Gate of God – ตอนที่ 366

หลังจากคุยกับองค์รัชทายาทเรียบร้อยแล้ว ซู ฉิง ก็ได้เดินออกมาจากกระโจมทหาร  เขาก็พยามจะสงบใจตัวเองก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมา ดวงตาของเขาเผยให้เห็นประกายอันเย็นเยียบ

“ให้ถ่ายทอดคำสั่งเป็นการส่วนตัว?ตำแหน่งกองตรวจการความมั่นคงในอาณาจักรเซี่ยนั้น ไม่มีใครสามารถเทียบได้จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิองค์ปัจจุบัน หรือองค์รัชทายาท หรือราชาต้วน ดูเหมืนอว่ามันถึงเวลาแล้วที่ต้องทำอะไรสักอย่าง!”

ในขณะเดียวกันนั้นเอง ข่าวที่ว่า ฟาง เจิ้งจือ เอาชนะ วู่ เฟิง และเฉิน เฟยยู่ ได้ถึงหูองค์รัชทายาท องค์หญิง ฉาน ยู่ เองก็ได้รับข่าวนี้เช่นกัน

“องค์หญิง ฟาง เจิ้งจือ ได้เข้ายึดถิ่นฐานราชสีห์คำราม ถิ่นฐาน เหยียน เยว่ และถิ่นฐานฉือ ซุน แล้วขอรับนอกจากนี้กองทหารอันแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มจำนวนขึ้นเกือบ 30,000 นายแล้ว” ในขณะที่ทหารกำลังพูด เหงื่อเขาก็ไหลออกมาไม่หยุด

เขาวิ่งมาตลอดทาง

แน่นอนว่ามันไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้เขาเหงื่อตก

 

เหตุผลจริงๆก็คือเขากำลังหวาดกลัว  เหตุการณ์เหล่านี้ทั้งหมดเกิขดแค่ภายในเวลาไม่กี่วัน?  แต่ 3 ถิ่นฐานหลักในตอนนี้กลับอยู่ภายใต้การควบคุมของ ฟาง เจิ้งจือ

ช่างน่าหวาดกลัว

ราวกับหมาป่ากระโจนเข้าไปกลางฝูงแกะตัวน้อย มันจะไม่โหดร้ายเกินไปหน่อยหรือ?

เมื่อองค์หญิง ฉาน ยู่ ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หนังสัตว์สีทองได้ยินเช่นนั้น ท่าทีของนางก็เผยให้เห็นถึงความตกตะลึง

ถ้าไม่ใช่เพราะที่นี่มีเหล่าทหารยืนอยู่ด้วย

นางคงกลิ้งตกเก้าอี้ด้วยความตกใจไปแล้ว

ร่างของนางที่สวมชุดหนังสัตว์สีขาวกำลังสั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่ได้ หัวใจของนางเต้นระรัว  ผีสีขาวนวลของนางดูเหมือนจะกลายเป็นสีแดงเช่นกัน

มันเป็นความตกใจและความยินดีอย่างแท้จริง นางไม่คิดเลยว่า ฟาง เจิ้งจือ จะสามารถทำสิ่งนี้ได้สำเร็จ

ยิ่งไปกว่านั้น …

เขาทำมันได้อย่างรวดเร็ว

 

“ชายคนนี้ ทำให้ข้าประหลาดใจมากจริงๆ!”องค์หญิง ฉาน ยู่ พึมพำออกมาเบาพร้อมกับเผลอยิ้มออกมา ขณะเดียวกันแววตาของนางก็ระยิบระยับ “บอกข้ามา ว่าชายคนนี้ทำได้ยังไงกัน”

“รับทราบ!”หลังจากได้ยินคำขององค์หญิง เขาก็เริ่มอธิบาย เขาเริ่มจากเรื่องของการเอาชนะ เฉิน เฟยยู่ ที่ถิ่นฐานราชสีห์คำราม และวางกับดักภายในถิ่นฐานราชสีห์คำรามเพื่อซุ่มโจมตี วู่ เฟิง

เมื่อทหารอธิบายจบ

ท่าทีขององค์หญิงก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง

ความยินดีและความประหลาดใจในทีแรกแปรเเปลี่ยนเป็นความอับอายทันที เมื่อนางนึกถึงตอนที่ ฟาง เจิ้งจือ หลอกลวงฉวยเสื้อผ้าและขลุ่ยหยกของ วู่ เฟิง ไป นางก็ไม่สามารถคุมตัวเองได้และพูดดูถูกแแกมา

“ชายคนนี้ช่างไร้ยางอายอยู่เสมอเสียจริง!”

“องค์หญิง พวกเราจำเป็นต้องทำออะไรหรือไม่?”

“เจ้าไปได้แล้ว ไปพักผ่อนซะ แน่นอนว่าข้ามีแผนการของข้า”

“รับทราบ”

 

ในดินแดนภูเขาทางใต้ บนยอดเขาที่ดูแสนจะธรรมดา ที่ปากถ้ำแห่งหนึ่ง มีร่างสีดำยืนอยู่ด้านหน้า ดูเหมือนว่าเขาจะรีบร้อนเป็นอย่างมาก

“วันนี้มีอะไรต้องรายงานบ้าง?”เมื่อชายที่ยืนอยู่ปากถ้ำเห็นคนวิ่งมาเขาก็รีบเดินมาขวางทางปากถ้ำเอาไว้ในทันที

“เรื่องเร่งด่วน!”

“หัวหน้าดินแดนกำลังพักผ่อนในช่วงบ่าย จงมาอีกครั้งในเวลาพลบค่ำ!”

“ไม่ ข้าต้องรายงานหัวหน้าดินแดนเดี๋ยวนี้ ข้าหวังว่าเจ้าจะอนุญาติให้ช้าเข้าไปรายงานในทันที ถ้ามีอะไรล่าช้าขึ้นมา เจ้าต้องรับผิดชอบ!”ร่างสีดำพูดด้วยท่าทีเย็นเยือก

“งั้นรอตรงนี้ก่อน!”ชายในชุดคลุมดำไม่พูดอะไรอื่นอีก เขาหันกลับและเดินเข้าไปในถ้ำ ผ่านไปสักพักเขาก็เดินออกมา อย่างไรก็ตามมีรอยมือแดงๆอยู่บนใบหน้าของเขาด้วย

“เข้าไปได้!”

เมื่อเขาพูด น้ำเสียงของเขาฟังดูแย่มาก

“ขอบคุณ” เมื่อร่างสีดำเห็นรอยมือสีแดงอยู่บนหน้าชายคนนั้น เขาพลันรู้สึกเสียใจขึ้นมาทันที  อย่างไรก็ตามเขาไม่ต้องการเสียเวลาไปมากกว่านี้

ภายในถ้ำ ไป่ ซิง นอนอยู่บนหินที่โปร่งใสและส่องสว่างแวววาวแสงระยิบระยับจาง ๆ ออกมาจากหิน ทำให้ภายในถ้ำเต็มไปด้วยความรู้สึกหนาวเหน็บ

ดวงตาปีศาจสีแดงบนหน้าผากของ ไป่ ซิง ทำให้บรรยากาศยิ่งน่ากลัวขึ้นไปกว่าเดิม

 

“มีอะไร?” น้ำเสียงของ ไป่ ซิง ดูไม่ได้ยินดีเสียเท่าไร

“หัวหน้าดินแดน ตอนนี้ ฟาง เจิ้งจือ ได้เข้ายึดถิ่นฐานราชสีห์คำราม และเอาชนะ เฉิน เฟยยู่ และวู่ เฟิง ไปแล้วตอนนี้เขาเป็นผู้ควบคุมถิ่นฐานราชสีห์คำราม รวมถึง เหยียน เยว่ และ ซุน เองก็ด้วยนอกจากนี้ เขามีกำลังทัพเกือบๆ 30,000 นาย” ร่างสีดำรู้สึกถึงกลิ่นอายที่ออกมาจากร่างของ ไป่ ซิง และไม่กล้าเดินเข้าไปใกล้เท่าไรนัก เขาเลือกที่จะพูดเข้าประเด็นเลยทันที

“อะไรนะ!? เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ยังไงกัน?” ท่าทีอันเคร่งขรึมของ ไป่ ซิง ถูกทำลายลงในที่สุด

“ข้าได้ยินมาว่า ฟาง เจิ้งจือ ล่อลวง เฉิน เฟยยู่ และ วู่ เฟิง เข้าไปในถิ่นฐานราชสีห์คำราม จากนั้นก็ซุ่มโจมตีพวกเขา” ร่างสีดำรายงานทุกๆอย่างที่เขารู้มา

 

“ดีมาก ฟาง เจิ้งจือ … 2-3 ก่อน เขายังอยู่ที่กระโจมขององค์หญิงฉาน ยู่ อยู่เลยแท้ๆตอนนี้กลับเข้าควบคุมถิ่นฐานหลักไปถึง 3 แห่งรึ? เป็นเรื่องที่ข้าคิดไม่ถึงจริงๆ “

“หัวหน้าดินแดน พวกเราควรทำอะไรต่อไปดี? พวกเราควรรีบเคลื่อนไหวหรือไม่?”

“ไม่ต้องรีบร้อน ยิ่งเขามีกองกำลังในมือมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งตายเร็วเท่านั้นครั้งนี้ เขาจะไม่สามารถวิ่งหนีอีกต่อไปแล้ว! ยังไงก็ตาม เพื่อกันไว้ก่อน ส่งคนสอดแนมเข้าไปสัก 2-3 คน!”

“เข้าใจแล้ว”

“เจ้าไปได้”

“รับทราบ!”

ร่างสีดำออกไปอย่างรวดเร็ว

ในทางหลับกัน ไป่ ซิง ดูเหมือนไม่คิดจะพักผ่อนอีกต่อไปแล้วเขาค่อยๆลุกออกมาจากหินโปร่งแสงนั้นแล้วเดินไปเดินมาภายในถ้ำ

“เป็นไปอย่างที่คำนวนไว้ นายน้อยน่าจะถึงแล้วตอนนี้”

ฟาง เจิ้งจือ นั้นไม่ได้รู้เลยว่าหลังจากที่เขากำจัด วู่ เฟิง ไปแล้ว แต่ละฝ่ายจะมีท่าทียังไง

ตามจริงแล้ว เขาไม่คิดด้วยซ้ำว่าจะเป็นผู้ควบคุมถิ่นฐานหลักทั้ง 3 ไว้  เมื่อแม่ทัพหวังเป็นคนเตือน เขาถึงจะพึ่งรู้ตัว

ดูเหมือนเขาจะมีเรื่องให้เอาไปอวดอีกแล้วสิ!

ในช่วงเวลาสั้นๆ เขาเข้าควบคุมไปแล้ว 3 ใน 4 ถิ่นฐานหลัก กองกำลังทหารอยู่ในมือเกือบ 30,000 นาย เขาเต็มไปด้วยพลังอำนาจ ทั้งหมดที่เขาต้องทำก็คือการทำให้ดินแดนภูเขาทางใต้นั้นต้องสั่นคลอน

“อย่าบอกนะว่านี่คือคำกล่าวที่ว่า ตั้งใจทำอะไรกลับไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดี แต่พอไม่ตั้งใจทำกลับได้ผลลัพธ์ที่ดี?” ฟาง เจิ้งจือ เงยหน้ามองท้องฟ้า ที่มีความรู้ราวกับเป็นผู้ชนะ ไม่มีผู้ใดกล้ามาท้าทายเขา

 

ด้วยเหตุนี้

คำถามจึงผุดขึ้นมา

เขาควรจะไปที่ไหนต่อดี?

ฟาง เจิ้งจือ รู้ดีว่าถิ่นฐานหลักทั้ง 4 แห่งนั้นอันตรายดินแดนภูเขาทางใต้วางกำลังทหารไว้ตามถิ่นฐานหลักทั้ง 4 แล้ว อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีกำลังรบที่แข็งแกร่ ความรู้สึกของเขาก็ต่างไปอย่างสิ้นเชิง

ถ้ามีคนเคยบอกว่า ฟาง เจิ้งจือ เคยเป็นแค่เรือลำเล็กที่แล่นอยู่กลางพายุ สามารพลิกคว่ำได้ตลอดเวลา ตอนนี้เขาคงเป็นเรือรบลำใหญ่

ถ้าเขาเกิดไม่พอใจใครขึ้นมาละก็ เขาไม่ต้องพูดอะไรมากกว่าคำหนึ่งคำเลย

ตาย!

