“นั่นคือ ฟาง เจิ้งจือ จริงๆ เป็นไปได้ยังไง?“ท่าทีของเจ้าหน้าที่ทุกคนเปลี่ยนไป พวกเขาไม่ได้คาดคิดเลยวาผลจะเป็นแบบนี้
ท่าทีของรัฐมนตรีฝ่ายซ้าย ยู่ ยี่ปิง ดูแย่มาก เขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรผิดพลาด
ฟาง เจิ้งจือ ฝาวงล้อมคนจำนวนมากเข้าไปยังแผ่นหินแรกได้ยังไงกัน?
ท่าทีของจักรพรรดิก็เปลี่ยนไปเช่นกัน มันดูขัดแย้ง จนเขาสับสน
เกิดอะไรขึ้น?
เขาใช้ประโยชน์จาก ปิง หยาง งั้นหรือ?
องค์จักรพรรดิสงสัย เขารู้ความสัมพันธ์ระหว่าง ปิง หยาง กับ ฟาง เจิ้งจือ
เขาไม่แปลกใจเลยถ้า ฟาง เจิ้งจือ จะใช้ประโยชน์จาก ปิง หยาง เพื่อลงชื่อบนแผ่นหินแรก
อย่างไรก็ตาม …
ขณะที่ทุกคนกำลังตกใจ แผ่นหินสุดท้ายก็ปรากฎชื่อหนึ่งขึ้นมา
มันอยู่ใต้ชื่อของ ฟาง เจิ้งจือ
ปิง หยาง!
ชื่อของนางปรากฏขึ้นบนแผ่นหินที่ 4
“เป็นคือ ปิง หยาง!“
“ปิง หยาง หาแผ่นหินที่ 4 เจอแล้ว?!“
“หามันเจอได้ยังไง?“
“เกิดอะไรขึ้น?“
ผู้ชมและเจ้าหน้าที่ทุกคนสับสน บางคนคิดว่า ฟาง เจิ้งจือใช้ ปิง หยาง ให้ลงชื่อของเขา
ปิง หยาง ควรจะอยู่ที่แผ่นหินแผ่นแรก อย่างไรก็ตาม นางเขียนชื่อตัวเองลงบนแผ่นหินที่ 4 ภายใน 5 นาทีหลังจากที่ชื่อของ ฟาง เจิ้งจือ ปรากฎขึ้นที่แผ่นหินแรก
มันอาจจะเป็น…
ทุกคนคิดถึงความเป็นไปได้
ฟาง เจิ้งจือ ใช้ ปิง หยาง เขียนชื่อของเขาลงบนแผ่นหิน จากนั้นก็อนุญาติให้ ปิง หยาง เขียนชื่อของนางในเวลาต่อมา
มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว
ฟาง เจิ้งจือ เอาแผ่นหินที่ 4 ไปยังตำแหน่งของแผ่นหินแผ่นแรกด้วย หรือก็คือ ฟาง เจิ้งจือ เป็นคนย้ายแผ่นหิน
“ฝ่าบาท ข้ามีเรื่องจะรายงาน!“รัฐมนตรีว่าน ฉง ก้าวออกมา
“อืม? มีอะไร?จักรพรรดิถามอย่างสงบ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
เมื่อ ยู่ ยี่ปิง ได้ยิน ว่าน ฉง เขาจ้องมอง
“ข้าพบปัญหาในการแข่งขันแล้ว หากยังเป็นแบบนี้ ทุกคนต้องสงสัยถึงความยุติธรรมในการแข่งขันแน่นอน ดังนั้นข้าหวังว่าจะสามารถแก้ปัญหานี้ได้ทันที ” ว่าน ฉง กล่าว
“ปัญหาคืออะไร? อธิบายให้ละเอียด “จักรพรรดิพยักหน้า
รัฐมนตรีว่าน ฉง ใจเย็นลง
“ตามกฎของการแข่งขันไม่มีข้อห้ามในการเคลื่อนย้ายแผ่นหิน อย่างไรก็ตามแผ่นหินทั้ง 4 อยู่ในแต่ละมุมของพวกมัน ถ้ามีใครเปลี่ยนตำแหน่งของแผ่นหินนั่นหมายถึงความไม่ยุติธรรม ฝ่าบาททรงลองคิดดู จะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต ถ้าทุกคนย้ายแผ่นหินกันเป็นว่าเล่น? พวกเราจะมีกฎไปทำไมกัน?“ว่าน ฉง กล่าวออกมา
