“แม่ทัพไถ่ ระวังด้วย!”
เสียงร้องตะโกนจากพวกทหาร
บนสนาม ลูกศรดอกสุดท้ายพุ่งหาแม่ทัพไถ่ ลูกศรกว่า 30 ดอกพุ่งมาทางเขา เขากำลังเหนื่อยล้าจากการหลบ ขณะเดียวกันเขาก็ตึงเครียดมากยิ่งขึ้น
ลูกศรเพียงหนึ่งดอก!
ยิงทะลุแขนของแม่ทัพ หยดเลือดกระเซ็นไปตามอากาศ ก่อนจะหยดลงสู่พื้น
“อ๊าก!!!”แม่ทัพไถ่กรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
ถึงแม้เนื้อและกระดูกของเขาจะแข็งเป็นเหล็กกล้า แต่ในระยะใกล้ ๆ เช่นนี้ต้องเผชิญกับลูกธนูที่ยิงออกจากธนูหวายเพลิง และด้วยสภาพที่ถูกต้อนจนมุมมันทำห้เขาไม่สามารหลบเลี่ยงได้
“เขากำลังจะแพ้?“
“แม่ทัพไถ่จะแพ้จริงๆหรือ?“
พวกทหารไม่อยากจะเชื่อว่าแม่ทัพไถ่จะแพ้ให้กับเด็กที่เป็นสายของอาณาจักรเซี่ย
สีหน้าของเขากลายเป็นสีม่วงคล้ำ เขาดึงลูกศรออกอย่างไม่รอช้า เพราะแม้แต่แผลที่เจ็บปวดที่สุดจากลูกธนูก็ไม่สามารถทำให้เขารู้สึกอะไรได้มากกว่าความอัปยศ
อย่างไรก็ตามบาดแผลในหัวใจทำให้ปากของเขาเริ่มสั่นไหว
เขากวาดสายตาไปทั่วทหารยืนอยู่
จากสีหน้าของพวกเขา เขามองเห็นความสิ้นหวัง
ความรู้สึกที่สิ้นหวังมาก
“ไม่! ข้า แม่ทัพเสือใหญ่จะไม่แพ้ ข้าต้องไม่แพ้!”แม่ทัพไถ่ตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยว แววตาเขาจ้องมอง ฟาง เจิ้งจือ ราวกับเสือที่จ้องขย่ำเหยื่อ
เขากำขวานยักษ์สีดำในมือแน่นจนมือเริ่มซีดขาว
ตอนนั้นเอง
มีเสียงแว่วเกิดขึ้นในหัวของเขา ลูศรพุ่งเข้าที่ใบหน้าของเขาด้วยแสงสีแดงอ่อน ที่รวดเร็วราวกับดาวตก
ตอนนี้แม่ทัพไถ่ไม่เหมือนก่อนหน้านี้แล้ว
เขาโยกหัวไปทางขวา
ลูกศรพุ่งเฉียดแก้มของเขาไป
อย่างไรก็ตามแม่ทัพไถ่ไม่สนใจเรื่องนี้ และเขาก็พุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วที่อย่างเหลือเชื่อ เท้าของเขาเหยียบตะปูราวกับไม่มีมันอยู่
“ยอมเสี่ยงตาย?” ฟาง เจิ้งจือ แค่มองเห็นก็รู้แล้วว่าแม่ทัพไถ่กำลังคิดอะไรอยู่
เขาได้คาดการณ์ไว้แล้ว
สุนัขที่กำลังตื่นตระหนกก็อาจจะกระโดดข้ามกำแพงได้ นี่คือแม่ทัพเสือใหญ่แห่งภูเขาทางใต้ ทั้งยังเป็นผู้ที่ได้รับความนับถือจากทหารนับพัน
ถ้าแม่ทัพไถ่ยอมแพ้ง่ายๆ
เขาคงเป็นแม่ทัพเสือใหญ่ไม่ได้อีกต่อไป
ฝ่ายตรงข้ามต้องตาย …
นั่นคือสิ่งที่เขาต้องการ?
ฟาง เจิ้งจือ ไม่กลัวการต่อสู้ระยะประชิดอย่างน้อยเขาก็ไม่กลัวการสู้ระยะประชิดกับคนที่ไม่สามารถใช้พลังที่แท้จริงได้
อย่างไรก็ตาม เขารู้สึกว่าต้องรีบจบมันโดยเร็ว
ถ้าเขายังมัวยืดเยื้อต่อไปคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ ที่ทำให้แม่ทัพไถ่โกรธจัดเพราะความอับอาย
งั้นครั้งสุดท้าย …
ต้องยิ่งใหญ่!
ขณะที่ ฟาง เจิ้งจือ กำลังคิด แม่ทัพไถ่ก็มาอยู่ตรงหน้าเขาแล้วมันทำให้เขาตกใจเล็กน้อย
มันดูผิดปกติ ทำไมเขาเร็วขนาดนี้?
เมื่อ ฟาง เจิ้งจือ มองไปที่ แม่ทัพไถ่ ก็ตระหนักได้ว่าบางอย่างมันแปลกๆ
เพราะในแววตาของแม่ทัพไถ่มีแต่เจตนาฆ่า จิตสังหารราวกับออกมาจากก้นเบื้องของหัวใจ ที่สำคัญที่สุดคือการเปลี่ยนแปลงของดวงตา
ดวงตาคู่นั้นไม่ใช่ของมนุษย์อีกต่อไปแล้ว …
พวกมันส่องแสงสีเขียวประกาย มันเยือกเย็นเป็นอย่างมาก
“ไม่นะ!” ตามสัญชาตญาน ฟาง เจิ้งจือ ต้องการที่จะหนี
อย่างไรก็ตามตอนนี้แม่ทัพไถ่ได้ยกขวานสีดำขนาดใหญ่ขึ้นเหนือหัวของ ฟาง เจิ้งจือ แล้ว กล้ามเนื้อแขนของแม่ทัพไถ่ นั้นดูจะขยายมากกว่าเดิมเป็นเท่าตัว
คลื่นพลังรอบตัวเขาที่ระเบิดออกมารวมถึงจิตสังหารของเขาเมื่อเปรียบเทียบกับก่อนหน้านี้ราวกับเป็นคนละคน
เส้นขนราวกับเข็มสีดำปกคลุมไปทั่วแขนของแม่ทัพไถ่ มันดูคล้ายกับแขนลิงเป็นอย่างมาก
“ฟุ้บ!“ขวานสีดำขนาดใหญ่พุ่งลงมา ดวงแรงอันมหาศาลพร้อมกับส่องแสงสีเขียวเข้มออกมาจางๆ
“แม่ทัพไถ่!“
เมื่อเหล่าทหารเห็นฉากนี้พวกเขาก็ร้องตะโกนออกมาด้วยความตื่นตระหนก
แน่นอนพวกเขารู้ว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพร่างกายของแม่ทัพไถ่นั้นหมายถึงอะไร ก่อนหน้านี้ที่มีการไม่ใช้ระดับพลัง แต่ตอนนี้แม่ทัพไถ่ ได้ใช้เลือดในร่างกาย นั่นหมายความว่าตอนนี้แม่ทัพไถ่อยู่ในระดับอภินิหารขั้นสูงล้ว
แน่นอน…
หมายความว่า ฟาง เจิ้งจือ ต้องตายอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามฉากที่เกิดขึ้นนี้ไม่ได้ทำให้ทหารตื่นเต้นหรือยินดีแม้แต่น้อย
เพราะพวกเขาเป็นทหารของดินแดนภูเขาทางใต้ พวกเขามีความภาคภูมิใจของตัวเอง พวกเขาจะตายก็ได้ แต่ต้องตายด้วยความมีเกียรติและยุติธรรม
ตอนนี้มันเป็นการแข็งที่เท่าเทียมกัน
แต่ละฝ่ายต่างไม่ใช่ระดับพลังก่อนที่จะเข้าสู่สนามฝึก
มันไม่สำคัญว่าใครจะชนะ แต่การแข่งขันต้องยุติธรรม
อย่างไรก็ตามถ้าฝ่ายหนึ่งฉีกกฎทิ้งนั่นหมายความว่าการแข่งขันจะไม่ยุติธรรมอีกต่อไป ต่อให้พวกเขาชนะการต่อสู้ คนคนนั้นก็จะโดนดูถูกโดยเหล่าทหารของดินแดนภูเขาทางใต้อยู่ดี
พวกทหารไม่รู้ว่าทำไมแม่ทัพไถ่ถึงทำแบบนี้
อย่างไรก็ตามความเป็นจริงก็คือ แม่ทัพไถ่ได้ทำมันไปแล้ว
“หยุด!” ทันใดนั้นเองที่องค์หญิง ฉาน ยู่ เห็นสิ่งที่ผิดปกติเช่นกัน นางลุกขึ้นจากเก้าอี้ พยายามที่จะสัมผัสถึงการคงอยู่ของธนูของนาง
อย่างไรก็ตาม …
เมื่อนางสัมผัสไปรอบๆสนาม นางก็คิดได้ว่าบางอย่างไม่ถูกต้อง
เพราะธนูอยู่ในมือของ ฟาง เจิ้งจือ
แม่ทัพไถ่รู้ดีว่าสิ่งที่เขาทำนั้นเป็นกรขัดคำสั่งทางทหาร เขารู้ดีว่าเขาอาจจะถูกลงโทษอย่างร้ายแรงและโดนดูถูก อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถทนต่อความพ่ายแพ้แบบนี้ได้
เขาจะย้อมแพ้ให้กับนักรบของดินแดนภูเขาทางใต้เท่านั้น
เขาไม่มีทางปล่อยให้ตัวเองแพ้สายจากอาณาจักรเซี่ยเด็ดขาด
นอกจากนี้มันยังเป็นความพ่ายแพ้ที่โง่เง่าเป็นอย่างมาก
ไม่เชื่อฟังคำสั่งทางทหารและถูกผู้คนดูถูก
มันเป็นสิ่งที่ร้ายแรงเป็นอย่างมาก
ถ้าเป็นก่อนหน้านี้เขาจะไม่ทำแบบนี้เด็ดขาด แต่ตอนนี้สถานการณ์นั้นต่างออกไป เพราะตอนนี้เป็นช่วงเวลาของสงครามระหว่าง 2 อาณาจักร ช่วงเวลาที่พวกเขาตึงเครียดกับเรื่องที่มีทหารระดับสูงน้อยเกินไป เขาคำนวณแล้วว่าองค์หญิงคงไม่ฆ่าเขาอย่างแน่นอน
ตราบใดที่นางไม่ฆ่าเขา
เขาก็มีโอกาสที่จะก่อเรื่องร้ายแรงได้สำเร็จ
มันไม่สำคัญว่าเขาจะถูกลดตำแหน่ง ในสนามรบถ้าเขาฆ่าแม่ทัพฝ่ายตรงข้ามได้ เดี๋ยวตำแหน่งของเขาก็กลับมาเอง
เมื่อถึงเวลานั้น ใครจะมาพูดคุยกันอีกว่าเขาได้ฆ่าสายตัวน้อยๆของอาณาจักรเซี่ยที่สนามฝึกซ้อมกันเล่า? มีแต่ผู้คนจะชื่นชมเขาที่สร้างคุณงามความดีให้ดินแดนภูเขาทางใต้เท่านั้น
“ตาย!” แม่ทัพไถ่ร้องคำรามด้วยความโกรธ เขาต้องการที่จะปลดปล่อยความโกรธทั้งหมด และผ่าคนไร้ยางอายตรงหน้าให้กลายเป็น 2 ส่วน
เขามั่นใจมาก เนื่องจากการใช้พลังที่แท้จริงของเขา เขาสามารถฆ่าเด็กตรงหน้าได้โดยไม่ต้องใช้พลังเต็มที่
แต่…
ทันทีที่ขวานของเขากระแทกพื้น
เส้นแสงได้ปรากฎขึ้นตรงหน้าเขา มันเป็นเส้นแสงสีเขียวหยกที่ปรากฎขึ้นกลางอากาศมันคล้ายกับดาบแสง
ดวงตาของแม่ทัพไถ่เบิกกว้าง
เพราะดาบแสงปรากฎขึ้นบนสายธนูหวายเพลิง
เมื่อสายธนูถูกดึง ดาบแสงได้เปลี่ยรูปร่างไปอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นลูกศรแสง
แน่นอนว่า ฟาง เจิ้งจือ ไม่มีเวลาสนใจสิ่งอื่น
ลูกศรที่ทรงพลังที่สุดของเขาไม่ใช่ลูกศรธรรมดา มันเป็นลูกศรที่เกิดจากวิชาล้านคมดาบ!
“ตูม!” เสียงดังก้องไปทั่วสนาม
อากาศรอบๆราวกับกลายเป็นระลอกคลื่นที่รวมตัวกันจนกลายเป็นพายุ จากนั้นพายุก็ระเบิดออกพัดธงในสนามฝึกอย่างรุนแรง
ทหารทุกคนต่างร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว
เพราะพวกเขาอยู่ใกล้เกินไป
หรืออาจจะพูดได้ว่า พวกเขาไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์อันยิ่งใหญ่แบบนี้ขึ้น
ริ้วลมที่แหลมคมราวกับใบมีดตัดเกราะชองพวกเขาลึกลงไปจนถึงเนื้อก่อนจะยกพวกเขาขึ้นไปในอากาศและตกลงมาอีกครั้ง
ดวงตาขององค์หญิงตอนนี้หมุนติ้ว ถ้าการกระทำของแม่ทัพไถ่ทำให้นางโกรธแล้วละก็
งั้นตอนนี้ นางก็กำลังตัวสั่น
สั่นอย่างเห็นได้ชัด
พร้อมกับหายนะที่พายุได้ก่อ ตาข่ายสีเขียวขนาดใหญ่ได้ปรากฎขึ้นมันเกิดจากดาบแสงที่ผสานเข้าด้วยกัน
ขวานสีดำขนาดใหญ่ถูกยึดไว้ด้วยตาข่ายอย่างสมบูรณ์
ตาของแม่ทัพไถ่เบิกกว้างปากของเขาอ้าค้างด้วยความโกรธ แขนของเขารากับจะระเบิดออก ท่าทีของเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ
“เป็นไปได้ยังไง?” แม่ทัพไถ่ไม่เชื่อจริงๆ
สายของอาณาจักรเซี่ย สามารถป้องกันการโจมตีจากขวานที่ใช้พลังไป60%ของที่เขามี? นอกจากนี้ในสายตาของเขามันถูกป้องกันด้วยสิ่งที่ดูแปลกๆและดูโง่เป็นอย่างมาก
ลูกศรที่ ฟาง เจิ้งจือ ยิงออกมาค่อนข้างรุนแรง ต่อให้มันจะยังก่อร่างขึ้นมาอย่างไม่สมบูรณ์ก็ตามโชคดีที่ระยะทางใกล้พอ ทำให้พลังของมันยังมากอยู่
ล้านคมดาบ
ตอนแรกเป็นวิชาที่เน้นไปที่การป้องกัน
เมื่อรวมกับธนูหวายเพลิงทำให้พลังของมันกลายเป็นรุนแรงมาก
แม่ทัพไถ่ไม่สามารถใช้พลังของเขาอย่างเต็มที่ได้ เพราะมันไม่มีความหมายที่เขาจะผ่าสนามออกเป็นสองซีกเพื่อฆ่าสายลับตัวเล็กๆ
60%
ไม่ต้องพูดถึงคนที่อยู่ในระดับผนวกดาราเลย แม้อยู่ในระดับสะท้อนสวรรค์ขั้นสูงสุด ก็ต้องถูกผ่าเป็นสองส่วน
ฟาง เจิ้งจือ อายุเท่าไหร่?
เขาอายุเพียง 15 หรือ 16 ปี เข้าถึงรดับสะท้อนสวรรค์? ต่อให้เขาอยู่ในระดับสะท้อนสวรรค์จริงๆเขาก็ต้องตาย!
มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะอยู่ในระดับอภินิหาร?
แม่ทัพไถ่ไม่คิดจะสนใจอีกต่อไป เพราะ ฟาง เจิ้งจือ ไม่มีทางอยู่ในระดับอภินิหารได้เขารู้สึกว่าการโจมตีของเขานั้นมีพลังมากพอ
แน่นอน
เพื่อที่จะรวมกับการโจมตีลับของเขา
ความแข็งแกร่งขั้นสูงสุดที่เขาสามารถรวมมันได้คือ 60% เพื่อที่จะใช้พลังทั้ง 100% เขาจำเป็นต้องใช้เวลาอย่างไรก็ตามเขาไม่มีเวลานั้น
เพราะเขาไม่สามารถให้คนอื่นเห็นได้ว่าเขาจะใช้พลังที่แท้จริง
“ถูกป้องกัน?!“นอกจากความตกใจของแม่ทัพไถ่แล้ว เขารู้สึกว่าจิตใจเขาว่างเปล่า เพราะเขาไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น
นอกจากนี้เขาไม่เคยคิด …
ว่าเขาควรจะทำอย่างไรหลังเหตุการณ์แบบนี้ได้เกิดขึ้น