เมื่อได้ยินคำถามของ ซิง ฉิงซุย ผู้คนต่างก็เงียบกริบ นี่คือข้อสงสัยในใจของพวกเขา
ด้วยทั้งหมดที่ผ่านมา หนานกง มู่ ควรจะอยู่ในกลุ่มแรกเป็นอย่างน้อย
ซู ฉิง ยิ้มรับแต่ก็ไม่ได้ตอบทันที เขาหันไปมองราชาต้วน
ราชาต้วนเองก็ไม่ได้พูดอะไร อย่างไรก็ตามเขาพยักหน้าเบา ๆ
“คำถามของนายน้อยซิง สามารถพูดได้ อย่างไรก็ตามสถานการณ์ของ หนานกง มู่ นั้นพิเศษเล็กน้อยข้าไม่ค่อยแน่ใจเกี่ยวกับรายละเอียด แต่ข้ามั่นใจว่า หนานกง มู่ ไม่ได้รับการจัดอันดับ“ซู ฉิง ยิ้มหลังจากเห็นราชาต้วนพยักหน้า
“อะไรนะ?!“
“หนานกง มู่ ไม่ได้รับการจัดอันดับ?“
“ไม่ว่ายังไงก็ตาม หนานกง มู่ ได้ผ่านการทดสอบระดับจักรพรรดิ เขาควรได้รับการจัดอันดับ แม้ว่าเขาจะไม่ได้มีส่วนร่วมในการทดสอบระดับสภา!“
“มันเป็นเรื่องที่ผิดกฎชัดๆ!“
หลายคนในฝูงชนโกรธมากเมื่อได้ยินคำพูดของเจ้าหน้าที่ ที่ผ่านมาการจัดอันดับในการทดสอบระดับจักรพรรดินั้นจะพิจารณาจากผลลัพธ์ของผู้เข้าร่วม
แม้ว่า ซู ฉิง ไม่ได้พูดอย่างชัดเจน …
เห็นได้ชัดว่า หนานกง มู่ ไม่ได้อยู่ในกลุ่มใด ๆ ไม่แม้แต่กลุ่มที่ 2
“โรงเรียนหลวงมีสิทธิ์ทำแบบนั้นด้วยหรือ?“แววตาของ ซิง ฉิงซุย กลายเป็นเย็นยะเยือกทันที แม้เขาจะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับ หนานกง มู่ แต่พวกเขาก็ผ่านเรื่องต่างๆกันมาในโลกแห่งเซียน เขาจะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้น
หลายๆคนที่อยู่ในกลุ่มแรกยังสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้
“ทำไม หนานกง มู่ ไม่ได้อยู่ในกลุ่มนี้?“
“โรงเรียนหลวงไม่มีสิทธิ์ทำเช่นนั้น!“
“ข้าเห็นด้วย!“
ผู้คนต่างพูดพร้อมกัน
ซู ฉิง มองไปรอบ ๆ และถอนหายใจด้วยความหมดหนทาง
“นายน้อยซิง พูดถูก โรงเรียนหลวงมีสิทธิ์ทำเรื่องนี้ด้วยหรือ?“คำตอบของ ซู ฉิง เป็นทั้งคำตอบและคำถาม
“ท่านหมายถึงอะไร … “
“นายน้อยซิง นี่ไม่ใช่เรื่องที่ท่านหรือข้าจะเปลี่ยนมันได้ นอกจากนี้การตัดสินใจครั้งนี้ยังไม่ใช่ของโรงเรียนหลวง ข้าแน่ใจว่าท่านรู้ว่ามันหมายถึงอะไร “ซู ฉิง ตอบ “จะมีการอธิบายเรื่องของ หนานกง มู่ ก่อนการทดสอบระดับสภา ทุกสิ่งทุกอย่างจะเป็นที่ประจักษ์เอง “
“การทดสอบระดับสภา?“
“ทำไมเราต้องรอจนกว่าจะถึงตอนนั้น?“
“อาจเป็นเพราะ … “
ฝูงชนกำลังงุนงง หลายคนมีแต่ข้อสงสัย
“เจ้าเดาเหตุผลได้หรือไม่”ฟาง เจิ้งจือ หันไปหา เหยียน ซิว
“ข้าไม่แน่ใจ ข้าเดาได้แต่ …คงเป็นเรื่องยาก ” เหยียน ซิว พยักหน้าแล้วส่ายหน้าเบา ๆ
“มันคืออะไรกัน?“
“ถ้าข้าเดาถูกมันคงเกี่ยวข้องกับ หนานกง เฮา”
“หนานกง เฮา?” ฟาง เจิ้งจือ สับสน
เขาไม่เคยรู้จัก หนานกง เฮา มาก่อน อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่การต่อสู้กับ หนานกง มู่ เขารู้ว่า หนานกง เฮา เป็นพี่ชายของ หนานกง มู่
อย่างไรก็ตาม
มันเกี่ยวกันยังไง?
กฎของการทดสอบระดับจักรพรรดิจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง เว้นเสียแต่จะเกิดเหตุการณ์บางอย่าง ทำไม หนานกง เฮา ต้องทำให้ หนานกง มู่ ออกจากการจัดอันดับ?
มันดูไม่มีทางเป็นไปได้
ฟาง เจิ้งจือ ขมวดคิ้ว
มันไม่สำคัญว่า หนานกง เฮา จะมีอำนาจแค่ไหนต่อให้เขาทำจริง แต่ หนานกง มู่ เคยบอกว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาก็เป็นเรื่องที่ดี ดังนั้น หนานกง เฮา จึงไม่มีเหตุผลที่จะทำร้ายเขา
เนื่องจาก หนานกง เฮา จะไม่ทำร้าย หนานกง มู่ เขาเล่นอะไรถึงทำให้ หนานกง มู่ ไม่ได้รับการจัดอันดับ?
“อืม.” เหยียน ซิว พยักหน้าเบา ๆ อย่างไม่มีคำพูด
“หนานกง เฮา … แข็งแกร่งมาก?จู่ๆ ฟาง เจิ้งจือ ก็นึกถึงสัญญาของเขากับ หนานกง มู่ บนเวทีขึ้นได้
“ข้ายังสู้เขาไม่ได้” เหยียน ซิว ตอบด้วยเสียงที่ขัดแย้ง
“แม้จะมีเต๋าแห่งอาชูร่า?” นี่เป็นครั้งแรกที่ เหยียน ซิว ยอมรับว่าไม่มีพลังพอจะชนะได้ และยิ่งไปกว่านั้นทั้งๆที่เข้าถึงเต๋าแห่งอาชูร่าแล้ว
“ใช่” เหยียน ซิว พยักหน้า
ฟาง เจิ้งจือ ไม่ซักถามต่อ เขารู้ว่า เหยียน ซิว จะไม่โกหกเขา อย่างไรก็ตามถ้า เหยียน ซิว ไม่สามารถสู หนานกง เฮา ได้…
ดขาจะทำยังไงดี?
ฟาง เจิ้งจือต้องทำตามสัญญากับ หนานกง มู่!
………
ซิง ฉิงซุย ไม่ซักถามอะไรต่อ เขาเดินกลับไปที่จุดของเขา
ซู ฉิง คลี่กระดาษในมือออกและมองไปที่ฝูงชน
ทุกคนเงียบลงอีกครั้ง
นี่เป็นช่วงเวลาที่แท้จริง อันดับที่ 1 และ 2 ของการทดสอบระดับจักรพรรดิ
“อันดับที่ 1 ของการทดสอบด้านการต่อสู้คือ … เหยียน ซิว!“ซู ฉิง ประกาศหลังจากฝูงชนเงียบลง
“เหยียน ซิว!“
“เหยียน ซิว จริงๆด้วย!“
“ข้าบอกแล้วว่า เหยียน ซิว จะต้องชนะ! “ฮ่าฮ่าฮ่า!ข้าชนะ!“
“เหยียน ซิว มีทั้งความสามารถและภูมิฐาน!“
ทุกคนเริ่มโห่ร้องและส่งเสียงด้วยความยินดีเมื่อได้ยินชื่อของ เหยียน ซิว จากนั้นพวกเขาหันไปมอง ฟาง เจิ้งจือ อย่างสะใจ
เขาเป็นแค่ชาวบ้านธรรมดา
หวังจะเป็นที่1ของการทดสอบระดับจักรพรรดิ?ฝันไปเถอะ
“ฮ่าฮ่าฮ่า … ฟาง เจิ้งจือ คงไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้วใช่ไหม? แต่เขาก็ค่อนข้างโชคดีที่ได้อันดับ2 เพราะ หนานกง มู่ ยอมแพ้!”
“ใช่เลย ใช่เลย!“
เสียงดังขึ้นมาจากฝูงคน
ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้พูดอะไรเขาเป็นคนเดียวที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนที่พวกเขาตกลงไปจากเวที
เหยียน ซิว หมดสติหลังจากนั้น
ฟาง เจิ้งจือ จะให้ เหยียน ซิว ถึงพื้นก่อนก็ได้ อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ทำแบบนั้น เขาไม่ต้องการให้ เหยียน ซิว บาดเจ็บไปมากกว่านี้
ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนที่จะกระแทกพื้น เขายก เหยียน ซิว ขึ้นเล็กน้อยด้วยซ้ำ
ต่อให้พวกเขากระแทกพื้นในเวลาเดียวกัน แต่คนที่มีสายตาแย่ต้องเห็นว่า เหยียน ซิว กระแทกพื้นที่หลังเล็กน้อย
ฟาง เจิ้งจือ มองไปที่ เหยียน ซิว
เหยียน ซิว หันหลับมามอง ฟาง เจิ้งจือ
สายตาของ ฟาง เจิ้งจือ เต็มไปด้วยความยินดี อย่างไรก็ตามสายตาของ เหยียน ซิว เต็มไปด้วยความโกรธ ริมฝีปากของเขากระตุกเล็กน้อยเตรียมที่จะพูดบางอย่าง
ทันใดนั้นเสียหนึ่งก็ดังขึ้นท่านกลางฝูงคน
“… ” ฝูงชนเงียบลงในทันที ขณะที่มองไปยังกระดาษที่ ซู ฉิง ชูขึ้นมา
ซู ฉิง รู้สึกลำบากใจเล็กน้อย
เขาต้องการจะอ่านผล แต่ฝูงชนได้ขัดจังหวะเขา
ตอนนี้ผู้คนนั้นหลุดจากการควบคุมแล้ว
ตามกฎแล้วเขาต้องหยุดเล็กน้อยหลังจากประกาศแต่ละชื่อ อย่างไรก็ตามหลังจากเขาหยุดไปแล้ว เขาพึ่งพบว่าเขาไม่ควรหยุดเลยแม้แต่น้อย
เขากระแอมลำคอขณะเห็นสายตามากมายจ้องมาที่เขา
“อันดับแรกของการทดสอบการต่อสู้ เหยียน ซิว และ ฟาง เจิ้งจือ จากหมู่บ้านภูเขาทางเหนือ! พวกเขาเป็นอันดับ1ร่วม!”ซู ฉิง พูดจบประโยคภายในอึดใจเดียว
“ที่1…ที่1ร่วม?!“
“ฟาง เจิ้งจือ กับ เหยียน ซิว?“
“นั่นหมายความว่า ฟาง เจิ้งจือ เป็นผู้ชนะของการทดสอบระดับจักรพรรดิ!“
“และ…เขาเป็นผู้ชนะทั้งสองด้าน!“
ผู้คนทั้งหมดพึ่งได้สติหลังจากตกใจ พวกเขาจำได้ว่า ซู ฉิง ได้ข้ามการประกาศอันดับ2ไป
ไม่มีอันดับ2!
มีแต่อันดับ1ร่วม!
มันเป็นครั้งแรกตั้งแต่ก่อตั้งอาณาจักรมา
“ฟาง เจิ้งจือ เป็นผู้ชนะทั้งสองด้าน? เขาทำได้ทุกการทดสอบที่เขาเข้าร่วม“
“พระเจ้าช่วย…3ครั้ง!“
“ขอแสดงความยินดีกับพวกเจ้าทั้งสอง!วู่ เฟิง เข้ามาแสดงความยินดีกับทั้งสอง เขาไม่ได้รู้สึกประหลาดใจกับผลลัพธ์
“ไม่แสดงความยินดีพร้อมกับของขวัญหรอกรึ?” ฟาง เจิ้งจือ มองไปยัง วู่ เฟิง
“ฮ่าฮ่า… นายน้อยฟางพูดถูกต้อง ข้ามีเงินอยู่บ้าง หวังว่าเจ้าจะรับมันไป!” วู่ เฟิง ยิ้ม จากนั้นเขาก็มอบตั๋วเงินให้ ฟาง เจิ้งจือ
ดวงตาของ ฟาง เจิ้งจือ เป็นประกายทันที
อะไร…
10,000 เหรียญเงิน?!
เขาคือใคร?กัน ใครให้ 10,000 เหรียญเงินกับคนอื่นที่พึ่งเจอกันบ้าง?
“เงินแค่นี้น้อยมากนายน้อยเหยียน ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่มองมันเป็นเรื่องตลก ” วู่ เฟิง ยิ้มขณะมอง เหยียน ซิว ที่เต็มไปด้วยความเยือกเย็น จากนั้นเขาก็จากไป
เหยียน ซิว ขมวดคิ้ว แต่ไม่ได้พูด
ฟาง เจิ้งจือ สับสนเล็กน้อยและสงสัยกับท่าทีของ เหยียน ซิว เขาดูเหมือนจะไม่ชอบ วู่ เฟิง เลยไม่ทักทาย?
“เจ้านายของเขาและปู่ของข้ามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน” เหยียน ซิว กล่าวหลังจาก วู่ เฟิง เดินจากไป
“ข้าเข้าใจ” ในที่สุด ฟาง เจิ้งจือ ก็เข้าใจ
เหยียน ซิว พูดให้เขาฟังเกี่ยวกับปู่เล็กน้อย อย่างไรก็ตาม เขาไม่เคยเห็นปู่ของ เหยียน ซิว กับตาตัวเอง
อาจารย์ของ วู่ เฟิง นั้นเป็น 1 ใน 4 เซียน
การที่คนหนี่งจะมีความสัมพันธ์อันดีกับเซียนได้…