“ท่าน!” ร่างนั้นมองจ้องมาที่ท่านฮั่ว จากนั้นเขาก็รีบเข้ามาหาท่านฮั่วในศาลาทันที
“ข้าคิดว่าเจ้าอยู่ที่นี่เพื่อมาหาราชาต้วน?”นายฮั่วยิ้ม
“ข้าอยากฟังความเห็นของเขาเกี่ยวกับเรื่องเล็กๆน้อยๆ” ร่างนั้นพยักหน้า
“เจ้าเรียกการจัดอันดับของการทดสอบระดับจักรพรรดิว่าเรื่องเล็กน้อยรึ?” ท่านฮั่วมีน้ำเสียงเย็นชา แต่ดวงตาของเขาลุกโชติช่วง
ร่างนั้นย้ายไปนั่งข้างเขา จากนั้นก็เอาหมวกออก เผยให้เห็นใบหน้าอันอ่อนเยาว์ เขาคือ ซู ฉิง เป็นผู้ที่ยืนอยู่ข้างหลังขององค์รัชทายาท ตลอดการประลอง
“ท่านหลักแหลมมาก ข้าชื่นชมความสามารถของท่าน ข้าอยากฟังความคิดเห็นของท่านเกี่ยวกับอันดับการทดสอบสักหน่อย ” ซู ฉิง ก้มโค้ง
“เจ้าสุภาพเกินไปแล้ว ข้าไม่มียศอะไรในสภา และข้าเป็นแขกในบ้านของราชาต้วน ข้าไม่เหมาะที่จะให้คำแนะนำแก่เจ้าหรอก ในทางตรงกันข้ามข้าอยากจะรู้ว่าเจ้ามีความคิดเห็นอะไรบ้าง “ท่านฮั่วยิ้ม
“ท่านเป็นนักยุทศาสตร์ของราชาต้วนและมีบทบาทมากในแผนของเขา ข้าเป็นเพียงผู้ต่ำต้อย ความคิดเห็นของข้า ไม่คู่ควรกับท่านหรอก? อย่างไรก็ตาม เห็นแก่ที่ท่านถามข้าจะบอกความคิดเห็นที่ซื่อตรงของข้าข้าหวังว่าท่านจะช่วยบอกสิ่งที่ถูกต้องให้ข้า หากคิดว่ามันผิด!” ซู่ ฉิง พูด
“ไม่เป็นไร ราชาต้วนรอนานแล้ว เข้ามากับข้าเถิด!” ท่านฮั่วเดินตรงเข้าไป
ซู ฉิง ก้มโค้งลงอีกครั้งดวงตาของเขาจ้องมองอย่างเป็นประกาย ขณะที่เขายิ้มให้ตัวเอง
…
ภายในห้องอ่านหนังสือ ราชาต้วนไม่ได้อยู่ที่เก้าอี้ของเขา เขากำลังเดินไปรอบ ๆ ห้อง คิดหนักจนขมวดคิ้วตึง
ตอนนั้นเอง ประตูห้องก็เปิดออกท่านฮั่วปรากฎตัวพร้อมกับอาหาร
ซู ฉิง ยืนอยู่ข้างเขา
แววตาของราชาต้วนสว่างขึ้นเมื่อเห็นทั้งสอง “ซู ฉิงและท่านฮั่วโปรดนั่งก่อน!“
ซู ฉิง รอให้ท่านฮั่วเดินนำ แต่เขากลับหันไปปิดประตูทำให้ ซู ฉิง ไม่มีทางเลือกต้องเดินเข้ามาก่อน จากนั้นท่านฮั่วก็วางอาหารไว้บนโต๊ะ
“ข้าแค่คิดถึงเรื่องการจัดอันดับของการสอบของจักรพรรดิ เจ้ามาทันเวลาพอดี บอกข้าหน่อย ว่าเจ้าคิดอย่างไร ” ราชาต้วนมอง ซู ฉิง
ซู ฉิง ไม่ลังเล เขาเดินไปกลางห้อง และกราบทูลราชาต้วน “ข้าไม่สมควรออกความเห็นกับการจัดอันดับหรอก แต่ในเมื่อทานต้องการ ข้าจะพูด “
“โปรดว่ามา!” ราชาต้วนพยักหน้าและนั่งลง
“จักรพรรดิได้ให้อำนาจแก่ท่านในการพิจารณาการจัดอันดับ นี่แสดงถึงความไว้วางใจในตัวท่าน อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆอย่างที่เห็น ไม่เพียงเป็นความต้องการของจักรพรรดิ นี่ยังรวมไปถึงความขัดแย้งของตระกูลที่ทรงอิทธิพล และการแบ่งฝักฝ่ายอีกด้วยการตัดสินใจของท่านจะเป็นตัวชี้ชะตา “
“เจ้าพูดถูก ข้าเองรู้เรื่องนี้ ” ราชาต้วนพยักหน้า
“ฝ่าบาท ท่านทรงต้องตัดสินใจให้ดี!“
“เจ้าพูดเรื่องอะไรกัน?“
“ฝ่าบาท ท่านคิดว่าจักรพรรดิทรงต้องการสิ่งใด”“
“แน่นอนว่า เหยียน ซิว”
“ข้าเองก็คิดเช่นนั้น ข้าขอถามท่าน ฝ่าบาททรงให้ความสำคัญกับตระกูลที่ทรงอิทธิพลหรือสามัญชนมากกว่ากัน?“
“แน่นอนว่าตระกูลที่มีอิทธิพล งั้นเจ้าคิดว่าข้าควรให้อันดับที่ 1 กับ เหยียน ซิว?” ราชาต้วนขยิบตาเล็กน้อย
“ฝ่าบาท ข้าไม่มีความเห็นกับทางเลือกสุดท้ายของท่าน แต่ข้ามั่นใจว่าถ้าเรื่องนี้ตัดสินใจง่ายๆ ท่านคงไม่คิดมากขนาดนี้ “
“ถูกต้อง”
“ท่านฮั่ว บอกข้าหน่อยสมมติว่า ราชาต้วนให้อันดับ 1 กับ เหยียน ซิว จะเกิดอะไรขึ้น” ซู ฉิงหันไปมอง
ท่านฮั่ว กำลังคิดเรื่องตัวเองอยู่ ทันทีที่ ซู ฉิง ถาม เขาจึงส่ายหน้าทันที
“ข้าเห็นด้วยกับสิ่งที่เจ้าพูด การให้อันดับ 1 กับ เหยียน ซิว เป็นการเอาใจผู้ทรงอิทธิพลและสนับสนุนจักรพรรดิ อย่างไรก็ตาม … ” ท่านฮั่วลังเลเล็กน้อย
“มีอะไร?“
“ผู้คนลืมเรื่องหนึ่งไป นั่นคือความเห็นของ เหยียน ซิว” ตาของท่านฮั่วกระพริบตาอย่างมั่นใจ
“นั่นคือสิ่งที่ข้าเองก็คิด ถ้าเราให้ เหยียน ซิว แต่เขาไม่เต็มใจยอมรับเรื่องนี้ การตัดสินใจอาจส่งผลต่อเรา ถ้าเรามอบมันให้ ฟาง เจิ้งจือ ไม่เพียงแต่ทำให้ข้าไม่พอใจ แต่จักรพรรดิเองก็ด้วย ข้าจะกลายเป็นคนที่ต่อต้านผู้มีอิทธิพล และตกอยู่ที่นั่งลำบาก! ” ราชาต้วนพยักหน้า
“ท่าน ช่างเป็นคนที่มองการไกลยิ่งนัก ข้าขอชื่นชม อย่างไรก็ตาม แม่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก จะมี 2 ทางเลือกที่ยากลำบาก แต่จะมีทางหนึ่งที่ดีกว่าเสมอ” ซู ฉิง ตอบ
“เจ้าหน้าที่ซู ทางเลือกนั้นคือ?” ราชาต้วนถาม
“แม้การวิเคราะห์ทั้งหมดแล้วมันจะมีน้ำหนักพอกัน แต่เราต้องให้ความสำคัญกับรายละเอียด!“
“โอ้…? รอบคอบดี!“
“ทุกคนรู้ดีว่า จักรพรรดิเอนเอียงไปทางไหน อย่างไรก็ตามถ้าเราเห็นการทดสอบตัวต่อตัว ท่านคิดว่าใครควรได้รับอันดับ 1” ซู ฉิง ถาม
“ถ้าข้าเป็นกลางอย่างแท้จริงข้าคงให้ … ฟาง เจิ้งจือ ” ราชาต้วนตอบอย่างไม่ลังเล
“ใช่แล้ว ฟาง เจิ้งจือ ได้เขียนประวัติศาสตร์ของการทดสอบด้านปัญญาขึ้น เขาทำข้อสอบครบทั้ง 6 หน้า! แม้แต่ ฉือ กูเหยียน หรือ หนานกง เฮา ก็ไม่อาจจะทำได้ ระหว่างการทดสอบแม้จะถูก เหยียน ซิว ไล่ต้อน เขาก็ยังยืนอยู่ได้ยิ่งไปกว่านั้น เหยียน ซิว ยังสลบไปและมอบชัยชนะให้กับ ฟาง เจิ้งจือ อีก แม้เราจะละเลยความจริงนี้ แต่ก็นับเป็นการดวลที่ดีที่สุด “
“ถูกแล้ว” ราชาต้วนพยักหน้า
“ถ้าฝ่าบาททรงมอบอันดับให้กับ เหยียน ซิว คงจะได้รับความปราบปลื้มจากจักรพรรดิ อย่างไรก็ตามความตั้งใจของจักรพรรดินั้นไม่ชัดเจน แม่ท่านดูเหมือนจะทำเพื่อเอาใจเขา แต่ท่านก็จะถูกทำลายความน่าเชื่อถือไป! มันไม่คุ้มค่า!” ซู ฉิง ย้ำอีกครั้ง
“ท่านฮั่วคิดว่าอย่างไร?”การแสดงออกของราชาต้วนเปลี่ยนไป เขาหันไปหาท่านฮั่วเพื่อขอคำแนะนำ
“เจ้าหน้าที่ซู บอกความคิดของข้าแล้ว อย่างไรก็ตามข้ายังสงสัยว่าเจ้าหน้าที่ซูยังคงอยู่ใต้อาณัติของตระกูลที่มีอิทธิพลหรือไม่?”ท่านฮั่ว หันไปมองเจ้าหน้าที่ซู
“นั่นคือเหตุผลว่าทำไมข้าถึงมาที่นี่ในวันนี้!” ซู ฉิง กล่าวอย่างมั่นใจ
“เจ้าหน้าที่ซู เจ้าจะทำอะไร?“
“เหตุการณ์นี้ดูซับซ้อน แต่ก็เป็นเรื่องที่ง่ายมาก ฝ่าบาททรงต้องใช้เคล็ดลับที่ฉลาดสักเล็กน้อย เพื่อทำให้คนที่ถูกว่ากลายเป็นคนอื่น”
“ใคร?“
“องค์ชาย9! ““
“น้อง9? ข้าเข้าใจแล้ว! เขาเป็นเพื่อนร่วมงานของข้า ข้าเกือบจะลืมเขาไปแล้ว”
…
ยามรุ่งสางในวันถัดไป ดวงอาทิตย์ขึ้นมาจากขอบฟ้า
โรงน้ำชาที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองเหยียนเต็มไปด้วยเหล่าอัจฉริยะและนักปราชญ์ทำให้ที่นี้นั้นเต็มไปด้วยความคึกครื้น
มีห้องที่ได้รับการออกแบบอย่างดีอยู่ข้างใน
ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถเข้ามายังห้องนี้ได้ อย่างไรก็ตาม คนที่มีอำนาจมากมายเช่น ปิง หยาง นั้นเป็นเรื่องง่ายมาก
ปิง หยาง นั้นสวมชุดสีแดงสดใส นางเอามือหยิบขนมบนโต๊ะก่อนจะวางลงในปาก
คนที่นั่งตรงข้าม ปิง หยาง เป็นเด็กหนุ่มที่แต่งตัวดูดี เขาช่วย ปิง หยาง แกะถุงขนม และนั่งมองนางอยู่เงียบๆ
เขาคือองค์ชาย9 หลิน หยุน
มันไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับองค์ชายหรือองค์หญิงที่จะมานั่งอยู่ที่นี่ อย่างไรก็ตามท่าทีขององค์ชาย9 กลับดูน่าสงสาร
“ข้าไม่คิดว่าท่านพี่คงไม่ได้มาที่นี่เพื่อพูดคุยกับข้าเฉยๆหรอกใช่ไหม?ท่านนำชาและขนมที่ข้าชอบมาด้วย “ปิง หยางกลืนขนม และเอนหลัง
“ฮ่า ๆ มันไม่มีอะไรมาก เจ้ารู้ว่ามีเหล่าอัจฉริยะมากมายเดินทางมาที่เมืองหลวงในช่วงนี้ของปี … “
“โอ้…?มีอะไรสนุกๆในร้านงั้นหรือ?“
“การชุนนุมก่อนหน้านี้ เป็นการชมนุมของเพื่อนเก่า อย่างไรก็ตามปีนี้มีอัจฉริยะมาที่นี่จำนวนมาก ยิ่งไปกว่านั้น 20 อันดับแรกบนทำเนียบมังกรก็เดินทางมาที่นี่ องค์จักรพรรดิเองก็ … “
“แล้วยังไงล่ะ?“
“มีการแข่งขันล่าสัตว์ทางทิ องค์จักรพรรดิทรงเลือกรางวัลด้วยตัวเอง!“
“การแข่งขันล่าสัตว์? ฮ่าฮ่า … น่าสนุก! รางวัลต้องเป็นอะไรบางอย่างที่พิเศษมาก! ขอบคุณที่บอกข้าเรื่องนี้ ข้าจะได้ไปเตรียมตัว!” ปิง หยาง กล่าวอย่างตื่นเต้น
“อะ เดี๋ยวก่อน!” องค์ชาย9 ตะโกนขึ้นก่อนที่ ปิง หยาง จะจากไป
“ท่านยังมีอะไรอีกงั้นหรือ?“
“เจ้ารู้ไหมว่าบางสิ่งนั้นมีค่าสำหรับคนบางคนมาก ทั้งหมดที่ข้ามี เพียงแค่ม้าป่าอัศนีย์ม่วงเท่านั้น” องค์ชาย9 ลังเล
“ไม่!“ปิง หยาง ปฏิเสธเขาอย่างแจ่มแจ้ง
“‘งันข้ายืมมันสักวันได้ไหม? แล้วข้าจะคืนเจ้าที่หลัง!องค์ชาย 9 กล่าวอย่างหดหู่ ม้านั่นเป็นของเขา แต่เขากลับต้องมาขอยืม ปิง หยาง
ช่างน่าอัปยศ
…
ภายในโรงเตี้ยมที