Gate of God – ตอนที่ 329

ชายสวมหน้ากากคนหนึ่งถือมีดขึ้นมาใกล้ปากและค่อยๆเลียเลือดบนมีดเล่มนั้น ดวงตาของเขาวาววับด้วยความภูมิใจ

มันเป็นความเย่อหยิ่งจากข้างใน

“เจ้ากำลังพูดถึงอะไร? ” หัวหน้าดินแดนกำลังรออยู่ ถอดเสื้อผ้ามนุษย์ทั้งสองคนนี้ออกและปลอมตัวเป็นพวกมันซะ!“ชายสวมหน้ากากอีกคนสั่งด้วยความเยือกเย็น

 

“รับทราบ!“ชายคนนั้นเก็บมีดลงและเปลี่ยนท่าทีเป็นแสดงความเคารพออกมาทันที

ลมพัดที่รุนแรงทำให้กลิ่นเลือกกระจายเข้าไปในป่า มันดึงดูดพวกสัตว์ป่าเป็นอย่างมาก เมื่อพวกมันเห็นศพที่เปลือยกายอยู่…

 

“บรู๋ววว!“พวกมันพุ่งเข้าไปและจัดการศพนั้นจนเหลือแต่ความว่างเปล่า

ทั้ง 2 คนนี้จริงๆอาจจะเป็นลูกของขุนนางชั้นสูง  แต่เมื่อพวกเขาตายก็เป็นได้แค่ศพเท่านั้น…

ฟาง เจิ้งจือ ไม่รู้ว่า วู่ จวี้เอ๋อ พาเขามาไกลมากจากเมืองหลวง  ถ้าเขาจะกลับไปที่เมืองหลวงนั้นจะเสียเวลามากเกินไป

ยิ่งไปกว่านั้นมันจะกลายเป็นไร้ความหมาย

เขาควรตรงไปที่ประตูผ่านภูเขา

อย่างไรก็ตามการกระทำของ วู่ จวี้เอ๋อ สร้างปัญหาใหญ่ให้กับเขา เขาไม่มีทหารในควบคุม

ไม่มีทหาร?

เขาจะเข้าร่วมการทดสอบระดับสภาได้ยังไง?

มันเหมือนเขาจะเล่นเสก็ตน้ำแข็งโดยไม่มีรองเท้าเสก็ต  เล่นด้วยเท้าเปล่า? 

 

เขาต้องสู้เพียงลำพังอย่างนั้นหรือ?

ถ้าเป็นแบบนั้นเรื่องของเขาคงกลายเป็นตำนานแน่

เขาไม่รู้ว่าเขาโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่

หนึ่งอาทิตย์ต่อมา มีร่างหนึ่งปรากฎขึ้นที่ประตูผ่านเขา  เขาสวมชุดสีน้ำเงินและขี่ม้าราคาถูกที่ระบุสายพันธุ์ไม่ได้อยู่

แน่นอนว่าเป็น ฟาง เจิ้งจือ เขามองไปยังสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ด้านหน้าเขา และมองไปยังทหารที่มีท่าทีจริงจัง

เขามีทางเลือกสองทาง

เขาสามารถหาผู้บัญชาการที่คุมป้อมบริเวณนี้ได้  เขาสามารถแนะนำตัวเองให้พวกเขาฟัง  แต่จะสำเร็จหรือไม่ก็ขึ้นอยู่ที่ผู้บัญชาการ

ตัวเลือกที่สองคือเข้าไปยังดินแดนภูเขาทางใต้เพียงลำพัง

ก่อนที่จะตัดสินใจ ฟาง เจิ้งจือ คิดว่าตัวเองควรหาอาหารดีๆทานก่อน  เขาไม่สามารถเดินทางทั้งๆที่ท้องว่างได้

บริเวณดินแดนภูเขาทางใต้นั้นหาร้านอาหารอร่อยๆได้ยาก

ร้านอาหารต่างๆล้วนมีแต่เนื้อสัตว์

“เอานี้พึ่งฆ่าหมาดๆเลย!  ตัดส่วนที่เจ้าจะกินไปได้เลย!“่

 

“เจ้าอยากจะเข้าไปข้างในงั้นรึ?“่

เสียงที่ดังขึ้นในตอนนี้แสดงให้เห็นว่าเมืองนั้นคึกคักแค่ไหน แต่ก็เทียบกับที่เมืองหลวงไม่ได้อยู่ดี

ฟาง เจิ้งจือ เลือกร้านอาหารดีๆที่มีคนกินเยอะๆ เขาเรียกพนักงานและสั่งอาหาร จากนั้นเขาก็เริ่มดื่มเหล่า

 

เขาเลือกมุมที่มีคนนั่งมากที่สุดเพื่อจะได้แอบฟังข่าวสาร

ร้านอาหารนั้นเป็นที่ที่ดีที่สุดในการรวบรวมข้อมูล

 

ยิ่งที่นั่งมากแค่ไหนข้อมูลที่ได้ก็มีมากขึ้นเท่านั้น

เมื่อมีลูกค้าเดินเข้ามามาก หูของ ฟาง เจิ้งจือ ขยายกว้างขึ้นเรื่อยๆ ส่วนมากพวกเขาพูดถึงการทดสอบต่อสู้

ฟาง เจิ้งจือ ค่อยๆรวบรวมข้อมูลทุกอย่างเข้าด้วยกัน เขาค่อยๆเข้าใจการทดสอบขึ้นมาบ้าง

“อาณาจักรเซี่ยได้ส่งทหารจำนวน 100,000 คน”

“ผู้เข้าสอบแต่ละคนได้รับกำลังพล 2000 คน”

“องค์รัชทายาทได้ควบคุมกองกำลังสนับสนุนมาอีก 40,000คน”

 

“ผลลัพธ์จะขึ้นอยู่จำนวนทหารที่เหลือและดินแดนที่ครอบครองได้!“่

ฟาง เจิ้งจือ จิบเหล้าและอาหารต่างๆขณะที่ฟังข่าว ขณะเดียวกันเขาก็หาวิธีที่จะใช้ในการทดสอบ

ปัญหาใหญ่สุดของเขาตอนนี้คือไม่มีทหาร  เขาไม่สามารลุยคนเดียวได้  อย่างไรก็ตามสิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขากังวลมากที่สุด

สิ่งที่กวนใจเขามากที่สุดคือ…

เป้าหมายของการทดสอบ!

มันเหมือนกับการทำข้อสอบ สิ่งแรกคือเขาต้องหาจุดประสงค์ของคำถามและผู้คิดข้อสอบต้องการ จะถามอะไร? เขาคิดอะไรอยู่?    

การทดสอบระดับสภา

เป็นการทดสอบที่สำคัญที่สุดในอาณาจักรเซี่ย  เป็นการทดสอบที่ต้องใช้พลังและสติปัญญามากที่สุด  อย่างไรก็ตาเงื่อนไขนั้นง่ายๆ? ปกป้องดินแดนและรักษากองกำลังของตัวเอง?

ถ้าเป็นแบบนั้นทำไมต้องมีทหารเป็นกำลังเสริมถึง 40,000นาย?  พวกเขาคอยสนับสนุนอะไร?

 

รักษาความปลอดภัยของผู้เข้าสอบ?

ฟังดูมีเหตุผล แต่ก็ดูไม่น่าจะใช่

จากทั้งหมด ฟาง เจิ้งจือ เองก็ได้รู้ว่าตัวเองนั้นเป็นที่ 1 ของการทดสอบระดับสภา วู่ จวี้เอ๋อ บอกเรื่องนี้กับเขา ก่อนที่เขาจะจากมา

การทดสอบด้านปัญญานั้นตั้งคำถามที่จะนำมาสู่สงคราม

 

นโยบายที่จักรพรรดิกำลังมองหาคือสงคราม!

มันแสดงให้เห็นถึงความคิดขององค์จักรพรรดิ!

 

สงคราม…

แล้ว…มันคงไม่ง่ายเหมือนการทดสอบ  ต้องมีบางอย่างที่องค์จักรพรรดิไม่บอกต่อสาธารณะชน

นอกจากนี้ วู่ จวี้เอ๋อ ได้บอกเขาว่าดินแดนภูเขาทางใต้เกือบอยู่ภายใต้การควบคุมของปีศาจทั้งหมด!

นั่นหมายความว่าปีศาจยังควบคุมไม่ได้ทั้งหมด

บริเวณนี้ต้องเกิดสงครามอยู่อย่างแน่นอน ฟาง เจิ้งจือ เชื่อความเก่งกาจของนิกายเงา แต่เขาไม่คิดว่าเจ้าหน้าที่ของอาณาจักรเซี่ยจะโง่

การที่สภาจะไม่รู้เรื่องพวกนี้ไม่น่าเป็นไปได้

แต่ทำไมเขาถึงไม่ประกาศเรื่องนี้…

พวกเขาเกรงว่าจะเกิดความวุ่นวาย ความเป็นไปได้อื่นๆคือองค์จักรพรรดิไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้

ดวงตาของ ฟาง เจิ้งจือ สว่างขึ้นเมื่อนึกถึงเรื่องนี้

“ข้าเข้าใจแล้ว! ” การทดสอบไม่ได้เรียบง่ายแบบที่คิด การปกป้องถิ่นฐานต่างๆนั้นก็เหมือนเป็นการบอกอ้อมๆให้ควบคุมพื้นที่เหล่านั้น

ขั้นแรกคือใช้การทดสอบด้านการต่อสู่เพื่อเป็นเหตุผลในการเข้าควบคุมพื้นที่ต่างๆจากนั้นก็ใช้พื้นที่เหล่านั้นเป็นฐาน  ในกรณีที่เกิดเรื่องเลวร้าย พวกเขาสามารถสั่งล้อมเมืองภูเขาเซียนได้

ประการที่สอง …

 

ฟาง เจิ้งจือ ไม่คิดไปไกล

เพราะสถานการณ์ตอนนี้ยังไม่แย่มากนัก

อย่างไรก็ตามมีสิ่งหนึ่งที่ ฟาง เจิ้งจือ มั่นใจได้

ดินแดนภูเขาทางใต้ยอมให้อาณาจักรเซี่ยส่งทหาร 100,000 คนเพื่อควบคุมทั้ง 4 ถิ่นฐานหรือไม่พวกปีศาจจะเห็นด้วยหรือไม่?

ไม่อย่างแน่นอน

นี่เป็นการต่อสู้ในเงามืด  จากคำพูดของ วู่ จวี้เอ๋อ คงมีผู้เข้าสอบน้อยรายที่จะรอดชีวิตจากการทดสอบ

มันไม่ใช่ว่าสภานั้นชั่วร้าย

ถ้าเขาเข้าใจไม่ผิด แต่ละผู้เข้าสอบจะมีรองแม่ทัพที่มีเหรียญตราลับอยู่ ที่สามารถทำให้เขาหยุดการทดสอบได้ทันที

 

คงเป็นเรื่องดีถ้าการทดสอบเป็นไปตามแผน

อย่างไรก็ตามถ้าเกิดเรื่องร้ายขึ้น รองแม่ทัพก็สามารถเข้าควบคุมกองกำลังได้ทันทีและกลายเป็นเพียง 1 กองกำลังที่มีทหาร 100,000 นาย

ฟาง เจิ้งจือ ไม่มีอะไรแต่ทำได้เพียงแค่ชื่นชมองค์จักรพรรดิ

นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรับมือกับสถานการณ์ในตอนนี้  เขาสามารถเลือกโจมตีหรือป้องกัน  ถ้าดินแดนภูเขาทางใต้อยู่ในความสงบ งั้นการทดสอบก็คงไม่มีอะไร

อย่างไรก็ตามถ้าฝ่ายนั้นทำเรื่องอะไรตุกติกขึ้นมาฝั่งนี้สามารถประกาศสงครามได้ทันที

ที่สำคัญ ประชาชทุกคนไม่ได้รับการแจ้งเตือน

ทุกคนคิดว่าเรื่องนี้เป็นการทดสอบด้านการต่อสู้  โดยปกติไม่มีใครคิดถึงเหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมอาณาจักรถึงส่งทหารจำนวนมากไปที่ดินแดนภูเขาทางใต้

ฟาง เจิ้งจือ ยกแก้วขึ้นจิบ

เขาแสบคอเล็กน้อย

 

เป็นเหล้าที่แรงเอาเรื่อง

คอของ ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้แข็งมากก็เท่าคนทั่วๆไป

หลังจากเขาคิดถึงความต้องการขององค์จักรพรรดิแล้ว เขาก็คิดถึงตัวเอง  เขาจะเป็นที่ 1 ได้ยังไงภายใต้สานการณ์เช่นนี้?

 

โดยไม่มีทหาร …

เขาไม่สามารถเข้าร่วมสู้รบแย่งชิงดินแดนได้  ดังนั้นเขาจะไม่มีคะแนน

 

ดังนั้นเขาต้องยืมทหาร?

แต่สิ่งที่เขาจะทำหลังจากนั้นละ?

เขาจะเข้าไปยังดินแดนเหล่านั้นแบบโง่ๆและคิดว่ามันเป็นเพียงการทดสอบแบบผู้เข้าสอบคนอื่นๆ?

มันจะเป็นการสะเพร่าเกินไป

 

เขาเป็นคนที่มีการศึกษา  ทำไมเขาต้องทำเป็นโง่ด้วย?

ยิ่งไปกว่านั้น เหยียน ซิว เองก็น่าจะรู้ความจริงเช่นกัน วู่ เฟิง ด้วยเช่นกัน สำหรับ หนานกง เฮา…

เขาสรุปได้ยาก

ฟาง เจิ้งจือ ไม่เคยประเมิณคู่ต่อสู้ของเขาเลยจากการทดสอบด้านปัญญาและ หนานกง เฮา เสมอกับเขาแสดงให้เห็นว่า หนานกง เฮา ไม่ใช่คนธรรมดาๆ

ตอนนี้ หนานกง เฮา น่าจะกำลังมองไปที่เหรียญตราลับของรองแม่ทัพ

แล้วจากนั้นละ…

จุดนี้ก็จะเกิดปัญหาขึ้น

เขาจะมั่นใจได้ยังไงว่าจะสอบได้ดีทั้งๆที่ยังสับสนเขาจะหลีกเลี่ยงการต่อสู้กับผู้เข้าสอบคนอื่นๆทั้งหมดได้ยังไง?

Gate of God

Gate of God

GoG, 神门
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2015 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Gate of Godเรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset