ผู้เข้าแข่งขันที่กำลังพูดอยู่นั้น ไม่ได้รู้เลยว่าเจ้าหน้าที่กำลังคิดอะไรอยู่ เขายังคงเล่าเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด
เขาดูตื่นเต้นและมีชีวิตชีวา ขณะที่พูดน้ำลายของเขาก็กระเด็นไปทั่ว
ผู้คนและเหล่าเจ้าหน้าที่ต่างรู้สึกเบื่อขึ้นมาทันที แม้แต่องค์จักรพรรดิก็ยกชาขึ้นมาจิบด้วยความเบื่อหน่าย
ในที่สุด เขาก็เลาถึงตอนมาถึงแผ่นหินที่3
เจ้าหน้าที่ทุกคนให้ความสนใจทันที
ผู้เข้าร่วมทุกคนพลันหงุดหงิดและรู้สึกหดหู่ในทันที พวกเขาอยากถามสวรรค์เหลือเกินว่าทำไมต้องกลั่นแกล้งพวกเขาด้วย คนอื่นๆก็ต่างถอนหายใจเช่นกัน
เพราะว่า…
มันเป็นความทรงจำที่เจ็บปวด
ถ้าไม่ใช่ว่าพวกเขาตกหลุมพลางของ ฟาง เจิ้งจือ ฟาง เจิ้งจือ คงไม่ได้เป็นที่1
“อา…พวกเราสนใจกับการแข่งขันมากเกินไป พวกเราแค่ตามคนที่อยู่ข้างหน้าเท่านั้น ไม่มีใครสักคนสังเกตุเห็นว่าแผ่นหินบอกทางถูกปรับเปลี่ยน!”อัจฉริยะคนหนึ่งส่ายหัว
“เคร้ง!“ถ้วยชาขององค์จักรพรรดิหล่นแตกบนพื้น
เจ้าหน้าที่ทุกคนต่างรู้สึกว่าขาของตัวเองนั้นสั่นเทา
“เขาขยับหินบอกทางจริงๆงั้นรึ?!“
“เป็นไปได้อย่างไร!“
“กลลวงแบบนี้ได้ผลด้วยงั้นรึ?“
เจ้าหน้าที่ทุกคนไม่อาจเชื่อหูของพวกเขาได้ แม้แต่ผู้ชมก็ตะลึงกับเรื่องง่ายๆแบบนี้
“ข้าคิดว่าเป็นเพราะ ฟาง เจิ้งจือ ปรากฎตัวขึ้นมาบนถนนฝั่งตรงข้าม เช่นนั้นพวกเราจึง … ” เขาถอนหายใจ
ท่าทีขององค์จักรพรรดิดำมืดลง
อย่างไรก็ตามไม่มีใครห้ามไม่ให้เขาพูดต่อ ทุกคนต้องการจะรู้ว่า ฟาง เจิ้งจือ ผ่านหินแผ่นแรกไปได้ยังไง
มันเป็นคำถามสำคัญสำหรับพวกเขา
ผู้เข้าแข่งขันคนนั้นยังคงเล่าต่อไปถึงการที่พวกเขารอ ฟาง เจิ้งจือ อยู่ที่แผ่นหินอันแรก
อย่างไรก็ตาม…
เขาดูเหมือนจะไม่รีบร้อนเล่าถึงตอนที่ ฟาง เจิ้งจือ มาถึงเขายังคงอธิบายการป้องกันของพวกเขาและพวกเขาทำอะไรขณะที่รอคอย เขาพูดเกี่ยวกับหนังสือที่เขาอ่าน เวลาที่ใช้ฝึก…
รัฐมนตรีฝ่ายพิธีการ ทนไม่ไหวอีกต่อไป“เสียเวลาไปมากแล้ว จงบอกว่าเกิดอะไรขึ้นที่หินแผ่นแรก”
ผู้เข้าแข่งขันคนนั้นตกตะลึง เหงื่อเริ่มไหลออกมา การถูกขัดจังหวะดังกล่าวทำให้เขาทำอะไรไม่ถูก
พูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นที่แผ่นหินอันแรก?
ผู้เข้าแข่งขันคิดว่ามันหมายความว่าอะไร เขาเข้าใจอย่างรวดเร็ว อย่างน้อยเขาก็มีการศึกษา
เขาไม่เล่าเรื่องไร้สาระอีกต่อไป และเข้าประเด็นทันที
“ทันใดนั้น ฟาง เจิ้งจือ ปรากฎตัวขึ้น!“
รัฐมนตรีฝ่ายพิธีการพยักหน้า และกระตุ้นให้ผู้เข้าแข่งขันพูดต่อไป
ผู้เข้าแข่งขันเห็นดังนั้นก็รู้ว่าตัวเองมาถูกทางแล้ว แต่เขาได้ตัดสินใจข้ามเนื้อหาทั้งหมดไป…
เขาเล่าเรื่องที่ เจียง เทียนหยิง และ ถัง จงหมิง ท้าทาย ฟาง เจิ้งจือ จากนั้นเขาก็เล่าถึงความน่ากลัวของ ฟาง เจิ้งจือ
“ทั้งคู่ท้าทาย ฟาง เจิ้งจือ พร้อมกัน?“
“ถ้าเป็นแบบนี้ โอกาสที่ ฟาง เจิ้งจือ จะชนะก็ไม่น่าจะมี!“
เจ้าหน้าที่ทั้งหมดขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเรื่องนี้ พวกเขาไม่รู้ว่า ฟาง เจิ้งจือ เอาชนะทั้ง ถัง จงหมิง และ เจียง เทียนหยิง ได้ยังไง
” ฟาง เจิ้งจือ ใช้แสงสีขาว ขณะที่ ถัง จงหมิง และ เจียง เทียนหยิง กำลังถกเถียงกันอยู่!”ผู้เข้าแข่งขันเล่าว่าเกิดอะไรขึ้น ” จากนั้น ด้วยการโจมตีซ้ำ เขาก็จัดการ เจียง เทียนหยิง ได้”
ผู้เข้าแข่งขันไม่ได้พูดต่อ เขารอให้เจ้าหน้าที่ตัดสินคำอธิบายของเขา
อย่างไรก็ตามไม่มีใครสังเกตุเขา ทุกคนตกใจกับเรื่องที่ได้ยิน
“ฟาง เจิ้งจือ จัดการทั้งคู่ลง?!“
“เป็นไปได้ยังไง?!“
“ถัง จงหมิง เป็นอันดับที่8 เจียง เทียนหยิง เป็นอันดับที่7 นอกจากนี้ เจียง เทียนหยิง ยังมีเขตแดนผลึกแก้วสีม่วง! ฟาง เจิ้งจือ จัดการพวกเขาได้ยังไงกัน? !“
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?“
เจ้าหน้าที่ทุกคนไม่เชื่อ ผลลัพธ์แบบนี้เป็นสิ่งที่พวกเขาคาดไม่ถึง ต่อให้เป็นการซุ่มโจมตีอย่างต่อเนื่อง ก็ไม่สามารถจัดการทั้งคู่ลงได้
พวกเขาได้เห็นตอนนี่ ฟาง เจิ้งจือ ต่อสู้กับ เหยียน ซิว
แน่นอนว่า ฟาง เจิ้งจือ มีความสามารถพอที่จะเอาชนะพวกเขาทีละคน
อย่างไรก็ตาม การเอาชนะทั้งคู่พร้อมกันนั้นเป็นไปไม่ได้
ปิง หยาง หันไปมอง ฟาง เจิ้งจือ “เจ้าหน้าด้าน แข็งแกร่งขนาดนี้เลยหรอ? เขาจัดการทั้งคู่ลงได้?“
ท่าทีของ ยู่ ยี่ปิง ยิ่งดำมืดมันเกิดขึ้นได้ยังไง?
องค์จักรพรรดิมองไปที่ถ้วยชาโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา ริมฝีปากของเขากระตุกเล็กน้อย ฟาง เจิ้งจือ เคลื่อนย้ายหินบอกทาง รวมถึงเอาชนะ เจียง เทียนหยิง และ ถัง จงหมิง
ฟาง เจิ้งจือ …
เจ้าเป็นตัวอะไรกันแน่?
ท่าทีของรัฐมนตรีฝ่ายพิธีการกลายเป็นน่าเกลียดทันที ผู้แข่งขันคนนี้ไดข้ามรายละเอียดทั้งหมด และตรงเข้าประเด็นเลย
“เอ่อ … โปรดบอกเพิ่มเติมได้ไหมว่า ทั้งคู่แพ้ได้ยังไง” เจ้าหน้าที่หันไปหาผู้เข้าแข่งขัน
“รับทราบ!“ผู้เข้าแข่งขันเหงื่อตกอีกครั้ง เขาพยายามตีความคำพูดของเจ้าหน้าที่
“เพราะ ฟาง เจิ้งจือ มีธนูอาทิตย์แผงศร เขาใช้มันจากระยะไกล … “
“เจ้าพูดว่าอะไรนะ?!” รัฐมนตรีฝ่ายพิธีการพูดขัดขึ้นมาทันที
“เอ่อ…ด้วยเกียรติของข้า… ข้าบอกว่า ฟาง เจิ้งจือ มีธนูอาทิตย์แผงศร?“ผู้เข้าแข่งขันตัวสั่น
“ธนูอาทิตย์แผงศร?!“
“มันเป็นไปได้ยังไง?“
“ทำไม ฟาง เจิ้งจือ ถึงมีมันได้?“
ทุกคนหันไปมองราชาต้วน
ธนูอาทิตย์แผงศรเป็นของเขา
ปิง หยาง สับสนเมื่อได้ยินเรื่องนี้ ไม่ใช่ว่าราชาต้วนเสียธนูอาทิตย์แผงศรให้นางแล้วหรอกรึ? ทำไม ฟาง เจิ้งจือ ถึงมีมันได้
องค์จักรรกพรรดิหันไปมองราชาต้วยที่อยู่ใกล้ๆเขารอราชาต้วนอธิบาย
ราชาต้วนยิ้ม
ก่อนที่เขาจะได้ยินคำว่าธนูอาทิตย์แผงศร เขาได้เตรียมคำตอบมาเรียบร้อยแล้ว
“ขาได้แพ้พนันกับ ปิง หยาง ไม่กี่วันก่อน 2 วันที่แล้ว ข้าได้ส่งให้คนใช้นำมันไปให้นางอย่างไรก็ตาม เขาบอกว่ามีคนร้ายมาขโมยมันไป ข้าได้ส่งคนไปตามหา!หรือว่าจะเป็น…” ราชาต้วนหยุดพูดและมองไปยัง ฟาง เจิ้งจือ
ฟาง เจิ้งจือ นั้นเตรียมรับคำชมเท่านั้น แต่เขากลับต้องตกตะลึงกับคำพูดของราชาต้วน
เขารู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติตอนที่ได้รับธนูนั้นมา
อย่างไรก็ตาม หลังจากเจอองค์ชาย9 และ ปิง หยาง ที่ร้านอาหาร เขาก้ไม่ได้นึกถึงมันอีก
ดูเหมือนว่า …
เขาไดตกลงไปในกับดัก!
“ฑูตแห่งดาบ ช่วยบอกหน่อยว่าทำไมธนูถึงไปอยู่กับเจ้า?” รัฐมนตรีฝ่ายพิธีการได้ถาม
“ท่านจะเชื่อไหม ถ้าข้าบอกว่าข้าซื้อมันมาในราคา 5 ทองแดง?” ฟาง เจิ้งจือ กล่าวความจริง
“ซื้อมันมาด้วยราคา 5 ทองแดง?!” รัฐมนตรีฝ่ายพิธีการมองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ ด้วยความหวดกลัวและสงสัย
ข้อแก้ตัวนี้…
ไม่น่าเชื่อแม้แต่น้อย!
บรรดาผู้ชมคนอื่นๆก็รู้สึกทึ่งกับ ฟาง เจิ้งจือ
มีข้ออ้างไหนแย่กว่านี้อีกไหม?!
5 ทองแดง!
ซื้อได้แค่ขนมข้างทางเท่านั้น
ธนูอาทิตย์แผงศรจะราคาแค่ 5 ทองแดง ได้ยังไง?
“อยากจะรู้เหลือเกินว่าเขาไปซื้อมาจากที่ไหน? ข้าอยากจะได้สักอัน “
“แน่ พวกเราเต็มใจซื้อแน่นอน สมบัติราคาถูกขนาดนี้”
“ ราคาคุ้มค่าอะไรขนาดนี้”
เจ้าหน้าที่ทุกคนก้าวไปข้างหน้าและตำหนิ ฟาง เจิ้งจือ พวกเขามีการศึกษาทั้งหมด คิดว่าพวกเขาเป็นคนโง่หรือไงกัน?
“มีบางอย่างที่ไม่สามารถซื้อได้ต่อให้ต้องการ มันขึ้นอยู่กับแต่ละคน แม้แต่ชายที่หน้าตาดีเท่านั้นถึงจะได้รบมัน แต่ถ้าน่าเกลียดละก็…คงยาก!” ฟาง เจิ้งจือ ตอกหลับ
“เจ้า!”
“ฟาง เจิ้งจือ เจ้าบอกว่าพวกเราน่าเกลียดงั้นรึ?“
“สวะ เจ้ามันชั่วช้า!“
การแสดงออกของเจ้าหน้าที่ทุกคนดำมืดทันที
“ข้าไม่ได้พูดอย่างนั้น อย่างไรก็ตาม ถ้าพวกท่านโชคดีแบบข้าก็คงจะหาซื้อธนูเช่นนี้ได้ในราคา 5 ทองแดง” ฟาง เจิ้งจือ ตอบด้วยความรังเกียจ
“เจ้ากล้ามาก! ต่อให้เจ้าจะเป็นเจ้าหน้าที่ระดับ4 เจ้าก็ไม่สามารถพูดจาสามหาวเช่นนี้ได้!”รัฐมนตรีฝ่ายพิธีการตะโกนขึ้นมา
“ท่านมีหลักฐานงั้นหรือว่าข้าพูดเท็จ?” ฟาง เจิ้งจือ พูดขึ้นมาอีกครั้ง
“ราชาต้วนพูดชัดเจนแล้ว ว่าธนูนั้นถูกขโมยไป!” หน้าของรัฐมนตรีฝ่ายพิธีการกลายเป็นสีแดงทันที
“ใช่แล้ว ราชาต้วนพูดอย่างนั้น นั่นหมายความว่าธนูไม่ใช่ของเขาอีกแล้ว ข้าก็แค่ซื้อต่อมาจากคนที่ขโมยมันเท่านั้น มันไม่ปกติตรงไหน?” ฟาง เจิ้งจือ ตอบด้วยความใจเย็น
“เจ้า…พูดจาไม่มีเหตุผล!“
“ ถ้ามีคนอยากขโมยธนูจริงๆ ทำไมต้องเอาไปขายต่อในราคา 5 ทองแดงด้วย?“
“มันจะเป็นไปได้ยังไง?