ทันใดนั้นบรรยากาศที่ทรงพลังก็ออกมาจากตัวราชาหลี่ฉิน มันแตกต่างจากองค์จักรพรรดิ
ถ้าบรรยากาศขององค์จักรพรรดิเหมือนกับแสงอาทิตย์…
ของราชาหลี่ฉิน ก็ดูทรงพลัง มันเหมือนพลังเหนือจินตนการที่อัดแน่นมากว่า 10 ปี
เป็นการยากที่จะจินตนาการได้ว่าร่างกายที่ดูทรุดโทรมสามารถมีกลิ่นอายที่ทรงพลังเช่นนี้ได้ยังไง
แม้แต่ท่าทีขององค์จักรพรรดิก็เปลี่ยนไปเมื่อสัมผัสถึงบรรยากาศนี้ ดวงตาของเขาเรืองรองขณะที่มองไปที่ท่านตาของตัวเอง
องค์จักรพรรดิองค์ก่อนหน้ามีพี่น้อง 8 คน
เมื่อเขาจากไปก็คงเหลือพี่น้องอยู่เพียงคนเดียวแล้ว ราชาหลี่ฉิน ผู้ครั้งหนึ่งเคยเป็นผู้นำกองทัพของอาณาจักร
“ท่านลุง หรือว่า… ” องค์จักรพรรดิพูดด้วยความคาดหมาย เขามองไปที่ราชาหลี่ฉินด้วยความเคารพ
ในฐานะองค์จักรพรรดิ …
เขาควรกำจัดอุปสรรค์ทั้งหมดที่มีภัยต่อบัลลังก์
แต่เขาไม่ได้เช่นนั้น เขาไม่คิดเรื่องนั้นแม้แต่น้อยเพราะคนคนนั้นคือราชาหลี่ฉิน
เขาที่คนที่พิชิตดินแดนทั้งหมด
“คงใกล้จะถึงจุดนั้นแล้ว แต่ข้ายังไม่มีโอกาส … ” บรรยากาศของเขาเปลี่ยนไปทันที ดวงตาของเขามีหมอกปกคลุมอีกครั้งพร้อมน้ำเสียงที่กลับมาแหบแห้ง
“ท่านลุงต้องการความช่วยเหลือจากข้า?” องค์จักรพรรดิถามในฐานะหลานชาย
“ไม่ใช่ตอนนี้ ข้าคิดว่าเจ้าถามข้าเพราะกระดาษคำตอบเหล่านี้?” ราชาหลี่ฉินส่ายหัวและส่งกระดาษคืนองค์จักรพรรดิ
“ใช่ข้าสงสัยว่าท่านมีความคิดเห็นอะไรไหม?“่
“ชิ้นแรกก็เป็นผลงานที่ดี เขาได้สนับสนุนข้อโต้แย้งของตัวเองด้วยเหตุผล การวิเคราะห์ของเขามีความละเอียดและชัดเจน ถ้าไม่มีกระดาษคำตอบอีก 2 ใบ เขาคงเป็นที่ 1 แล้ว!” ราชาหลี่ฉิน อธิบาย
“ข้าเห็นด้วยกับท่าน แต่2คนสุดท้าย … ” องค์จักรพรรดิแสดงความสับสนออกมา
“พอกัน”
“ท่านก็คิดอย่างนั้นงั้นรึ?“่
“ใช่”
“นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ข้ารู้สึกขัดแย้งกัน อันดับ 1 มีได้เพียงคนเดียวเท่านั้น ข้าต้องเลือกผู้ชนะ “
“ถ้าท่านต้องการเลือกผู้ชนะจริงๆ กระดาษคำตอบแผ่นที่ 2 นั้นไร้ที่ติ ทุกคำพูดและประโยคนั้นลื่นไหลแม้แต่ข้าก็ยากที่จะหาข้อบกพร่อง”
“นั่นคือสิ่งที่ข้าคิด!“่
“สำหรับแผ่นที่3 ถึงแม้จะดูติดขัดบ้างในช่วงแรก แต่ตรงบทสรุปนั้นดีอย่างเหลือเชื่อ เรื่องราวกับทำลายทั้ง 6 ชาตินั้นน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ใครก็ตามที่อ่านก็สามารถเชื่อมโยงไปยังแนวคิดของเขาได้ ดูมีไหวพริบอย่างมาก!“ราชาหลี่ฉินกล่าว
“งั้นท่านคิดว่าข้าควรจะจัดอันดับยังไงดี?“่
“อย่างที่ข้าได้บอก ทั้งสองนั้นเทียบเท่ากัน ถ้าข้าต้องเลือกจะเลือกแผ่นที่3 แต่ข้ารู้ว่าท่านชอบแผ่นที่2มากกว่า “ราชาหลี่ฉินตอบ
“ก่อนหน้านี้ตอนที่ข้าถามท่าน ท่านก็มักจะบ่ายเบี่ยง ทำไมวันนี้ท่านถึงพูดอย่างตรงไปตรงมาละ?“องค์จักรพรรดิถาม
“ฮ่าฮ่า ท่านขังตัวเองอยู่ในหอพิพากษา เรียกข้ามาเพื่อช่วยดูกระดาษคำตอบ ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เพื่อความยุติธรรมงั้นรึ? เพราะนั่นคือสิ่งที่ท่านต้องการ ข้าเลยให้มันกับท่าน”
“ข้าเข้าใจแล้ว ขอบคุณ!“่
“งั้นข้าจะไปแล้ว”
“ท่านลุง…”
“องค์จักรพรรดิต้องการอะไรจากข้าอีกงั้นหรือ?“่
“ถ้าท่านคิดจะฝ่าอุปสรรคไป ข้าขออะไรบางอย่างจากท่านได้ไหม?“่
“สิ่งที่เจ้าขอนั้นยากมาก?” ราชาหลี่ฉินหันไปมององค์จักรพรรดิพร้อมส่ายหัว
“ต่อให้ท่าน่านฝ่าอุสรรคไปแล้ว ก็ทำไม่ได้งั้นหรือ?” องค์จักรพรรดิเต็มไปด้วยความผิดหวัง มันไม่ใช้สิ่งที่องค์จักรพรรดิควรแสดงให้ใครเห็น
“ข้าไม่รู้” ราชาหลี่ฉินส่ายหัว
“ข้าไม่ได้เจอ เย่เอ๋อมา10 ปี 5 เดือน 23 วันแล้ว! ท่านลุง! นางจากไปตอนที่ ปิง หยาง อายุได้ 3 ขวบครึ่งเท่านั้น พวกเราตกลงกันไว้ว่า 10 ปี แต่นี่มันเลยมา 5 เดือนกว่าแล้ว… ” ท่าทีขององค์จักรพรรดิมีแต่ความเจ็บปวด
“มันก็นานมาแล้ว อย่างไรก็ตามในเมื่อท่านเลือที่จะเป็นจักรพรรดิ ท่านก็ต้องเตรียมใจ”ราชาหลี่ฉิน ถอนหายใจ
“ข้า แต่..”
“ข้าจะพยายามสุดความสามารถ!“่
“ขอบคุณท่านลุง!“่
“งั้นข้าไปก่อนนะ”
…
ประตูหอพิพากษาเปิดออกและราชาหลี่ฉินเดินออกมา เจ้าหน้าที่ทุกคนมองอย่างน่าสงสัย
วันนี้เป็นวันประกาศผลการทดสอบ การที่ราชาหลี่ฉินมาด้วยนั้นค่อนข้างน่าแปลกใจ
และตอนนี้ ราชาหลี่ฉิน ก็ออกมาคนเดียวโดยปกติองค์จักรพรรดิต้องออกมาส่งด้วยตัวเอง
แต่ตอนนี้…
ไม่มีสัญญานความเคลื่อนไหวจากภายในหอพิพากษา
ราชาหลี่ฉิน เดินออกมาคนเดียว ราวกับไม่มีใครอยู่ข้างใน
ผู้เข้าสอบที่รออยู่ล้วนตกใจ
ทำไมราชาหลี่ฉินถึงออกมาอีก? เขาแค่เข้าไปพูดคุยงั้นรึ? เขาคุยกันเรื่องอะไร? เกี่ยวกับการประกาศผลหรือไม่?
หรือ…
มันเกี่ยวกับเรื่องอื่นหรือไม่?
คำถามพวกนี้วนอยู่ในใจพวกเขา แต่ก็ไม่สามารถหาคำตอบได้
วู่ เฟิง รวบรวมข้อมูลบางอย่างจากท่าทีของราชาหลี่ฉิน อย่างไรก็ตามเขารู้สึกผิดหวัง ราชาหลี่ฉินนั้นสงบเกินไป
ราวกับทะเลสาบ
สำหรับดวงตาของเขา
ดูอึมครึม วู่ เฟิง นับถือราชาหลี่ฉิน แต่เขายังคงสงสัยในตัวราชาหลี่ฉินอยู่
“อาจารย์ของข้าบอกอย่าดูหมิ่นราชาหลี่ฉิน แต่อาจารย์ของข้านั้นเป็น 1 ใน 4 เซียน ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ใกล้เคียงกับองค์จักรพรรดิ ทำไมต้องเตือนเขาเกี่ยวกับราชาหลี่ฉินด้วย? หรือราชาหลี่ฉินก็เป็นเซียน? น่าสงสัย? 1ศาลา 4เซียน 13กองตรวจการศักดิ์สิทธิ์ นั่นหมายความว่ามีเพียงเซียนแค่ 4 คนเท่านั้น ถ้าเขาเป็นเซียน ก็ต้องเอาไป 1ตำแหน่ง”
วู่ เฟิง ไม่เข้าใจแต่ก็ยังคงโค้งคำนับอย่งสุภาพ
ราชาหลี่ฉินเดินออกมาช้าๆ เข้าผ่านเจ้าหน้าที่และเหล่าผู้เข้าสอบ จากนั้นก็ออกทางประตูหน้าไป
ทันทีที่ราชาหลี่ฉินจากไป เสียงระฆังก็ดังขึ้น
“ก้อง…”
เสียงมันดังก้องในพระราชวังหลายครั้ง
สายตาของทุกคนสว่างขึ้นทันที พวกเขาตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด
มันเป็นสิ่งที่พวกเขารอคอย
การประกาศผล!
วู่ เฟิง ตัวสั่นสะท้านด้วยความตื่นเต้น หนานกง เฮา, ฟาง เจิ้งจือ และ เหยียน ซิว ไม่ได้เข้าพบองค์จักรพรรดิ!
“ทั้ง3คนไม่ได้เข้าพบองค์จักรพรรดิ!“่
นี่เป็นข่าวที่ดีที่สุดสำหรับเขา!
ตอนที่ วู่ เฟิง มาเข้าร่วมการทดสอบ เขาคิดจะเอาตำแหน่งผู้ชนะกลับบ้าน เขามั่นใจว่าตัวเองมีความสามารถ
อย่างไรก็ตาม …
ตอนที่เขาได้ยินว่า หนานกง เฮา มาเข้าร่วม ความมั่นใจของเขาสั่นคลอนเล็กน้อย
ดังนั้นเขาจึงท้าทาย ฉิน เหยียน อันดับที่ 3 บนทำเนียบมังกรดาวรุ่ง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง
เขาจัดการ ฉิน เหยียน อย่างง่ายดาย
ทำให้เขาได้ความมั่นใจกลบคืนมา แต่เมื่อการทดสอบด้านปัญญามาถึง เขาได้เห็นความสามารถที่แท้จริงของ หนานกง เฮา
หนานกง เฮา เจิดจ้าเกินไป ยากที่ วู่ เฟิง จะลืมตาขึ้น
ความเชื่อมั่นของเขาดิ่งสู้จุดต่ำสุดอีกครั้ง
เขาเตรียมใจ ถ้าเขาไม่เป็นที่ 1 ก็คงเป็นที่ 2
การได้ที่ 2 ไม่ใช่เรื่องต้องอับอาย
เพราะฝ่ายตรงข้ามเขาคือ หนานกง เฮา
แต่วันนี้เขาได้ยินเรื่องใหม่ หนานกง เฮา ไม่ได้เข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิ นั่นหมายความว่าเขาไม่ได้เป็น 10 อันดับแรก
หนานกง เฮา จะสู้เข้าได้ยังไง?
เขาจัดการ หนานกง เฮา…
เขาจัดการ หนานกง เฮา ได้จริงๆ!
เขาจะไม่ตื้นเต้นได้ยังไง!?
วู่ เฟิง ชำเลืองมองไปที่ หนานกง เฮา เขาพบว่า หนานกง เฮา ยังคงมีท่าทีนิ่งสงบเช่นเดิม ราวกับไม่มีอะไรทำให้เขาตกใจได้
“หึ…ทำอวดดีไปเถอะ!” วู่ เฟิง คิดกับตัวเอง เมื่อผลการทดสอบออกมา หนานกง เฮา ไม่มีทางรักษาความเยือกเย็นได้อีกต่อไป
ขณะที่เขากำลังคิดประตูหพิพากษาได้ถูกเปิดออก
จากนั้นองค์จักรพรรดิในชุดสีทองก็เดินออกมา เขาถือกระดาษสีทองไว้ในมือ
“ขอให้องค์จักรพรรดิอายุยืนนาน!“่
เจ้าหน้าที่ทุกคนล้มลงคุกเข่าให้องค์จักรพรรดิ
ผู้เข้าสอบเองก็เช่นกัน
“ลุกขึ้น” องค์จักรพรรดิยกมือขึ้น
พวกเขาทั้งหมดลุกขึ้น
จากนั้นคนรับใช้ก็ยกบรรลังมาตั้งพร้อมทั้งดางร่มสีทอง
องค์จักรพรรดินั่งลงและมองไปด้านล่าง เขามองไปหลายรอบ…
ท่าทีของเขาเปลี่ยนไป
เหตุผลคือ มีคนหายไป อย่างไรก็ตามองค์จักรพรรดิจะไม่ถามหรือพูดเรื่องแบบนี้
เขามองไปยัง ยู่ ยี่ปิง
เขาพยายามคาดเดาความตั้งใจขององค์จักรพรรดิ เขากำลังจะบอกอะไรกับข้า?
เป็นเพราะ ฟาง เจิ้งจือ ขาด?
ไม่แน่ … เขาได้ยินว่า ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้เข้าพบองค์จักรพรรดิ หมยความว่าเขาไม่ติด 10 อันดับแรก ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่องค์จักรพรรดิจะกังวลเรื่อง ฟาง เจิ้งจือ
ดังนั้น…
เหตุผลน่าจะง่ายๆ
เขาต้องการให้ ยู่ ยี่ปิง ประกาศผล