จักรพรรดิหลิน มู่ไป่ มีสีหน้าบึ้งตึง ฟาง เจิ้งจือ อาจเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาทั่วไป แต่เขาก็มีพรสวรรค์ การตัดสินใจของเขาจะส่งผลยังไง?
องค์จักรพรรดิคิดหนัก
การตัดสินใจของเขาจะส่งผลต่ออนาคตของอาณาจักรเซี่ย เขาต้องมั่นใจว่าอาณาจักรจะยังคงรุ่งเรืองต่อไป
ทันใดนั้นเอง มีร่างสีแดงปรากฎตัวขึ้นตรงหน้า แววตาคู่นั้นราวกับผลึกแก้วที่สดใส นางมองไปยังเหล่าเจ้าหน้าที่ด้วยความโกรธ
“พี่6 ท่านบอกว่าจะให้อาทิตย์แผงศรกับข้า ดังนั้นไม่ว่ามันจะถูกฉกฉวยไปหรือไม่ ก็ไม่ควรจะเกี่ยวอะไรกับเขา” น้ำเสียงของ ปิง หยาง ไม่ดังมากนัก แต่มันทำให้เหล่าเจ้าหน้าที่สะท้านไปถึงกระดูกดำ
ราชาต้วนขมวดคิ้วทันทีเมื่อได้ยิน
“น้องหญิง เจ้าหมายความว่ายังไงกัน?“
“ทุกคนจะเชื่อข้าหรือไม่ ถ้าข้าบอกว่าข้าได้ส่งค้นใช้ไปขโมยมันมาเอง และ ฟาง เจิ้งจือ ไปเจอเขาเข้าพอดีแค่นั้น” ปิง หยาง ยิ้ม นางปกป้อง ฟาง เจิ้งจือ อย่างเห็นได้ชัดเจน
เจ้าหน้าที่ทั้งหมดต่างอ้าปากค้าง
พวกเขาควรจะเชื่อหรือไม่?
นี่เป็นปัญหา
ราชาต้วนรู้สึกตะหงิดๆ
เขาไม่เชื่อ เพราะเขาส่งคนไปขายธนูอาทิตย์แผงศรให้ ฟาง เจิ้งจือ เอง เขาควรจะเปิดเผยความจริงงั้นรึ?
แน่นอนว่าไม่
ดังนั้นสิ่งที่เขาทำได้มีเพียงแค่เชื่อเท่านั้น
“ฮ่าฮ่า … ” ราชาต้วนหัวเราะและไม่คัดค้าน เขาเห็นว่า ปิง หยาง พยายามปกป้อง ฟาง เจิ้งจือ นั่นเป็นสิ่งที่ชัดเจนมาก
อย่างไรก็ตามตอนนี้…
สุดท้ายแล้วองค์จักรพรรดิจะเป็นผู้ตัดสินใจ
รัฐมนตรีฝ่ายซ้าย ยู่ ยี่ปิง ถามถึงคุณธรรมและคุณค่าของ ฟาง เจิ้งจือ กับเหตุการณ์ในหมู่บ้านภูเขาทางเหนือ
เขาถามถึงความภักดีและความไม่น่าไว้ใจของ ฟาง เจิ้งจือ
มันเหมือนเป็นการกำจัด ฟาง เจิ้งจือ ด้วยคำพูดเดียว
ซึ่ง ฟาง เจิ้งจือ จะถูกกำจัดหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับองค์จักรพรรดิอีกเช่นกัน
องค์จักรพรรดิเหลือบมองเห็นความพยายามที่มุ่งมั่นของ ปิง หยาง
แววตาของเขาเต็มไปด้วยความผ่อนคลายและความรักในทันที
“วันนี้เป็นการแข่งขันขี่ม้าและล่าสัตว์ ดังนั้นเราจะพูดถึงเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เท่านั้น ทุกสิ่งทุกอย่างจะเลื่อนออกไปจนกว่าจะถึงการประชุมครั้งหน้า“จักรพรรดิหลิน มู่ไป่ กล่าว
เจ้าหน้าที่ทุกคนต่างตกตะลึงด้วยคำพูดของจักรพรรดิ
แม้ว่าจักรพรรดิไม่ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ …
แต่จากประสบการณ์ของพวกเขาก็บอกได้เลยว่าจักรพรรดิเองก็อยู่ข้าง ฟาง เจิ้งจือ!