“ฝ่าบาท ข้าเห็นด้วยที่สุด!“
“ฝ่าบาท ข้าเองก็เช่นกัน ถ้าเราปล่อยพฤติกรรมดังกล่าวต่อไป มันคงไม่ดีแน่สำหรับอนาคต!“
เจ้าหน้าที่อีกสองคนยืนขึ้นและเห็นด้วยกับ ว่าน ฉง
จักรพรรดิรู้ดีว่า ว่าน ฉง หมายถึงอะไร อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้พูดทันที
หลังจากที่การแข่งขันได้เริ่มต้นแล้ว การเปลี่ยนกฎกลางคันก็ไม่สมเหตุสมผล
ยู่ ยี่ปิง เห็นท่าทีของจักรพรรดิและรู้ทันทีว่ากำลังคิดอะไรอยู่ เขาต้องการเหตุผลที่จะใช้เปลี่ยนกฎในตอนนี้
เขามองไปที่ผู้ชมทั้งหมด
ผู้ชมทุกคนรู้ทันทีว่านายกรัฐมนตรีฝ่ายซ้ายต้องการอะไร
“ฝ่าบาท เราขอให้ท่านได้โปรดหยุดการกระทำดังกล่าว!“พวกเขาคุกเข่าทูล
เมื่อ เหวิน เต๋าเปา ได้ยิน เขาเริ่มตัวสั่น
“อะไรกัน?” เหวิน เต๋าเป่า ตะโกนจากนั้นเขาก็มองไปที่แผ่นหิน “ฮ่าฮ่าฮ่า รายชื่อยังคงอยู่ที่นั่น “
ขณะที่เขากำลังยินดีอยู่นั้นเอง ตาของเขาก็ต้องแข็งค้าง
เขาเห็นอีกชื่อนึงที่อยู่ใต้ชื่อของ ฟาง เจิ้งจือ ปิง หยาง!
“องค์หญิง ปิง หยาง อยู่ที่แผ่นหินที่ 4 ให้ตายเถอะ ฟาง เจิ้งจือ เร็วเข้า!” เหวิน เต๋าเป่า อุทานออกมา
“ไม่มีทางที่เขาชนะได้ ข้าคิดว่าเขาอาจถูกตัดสิทธิ์!“
“ข้าไม่คิดว่าเขาสามารถเอาชนะการแข่งขันนี้ได้”
“สามัญชนธรรมดาจะสู้พวกเราได้ยังไง“
คนมากมายจากตระกูลทรงอิทธิพลเยาะเย้ยเมื่อได้ยินเสียงของ เหวิน เต๋าเป่า
“เจ้ากำลังพูดอะไร? ทำไมเขาถึงต้องถูกตัดสิทธิ์?“เหวิน เต๋าเป่า สับสน
“เพราะเขาเคลื่อนย้ายแผ่นหินที่ 4! “การกระทำที่อุกอาจนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ได้รับอนุญาติ” คนหนึ่งพูดย้ำ
“อะไร? เป็นไปได้ยังไง?! การแข่งขันเริ่มขึ้นไปแล้ว ข้าต้องไปขอให้จักรพรรดิเปลี่ยนกฎหลังจากการแข่งขันครั้งนี้!“
“เหวิน เต๋าเป่า เจ้าอยากตายรึ?“
“เจ้าตาบอดรึไงกัน? ไม่เห็นรึว่า คนอื่นๆกำลังคุกเข่าลงอยู่“
พวกเขาทั้งหมดดึง เหวิน เต๋าเป่า ลง
เหวิน เต๋าเป่า หันไปรอบ ๆ และตกตะลึงเป็นอย่างมาก เกิดอะไรขึ้น? ทำไมทุกคนถึงคุกเข่า
ในขณะที่เขากำลังคิดถึงเรื่องนี้ รัฐมนตรี ยู่ ยี่ปิง ก้าวไปข้างหน้า เขากระชับเสื้อคลุมและคุกเข่าลง
“ฝ่าบาท หลายครั้งที่ผู้ส่งสารเดินทางกว่า 300 ไมล์ต่อวัน เพียงเพื่อเปลี่ยนแปลงคำๆเดียวในคำสั่งทหาร ถ้าไม่ใช่เพราะความคิดและการตอบสนองอย่างรวดเร็วของจักรพรรดิองค์ก่อนการต่อสู้กับปีศาจพวกเราอาจจะไม่ชนะ แม้ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในวันนี้มีน้อย แต่ก็มีผลกระทบต่อคนจำนวนมาก ฝ่าบาท โปรดตัดสินใจ!”ยู่ ยี่ปิง คุกเข่าอย่างจริงจัง
