องค์จักรพรรดิมองไปยังผู้เข้าสอบด้วยความสนใจ
เขาเป็นองค์จักรพรรดิที่อายุน้อย ถ้าเขาไม่ได้นั่งอยู่บนบัลลังก์ ตอนนี้เขาก็คงนั่งสอบอยู่เช่นกัน
“ปกครองอาณาจักร รักษาความสงบในรัฐบรรณาการ นี่คือเป้าหมายขององค์จักรพรรดิ ต่อให้จะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่เขาก็ต้องการคนจำนวนมากที่จะทำให้เป้าหมายของข้าสำเร็จ ข้าเสาะหาอัจฉิรยะจากทั่วทุกมุมอาณาจักร และเนื่องจากยังขาดแคลนอยู่มาก ข้าจึงจัดการทดสอบระดับสภาเพื่อเสาหาผู้มีความสามรถ!“
องค์จักรพรรดิหยุดพูดด้วยความเจ็บปวด ความรู้สึกที่อาณาจักรนั้นขาดแคลนผู้มีความสามารถ
ฟาง เจิ้งจือ ตกตะลึง เป็นนักแสดงที่ดีช่างเป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยมอะไรเช่นนี้!
ชีวิตนั้นราวกับการแสดง
ผู้ได้รางวัลออสการ์ในโลกก่อนของเขายังต้องยอมแพ้การแสดงอันไร้ที่ติขององค์จักรพรรดิ
ในฐานะองค์จักรพรรดินั้นต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้เข้าสอบ
ผู้เข้าสอบระดับสภาล้วนผ่านการทดสอบแห่งเต๋ามาแล้วหลายครั้ง
ต่อให้ครั้งนี้จะเป็นการทดสอบสุดท้ายที่ต้องผ่านเรื่องต่างๆมากมาย องค์จักรพรรดิก็พร้อมที่จะฟัง
หลังจากนั้น…
มันเป็นกำแพง คนที่อยู่ด้านในนั้นลนลานและเกรงว่าจะไม่มีโอกาสที่สองหากทำพลาด
องค์จักรพรรดิต้องการทำลายกำแพงนี้ เขาต้องการให้ผู้เขาสอบทำข้อสอบอย่างใจเย็น
หลังจากองค์จักรพรรดิพูดเสร็จ ท่าทีของเหล่าผู้เข้าสอบมีท่าทีเปลี่ยนไป ความลนลานของพวกเขาเปลี่ยนเป็นความตื่นเต้น
สภาขาดผู้มีความสามารถ?
ดี! พวกเราล้วนเป็นอัจฉริยะ
ผู้เข้าสอบทุกคนถูมือด้วยความตืนเต้น
องค์จักรพรรดิ พยักหน้าและเดินต่อ “ข้าคงพูดมากเกินไปแล้ว พวกเจ้าร่ำเรียนอย่างขยันขันแข็งมาหลายปี ทุกคนล้วนเป็นคนที่ฉลาด นี่คือเวลที่พวกเจ้าจะแสดงมันออกมา!“
ฟาง เจิ้งจือ เข้าใจในสิ่งที่องค์จักรพรรดิทำ
นี่เป็นการให้กำลังใจและชื่นชม
อย่างแรกเขาบอกว่าขาดผู้มีความสามารถและชื่นชมว่าพวกผู้เข้าสอบนั้นฉลาด รวมถึงบอกว่าตอนนี้เป็นเวลาที่ต้องแสดงมันออกมา
ผู้เข้าสอบทุกคนเริ่มหงุดหงิด มันเหมือนกับพวกเขาได้รับยากระตุ้น ถ้าไม่ใช่ว่าองค์จักรพรรดินั่งอยู่ละก็พวกเขาคงตะโกนออกมาแล้ว
“พวกข้าไม่มีทางยอมแพ้!“
ฟาง เจิ้งจือ ไม่ชอบพวกเขา องค์จักรพรรดิมีเรื่องอื่นให้ต้องกังวลมากมาย เขาไม่คิดจะใช้คำพูดกับคนพวกนี้มั่วๆ
คำพูดของเขานั้นช่วยจุดไฟให้คนพวกนี้ พวกเขากระตือรือร้นอย่างง่ายดาย
องค์จักรพรรดิช่างทรงพลังและมีความสามารถด้านการแสดงอันสูงส่ง
ฟาง เจิ้งจือ รู้ว่าการแสดงขององค์จักรพรรดิจะสิ้นสุดลงแล้ว ข้อสอบกำลังถูกเปิดเผย
องค์จักรพรรดิมองท่าทีของผู้เข้าสอบ เขาพยักหน้าด้วยความพอใจและหันไปมองทิศใต้
“กล่าวกันว่าทิศเหนือพวกเรามีพวกคนเถื่อน ทางใต้มีดินแดนภูเขาทางตะวันตกเป็นทะเลอันกว้างใหญ่ ถึงกระนั้นสิ่งที่ข้ากังวลมากสุดคือเผ่าปีศาจ มันทำให้ข้ากินไม่ได้นอนไม่หลับ พูดกันว่าชัยชนะที่สูงส่งที่สุดไมใช่ที่สนามรบ บรรดาผู้ทีมีกลยุทธ์อันชาญฉลาดไม่จำเป็นต้องรบ บรรดานักรบผู้ยิ่งใหญ่มักจะเรียนรู้จากความผิดพลาด”
