Gate of God – ตอนที่ 347

เช้าวันถัดมา

น้ำค้างเกาะตามใบไม้ รวมถึงสายลมที่เต็มไปด้วยความเยือกเย็นพัดผ่านไปทั่ว  ในค่ายทหารขนาดใหญ่ ในดินแดนภูเขาทางใต้ ทหารกลุ่มหนึ่งยังคอยยืนตรวจตราด้วยความแข็งขัน

ภายในกระโจมทหารธรรมดาๆ

ฟาง เจิ้งจือ ยืดเส้นยืดสาย ก่อนจะลุกออกจากเตียง  เขามองไปรอบๆและตัดสินใจที่จะลองใช้ชีวิตเป็นทหารดินแดนภูเขาทางใต้สักครั้งหนึ่งในชีวิต แต่ตอนนี้เป็นเวลาที่ควรหาอะไรใส่ท้อง

ขณะที่เขากำลังจะเดินออกมา ได้มีหอกสองด้ามขวางเขาไว้

 

“ห้ามออกไป!”

 

“แม้แต่มื้ออาหารของข้ายังต้องถูกควบคุมเลยงั้นรึ?” ฟาง เจิ้งจือ มองไปที่ทหารทั้ง2ด้วยความสับสน เขาไม่ได้เข้าร่วมกับกองทัพของดินแดนภูเขาทางใต้แล้วงั้นหรือ?

“หยุด องค์หญิงได้สั่งให้ ฟาง เจิ้งจือ ไปที่กระโจมของนางเพื่อสอบถามบางอย่าง!” ทันใดนั้นเองมีคนเดินเข้ามา  ทหารนับร้อยรีบคุกเข่าลงทันที

 

“รับทราบ!” ทหารทั้งสองเก็บหอกทันที

ฟาง เจิ้งจือ ขมวดคิ้วเล็กน้อย  แม้เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เรื่องที่เกิดขึ้นต่อหน้าเขา คงไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไร

 

อย่างไรก็ตาม …

ถ้าต่อต้านพวกเขา ก็มีเพียงทางเลือกเดียว คือปล่อยทุกอย่างให้ดำเนินต่อไป

เขาไม่มีความคิดดีๆแม้แต่น้อยในตอนนี้  ใครเป็นคนขอให้เขาเดินเข้ามาในค่ายทหารขององค์หญิง ฉาน ยู่ กันละ  มันคงเป็นเพราะโชคชะตา

ในกระโจมทหารขององค์หญิง ฉาน ยู่ กำลังนอนอยู่บนหนังสัตว์สีทอง  อย่างไรก็ตามชุดบนร่างของนางได้เปลี่ยนเป็นสีม่วงแล้ว

มันเป็นเกราะที่ส่องแสงออกมาจางๆ  ผสานเข้ากับสีผิวของนาง เผยให้เห็นความงดงามและสูงส่ง ภายใต้ความป่าเถื่อนของนาง

ฟาง เจิ้งจือ เองก็เห็นทันทีที่เข้ามา

อย่างไรก็ตาม เขายังคงเงียบ  เพราะมีแม่ทัพกว่า 20 คนสวมชุดเกราะนั่งอยู่รอบๆด้วยท่าทีเคร่งขรึม

สอบสวนความผิดของเขางั้นรึ?

ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกว่าบรรยากาศนั้นดูแปลกๆไป เขาจึงปิดปากเงียบ

 

“ทำไมเจ้าไม่คุกเข่าเมื่อเจอองค์หญิงละ?” ร่องรอยแห่งความโกรธปรากฎขึ้นบนตาของแม่ทัพคนหนึ่ง เมื่อเห็นพฤติกรรมของ ฟาง เจิ้งจือ

 

“อ่า …เรื่องธรรมเนียม วัฒนธรรมพวกนี้ควรหายไปได้แล้ว แม้แต่ข้ายังไม่บ่นอะไรเลยและพวกเจ้าจะบ่นอะไรกัน?”ปากของ ฟาง เจิ้งจือ กระตุก พร้อมกับเหลือบมองด้วยความรังเกียจ

 

“บังอาจ!  เจ้าได้ทิ้งอาณาจักรตัวเองเพื่อความรุ่งโรจน์แล้ว  ตอนนี้เจ้าเป็นคนของดินแดนภูเขาทางใต้ ต้องปฏิบัติตามกฎของดินแดนภูเขาทางใต้  เจ้าจะทำอะไรตามใจไม่ได้… “

“เอาเถอะ ข้ามีคำถามจะถามเจ้า” ทันใดนั้นองค์หญิงก็พูดขึ้นมาและมองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ

 

“องค์หญิงโปรดถาม!” ฟาง เจิ้งจือ ตอบในทันที

 

“มีสองเสียงดังก้องอยู่ในหัวของข้า  ข้าต้องการฟังความคิดเห็นของเจ้า เสียงแรกแม้ว่าดินแดนภูเขาทางใต้เป็นรัฐบรรณาการที่มีทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์มากมาย มีทั้งภูเขา ป่าไม้ และสัตว์ที่น่ากลัวจำนวนมาก  ยิ่งไปกว่านั้นในทุกๆปีพวกเราต้องส่งม้ากว่าหมื่นตัวให้อาณาจักรเซี่ย  ที่สำคัญที่สุดพวกเราต้องเป็นโล่ให้อาณาจักรเซี่ยเพื่อป้องกันภัยจากเผ่าปีศาจ มันไม่ยุติธรรมเลย” ขณะที่องค์หญิงพูด นางก็จ้องไปที่ ฟาง เจิ้งจือ

“มันไม่ยุติธรรมจริงๆ!”ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้าโดยไม่ต้องคิดแม้แต่น้อย

 

“ใช่ เสียงที่สอง คือดินแดนภูเขาทางใต้มอบม้าให้และกับการที่อาณาจักรเซี่ยมอบอาหารและเสบียงต่างๆให้ ดินแดนของพวกเราทำหน้าที่เป็นโล่ให้กับอาณาจักรเซี่ย แต่อาณาจักรเซี่ยก็ได้ส่งคนมาสอนกฎแห่งเต๋าให้พวกเรา ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่ยุติธรรมมาก !” องค์หญิงพูดต่อเมื่อเห็น ฟาง พยักหน้า

 

“ใช่มันยุติธรรมมาก!” ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้าอีกครั้ง

“… ” ปากขององค์หญิงเผยอเล็กน้อย  มองไปยังการแสดงอันจริงใจของ ฟาง เจิ้งจือ นางไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อไปจริงๆ

ในทางกลับกันแม่ทัพกว่า 20 คนกลับส่ายหน้า  อย่างน้อยเขาไม่มีความคิดเป็นของตัวเองเลยหรือไงกัน?  หรือง่ายๆก็ไม่ต้องพูดอะไรออกมา

 

“องค์หญิงเชิญพูดต่อ” ฟาง เจิ้งจือ รอสักพักเมื่อเห็นว่าองค์หญิงไม่ได้พูดจึงกระตุ้นขึ้นมา

 

“พูดอะไรต่อ?  ข้าพูดสิ่งที่ข้าต้องการถามหมดแล้ว!”

“โอ้ ในเมื่อท่านถามเสร็จหมดแล้ว ถ้าไม่มีอะไรอีกงั้นข้าขอตัว “เมื่อ ฟาง เจิ้งจือ พูดจบ เขาก็หันหลังและเดินไปยังทางออกทันที

 

“หยุดอยู่ตรงนั้น!” แม่ทัพตะโกนร้อง

 

“อะไรอีก?” ฟาง เจิ้งจือ หันกลับมาด้วยความสับสน

“ทำไมเจ้าไม่ตอบคำถามที่องค์หญิงถาม?”

“้ข้าได้ตอบไปแล้ว เจ้าไม่ได้ยิน?  หรือเจ้ากำลังฝันอยู่?”

 

“เจ้า … เจ้าเรียกมันว่าคำตอบ?”

“งั้นช่วยสอนข้าหน่อยว่าแบบไหนเรียกว่าคำตอบ”

“คนที่องค์หญิงถามคือเจ้า!”

“ถูกต้อง องค์หญิงถามข้า  ขาได้ตอบแล้ว ถ้าไม่มีอะไรอีก งั้นข้าก็ขอตัว “ฟาง เจิ้งจือ หันหน้ากลับมาอีกครั้ง

 

“… ” ทุกคนต่างพูดอะไรไม่ออก

 

“ฟาง เจิ้งจือ ข้าต้องการให้เจ้าเลือกหนึ่งในสองอันนี้” ในที่สุดองค์หญิงก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง

 

“องค์หญิงข้าไม่รู้อะไรที่เกี่ยวกับอาณาจักรพวกนี้  ทำไมท่านไม่ถามพวกแม่ทัพละ อย่ามาถามทหารตัวเล็กๆแบบข้าเลย?” ฟาง เจิ้งจือ ตอบด้วยความอึมครึม

 

“ฟาง เจิ้งจือ ข้าจริงจังนะ!”

“้ข้าเองก็ตอบอย่างจริงจังมาก!”

“ใครมาพาเขาออกไปประหารที!”

“รอเดี๋ยว หลังจากคิดมาสักพักแล้ว ข้าวาคำตอบพวกนั้นผิดพลาด มันยังสามารถอธิบายเพิ่มเติมได้อีก ” ฟาง เจิ้งจือ รีบยิ้มออกมาอย่างสดใสทันที

 

“งั้นรึ?  แต่ข้าคิดว่าคงไม่ต้องพูดถึงมันแล้วมั้ง!”

 

“มีปัญหาแน่นอน!”

 

“กับเจ้านะรึ?”

 

“… ” ฟาง เจิ้งจือ ผงะไป  ในที่สุดเขาก็มองไปที่องค์หญิง ฉาน ยู่ ที่ตอนนี้ลุกขนมาอย่างจริงจัง  เห็นได้ว่าท่าทีขององค์หญิงต่างจากวันก่อน  ถ้าองค์หญิง ฉาน ยู่ วันก่อนร่าเริงชอบเล่นสนุกแล้วละก็ วันนี้องค์หญิงต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง นางกลายเป็นผู้บัญชาการที่ชาญฉลาด

ผู้หญิงคนนี้คิดจะหลอกล่อเขา?

 

โชคดีที่เขาฉลาด

“องค์หญิง ไม่ใช่ว่าข้าไม่ต้องการจะตอบคำถาม แต่ไม่ว่าข้าจะตอบอะไรผลก็ออกมาเหมือนกันอยู่ดีคือตาย!”ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มออกมาด้วยความขมขื่น

“ทำไมจะเป็นเช่นนั้นล่ะ?” รอยยิ้มจางๆปรากฎขึ้นมา เมื่อนางได้ยิน  เห็นได้ชัดว่านางพอเดาเรื่องนี้ได้อยู่แล้ว

 

“องค์หญิงพูดว่าท่านได้ยินเสียงสองเสียง  ถ้าข้ากลายเป็นเสียงหนึ่งจริงๆ แน่นอนว่าอีกเสียงต้องหาทางฆ่าข้าแน่นอน  เพราะข้าเป็นเพียงทหารต่ำต้อยไม่มีที่พึ่ง  ถูกกลั่นแกล้งและเยาะเย้ย…ข้าไม่กล้าพูดหรอก!” ฟาง เจิ้งจือ ทำหน้าเศร้าขณะพูดราวกับน้ำตาจะไหลออกมา

“ไม่ต้องแสร้งทำเป็นน่าสงสารหรอก บอกมาว่าเจ้าต้องการอะไรถึงจะตอบข้า ” องค์หญิงไม่ตกป็นเหยื่อของ ฟาง เจิ้งจือ และโบกมือใส่

 

“ถ้าท่านแต่งตั้งข้าเป็นแม่ทัพเสือใหญ่และให้ทหารข้าสักแสนนาย ข้าจะตอบ!”

 

“เจ้าคิดว่ามันจะเกิดขึ้นรึไง?” องค์หญิงมองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ ด้วยความดูถูก

“งั้นสักห้าหมื่นก็น่าจะได้”

“ฝันไปเถอะ!”

 

“แล้วอย่างน้อยห้าพันละ?”

“ห้าร้อยไม่มากไปกว่านั้น”

“ขอบคุณ องค์หญิง!” ฟาง เจิ้งจือ กัดฟัน  เชี่ยเอ้ย อย่างน้อยมี500ก็ดีกว่าไม่มี

 

“พูด”

“ให้ข้าเล่าเรื่องหนึ่งให้องค์หญิงฟัง”

 

“นิทาน?”

 

“ใช่  กาลครั้งหนึ่งมีชายที่หิวโหยสองคนได้รับของมาจากผู้อาวุโสที่เมตตา อันหนึ่งเป็นคันเบ็ด อีกคนได้ตะกร้าใบใหญ่พร้อมกับปลาจำนวนมาก … ในที่สุดคนที่เลือกตะกร้าปลาก็ตายอยู่ข้างตะกร้า  ในทางกลับกันคนที่ได้เบ็ดกลับจับปลากินทุกวันอย่างมีความสุข  จบเรื่อง ” ฟาง เจิ้งจือ เลิกพูด

“นิทานแบบไหนกันเนี่ย?” แม่ทัพถามด้วยความสับสนมองไปยัง ฟาง เจิ้งจือ ที่พูดเสร็จแล้ว

“ให้ปลากับคนวันนี้เพื่อเขาจะอยู่สบายในวันนี้ สอนคนให้จับปลาเขาจะสบายไปตลอดชีวิต” ฟาง เจิ้งจือ ตอบ

“ให้ปลากับคนวันนี้เพื่อเขาจะอยู่สบายในวันนี้ สอนคนให้จับปลาเขาจะสบายไปตลอดชีวิต?” เหล่าแม่ทัพต่างทวรคำพูดนี้ซ้ำๆ  ตอนนี้ไม่มีใครพูดอะไรออกมา

คิ้วขององค์หญิง ฉาน ยู่ ขมวดเข้าหากัน  ดวงตาดำของนางเปล่’ประกายจางๆ  หลังจากผ่านไปสักพักนางจึงถอนหายใจออกมา

 

“นี่เป็นคำตอบของเจ้า?”

 

“ใช่!” ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้า

องค์หญิงกลับสู่ความเงียบอีกครั้ง ดวงตามืดของเธอกวาดไปทั่วยี่สิบนายพลยืนอยู่ที่ด้านข้าง สายตาของนางกวาดมองไปยังเหล่าแม่ทัพ หลังจากรออีกสิบห้านาที นางก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง

“ฟาง เจิงจือ ข้ามีงานให้เจ้าทำ”

“ข้าสามารถปฏิเสธได้หรือไม่?”

 

“ไม่”

 

“รับทราบ คำสั่งขององค์หญิงมีความหมายเทียบเท่าชีวิตของข้า  แน่นอนว่าจะเติมเต็มความปรารถนาให้ท่านเอง ต่อให้ข้าตายอย่างน่ากลัว ข้าก็ไม่ใส่ใจ!”

 

“หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว ข้าต้องการให้เจ้าส่งจดหมายไปยังเมืองภูเขาเซียน!”

“ส่งจดหมาย? ไปยังเมืองภูเขาเซียน?” ฟาง เจิ้งจือ มองไปยังเหล่าแม่ทัพและองค์หญิงด้วยความสับสน

 

การส่งจดหมาย  ท่านต้องออกคำสั่งต่อหน้าคนจำนวนมากขนาดนี้เลยหรือ?

 

ยิ่งไปกว่านั้น …

ดูเหมือนแม่ทัพทุกคนจะรู้เรื่องนี้มานานแล้ว  เมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดขององค์หญิง พวกเขาก็ไม่ได้คัดค้านอะไรออกมา  แม้แต่ท่าทีก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลยแม้แต่น้อย

Gate of God

Gate of God

GoG, 神门
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2015 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Gate of Godเรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset