10 วันต่อมา
“ฟุ้บ!” เสียงลูกศรดังผ่านกลางอากาศ มันเป็นลูกศรหยกเขียวที่พุ่งไปราวกับดาวตก ก่อนที่มันจะตกกระทบพื้นและระเบิดออก
“อู๊ด … ” หมูหุ้มเกราะกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดก่อนที่จะล้มลงกับพื้นเลือดไหลจากแผลที่เปิดออก
ในตอนนั้นเองร่างหนึ่งก็ปรากฎขึ้น
ร่างที่สวมหนังสัตว์ลายเสือดาวในมือถือคันธนูหยก เขาฮัมเพลงขณะยิงมัน
ฟาง เจิ้งจือ ต้องการไปที่ถิ่นเนินเขาเหล็กที่อยู่ใกล้กับเมืองภูเขาเซียน
10 วันที่ผ่านมาเขาใช้เวลาค้นหาเส้นทางรอบถิ่นทั้ง 4 แห่ง บวกกับประสบการณ์ที่เขามีในภูเขาคังหลิง จึงทำให้หลีกเลี่ยงปัญหาไปได้
ตอนนี้เขาอยู่ด้านนอกถของพื้นที่ทั้ง 4 แล้ว
ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายเล็กน้อย เขาต้องการที่จะล่าสัตว์ เพื่อทำอาหาร หมูตัวหนึ่งจึงตกเป็นเป้าหมาย
“อภัยให้ข้าด้วย ข้าเพียงต้องการอาหารเท่านั้นเอง!” ฟาง เจิ้งจือ ยิงธนูใส่หมูแล้วยิ้ม
เขาเก็บธนูและหยิบมีดเล็กๆขึ้นมา ขณะที่เขาหั่นชิ้นเนื้อเขาก็บ่นกับตัวเองว่า “หางหมู หูหมู ลิ้นหมู ช่างน่าอร่อย … “
อย่างไรก็ตาม …
การเปลี่ยนแปลงและสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ล้วนเป็นสัจธรรมของโลกใบนี้
ขณะที่ ฟาง เจิ้งจือ ฮัมเพลงไปหั่นหมูไป ก็มีอะไรบางอย่างเคลื่อนไหวในพุ่มไม้
เขาตื่นตัวทันที
ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่จะไม่พบสัตว์ร้าย อย่างไรก็ตามโดยปกติแล้ว ที่ที่มีสัตว์เล็กจำนวนไม่มากมักจะมีสัตว์ร้ายอยู่แถวนั้น
เขาจึงหาจุดที่มีสัตว์เล็ฏจำนวนมาก
ขณะที่กำลังคิด ก็ได้ยินเสียง ” ฟิ้ว ฟิ้ว …ฟิ้ว …” อยู่ในอากาศจากนั้นก็มีแสงสีดำร่วงลงมาจากฟ้า
“หอก?” ฟาง เจิ้งจือ เห็นแสงสีดำบางอย่าง
นี่มันต่างไปจากหอกที่พวกกองทหารใช้ พวกนั้นไม่สามารถใช้ขว้างได้ แต่แบบที่เห็นอยู่นี้กลับใช้ขว้างและสามารถสร้างความเสียหายให้สัตว์ป่าได้อย่างมาก
เขาเดินพลัดหลงมาในถิ่นของพวกชนเผ่างั้นหรือ?
แต่มันไม่มีบอกบนแผนที่นี่?!
ฟาง เจิ้งจือ หลบหอกทั้งหมดที่ถูกขว้างมาได้ อย่างไรก็ตามดูเหมือนพวกเขาจะมีเป้าหมายบางอย่าง พวกเขาไม่ได้ขว้างเพื่อฆ่า ฟาง เจิ้งจือ
พวกเขาจะจับ ฟาง เจิ้งจือ
หอกปักลงรอบๆตัว ฟาง เจิ้งจือ มันไม่กว้างมาก แต่ก็ล้อมเขาเอาไว้ได้
“ฟุบ ฟุบ …!”เสียงของบางอย่างออกมาจากพุ่มไม้
จากนั้นก็มีร่างกว่า 100 ร่างปรากฎขึ้นล้อมตัวเขา พวกเขาถือหอกสีดำยาวอยู่ในมือ และสวมเกราะสีเขียวที่ทำจากหวาย
ฟาง เจิ้งจือ เคยเห็นเกราะแบบนี้มาก่อน ฉาน เจีย ได้สวมมันเช่นกันที่กลืนกินโลก
อย่างไรก็ตามคนพวกนี้สวมเกราะที่ดูอ่อนแอกว่า ปกคลุมเฉพาะส่วนสำคัญอย่างหน้าอกและจุดยุทธศาสตร์เท่านั้น นอกนั้นก็เป็นเพียงร่างกายอันเปลือยเปล่า พวกเขาทั้งหมดผิวสีคล้ำเข้มเป็นผลจากอาศัยอยู่กลางแดดตลอดเวลา
ชาวเผ่า!
ฟาง เจิ้งจือ รู้ถึงคนเหล่านี้ได้ทันทีเขามั่นใจว่าคนเหล่านี้มาจากกองทัพภูเขาทางใต้
ถ้าเป็นแค่พวกนายพรานการแต่งตัวพวกเขาจะต่างไปจากนี้
อย่างไรก็ตามเกราะและอาวุธพวกเขามีมาตรฐาน
พวกเขาต้องมาจากกองทัพของดินแดนภูเขาทางใต้แน่นอน
ถ้าเขาถูกจำไปที่กองทัพละก็…
แผนของเขาต้องพังไม่เป็นท่าแน่นอน
“เจ้ามาจากถิ่นไหน?” 1 ในชายวัยกลางคนมองไปที่การแต่งกายของ ฟาง เจิ้งจือ และคิดว่ามีพิรุธ
“ถิ่นไหน?”แววตาของ ฟาง เจิ้งจือ สว่างขึ้น เขาแค่ต้องโมเมขึ้น แต่เขาก็ตระหนักว่าคงไม่เข้าท่าเท่าไร
ถ้าเขาไม่ได้เจอพวกชาวเผ่า …
เขาก็คิดจะแฝงตัวเป็นคนในกองทัพหรือสักถิ่นฐานหนึ่ง อย่างไรก็ตามหลังจากได้เห็นสภาพพวกเขาแล้ว ฟาง เจิ้งจือ ก็ทิ้งความคิดไปทันที
เป็นเพราะว่า…
เขาขาวเกินไป
เมื่อตอบว่าจากถิ่นไหน อีกฝ่ายต้องจับได้แน่นอน
คนที่อยู่ในภูเขาทางใต้ไม่ได้เป็นคนโง่เลยสักนิด
ฟาง เจิ้งจือ จึงไม่คิดจะเสี่ยงทำวิธีเช่นนั้น
ตอนนี้เขาไม่มีทางเลือก
ตัวเลือกแรกของเขาคือทำอ่อนแอและทำตัวเหมือนคนงี่เง่า เขาสามารถปฏิเสธที่จะตอบคำถามและใช้ท่าเต้นบางอย่างเพื่อทำให้พวกเขาตกใจ จากนั้นเขาอาจจะสามารถหาโอกาสหนีได้
ตัวเลือกที่สองของเขาคือทำเป็นคนแข็งแกร่ง!
ดั่งคำพูดที่ว่า ถ้าศัตรูอ่อนแอ ข้าจะแข็งแกร่ง ถ้าศัตรูแข็งแกร่ง ข้าจะอ่อนแอ
มันเป็นสมการที่ง่ายมาก
ฟาง เจิ้งจือ สงบสติลงและทำท่าทางเย่อหยิ่งเล็กน้อยเขากระดิกนิ้วไปที่ชายวัยกลางคน
ชายวัยกลางคนมองอย่างสงสัย อย่างไรก็ตามนี่ยังคงเป็นดินแดนของเขา
เขาเดินไปหา ฟาง เจิ้งจือ
“ข้าถามว่าเจ้ามาจากไหน?!“่
“แป๊ะ!“่
ด้วยการดีดเพียงครั้งเดียว หอกอันหนึ่งที่ปักอยู่ก็แหวกเป็น 2 ส่วนมันถูกตัดออก
“เจ้า …”เขาจับหอกของเขาและค่อยๆก้าวถอยหลังไป
ทหารทุกคนต่างก็ยกหอกขึ้นพวกเขาเตรียมจะพุ่งเข้าไปทุกเมื่อที่ได้ยินคำสั่ง
“ถิ่นเถิ่นอะไรกัน?! เจ้าไม่เห็นสีผิวของข้ารึ? ข้าดูเหมือนชาวบ้านเช่นเจ้ารึ? ข้าเป็นทูต! เจ้าตาบอดหรือไง?” ฟาง เจิ้งจือ ตอบอย่างหยาบคาย
หลังจากได้แสดงพลังให้เห็น เขาจึงต้องทำท่าทีแสดงความเคร่งขรึม
“ทูต? เจ้าน่ะรึ?“ชายวัยกลางคนถาม
เขาไม่ได้โจมตี ฟาง เจิ้งจือ ในทันทีเพราะเขาเห็นชุดของ ฟาง เจิ้งจือ ทำมาจากหนังชั้นยอดมีคนแค่ 2 ประเภทเท่านั้นที่จะใส่หนังเช่นนี้
ผู้สอดแนมของอาณาจักร …
หรือใครบางคนที่สำคัญ …
แต่ที่เขาไม่ได้โจมตี ฟาง เจิ้งจือ นั่นมีเหตุผลอื่นอีก …
ฟาง เจิ้งจือ แข็งแกร่งมาก!
“ถ้าข้าสับที่คอเจ้าคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น? ให้คนของเจ้าถอยไป! เจ้าเป็นใครถึงกล้ามาถามข้า” ฟาง เจิ้งจือ โบกมือขึ้นเวยความโกรธเขาต้องแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ยอม
“ถอยออกไปก่อน!” ท่าทีของชายวัยกลางคนเปลี่ยนไป เมื่อเขาได้ยินเขาโบกมือให้เหล่าทหารที่ล้อม ฟาง เจิ้งจือ
หลังจากชายวัยกลางคนสั่ง ก็มีชายคนหนึ่งยิงลูกศรขึ้นไปบนท้องฟ้า
ฟาง เจิ้งจือ สับสนเล็กน้อยว่าเกิดอะไรขึ้น? เขาพลาดหรือ?
เป็นไปไม่ได้
เขาสามารถฆ่าชายวัยกลางคนได้อย่างไม่ใช่ปัญหา นอกจากนี้สิ่งที่เขาทำก็ดูน่าเชื่อถือ ไม่มีเหตุผลเลยว่าทำไมพวกเขาถึงแสดงท่าทีเช่นนี้
“เจ้ากำลังพยายามคุกคามข้างั้นรึ?”ฟาง เจิ้งจือ ไม่มีทางเลือกเขาไม่รู้ว่าเขาต้องเผชิญหน้ากับพวกเขายังไงอีก
“ถ้าเจ้าเป็นทูตจริง จงบอกความตั้งใจของเจ้า เพราะถ้าไม่ เจ้าลืมไปได้เลยว่าจะออกไปจากที่นี่ได้!” ชายวัยกลางคนไม่มีเจตนาจะโจมตีแต่อย่างใด
“เจ้าไม่กลัวว่าข้าจะเด็ดหัวเจ้าทิ้งเลยใช่หรือไม่?”ฟาง เจิ้งจือ ตอบอย่างเย็นชา
“ข้าทำตามหน้าที่ ข้าไม่กลัวอะไรทั้งนั้น!” ชายวัยกลางคนตอบด้วยความมุ่งมั่น
“ไม่กลัวอะไร?” ฟาง เจิ้งจือ จ้องไปที่ชายวัยกลางคน นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่เขาได้มีปฏิสัมพันธ์กับคนภูเขาทางใต้
อย่างไรก็ตามเขาได้เห็นความมุ่งมั่นในสายตาของชายวัยกลางคน
มันทำให้ ฟาง เจิ้งจือ รู้ว่า คนพวกนี้เติบโตขึ้นมาในสภาพแวดล้อมที่เข้มงวดอย่างมากเขาเห็นอย่างชัดเจน
คนจากดินแดนภูเขาทางใต้…
แตกต่างจากคนของอาณาจักรเซี่ย!
“บอกพวกเรามา!” ทหารหลายร้อยคนตะโกนขึ้นมาและล้อมรอบเอาไว้เมื่อได้ยินเสียงชายวัยกลางคน เสียงอันคมชัดของพวกเขาดังสะท้อนไปทั่วป่า
ฟาง เจิ้งจือ สามารถพูดได้?
เขาไม่คุ้นเคยกับพื้นที่แถบนี้ ยิ่งเขาพูดมากเท่าไรอีกฝั่งยิ่งจับได้ เขาไม่ไม่สามารถสุ่มเรื่องขึ้นมามั่วๆได้
ฟาง เจิ้งจือ มีสองทางเลือก
ฆ่าพวกเขาหรือวิ่งหนี
ฆ่านั้นเป็นตัวเลือก อย่างไรก็ตามการฆ่าโดยปราศจากเหตุผลนั้นไม่จำเป็น นอกจากนี้ ฟาง เจิ้งจือ ก็ไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นคนยังไง
ฆ่าคนเถื่อนพวกนี้ทั้งหมด?
เขาไม่ใช่คนบ้า
ต่อให้ฆ่าพวกนั้นทั้งหมดได้ เขาก็ยังต้องวิ่งหนีอยู่ดี
ฟาง เจิ้งจือ รู้ว่าเขาควรวิ่งหนี
เขาต้องการจะแข็งแกร่งกว่าคนเหล่านี้ แต่เห็นได้ชัดว่าพวกเขาแข็งแกร่งกว่า
ไม่ใช่ว่าเขาฉลาดไม่พอ แต่ฝ่ายตรงข้ามเขามีมากเกินไป
เขาหันไปอีกด้าน…
และวิ่งหนี
“เจ้าจะหนีงั้นรึ? ต่อให้สัตว์ป่าที่เร็วที่สุดก็ยังหนีพวกเราไม่พ้นฮ่าฮ่า!”ชายวัยกลางคนหัวเราะเบาๆเมื่อเห็น ฟาง เจิ้งจือ วิ่งหนี
ท้องฟ้าเต็มไปด้วยหอกทันทีหลังจากชายวัยกลางคนออกคำสั่ง
หอกจำนวนมากขัดขวางการหนีของ ฟาง เจิ้งจือ
จากนั้นทหารนับร้อยก็ล้อมเขาไว้จากด้านข้าง จากนั้นพวกเขาก็ส่งเสียงข่มขู่
“…”
ฟาง เจิ้งจือ ค่อนข้างหดหู่ทางด้านหน้าถูกบังด้านข้างถูกล้อมด้วยทหาร เขาต้องฆ่าจริงๆงั้นรึ?
ขณะที่เขากำลังคิดถึงเรื่องนี้อยู่เขาได้ยินเสียงกระแทกใกล้ๆ จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงคำรามจากสัตว์หลายตัว
เขาหันกลับไปและตะลึงกับสิ่งที่เขาเห็น
ในชั่วพริบตามีทหารนับพันล้อมเขาเอาไว้ พวกเขาต่างรีบมาที่นี่ บางคนขี่สัตว์อสูรสูงกว่าสองเมตร
มันคล้ายกับหมาป่าที่มีขนสีม่วงฟ้า บนหัวของมันมีเขา
มันคือหมาป่าเขาเงิน!