“เข้าเส้นชัยเป็นคนแรก? เอาล่ะ จริงๆแล้วแผ่นหินที่ 4 ก็อยู่ข้างทางนั้นแหละ แต่… ” ฟาง เจิ้งจือ ยิ้ม
“แต่อะไร?“
“พวกเจ้าไปผิดทาง” ฟาง เจิ้งจือ ชี้ไปทางหินก้อนหนึ่ง
“ผิดทาง?” ปิง หยาง พึมพำกับตัวเอง ทันใดนั้นแววตาของนางก็ส่องประกาย ” เจ้าทำอะไรกับถนนงั้นรึ? โอ้ะ! ใช่แล้ว ตอนที่ข้าพบเจ้า! ข้าคิดแล้วว่ามันแปลกๆ … เจ้ามันไร้ยางอาย!“
“ขอบคุณสำหรับคำชม ตอนนี้เจ้าก็รู้แล้วว่า ทำไมไม่รีบไปละ?“
“ก่อนที่ข้าจะไป ข้าต้องการถามเจ้า” ปิง หยาง มองอย่างสงสัย
“เจ้าอยากถามข้า แล้วทำไมข้าต้องบอกเจ้าด้วย?“
“ใช่ทำไมเจ้าต้องบอกข้าด้วย? ถ้าเจ้าไม่บอกพวกเรา เจ้าก็จะมีโอกาสเข้าเส้นชัยเป็นคนแรกมากกว่าไม่ใช่หรือ?”ปิง หยาง มองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ
“ยังไงข้าก็ชนะอยู่ดี ต่อให้ข้าบอกเจ้าตอนนี้ก็ตาม”
“เป็นไปได้ยังไง? เจ้ายังไม่ไลงชื่อบนหินแผ่นแรกเลยนะ ตรงนั้นมีคนรอขวางเจ้าอยู่มากมาย?” ปิง หยาง กล่าวด้วยความไม่เชื่อ
“ผ่านพวกเขาไป? ทำไมข้าต้องผ่านพวกเขาด้วย? ตราบที่ข้าบอกความจริงพวกนั้นก็ต้องรีบวิ่งไปยังหินแผ่นที่4แล้ว ใครจะมาวุ่นวายกับข้ากัน?” ฟาง เจิ้งจือ กล่าวอย่างมั่นใจ
“เจ้าหน้าที่ฟางพูดถูก พวกเขาต้องการที่จะชนะการแข่งขัน ไม่อยากจะมีปัญหากับเจ้าหน้าที่ฟางหรอก ตราบเท่าที่เขาบอกตำแหน่งของแผ่นหินที่4 พวกนั้นก็จะวิ่งออกมาแน่และปล่อยเจ้าหน้าที่ฟางเอาไว้ “องค์ชาย9 พยักหน้า
“เข้าใจแล้ว นั่นคือเหตุผลที่เจ้ารอเราอยู่ที่นี่?” ปิง หยาง ถาม
“รอเจ้า? โปรดอย่าสำคัญตัวเองแบบนั้น ข้าหิวมาก ก็เลยหยุดหาอะไรกินแค่นั้น ลาก่อน!” ฟาง เจิ้งจือ กระโดดขึ้นหลังม้าแล้วควบออกไป
เขาทิ้ง ปิง หยาง เอาไว้
“เจ้าไร้ยางอาย ต่อให้ระยะทางของเจ้าจะสั้นกว่า แต่ข้าก็เอาชนะเจ้าได้!“
…
ฟาง เจิ้งจือ คิดว่าเขาคำนวนทุกอย่างไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
เขาปรับป้ายบอกทางไปยังแผ่นหินที่ 4 เขาบังคับให้ทุกคนต้องวิ่งอีกรอบ
พวกเขาทั้งหมดจะหิวโซและหมดแรงไป ด้วยวิธีนี้การแข็งขันก็ต้องจบลง
แน่นอนว่าไม่มีใครต้องการที่จะมีปัญฆา
ทุกสิ่งทุกอย่างจบอย่างสวยงาม
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้คาดหวังไว้ว่าจะได้พบกับ เจียง เทียนหยิง และ ถัง จงหมิง
เมื่อ ฟาง เจิ้งจือขี่ม้ามาถึงแผ่นหินแผ่นแรก เจียง เทียนหยิง และ ถัง จงหมิง ก็ไม่อยู่ที่นั่นแล้ว
ม้าสีดำและม้าสีเขียวยังคงนอนราบอยู่ที่พื้น
ม้าศึกสีดำดูราวกับกระดูกทั้งร่างได้พังทลาย ส่วนม้าศึกสีเขียวนั้นได้ตายไปแล้ว
ฟาง เจิ้งจือ ไม่รู้จัก เจียง เทียนหยิง และ ถัง จงหมิง อย่างไรก็ตามเขาจำได้ว่าทั้งคู่เป็นผู้ที่ขี่ม้านำหน้าทุกคนมาตลอด
“โอ้…? ทำไม เจ้าถึงฆ่าม้าของตัวเองกันละ?” ฟาง เจิ้งจือ ถามอย่างไร้เดียงสาเมื่อเห็นทั้งสอง
“เจ้า..?!”