“ฝ่าบาท โปรดตัดสินใจ”“
ทุกคนต่างพูดซ้ำคำของ ยู่ ยี่ปิง
จักรพรรดิได้ยินคำร้องเรียนของพวกเขา เขามองไปที่คนที่คุกเข่าอยู่ข้างหน้า
“ใช่แล้ว ข้าผิดเอง ข้าจะฟังทุกคนที่นี่ ในวันนี้ จะมีการเพิ่มกฎขึ้นใหม่ ไม่อนุญาติให้ผู้เข้าแข่งขันเคลื่อนย้ายแผ่นหินได้อย่างไรก็ตาม … นี่เป็นครั้งแรกที่กฎจะถูกเพิ่มเข้าไปในขณะที่การแข่งขันกำลังดำเนินอยู่” จักรพรรดิพยักหน้า
ทุกคนต่างสนับสนุนการตัดสินใจนี้
พวกเขาทั้งหมดรู้ถึงความตั้งใจของจักรพรรดิเขาไม่สามารถยอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อีก คำพูดของจักรพรรดิเป็นเด็ดขาด
ถ้าเขาไม่เปลี่ยนกฎให้เหมาะสม คงจะไม่มีใครนับถือเป็นแน่
มีเพียง เหวิน เต๋าเป่า ที่ล้มลงกับพื้นทันทีที่ได้ยินคำพูดของจักรพรรดิ
“พระเจ้า อย่าเล่นตลกกับข้าแบบนี้!“
…
ฟาง เจิ้งจือ วิ่งไปที่เส้นชัย!
แม้เขาจะขี่ม้าริ้วโคลน แต่ม้ายังคงเป็นม้า นอกจากนี้ ตอนนี้ม้าริ้วโคลนของเขายังเคลื่อนที่ได้อย่างคล่องแคล่ว
ม้าริ้วโคลนไม่เหมือนกับหยกหิมะของ ปิง หยางหยกหิมะเอาชนะมันได้แม้จะเหลือเพียง 3 ขา
อย่างไรก็ตาม หยกหิมะวิ่งวน 2 รอบแล้วตั้งแต่เริ่มการแข่งขัน
ในทางกลับกัน ม้าริ้วโคลนนั้นรู้สึกสดชื่นเพราะพักผ่อนมาตลอดทาง
นอกจานี้ ฟาง เจิ้งจือ ยังเริ่มวิ่งช้ากว่า ปิง หยาง 3 นาทีอีก
พื้นที่การแข่งขันเป็นวงกลม อย่างไรก็ตาม จุดเริ่มต้นกับจุดสิ้นสุดห่างกัน 1 ไมล์
นี่คือสี่แยก
หลังจากที่ทั้งหมดจักรพรรดิเจ้าหน้าที่หลายคนเช่นเดียวกับผู้ชมนับไม่ถ้วนอยู่ที่เส้นชัย มันเป็นไปไม่ได้ที่จะวางเส้นชัยในการติดตาม
อย่างไรก็ตามสี่แยกนี้เต็มไปด้วยผู้คน
“นั่น ฟาง เจิ้งจือ!“
“เขากลับมาแล้วเขาก็กลับมาแล้ว!“
ผู้ชมทุกคนต่างตกใจเมื่อเห็น ฟาง เจิ้งจือ กลับมา อย่างไรก็ตามท่าทีของพวกเขายังแฝงด้วยความเยาะเย้ย
ฟาง เจิ้งจือ ไม่สนใจ จนกว่าจะจบจริงๆ ไม่มีใครมั่นใจได้ว่าจะชนะ
ดังนั้นเขายังคงยกหัวขึ้นขณะผ่านผู้คน ม้าของเขาเตะฝุ่นควันฟุ้งกระจายไปทางเหล่าผู้ชม
“กินฝุ่น! กินมันเลย กินมันสิ กิน… ” ฟาง เจิ้งจือ พึมพัมกับตัวเอง ขณะเร่งไปที่เส้นชัย
ทันใดนั้นเสียงม้าจากไกลๆได้ดังขึ้น จากนั้นร่างสีแดงก็ปรากฎ
“นั่นมัน…”
“องค์หญิง ปิง หยาง!“
“องค์หญิงเร็วเข้า! ฟาง เจิ้งจือ อยู่ข้างหน้าแล้ว!“
ผู้ชมทุกคนนั้นไม่ได้รับบทเรียนเลยแม้แต่น้อยหลังจากสำลักฝุ่นควันไปพวกเขาเริ่มตะโกนใส่ ปิง หยาง