั้นเขาก็รู้สึกว่ามีพลังที่รุนแรงกระแทกเข้าที่ก้น รู้สึกราวกับว่าเขาถูกกระแทกด้วยหินขนาดใหญ่
ฟาง เจิ้งจือ ยืนอยู่ริมเวที
ชายวัยกลางคนเลือกการต่อสู้แบบประชิด แน่นอนว่าตัวเขาต้องอยู่ที่ขอบเวทีด้วย
เขาหลุดออกจากเวที หลังจากที่ถูกเตะก้นจากด้านหลังเขาก็ตกลงไปกระแทกกับหินด้านล่างเวที
“ป๊อง!” ชายวันกลางคนรู้สึกถึงอาการปวดบวมที่จมูก อารมณ์ของเขาระส่ำระส่ายเป็นอย่างมาก
เจ้าหน้าที่ทุกคนต่างตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น หลังจากที่ ฟาง เจิ้งจือ พูดว่าจะไม่เคลื่อนไหวไปไหนระหว่างการโจมตี 3 ครั้ง
แต่ตอนนี้…
ฟาง เจิ้งจือ กลับเคลื่อนไหว นอกจากนี้เขายังใช้ประโยชน์จ