เห็นได้ชัดว่า ฟาง เจิ้งจือ กำลังเยาะเย้ย
“ส่งแผ่นหินที่ 4 มาซะ!“
“ใช่แล้ว ส่งมาซะ ก่อนที่พวกเราจะโกรธ”
“มันผิดกฎ ที่หยิบแผ่นหินมาด้วย เมื่อเรายืนยันได้แล้ว เจ้าจะถูกตัดสิทธิ์ทันที!“
ทุกคนต่างคิดถึงแต่แผ่นหินที่ 4
“ข้าไม่ได้เอามันไป! เจ้าก็แค่ไปกันผิดทางไม่ใช่รึ?”ฟาง เจิ้งจือ มองไปอย่างไร้เดียงสา
“ผิดทาง? เป็นไปได้ยังไง?! เราเดินตามแผ่นหินบอกทาง … ที่ตั้งไว้, เจ้า… “
“ฟาง เจิ้งจือ เจ้ากล้าเปลี่ยนเส้นทางของแผ่นหินได้ยังไง!“
“เจ้า เจ้า … “
คู่แข่งทั้งหมดต่างได้สติ
“ข้าเริ่มไม่แน่ใจกับเรื่องนั้น ข้าไม่ได้วิ่งไปทางเดียวกับพวกเจ้านี่ ตอนที่ข้าไปถึงมันก็อยู่ข้างทางแค่นั้น ” ฟาง เจิ้งจือ ไม่โง่พอจะยอมรับในสิ่งที่ทำ
“นี่เจ้า เจ้าต้องจงใจย้ายมันแน่นอน!” 1 ในคู่แข่งพูดขึ้น
“แล้วถ้าข้าทำจริง แล้วยังไงละ? ข้าแค่บังเอิญเตะไปโดนมัน จะถูกตัดสิทธิ์ด้วยรึ?”ฟาง เจิ้งจือ โบกมือ
คู่แข่งต่างมีท่าทางโกรธจัดอย่างเห็นได้ชัด
แต่…
พวกเขาจะโจมตี ฟาง เจิ้งจือ หรือไม่
ถ้าแผ่นหินที่ 4 อยู่กับเขาจริง ก็มีเหตุผลพอที่พวกเขาจะโจมตี
อย่างไรก็ตาม ถ้ามันไม่ได้อยู่กับเขาล่ะ
สถานการณ์จะต่างไปจากเดิมแน่นอน
ข้อแรก ฟาง เจิ้งจือ เป็นเจ้าหน้าที่ระดับ 4 ของสภาหลวงพวกเขาไม่สามารถโจมตี ฟาง เจิ้งจือ ได้ถ้าไม่มีเหตุผลเพียงพอ
ข้อสอง ฟาง เจิ้งจือ นั้นมีพลังมาก
ในบรรดาคู่แข่งทั้งหมดมีเพียง เจียง เทียนหยิง และ ถัง จงหมิง เท่านั้นที่น่าจะเอาชนะเขาได้
ถ้าพวกเขาไม่ร่วมมือกัน ก็คงไม่มีทางชนะเขาได้ในการต่อสู้ตัวต่อตัวแน่
พวกเขาทำได้แค่ลดอารมณ์โกรธลงเท่านั้น
“ฟาง เจิ้งจือ พวกเราจะปล่อยเจ้าไปก่อน!“
“ไปกันเถอะ!“
คู่แข่งหลายคนทั้งหิวโหยและเหนื่อยล้าจากการแข่งขัน นอกจากนี้พวกเขาพึ่งจะวิ่งกันใหม่มาอีกรอบ
หลายคนกำลังอยู่ในภาวะที่อ่อนเพลีย
ตอนนี้พวกเขารู้เส้นทางไปยังแผ่นหินที่ 4 แล้ว ตราบเท่าที่พวกเขาเดินทางตามเส้นทางพวกเขาก็จะพบมัน
ไม่มีเหตุผลที่พวกเขาจะอยู่ที่นี่
พวกเขาทั้งหมดขี่ม้าของพวกเขาและเตรียมที่จะค้นหาแผ่นหิน
ตอนนั้นเอง เจียง เทียนหยิง และ ถังจงหมิง ต่างมองหน้ากัน จากนั้นพวกเขาก็ก้าวออกไป
“อย่าหลงกลเขา แผ่นหินที่ 4 ต้องอยู่กับเขาแน่ เขาต้องการให้เราไปหามันและขึ้นเป็นอันดับแรก” เสียงของ เจียง เทียนหลง ดังขึ้น
ทุกคนหยุด
“นายน้อยเจียงพูดถูก ฟาง เจิ้งจือ ขึ้นชื่อเรื่องไร้ยางอาย สิ่งที่นายน้อยเจียงพูดนั้นเป็นไปได้ ” ถัง จงหมิง พูดต่อ
“ใช่แล้ว สิ่งที่พวกเขาพูดมันมีเหตุผล!“
“ใช่แล้ว เราจะไม่ถูกหลอกอีกครั้งหรอก”
“ค้นตัวเขา!“
“เราควรจะมัดเขาก่อนจะค้นตัว!“
คู่แข่งทั้งหมดเห็นด้วยกับทั้งสอง
ตราบที่พวกเขามีเหตุผลที่จะสงสัยว่า ฟาง เจิ้งจือ เอาแผ่นหินมา ก็พอแล้วที่จะโจมตีเขา
ความจริงแล้ว…
ไม่ว่า ฟาง เจิ้งจือ จะเอาแผ่นหินมาหรือไม่นั้นเป็นแค่เรื่องรอง พวกเขารู้ดีว่า ฟาง เจิ้งจือ ไม่สามารถยกแผ่นหินที่ใหญ่ขนาดนั้นไปได้
พวกเขายังรู้อีกว่า ฟาง เจิ้งจือ พูดความจริง
อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่เต็มใจที่จะปล่อยให้ ฟาง เจิ้งจือ ออกไปอย่างง่ายๆ
ก่อนที่พวกเขาจะเริ่มการแข่งขันอีกครั้งพวกเขาจะมัด ฟาง เจิ้งจือ ไว้ก่อน นั่นเป็นวิธีเดียวที่ทำให้เขาไม่สามารถชนะได้
นอกจากนี้ยังจะช่วยให้พวกเขาระบายความโกรธในใจได้อีกด้วย
ฟาง เจิ้งจือ มองไปทางกลุ่มคน จากนั้นเขาก็มองไปที่ ม้าของ เจียง เทียนหลง และ
ถัง จงหมิง เขารู้ทันที
พวกเขารู้ว่าพวกเขาต้องออกจากการแข่งขัน จึงต้องการทำให้เกิดการปัญหามากที่สุดที่จะเป็นไปได้
พวกเขาพยายามจะดึง ฟาง เจิ้งจือ ลงมา
“ข้าบอกแล้วว่า ข้าไม่ได้เอาแผ่นหินที่ 4 ไป ถ้าเจ้าจะค้นตัวข้าก็ส่งคนออกมา แต่ถ้าพยายามจะรุมข้าล่ะก็ ข้าจะไม่ปล่อยไปแน่!” ฟาง เจิ้งจือ ตัดสินใจ
แม้เขาจะไม่มีตำแหน่งสูงในสภา แต่เขาก็มีอำนาจสูงที่สุดในบรรดาคู่แข่งทั้งหมด
ทุกคนก็ตะลึงเมื่อได้ยินคำพูดของ ฟาง เจิ้งจือ
“เจ้าจะฆ่าเราที่นี่หรือ?” หนึ่งในพวกเขาถามด้วยความไม่เชื่อ
“ใช่แล้ว! จักรพรรดิอยู่ที่นี่ในวันนี้ ถ้าเจ้าฆ่าเรา เจ้าเองก็จะถูกประหารเช่นกัน!” อีกคนหนึ่งก้าวออกมา
“ข้าไม่กล้าที่จะไปฆ่าคนไร้เดียงสาอย่างพวกเจ้าหรอก ยังไงก็ตาม ข้าก็ต้องป้องกันตัวใช่หรือเปล่า?” ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มแย้ม
เมื่อพวกเขาได้ยินคำว่า ‘ป้องกันตัวเอง’ ทุกคนต่างก็คิดเช่นเดียวกัน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหมู่บานภูเขาทางเหนือ ที่แพร่กระจายไปทั่วเมือง ฟาง เจิ้งจือ ยังไม่ได้พูดถึงการสังหารหมู่ทหารกว่า 100 คน
“โอ้ะ ป้องกันตัวเอง? เจ้าจะต้องเอาชนะเราให้ได้ก่อน!” เจียง เทียนหยิง มองไปยังคนอื่นๆ ถ้าเขาไม่พูดล่ะก็ พวกคนอื่นๆก็จะกลัวในคำพูดของ ฟาง เจิ้งจือ กันหมด
“ฟาง เจิ้งจือ ข้ารอวันที่จะได้พบกับเจ้าในการทดสอบระดับสภา ข้าไม่ขัดข้องหรอก ที่จะเลื่อนมันมาเป็นวันนี้แทน ” ถัง จงหมิง กล่าว
ด้วยการสนับสนุนของพวกเขาทั้งสอง ต่างเพิ่มขวัญให้กับคู่แข่งคนอื่นๆ
ฟาง เจิ้งจือ เริ่มโกรธ
ทั้งหมดที่เขาทำแค่ต้องการให้พวกเขากลัว อย่างไรก็ตามชื่อเสียงของเขาดูเหมือนจะไม่เพียงพอที่จะทำเช่นนั้น
เขามั่นใจว่าเขาสามารถโน้มน้าวพวกเขาทั้งหมดถ้าเขาพยายามต่อไป
ต่อให้แพ้ไปคนหนึ่ง อีกคนก็พร้อมจะเข้ามาอยู่ดี
อย่างไรก็ตาม ฟาง เจิ้งจือ ก็หมดเวลาด้วยเช่นกัน
เขาไม่น่าบอก ปิง หยาง ถึงตำแหน่งของแผ่นหินที่ 4 ด้วยความเร็วของ ปิง หยาง นางเป็นอันดับแรกได้ง่ายมาก
ไม่เพียงแค่จะสูญเสียสมบัติเท่านั้น เขายังจะโดน ปิง หยาง ล้อเลียนไปทั้งชีวิตแน่ “ข้าเป็นที่ 1เจ้าเป็นที่ 2 ข้าเป็นที่ 1เจ้าเป็นที่ 2… “
เมื่อ ฟาง เจิ้งจือ คิดแบบนั้นเขาแทบกระอักเลือดออกมา
เขาไม่สามารถปล่อยให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นได้
เขาต้องแก้ปัญหานี้โดยเร็ว
เขายกมือขึ้น ธนูสีเขียวหยกปรากฎขึ้น มันส่องสว่างและเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งการสังหาร
คู่แข่งทั้งหลายถอยหลังหนีเมื่อได้เห็นมัน
“นั่นคือ … “