 

แน่นอนว่าตอนนี้เขามีอำนาจมากมายดังนั้นเขาก็ควรหาเป้าหมายของเขาในตอนนี้เสียก่อน

ข้าได้ยินมาว่าชายที่ชื่อ หนานกง เฮา อยู่ในถิ่นฐานวานรน้ำแข็งมันอยู่ใกล้กับถิ่นฐานราชสีห์คำรามของข้า แล้วทำไม…

ฟาง เจิ้งจือ คิดแบบนั้นดังนั้นแน่นอนว่าเขาจึงเตรียมตัวจะออกเดินทาง

อีก 2-3 วันถัดมา ฟาง เจิ้งจือ จะเริ่มแบ่งกองทัพออกเป็นสองส่วน และกวาดล้างพื้นที่โดยรอบถิ่นฐานราชสีห์คำรามในแต่ละกองทัพมีทหารเกือบ 10,000 นาย

ทำให้ผู้เข้าสอบคนใดก็ตามที่บังเอิญเจอเข้ากับกองทัพของ ฟาง เจิ้งจือ มีได้แค่ความหวาดกลัว

พวกเขามีทหารเพียงแค่ 2,000 นาย จะต่อกรกับทหารนับ 10,000?

มันจะมีความหมายอะไรกัน ในเมื่อผลลัพธ์ทุกคนย่อมรู้กันดี

การไม่ยอมรับ, ความอัปยศ แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่มีทางเลือก

มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะต้านกองทัพที่มีมากกว่าถึง 5 เท่า สิ่งเดียวที่พวกเขาทำได้คือการยอมแพ้ ทีละคน ทีละคน ยอมแพ้ในกองทัพพวกเขา

ขณะที่ ฟาง เจิ้งจือ เริ่มกวาดล้างพื้นที่ ในดินแดนภูเขาทางใต้เขาวิ่งพล่านไปทั่วราวกับพายุลูกใหญ่

 

จดหมายซองแล้วซองเล่าถูกส่งออกไปถึงกระโจมขององค์รัชทายาท หลิน เทียนหลง ทำให้เขาวุ่นวายใน 2-3 วันมานี้

“ฟาง เจิ้งจือ ตัด หลี่ ฉิง ออกจากการทดสอบ กองทัพของเขาขยายจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 34,000 นายแล้ว”

“ฟาง เจิ้งจือ ตัด เฉิน เฉิน ตงปิง ออกจากการทดสอบ กองทัพของเขาขยายจำนวนเพิ่มขึ้นกว่า 36,000 นายแล้ว”

“…”

เมื่อมองไปที่เหล่าตัวอักษรที่เรียงรายกันอยู่ในจดหมาย สีหน้าขององค์รัชทายาทก็มืดมนลงทุกทีท่าทีของเขาทั้งหดหู่และอึมครึม เขาไม่มีจิตใจที่จะไปชื่นชมดอกไม้ดังที่เขาชอบทำใหทุกวัน

 

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

5 วันต่อมาจำนวนทหารในกองทัพใต้บัญชาการของแม่ทัพ ฟาง เจิ้งจือ ได้เพิ่มขึ้นจนกลายเป็นกองทัพขนาดใหญ่ 41,000 นายนอกจากนี้ มันหมายความว่าเขาได้เป็นผู้สั่งการทหารเกือบ 70% ของกำลังทหารในการต่อสู้ทั้งหมดอีกด้วย

ในทางกลับกัน ในที่สุด ฟาง เจิ้งจือ ก็เริ่มเพลิดเพลินไปกับการเป็นแม่ทัพ

ในบ้านหิน แม่ทัพแต่ละคนยืนขนาบข้างเป็น 2 แถวและข้างๆพวกเขาก็มีนักปราชญ์ยืนอยู่ด้วย พวกเขาล้วนมีสีหน้าหดหู่

พวกเขาคือนักปราชญ์ทั้งหมดที่ถูก ฟาง เจิ้งจือ ตัดออก

ดังนั้นแน่นอนว่า พวกเขามีแต่ต้องทำตามคำสั่งของ ฟาง เจิ้งจือ เท่านั้นไม่ว่าพวกเขาจะเต็มใจหรือไม่เต็มใจก็ตาม พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากติดตามเขาไปจนกว่าจะสิ้นสุดการทดสอบ

Gate of God

Gate of God

GoG, 神门
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2015 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Gate of Godเรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset