…
เถิง ซือเซิง นำทาง ฟาง เจิ้งจือ โดยไม่ต้องมีแผนที่แม้แต่น้อย ยิ่งไปกว่านั้นเขายังไดเรียนรู้เรื่องเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับวัฒนธรรมของดินแดนภูเขาทางใต้จาก เถิง ซือเซิง
เช่น ดินแดนภูเขาทางใตเเคร่งเครียดเรื่องการทำลายหินมาก พวกเขาเชื่อว่าหินนั้นเปรียบเสมือนโลกคอยรักษาธรรมชาติไว้ ถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลือจากหิน พวกเขาคงไม่สามารถมีชีวิตรอดที่นี่ได้
สำหรับต้นไม้ …
พวกเขาเชื่อว่าต้นไม้เปรียบเสมือนมารดา การตัดต้นไม่เพื่อมาทำชุดเกราะหวายและอาวุธนั้นเปรียบกับได้รับความคุ้มครองจากมารดา พวกเขากราบไหว้ต้นไม้ทุกวันเพื่อขอบคุณสำหรับความเมตตาจากมารดา
และแต่ละถิ่นฐานต่างมีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง แน่นอนว่าอำนาจของพวกเขาที่มีก็ต่างกัน ยิ่งไปว่านั้นแต่ละถิ่นฐานก็มีการสักการะสัตว์ที่ทรงพลังเพื่อให้พวกมันปกป้องคุ้มครอง
สัตว์แต่ละตัวทำให้มั่นใจว่าแต่ละถิ่นฐานนั้นจะปลอดภัย สัตว์ร้ายแต่ละถิ่นฐานนั้นต่างชนิดกัน ดังนั้นย่อมมีชื่อที่แตกต่างกัน
ฟาง เจิ้งจือ พบว่าวัฒนธรรมพวกนี้ค่อนข้างเก่า อย่างไรก็ตามมันแสดงให้เห็นว่าดินแดนภูเขาทางใต้นั้นเรียบง่ายและใกล้ชิดกับธรรมชาติ
เมื่อดวงอาทิตย์เริ่มขึ้นมาจากขอบฟ้า ฟาง เจิ้งจือ ก็ได้เดินทางออกมาจากค่ายทหารแล้ว เขากำลังเข้าไปในป่าและภูเขา ต่อให้พวกเขาจะต้องข้ามภูเขาหรือผ่านป่า แต่ความเร็วของพวกเขาไม่ลดลงเลยแม้แต่น้อย
“พวกเราต้องตั้งค่ายตอนกลางคืนไหม?“ฟาง เจิ้งจือ มองดวงอาทิตย์ที่กำลังตกดินช้าๆ แล้วถาม เถิง ซือเซิง
“ทำไมผู้ส่งสารถึงถามเช่นนั้น?“ร่างของ เถิง ซือเซิง สั่นเทาเล็กน้อยเมื่อได้ยิน ฟาง เจิ้งจือ ถาม อย่างไรก็ตามเขาตัดสินใจที่จะถาม
“ข้าแค่คิดว่าเจ้าจะเริ่มงานทันทีหลังจากออกจากค่าย หรือจะเริ่มตอนใกล้จะถึงเมืองภูเขาเซียน” ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้ตอบคำถามของ เถิง ซื่อเซิง เขาพูดเบาๆราวกับแค่พึมพำ
ท่าทีของ เถิง ซื่อเซิง เปลี่ยนไปทันที อย่างไรก็ตามเขาเรียกสติกลับมาและยกมือขึ้นเพื่อเป็นสัญญาณบอกเหล่าทหารหมาป่าเขาเงิน เขานั่งลงและกำลังครุ่นคิด
“ดูเหมือนว่าค่ำคืนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่สมควร”ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้าพร้อมกับความรู้สึกหิวที่ค่อยๆก่อตัวขณะที่เขาฟังเสียงรอบๆ “มีแม่น้ำอยู่อีก 1 กิโลด้านหน้า เราจะข้ามแม่น้ำไปและตั้งค่ายที่นั่น”
“ทำไมท่านไม่ตั้งค่ายที่ริมแม่น้ำ?”“เถิง ซื่อเซิง ถามออกมา อย่างไรก็ตามเมื่อเขาได้ยินสถานที่ ฟาง เจิ้งจือ จะตั้งค่าย ท่าทีของเขาก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง
“มันจะสะดวกกว่าหากตั้งค่ายที่ริมแม่น้ำยังไงก็ตามน้ำเป็นแหล่งกำเนิดของการสรรค์สร้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลากลางคืนพวกสัตว์ร้ายจะเริ่มล่าเหยื่อและรวมตัวกันที่ริมแม่น้ำ “
“ตอนแรกข้าคิดว่าท่านจะไม่รู้เรื่องการเอาชีวิตรอด เพราะท่านเกิดในอาณาจักรเซี่ยข้าไม่คิดเลยว่าท่ารจะคุ้นชินกับสัตว์ป่าเช่นนี้ “เถิง ซือเซิง พยักหน้าเบาๆ มุมมองที่เขามอง ฟาง เจิ้งจือ เปลี่ยนไปมากทีเดียว
“อันที่จริงแล้วในอาณาจักรเซี่ยเองก็มีสัตว์ร้ายเช่นกัน นอกจากนี้ข้าเกิดในภูเขา ดังนั้นข้าจึงเข้าใจเรื่องพวกนี้ดี” ฟาง เจิ้งจือ หัวเราะเบาๆ
จากนั้นพวกเขาก็ควบม้าไปด้านหน้า
ขณะที่ เถิง ซือเซิง มองร่างของ ฟาง เจิ้งจือ ที่ออกห่างไป เขาเลียริมฝีปากเบา ๆ ดูเหมือนเขาจะผิดหวังเล็กน้อย”คืนนี้เป็นช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม… เห้อ … “
…
สำหรับทหารของดินแดนภูเขาทางใต้แล้วนั้น การตั้งค่ายพักนั้นง่ายราวกับทำอาหารมื้อหนึ่ง พวกเขาตั้งค่ายทหารอย่างรวดเร็วพร้อมกับปักรั้วเสร็จอย่างเรียบร้อย
จากนั้นพวกเขาก็จุดคบเพลิงขึ้นในทุกทิศทาง
ทหารร้อยกว่าคนทำหน้าที่เฝ้ายาม ขณะที่อีกสี่ร้อยคนพักอยู่ในค่าย
ทุกอย่างดูเป็นระเบียบดี
ฟาง เจิ้งจือ ได้รับกระโจมทหารตั้งอยู่ตรงกลางของค่าย รอบๆมีทหารหมาป่าเขาเงินป้องกันอยู่ การป้องกันนั้นดูเข้มงวดมาก แต่มันดูเหมือนการห้าม ฟาง เจิ้งจือ ออกมามากว่าเสียอีก
ในกระโจม ฟาง เจิ้งจือ นอนอยู่บนเตียง
ตลอดมาในชีวิตของเขาแค่ต้องการมีชีวิตอย่างมีความสุขในแต่ละวัน เขาไม่มีทางวิ่งไปหาความตายแน่นอน จากการสังเกตุวันนี้ เขามั่นใจอย่างหนึ่งมาก
ทหารหมาป่าเขาเงินได้รับภารกิจพิเศษ
เขารับหน้าที่นี้จะเป็นการฆ่าตัวตายหรือไม่?
พวกเขามีจุดประสงค์อะไรกันแน่ ฟาง เจิ้งจือ ค่อนข้างมั่นใจกว่า 80%
อย่างไรก็ตามมีเรื่องหนึ่งที่เขาเดาได้
มันต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน
ฟาง เจิ้งจือ พลิกตัวหาท่าทีสบายที่สุด ในเวลาเดียวกัน ฟาง เจิ้งจือ ก็หยิบจดหมายออกมา
“เป็นความลับสำหรับองค์ราชา?” ฟาง เจิ้งจือ มองไปที่คำพูดบนจดหมาย มุมปากของเขาโค้งงอเป็นรอยยิ้มจางๆ เขาไม่เคยคิดเลยแม้แต่น้อยว่าเขาจะกลายเป็นราชา
เขารีบฉีกจดหมาย สำหรับตราประทับขององค์ราชา เขาก็ฉีกมันทิ้งลงกับพื้นอย่างไม่ใยดี
มาดูกันว่าองค์หญิงอยากจะบอกอะไรกับข้า
มองไปที่จดหมาย
ตาของ ฟาง เจิ้งจือ หรี่ลงเล็กน้อย อะไรแค่ประโยคแรกก็เป็นการด่าข้าแล้ว ใครจะยอมรับได้กัน?
“เจ้าโง่ ไร้ยางอาย เจ้ากล้าฉีกจดหมายของข้า? เจ้ารู้หรือไม่ว่ามันเป็นความผิด? ล้างคอรอข้าตัดหัวเจ้าได้เลย!“
“… ” ฟาง เจิ้งจือ กระตุกปากด้วยความรังเกียจทันที
จากนั้นเขาก็อ่านต่อ
ตอนแรกเขาคิดว่ามันจะเป็นเรื่องสำคัญทางทหาร แต่เขาต้องพบกับสิ่งที่น่าผิดหวัง เพราะหลังจากคำพูดนั้นก็มีแต่ความว่างเปล่า
ยกเว้นตัวอักษรเล็กๆที่อยู่ท้ายกระดาษ
คำนั้นตัวเล็กและมีเนื้อหาน้อยมาก มีเพียงไม่กี่คำเท่านั้น
“ประชาชนทุกคนเป็นทหาร!“
“ประชาชนทุกคนเป็นทหาร? มันเรื่องอะไรกัน?” ฟาง เจิ้งจือ กระตุกปาก พร้อมกับพยายามคิดว่าองค์หญิง ต้องการจะสื่ออะไร
สำหรับเหตุผลว่าทำไม ฟาง เจิ้งจือ จึงรู้ว่าจดหมายนี้ส่งถึงตัวเอง
มันเป็นเรื่องง่ายมาก
ตอนที่ ฟาง เจิ้งจือ ถามองค์หญิง ฉาน ยู่ เขาบอกว่า”ด้วยสถานะของเขา”สถานะของเขานั้นเป็นอะไรเมื่ออยู่ต่อหน้าองค์หญิง?
สายลับ!
ลองคิดดูว่าองค์หญิงผู้ยิ่งใหญ่จะส่งจดหมายถึงสายของอาณาจักรอื่นทำไม?
มันจะมีประโยชน์อะไรกัน?!
ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้ไร้เดียงสา และเขาก็ไม่ได้คิดว่าองค์หญิง ฉาน ยู่ จะไร้เดียงสาเช่นกัน นางคงไม่คิดว่าเขาจะทรยศอาณาจักรของตัวเองจริงๆและเต็มใจที่จะเป็นผู้ส่งจดหมายให้ดินแดนภูเขาทางใต้
ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จดหมายฉบับนี้จะส่งถึงราชา
ยิ่งไปกว่านั้น …
องค์หญิง เขียนจดหมายในตอนที่เขาอยู่
ก่อนจะส่งให้เขากับมือตัวเอง แน่นอนว่าจดหมายฉบับนี้คงต้องมีความหมายสำหรับเขา
“ประชาชนทุกคนล้วนเป็นทหาร … นั่นหมายความว่าต้นไม้และพุ่มไม้ทุกพุ่มเป็นทหารของศัตรู?” ฟาง เจิ้งจือ มองไปที่หลังคาของกระโจมที่สร้างมาจากไม้และหญ้า พร้อมกับครุ่นคิดถึงความสัมพันธ์ระหว่างคำพูดในจดหมายกับสถานการณ์ปัจจุบันของเขา
อาณาจักรเซี่ยส่งทหารกว่าแสนนายไปยังถิ่นฐานหลักทั้ง 4 แห่ง เป้าหมายก็เพื่อวางกำลังโจมตีในอนาคต
ในทางกลับกันดินแดนภูเขาทางใต้ได้มีการพัฒนาตัวเองแล้ว
องค์หญิง ฉาน ยู่ อ้างว่าเป้าหมายของนางไม่ใช่การโจมตี งั้นเป็นการป้องกันงั้นรึ?
การนึกถึงเสียงทั้งสองที่องค์หญิงบอกนั้นมีความเป็นไปได้เป็นอย่างเดียว ตั้งค่ายพิเศษนอก4ถื่นฐานหลักเพื่อคอยป้องกันการเกิดสิ่งที่ไม่คาดฝัน
อย่างไรก็ตาม …
มันดูเป็นเหตุผลแค่พื้นผิว มันดูธรรมดาเกินไป
หนึ่งคือการโจมตี อีกหนึ่งคือการป้องกัน
ฟาง เจิ้งจือ ส่ายหัว เขารู้สึกว่าเรื่องภายในนี้ซับซ้อนกว่าที่เขาคิด ตั้งแต่เริ่มการทดสอบด้านการต่อสู้จนถึงตอนนี้ ทุกอย่างดูนิ่งสงบจนเกินไป
สงบจนไม่น่าเชื่อ
เมื่อเขาเข้าไปในค่ายขององค์หญิง ฉาน ยู่ เขาเกือบโดนฆ่าตาย จากจุดนี้เขาสามารถคาดเดาได้ว่า
ดูเหมือนพวกเขาต้องการสงคราม
หากจะเกิดสงครามขึ้นจริงละก็ ก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น
แต่พวกเขาจะรออยู่ที่นี่ทำไมกัน?
สายตาของ ฟาง เจิ้งจือ มองไปบนคำที่อยู่บนจดหมายอีกครั้ง ด้านบนนั้นมีช่องว่างสี่ช่องขนาดใหญ่อยู่
หรือจะมีอะไรซ่อนอยู่?
ฟาง เจิ้งจือ ส่ายหัวอีกครั้ง โลกนี้ไม่น่ามีวิธีการทางเคมีพิเศษอะไร อย่างเช่นหมึกล่องหน อย่างไรก็ตามทำไมนางต้องเว้นช่องว่างไว้ด้วย?
นอกจากนี้นางยังเขียนประโยคว่าประชาชนทุกคนเป็นทหารไว้ด้านล่างสุดอีกด้วย …
เดี๋ยวก่อนนะ
ซ่อน!
ท่าทีของ ฟาง เจิ้งจือ เปลี่ยนไปทันที ประชาชนทุกคนเป็นทหาร ช่องว่าง ซ่อน! คำใบ้ทั้งสามคำหมุนวนอยู่ในใจของเขา ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงสิ่งที่น่ากลัวมาก
“ไม่นะ!” มือของ ฟาง เจิ้งจือ สั่น แผ่นหนังที่ส่วมใส่พร้อมกับของตกแต่งตกลงพื้น ทำให้เกิดเสียงดังชัดเจน
หา?
ฟาง เจิ้งจือ ก้มหัวลงดู จากนั้นเขาก็เห็นได้ว่ามีบางอย่างนูนขึ้นมาจากด้านหลังแผ่นหนัง เขาหยิบมันขึ้นมาทันที ก่อนจะฉีกมันออก
ไม่นาน บางอย่างที่เป็นสีเขียวก็เปิดเผยให้เขาเห็น
ตาของ ฟาง เจิ้งจือ สว่างขึ้นทันที