“ในฐานะจักรพรรดิ การกินอยู่ของประชาชนเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ข้าต้องมั่นใจว่าเขาจะมีชีวิตที่สงบสุขและมั่งมี”
“ผู้บัญชาการที่ดีจะชนะโดยไม่ต้องยกดาบ ทางเลือกที่ดีต่อไปคือการเจรจา หลังจากนั้นก็ตามมาด้วยการสู้รบในที่แจ้ง กลยุทธ์ที่เลวร้ายที่สุดคือการล้อมเมือง ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะสามารถให้กลยุทธ์ที่สามารถปราบปรามความขัดแย้งในเขตชานเมืองและเป็นประโยชน์ต่ออาณาจักรได้มากที่สุด!“
น้ำตาไหลออกมาจากตาขององค์จักรพรรดิ
มันทำให้ผู้คนที่มองรู้สึกเจ็บปวด
อย่างไรก็ตามผู้เข้าสอบทุกคนล้วนตกตะลึง
เช่นเดียวกันผู้เข้าสอบทุกคนอยากจะร้องไห้ออกมา อย่างไรก็ตามเหตุผลนั้นแตกต่างจากองค์จักรพรรดิ พวกเขาอยากจะร้องไห้!
2 ปี!
พวกเขาได้ใช้เวลาทุ่มเทศึกษาประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ของอาณาจักร พวกเขาให้ความสำคัญกับการพัฒนาเมืองและเรื่องน้ำ
ผู้เข้าสอบบางคนลงไปพื้นที่จริงเพื่อเข้าใจความเจ็บปวดของเหล่าชาวบ้าน
พวกเขาทำทุกอย่างเพื่อวันนี้
ที่สำคัญพวกเขาได้ศึกษาเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐาน พวกเขาได้เรียนรู้วิชาที่เปลี่ยนให้แม่น้ำกลายเป็นทะเลสาบ …
แต่ตอนนี้?
นี่เป็นคำถามเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ทางทหารอย่างชัดเจน นอกจากนี้องค์จักรพรรดิยังแสดงความชัดเจนออกมาว่าไม่ต้องการการต่อสู้
ที่สำคัญกว่าเขาต้องการนโยบายที่จะบรรเทาปัญหาในชนบทและเป็นประโยชน์ต่ออาณาจักร!
ไม่ใช่เรื่องการส่งน้ำทะเลมาที่แม่น้ำ? วิธีการสร้างอ่างเก็บน้ำ? ท่านไม่เห็นความแห้งแล้งในช่วงสองปีที่ผ่านมาหรือ? ทำไมท่านถึงถามเรื่องวิธีป้องกันชายแดน? คำตอบที่พวกเราเตรียมมาทั้งหมด?!
ผู้เข้าสอบทุกคนต่างน้ำตาไหลออกมา
2 ปีที่เตรียมมาหายไปในทันทีหลังจากฟังองค์จักรพรรดิพูดเสร็จ สิ่งที่พวกเขาเตรียมมาแทบไม่มีประโยชน์
ไม่มีพวกเขาสักคนที่มีอารมณ์ทำข้อสอบ …
ท่านแม่ข้าอยากกลับบ้านแล้ว!
หัวใจของเหล่าผู้เข้าสอบล้วนแตกสลาย พวกเขาอ้อนวอนให้องค์จักรพรรดิทดสอบพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องน้ำ
องค์จักรพรรดิมองไปที่ผู้เข้าสอบด้วยความตกใจ หรือเพราะคำพูดก่อนหน้านี้ของเขาจะซาบซึ้งมาก
ทำไมพวกเขาถึงน้ำตาแตกเช่นนี้?
มันเป็นผลลัพธ์ที่เขาไม่ได้คาดหวังไว้
เขาแปลกใจที่มีหลายคนไฟในตัวลุกโชนด้วยคำพูดของเขา
องค์จักรพรรดิมีความสุขที่ผลลัพธ์เป็นแบบนี้ เขาเริ่มสร้างฉากสุดท้าย
“ทุกคนคำถามในวันนีต้องใช้ความคิดและความรู้เป็นอย่างมาก ระมัดระวังในการเขียนลงไปให้ดี!” องค์จักรพรรดิพูดต่อ
ฟาง เจิ้งจือ รู้ว่าองค์จักรพรรดิเป็นคนตั้งกฎ
เขาต้องการให้ผู้เข้าสอบวิเคราะห์คำถามอย่างรอบคอบ ต้องการให้พวกเขายกตัวอย่างจากประวัติศาสตร์ สิ่งที่เขียนในกระดาษต้องอ้างอิงจากความเป็นจริง
องค์จักรพรรดิได้บอกความต้องการของเขาแล้ว นั่นหมายความว่าไม่มีคำถามที่2หรือ3อีก
ผู้เข้าสอบทุกคนต่างหมดเรี่ยวแรง
พวกเขาหวังให้องค์จักรพรรดิออกข้อสอบอีกข้อ!
ตอนนี้สิ่งที่พวกเขามีมันช่าง….
ไม่มีประโยชน์แม้แต่น้อย!
องค์จักรพรรดิไมได้แสดงท่าทีว่ามีคำถามอื่นอีก เขานั่งลงบนบัลลังก็และไม่พูดอะไรอีก เขาหยิบถ้วยชาขึ้นมา ขณะที่ผู้เข้าสอบเริ่มขีดเขียน
…
นี่คือปลายฤดูใบไม้ร่วงและมีใบเมเปิ้ลร่วงโรยทั่วทะเลสาบ
เศษเรือที่พังลอยอยู่กลางทะเลสาบ มีรอยดาบอยู่บนนั้น แต่ละรอบนั้นลึกอย่างเห็นได้ชัด ถ้าไม่ใช่ว่าปัญหาเรื่องการสร้างเรือ น่าจะเป็นบางอย่างที่แข็งแกร่งได้แบ่งเรือลำนี้ออกเป็นสองส่วน
บนเรือมีหญิงสองคนสวมชุดสีเขียว
ทันใดนั้นอีกสองร่างปรากฎที่มุมทะเลสาบ
คนหนึ่งสวมชุดสีดำลมพักหมวกคลุมออกทำให้เห็นใบหน้าอันขาวซีด
ถ้า ฟาง เจิ้งจือ เห็นต้องจำได้แน่นอน
“นายหญิงอยู่ไหนกัน?” ดวงตาของ ไป่ ซิง มองไปที่เรือ
“หัวหน้าดินแดน นายหญิงปลอดภัยดี ตอนนี้นางพักอยู่ที่เมือง นายหญิงได้สั่งว่าให้ท่านไปที่ดินแดนภูเขาทางใต้ทันที!“
“มันเกี่ยวกันยังไง พาข้าไปหานายหญิง!“
“ข้าเกรงว่าคงไม่ได้!“
“เจ้าอยากตายงั้นรึ?“
“ถ้าท่านจะทำเช่นนั้นก็ทำเลย แต่มันจะทำให้ทุกอย่างแย่ลง”
“นาย … นายหญิงบาดเจ็บ?“
“ข้าบอกแล้วว่านางปลอดภัยดี ข้าขอให้ท่านกลับไปที่ดินแดนภูเขาทางใต้ นายหญิงบอกว่าจะไปพบท่านที่นั่น”
“นายหญิงจะไปที่ดินแดนภูเขาทางใต้?“
“ใช่”
“ข้าเข้าใจแล้ว แล้วตอนนี้ หนานกง เฮา อยู่ที่ไหน?“
“เมืองเหยียน!“
“เมืองเหยียน?“
“ถูกตัอง เขาเข้าร่วมการทดสอบระดับสภา มีคนบอกมาว่าการทดสอบต่อสู้จะจัดขึ้นที่ดินแดนภูเขาทางใต้เจ้าสามารถรอเจอเขาได้ที่นั่น”
“อย่างงั้นรึ? ดี! ดีมาก! ข้าจะจัดการเขาเอง!” ไป่ ซิง จากไปโดยไม่ลังเล
…
ภายในพระราชวัง
หลังจากดื่มน้ำชาแล้ว องค์จักรพรรดิก็มอง หนานกง เฮา เงียบๆ
“หนานกง เฮา ของขวัญที่เจ้าให้ข้าค่อนข้างสำคัญ… ” นัยน์ตาขององค์แฝงในบางอย่าง
เขามองไปที่ใบเมเปิ้ลที่ขอบเสื้อของ หนานกง เฮา ท่าทีของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อยแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา เพียงแค่ถอนหายใจเบาๆ
ผู้เข้าสอบคนอื่นไม่ได้สังเกตุท่าทีกับองค์จักรพรรดิ พวกเขาสนใจแต่กระดาษคำตอบของตัวเอง
องค์จักรพรรดิได้พูดเกี่ยวกับการปกครอง ความมั่นคงของรัฐบรรณาการ
มันต่างจากที่พวกเขาคาดคิดมาก
มีปัญหาแล้ว
พวกเขาไม่ได้เตรียมเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้มา พวกเขาจะทำอะไรได้ตอนนี้?
ผู้เข้าสอบรู้กลยุทธ์ทางทหารบ้าง แต่อย่างไรก็ตามในกระดาษคำตอบต้องมีความชัดเจนและละเอียด
สิ่งที่สำคัญไม่ใช่การเรียบเรียงคำพูดอย่างสวยงาม
ต่คือมุมมองและคุณค่าของสิ่งที่เขียนลงไป
องค์จักรพรรดิต้องการรักษาเสถียรภาพของรัฐบรรณาการ มีหลายวิธีในการทำเช่นนั้น เขาสามารถแต่งงานกับเจ้าหญิงและควบคุมอาณาจักรนี้ได้ทันที