เฉิน เฮา ไม่รู้ว่าทำไม ฟาง เจิ้งจือ ถึง ปรากฎตัวขึ้นที่นี่ ขณะเดียวกันเขาก็ไม่รู้เลยว่าทำไมกับดักถึงได้เปลี่ยนตำแหน่งไป
แน่นอนว่า ฟาง เจิ้งจือ ไม่ตอบคำถามแบบนั้นแน่
หลังจากขุดกับดักขนาดเล็กอยู่หลายวัน เขาได้กลายเป็นแม่ทัพอีกครั้งด้วยความยากลำบาก สิ่งสำคัญที่สุดของเขาตอนนี้คือการได้กินและดื่มอย่างสุขสบาย
“ท่านฟาง ถิ่นฐานถัดไป ควรจะโจมตีผู้เข้าสอบคนไหนดี?” เถิง ซือเซิง ถือขวดเหล้าในมือขณะที่สายตาจ้องไปยังหญิงสาวที่เต้นระบำอยู่รอบกองไฟพร้อมกับเดินเข้าไปถาม ฟาง เจิ้งจือ
“ทำไมต้องไปถิ่นฐานอื่นๆเพื่อโจมตีผู้เข้าสอบด้วยละ?” ฟาง เจิ้งจือ ส่ายหัวเล็กน้อยขณะที่กำลังกัดชิ้นเนื้อที่พึ่งย่างเสร็จ เขากัดจนน้ำมันไหลออกมาจากปาก
“มันไม่ใช่จุดระสงค์ของท่าน ที่พาพวกเรามายัง 4 ถิ่นฐานหลักเพื่อชนะการทดสอบด้านการต่อสู้งั้นรึ?” เถิง ซือเซิง ถามออกมาราวกับเขาได้คาดการณ์เอาไว้แล้ว
“การที่จะชนะการทดสอบนั้นเกี่ยวข้องกับการที่ข้าต้องโจมตีผู้เข้าสอบคนอื่นๆยังไงหรือ?” ฟาง เจิ้งจือ ตอบด้วยการถามกลับ
“มันไม่เกี่ยวข้องยังไง?” เถิง ซือเซิง สับสน
“ไม่ว่าเจ้าจะคิดยังไง สำหรับข้าแล้วคิดว่าไม่เกี่ยวข้องกัน” ฟาง เจิ้งจือ ยิ้มบางๆขณะที่ตอบออกมา
“แล้ว … วันนีที่ท่านโจมตีเขา… ” เถิง ซือเซิง ชี้ไปยัง เฉิน เฮา ที่กำลังนอนซมเพราะอาการบาดเจ็บอย่างรุนแรง
“โอ้ แค่ข้าเดินทางผ่านมาเท่านั้น คงเป็นโชคร้ายของเขาละมั้ง” ฟาง เจิ้งจือ ส่ายหัว ด้วยความช่วยไม่ได้
“ผ่านทาง?“
“ถูกตัอง” ฟาง เจิ้งจือ ตอบอย่างมั่นใจ
เฉิน เฮา ที่กำลังร้องโอดโอยจากอาการบาดเจ็บอยู่ไม่ไกล ได้ยินคำพูดของ ฟาง เจิ้งจือ เขารู้สึกหน้ามืดขึ้นมาทันทีผ่านทาง? นี่มันอะไรกัน!
เขาย่อมคิดถึงความลำบากที่เขาได้รับมาก่อนหน้านี้
เฉิน เฮา นั้นแทบอยากจะร้องไห้ออกมา การเดินทางจากอาณาจักรเซี่ย มายังถิ่นฐานแสงสายฟ้านั้นเป็นเรื่อยง่าย? เจ้าบอกว่าเจ้าแค่ผ่านทางมาเฉยๆเนี่ยนะ!
แล้วทำไมต้องกำจัดข้าออกจาการทดสอบด้วย?
เจ้ากล้าไปที่ถิ่นฐานอื่นๆไหม…
เฉิน เฮา ตอนนี้รู้สึกมืดมนอย่างมาก อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้พูดอะไรออกมา
“แล้ว พวกเราจะไปที่ไหนต่อ?” เถิง ซือเซิง รู้สึกเห็นใจ เฉิน เฮา ที่ต้องมานั่งทนฟังคำพูดของ ฟาง เจิ้งจือ ขึ้นมา อย่างไรก็ตามเขายังคงถามมาอย่างสงสัย
“ข้ายังไม่ได้คิดเรื่องนี้เลย” ฟาง เจิ้งจือ ตอบลวกๆ
“… ” เถิง ซือเซิง พูดไม่ออกอีกครั้ง
ตอนแรกเขาคิดว่า ฟาง เจิ้งจือ จะทำเรื่องบางอย่างที่สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งโลกโดยการพาพวกเขาไปยัง 4 ถิ่นฐานหลัก อย่างไรก็ตาม ฟาง เจิ้งจือ กลับบอกว่าเขายังไม่ได้คิดตอนนี้?
คำพูดแบบนี้…
ไม่ควรออกมาจากปากผู้ที่เป็นผู้ชนะการทดสอบด้านปัญญาในระดับสภาหรอกรรึ?
“ถูกต้อง ข้าต้องการไปตามหาสหายของข้าก่อน” ฟาง เจิ้งจือ คิดสักพัก และในที่สุดเขาก็พูดถึงสิ่งที่เขาต้องทำออกมา
“ใคร?” เถิง ซือเซิง ถามทันที
“สหายข้า เหยียน ซิว!“
“เหยียน ซิว? อันดับที่ 3 ในการทดสอบด้านปัญญาระดับสภา?” ขณะที่ เถิง ซือเซิง เขาก็หยิบสมุดหนังขึ้นมาพลิกดูรายชื่อ
“ถูกต้อง”
“ข้าเข้าใจแล้ว ท่านฟาง ต้องการจะรวมพลังกับ เหยียน ซิว เพื่อโจมตีผู้เข้าสอบคนอื่นอย่างนั้นรึ?“
“ไม่ เจ้าไม่เข้าใจ” ฟาง เจิ้งจือ ส่ายหัว จากนั้นเขาก็คิดสักพักแล้วพูดขึ้นมาอีกครั้ง ดินแดนภูเขาทางใต้ติดต่อกับผู้นำของแต่ละถิ่นฐานยังไง?“
“พวกเราเรียกพวกเขาว่าหัวหน้าถิ่น!“
“หัวหน้าถิ่น?” ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้า
“ทำไมท่านฟาง ถึงถามเรื่องนี้?“
“เจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ หลังจากการฉลองในคืนนี้สิ้นสุดลง พาตัวหัวหน้าถิ่นแสงสายฟ้ามาที่กระโจมของข้า ข้ามีเรื่องบางอย่างกับเขา “หลังจาก ฟาง เจิ้งจือ พูดจบ เขาก็กระดกเหล้าใส่ปากทันที จากนั้นเขาก็ขยับตัวให้ั่งสบาย และมองดูการเต้นรำต่อไป
“ได้” เถิง ซือเซิง พยักหน้า อย่างไรก็ตามท่าทีของเขายังเต็มไปด้วยความสงสัย
เพราะเขารู้ว่าจากข้อตกลงของดินแดนภูเขาทางใต้กับอาณาจักรเซี่ยแล้วนั้น มันไม่มีเรื่องอะไรมากมายที่ผู้เข้าสอบจะต้องพูดคุยกับหัวหน้าถิ่น
หรือว่า…
ฟาง เจิ้งจือ คิดจะอยู่ที่ถิ่นฐานแสงสายฟ้าระยะยาว?
…
กลางดึก ในค่ายทหาร แสงเทียนอ่อนๆส่องออกมาให้เห็นว่าข้างในนั้นมีร่างสองร่างอยู่
ฟาง เจิ้งจือ สวมชุดหนังลายเสือดาว นั่งบนเก้าอี้ เอาปากคาบใบหญ้าอยู่ ขณะที่มองไปยังหัวหน้าถิ่นแสงสายฟ้าผู้ที่ยืนอยู่ด้านหน้าเขา
เขาดูอายุประมาณ 40 ปี เครื่องแต่งกายของเขานั้นแตกต่างจากคนอื่น อย่างน้อยที่สุด มันดูดีกว่าที่ชาวบ้านด้านนอกใส่มากนัก
เขาสวมผ้าคลุมหนังสัตว์พร้อมกับชุดเกราะหวาย นอกจากนี้ยังมีหมวกที่มีขนนกประดับอยู่ด้านบน
ผิวสีดำของเขากระทบกับแสงเทียน ทำให้เกิดแสงสะท้อนออกมาจางๆ
“ข้าสงสัยว่าท่านฟางต้องการให้ข้าช่วยอะไรในยามดึกดื่นเช่นนี้?” หัวหน้าถิ่นมองไปยัง ฟาง เจิ้งจือ ด้วยความสุภาพเป็นอย่างมาก เขาดูเป็นมิตร
“ใช่และไม่” ฟาง เจิ้งจือ ส่ายหัว จากนั้นก็พยักหน้า
เมื่อเขาได้ยินคำตอบของ ฟาง เจิ้งจือ ใบหน้าของเขาก็มีแต่ความว่างเปล่า
“เอาล่ะตั้งแต่นี้การกระทำทั้งหมดของเจ้าต้องเป็นไปตามคำสั่งของข้า!“ฟาง เจิ้งจือ มองไปยังใบหน้าที่ว่างเปล่าของหัวหน้าถิ่น พร้อมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ต่างไปจากเดิม
“ทำตามคำส่งของท่าน? ข้าคิดว่าท่านคงเข้าใจอะไรผิดไป?” หัวหน้าถิ่น มอง ฟาง เจิ้งจือ ด้วยท่าทีอันสับสน ราวกับเขาไม่เข้าใจสิ่งที่ ฟาง เจิ้งจือ ได้พูดออกมา
“ดูเหมือนว่าข้าเข้าใจผิดไหมละ?” ฟาง เจิ้งจือ ตอกกลับ
“ฮ่าฮ่า … ถึงแม้ข้าจะเป็นหัวหน้าถิ่นตัวเล็กๆ ข้าฟังคำสั่งของราชาดินแดนภูเขาทางใต้เท่านั้น และฟังคำสั่งของหัวหน้าถิ่นฐานราชสีห์คำรามเท่านั้นในฐานะที่เป็นผู้เข้าสอบขออาณาจักรเซี่ย ข้าเกรงว่าท่านจะไม่มีอำนาจในการสั่งการข้า” เมื่อหัวหน้าถิ่นได้ยินเช่นนั้น รอยยิ้มเยือกเย็นปรากฎขึ้นบนใบหน้าเขาทันที
“หยุดพูดซะ ข้าเป็นทหารคุ้มกันส่วนตัวขององค์หญิง ฉาน ยู่ เหตุผลที่ข้ามาที่นี่ในวันนี้ คือเพื่อถ่ายทอดคำสั่งทหารขององค์หญิง ฉาน ยู่ จงปฏิบัติตามคำสั่งของข้าซะ!“
“ถ่ายทอดคำสั่งขององค์หญิง ฉาน ยู่?! นายน้อยฟาง นี่ไม่ใช่เรื่องที่ท่านควรมาพูดเล่นนะ?” หัวหน้าถิ่นไม่เคลื่อนไหวแม้แต่น้อย
“อย่าบอกนะว่าเจ้าจะถ่วงเวลาการปฏิบัติงานของข้า?“
“นายน้อยฟาง ข้าไม่เข้าใจจริงๆว่าท่านพูดอะไร”
“แผนได้ถูกเปลี่ยนแล้ว องค์หญิงได้สั่งให้ข้านำทหารหมาป่าเขาเงินเข้าร่วมการทดสอบของอาณาจักรเซี่ย เจ้าต้องคอยสนับสนุนข้าจากด้านข้าง มีอะไรสงสัยอีกไหม?“
“ถ้าองค์หญิงต้องการ การสนับสนุนใดๆ นางสามารถพูดกับข้าเป็นการส่วนตัวได้ ทำไมนางต้องทำให้ข้ากลัวด้วยคำสั่งทางทหารด้วย? ข้าเองก็ไม่ได้เป็นทหาร” ท่าทีของหัวหน้าถิ่นดูค่อนข้างเจ็บแค้น
“บังอาจ! ในบรรดา 4 ถิ่นฐานหลัก ผู้ใดบ้างที่ไม่ใช่ทหาร? ข้าได้บอกจุดประสงค์ของข้าอย่างชัดเจนแล้ว ถ้าเจ้ายังทำให้การปฏิบัติงานของข้าล่าช้าอีก เจ้าคงรู้ใช่ไหมว่าจะโดนลงโทษอะไร?!“
“นายน้อยอย่าทำให้ข้ากลัว ท่านเป็นเพียงผู้เข้าสอบจากอาณาจักรเซี่ย ท่านไม่สามารถพูดอะไรแบบนี้ได้!” ร่างของหัวหน้าถิ่นสั่นสะท้าน ราวกับเขาหวาดกลัวอย่างมาก
ฟาง เจิ้งจือ มองไปยังหัวหน้าถิ่นพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า ชายคนนี้ช่างแสดงได้เก่งเหลือเกิน! ข้าแสดงท่าทีขึงขังให้เขากลัวแล้ว แต่เขากลับดูไม่สะทกสะท้านอะไร
ดูเหมือนข้าจะต้องแสดงให้เห็นความน่ากลัวที่แท้จริงของข้าเสียก่อน!
“ชิ้ง!“
ดาบสั้นที่ปกติ ฟาง เจิ้งจือ มักใช้มันตัดเนื้อถูกดึงออกมาทันทีหลังจากนั้น ฟาง เจิ้งจือ ก็กระโจนไปด้านหน้าของหัวหน้าถิ่น
“ใครก็ตามที่ขัดขืนคำสั่งทหารจะถูกฆ่า!“
“เดี๋ยวก่อน! ในฐานะผู้เข้าสอบของอาณาจักรเซี่ย ข้าหวังว่าท่านจะสามารถรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเองได้ การกระทำของท่านในตอนนี้ขัดต่อข้อตกลงระหว่างอาณาจักรเซี่ยและดินแดนภูเขาทางใต้ ข้าแนะนำให้ท่านหยุดเดี๋ยวนี้” เมื่อสัมผัสได้ถึงความเย็นจากใบดาบที่จ่อคอเขาอยู่ ในที่สุดท่าทีของหัวหน้าถิ่นฐานกลายเป็นดำมืดทันที
“งั้นรึ? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าข้าไม่หยุดละ?“
“ท่านสามารถฆ่าข้าได้ แต่ชาวบ้านจะต้องรายงานไปยังราชาแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้นข้อตกลงระหว่างดินแดนภูเขาทางใต้และอาณาจักรเซี่ยจะต้องจบลงเพราะท่าน ข้าจะรอดูว่าท่านจะแก้ตัวยังไง!“
“โอ้ …ดูเหมือนจะเป็นปัญหาจริงๆนะ”
“นายน้อยฟาง ถ้าท่านหยุดตอนนี้ ข้าจะทำเป็นว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น!“
“ข้าเองก็หวังว่าเรื่องนี้จะไม่เคยเกิดขึ้นเช่นกัน อย่างไรก็ตามเหรียญตราสีฟ้าในมือข้าไม่สามารถปฎิเสธได้ว่าเรื่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้น” ฟาง เจิ้งจือ หยิบเหรียญตราออกมาขณะพูด
มันเป็นหรียญตราที่ทำมาจากหินสีฟ้าขององค์หญิง ฉาน ยู่
“นี่ … อย่าบอกนะว่านี่คือ?” ท่าทีของหัวหน้าถิ่นฐานเปลี่ยนไปทันที
“ข้าในฐานะแม่ทัพ ยินดีที่ได้พบกับทหารคุ้มกันส่วนตัวขององค์หญิง หากท่านมีคำสั่งอะไร ข้าจะปฏิบัติตามทันที!” หัวหน้าถิ่นในตอนนี้มีท่าทีจริงจังขึ้นมาทันที ร่างกายของเขาแผ่บรรยากาศของทหารออกมาทันที
เมื่อ ฟาง เจิ้งจือ ได้เห็นสิ่งนี้ เขาก็วางดาบสั้นในมือลงทันที ในเวลาเดียวกับก็เก็บเหรียญตราเข้าไปในกระเป๋า
อะไรกันวะ…
ตอนแรกเขาคิดจะใช้แค่การแสดงของเขาเพื่อกำราบหัวหน้าถิ่นกลับเสียหน่อย!
แต่มันกลับล้มเหลว!
ดูเหมือนเขาต้องไปฝึกการเล่นละครตบตาเพิ่มแล้วละสิ ฟาง เจิ้งจือ ค่อนข้างผิดหวัง