นอกจากนั้น
การปกป้อง ฟาง เจิ้งจือ ของเขานั้นเห็นได้ชัดยิ่งกว่า ปิง หยาง เสียอีก!
ทำไม? ทำไมจักรพรรดิถึงปกป้อง ฟาง เจิ้งจือ มันหมายความว่ายังไงกัน!
องค์จักรพรรดิคิดอะไรอยู่กันแน่ …
เจ้าหน้าที่ทุกคนคิดถึงเรื่องหนึ่ง ไม่ใช่เรื่องดีต่อพวกเขาแน่ พวกเขาทั้งหมดไม่อยากจะคิดถึงเรื่องนั้นเลยแม้แต่น้อย
ราชาต้วนเองก็ตกตะลึง
เขาไม่คิดเลยว่าแผนการของเขาจะพังทลายลงแบบนี้ ที่สำคัญไปกว่านั้น องค์จักรพรรดิไม่ได้เอาธนูอาทิตย์แผงศรคืนให้เขาอีกต่างหาก!
และ ฟาง เจิ้งจือ ไม่ถูกตัดสินว่าเป็นอาชญากร!!
มันคือธนูอาทิตย์แผงศรเชียวนะ
นี่เป็นจุดตกต่ำของเขาชัดๆ
ตราบที่องค์จักรพรรดิเอาธนูอาทิตย์แผงศรคืน ฟาง เจิ้งจือ ก็จะไม่มีโอกาสกลับไปที่สภา
ไม่ว่า ฟาง เจิ้งจือ จะเป็นผู้ชนะของการทดสอบระดับจักรพรรดิก็ตาม มันก็ไม่สำคัญอีกต่อไป
มันจะไร้ความหมายในทันที
นั่นคือเหตุผลในแผนการของราชาต้วน ทำให้ ฟาง เจิ้งจือ ชนะการทดสอบ
แต่ก่อนอื่นเขาต้องการกำจัด ฟาง เจิ้งจือ ที่เป็นภัยคุกคาม ก่อนการประกาศผล
แต่ตอนนี้?
ไม่เพียงแต่องค์จักรพรรดิจะปกป้องเขา แต่กลับไม่ซักถามถึงเรื่องธนูเลยด้วยซ้ำ
การทำให้ ฟาง เจิ้งจือ เป็นอันดับ 1 ของการทดสอบระดับจักรพรรดิหมายความว่าบางอย่างจะต่างไปจากตอนนี้อย่างสิ้นเชิง
“องค์จักรพรรดิกำลังคิดอะไรอยู่กัน?”ราชาต้วนรู้สึกแบบนี้เป็นครั้งแรก เขาไม่สามารถเข้าใจได้เลยว่าจักรพรรดิกำลังคิดอะไรอยู่
บรรดาผู้ชมต่างมอง ฟาง เจิ้งจือ ด้วยความสับสนและหวาดกลัว
ฟาง เจิ้งจือ ตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นแบบนี้ สิ่งที่เขาอยากทำคือหาเหตุผลที่จะป้องกันไม่ให้ตัวเองถูกตัดสินว่ามีความผิด
สำหรับธนูอาทิตย์แผงศร
เขาไม่เคยคาดหวังว่าจะสามารถเก็บมันไว้ได้
“ไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้? งั้นมันเป็นของข้าแล้ว?”ฟาง เจิ้งจือ คิดอย่างไร้เดียงสา แต่เขาก็ปัดมันทิ้งออกจากหัวไปทันที
ปิง หยาง พุ่งออกมา
เท้าของนางแตะพื้น
นางต้องการให้ ฟาง เจิ้งจือ หลุดจากข้อกล่าวหา แต่นางไม่ได้ตั้งใจจะให้ธนูอาทิตย์แผงศรแก่ ฟาง เจิ้งจือ
“ท่านพ่อ!” ปิง หยาง กล่าวอย่างยินดี
“ฮ่าฮ่า … ธนูอินทรีย์ทองของข้าวางให้ฝุ่นจับอยู่ในวังมานานแล้ว ทำไมเจ้าไม่ลองนำมันไปใช้ดูละ?”องค์จักรพรรดิ พูดขึ้นมา
“ธนูอินทรีย์ทอง? เเน่นอน แน่นอน!”“ปิง หยาง สดใสขึ้นทันทีเมื่อได้ยิน
“รัฐมนตรีฝ่ายพิธีการ ประกาศผลได้เลย!” องค์จักรพรรดิเอานิ้วจิ่มจมูก ปิง หยาง ขณะที่เห็นนางยิ้มอย่างสดใส
ปิง หยาง พุ่งไปที่ข้าง ฟาง เจิ้งจือ ทันที
“เจ้ากำลังมองอะไรอยู่ หึ!“
“ธนูอินทรีย์ทองดีกว่าธนูอาทิตย์แผงศรอีกงั้นรึ?” ฟาง เจิ้งจือ ถามออมา
“มันเป็นธนูขององค์จักรพรรดิ เจ้าคิดวายังไงละ?” ปิง หยาง ไม่ได้ตอบคำถามของ ฟาง เจิ้งจือ โดยตรง เพราะนางก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่นางไม่ยอมรับแน่นอนว่าไม่รู้
“เข้าใจแล้ว” ปากของ ฟาง เจิ้งจือ กระตุก
เจ้าหน้าที่ทุกคนไม่สามารถระงับความกลัวได้หลังจากเห็นเหตุการณ์ข้างหน้า
การที่องค์จักรพรรดิปกป้อง ฟาง เจิ้งจือ นั้นค่อนข้างทำให้ทุกคนงงเล็กน้อย
อย่างไรก็ตามตอนนี้ทุกอย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น
“จะเป็นแบบนี้จริงๆงั้นรึ?” เจ้าหน้าที่ทุกคนต่างมองหน้ากัน ไม่มีใครพูดอะไรออกมา แต่พวกเขาก็สามารถรู้ใจกันได้
คลื่นลูกใหม่ต้องทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสภาขึ้นแน่นอน!
ยู่ ยี่ปิง เหลือบมอง เขาไม่ได้มองไปที่องค์รัชทายาท แต่มองไปที่ราชาต้วนแทน
รัฐมนตรีฝ่ายพิธีการยืนนิ่ง ราวกับเขาไม่ได้ยินที่องค์จักรพรรดิพูด
“ท่าน!” ในที่สุดเจ้าหน้าที่คนหนึ่งก็กระซิบเตือน
“อะแฮ่ม… ” เขากระแอม “เราจะทำการประกาศผล 3 อันดับแรก อันดับที่1 ปิง…โอ้ ไม่ใช่ๆ! เป็น ฟาง เจิ้งจือ ยินดีด้วยท่านฑูตแห่งดาบ!“
“ฮ่าฮ่า… ข้าชนะ! ข้า เหวิน เต๋าเป่า ชนะแล้ว ข้าจะรวยแล้ว!” เสียงหนึ่งดังขึ้นทันทีหลังการประกาศ
เขารู้สึกตื่นเต้นมากราวกับตัวเองเป็นผู้ชนะการแข่งขัน
ผู้เข้าแข่งขันทุกคนมองไยังต้นทางของเสียง พวกเขามองไปยัง เหวิน เต๋าเปา ด้วยความรังเกียจ
แต่ เหวิน เต๋าเปา ไม่สนใจ
เขาไม่สามารเก็บความตื่นเต้นเมื่อคิดถึงจำนวนเงินที่เขาจะได้
อย่างไรก็ตาม
เหวิน เต๋าเป่า ไม่ได้สังเกตุว่า ฟาง เจิ้งจือ เองก็ได้ยินเสียงเขา
“โอ้ เจ้าชนะงั้นรึ?” ฟาง เจิ้งจือ มองไปยัง เหวิน เต๋าเป่า ที่กำลังกระโดดโลดเต้นอยู่ เขายิ้ม เจ้านั่นพนันข้างข้างั้นรึ?
………
ฟาง เจิ้งจือ ได้รับรองเท้าเหยียบเมฆจากองค์จักรพรรดิ
จากนั้นเขาก็ถอดรองเท้าและลองสวมมันทันที มันส่องแสงออกมาก่อนที่จะปรับขนาดให้พอดีกับเท้าของ ฟาง เจิ้งจือ
“โอ้ไม่เลวเลย ดีใช้ได้!“ฟาง เจิ้งจือ ลองเดินดู มันดูเข้ากับเท้าเขามาก ราวกับทำขึ้นมาเพื่อเขาเป็นพิเศษ
เจ้าหน้าที่ทุกคนต่างตกใจกับสิ่งที่เห็น
คนส่วนมากมักจะนำรางวัลกลับมาขัดถูและนั่งดูมันทั้งวัน จากนั้นพวกเขาค่อยนำมันมาใส่ในวันมงคลเท่านั้น
ฟาง เจิ้งจือ กลับใส่มันทีนที!
ชายคนนี้คือใครกัน?
ฟาง เจิ้งจือ ไม่รู้ว่าพวกเขาคิดอะไรอยู่ เขาคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติที่จะลองรองเท้าคู่ใหม่ทันทีเลย
………
การแข่งขันจบลงแล้ว
นี่เป็นการแข่งขันที่ไม่น่าเชื่อ เมื่อข่าวไปถึงเมืองหลวง ความวุ่นวายก็ตามมา
“ม้าริ้วโคลนชนะการแข่งขัน?!“
” ฟาง เจิ้งจือ จัดการอันดับที่7 และ 8 บนทำเนียบมังกรดาวรุ่ง?!“
“เหลือเชื่อ”
“มีอย่างอื่นอีก ข้าได้ยินมาว่า ฟาง เจิ้งจือ ขโมยธนูอาทิตย์แผงศรของราชาต้น องค์จักรพรรดิไม่เพียงแต่ไม่สอบสวนเขาเท่านั้น ดูเหมือนว่าเขาจะมอบมันให้ ฟาง เจิ้งจือ ด้วยซ้ำ!“
“โอ้พระเจ้าช่วย ข้าเสียใจมากที่ไม่ได้ไปดูการแข่งขัน!“
หลายคนเริ่มพูดถึงการแข่งขัน ตามร้านอาหาร ซอกซอยต่างๆ การแข่งขันนั้นเป็นเรื่องที่ผู้คนพูดถึงมากเป็นอันดับ1
บางคนบอกว่าม้าริ้วโคลนของ ฟาง เจิ้งจือ ไม่ใช่ม้าริ้วโคลนธรรมดา มันอาจจะเป็นราชาของม้าริ้วโคลน เช่นนั้น มันอาจจะสามารถบินได้!
เรื่องนี้ได้รับความสนใจอย่างรวดเร็ว
ช่วงสุดท้ายของการแข่งขัน ความเร็วของม้าริ้วโคลนทำให้หลายคนต้องหวาดกลัว
อย่างไรก็ตาม ขณะที่ในเมืองร้อนระอุด้วยผลการแข่งขัน ที่พักของราชาต้วนกลับหนาวเย็นเป็นอย่างมาก
ด้านในมีของมีค่านับไม่ถ้วนแตกอยู่ที่พื้นด้านหน้าของราชาต้วน มีผู้คนจำนวนหนึ่งนั่งคุกเข่าอยู่ข้างๆของเหล่านั้น
แต่ละคนต่างก้มหัวลงพร้อมกับตัวที่สั่นเทา
ภายนอกห้องอ่านหนังสือ ท่านฮั่วยังคงนั่งอยู่ที่ศาลา มีถ้วยชาอยู่ข้างหน้าเขา เขาดูเหมือนกำลังรอบางอย่างอยู่
ไม่นานชายในชุดดำก็ปรากฎตัวขึ้นไม่ไกล ราวกับเงาในยามค่ำคืน ขณะที่เคลื่อนไหว ไม่ทำให้เกิดฝุ่นควันแม้แต่น้อย
“เจ้าอยู่ที่นี่แล้ว? ท่านฮั่วกล่าวขึ้นมาเบาๆ ราวกับพึมพัมกับตัวเอง
“ใช่ ข้าอยู่ที่นี่แล้ว” ร่างนั้นหยุดและตอบกลับเรียบๆ
“เข้าไปไหม?“