ฟาง เจิ้งจือ นั้นรู้ดีว่า เถิง ซือเซิง ไม่มีทางเข้าใจความคิดของเขาแน่นอน อย่างไรก็ตาม จากความรู้ในโลกก่อนของเขา เขารู้ดว่าถึงกฎธรรมชาติและความเร็วของลม
ในสถานการณ์ปกตินั้นลมจะพัดจากที่มีความดันสูงไปต่ำ ยิ่งความแตกต่างนั้นมากเท่าไร ความแรงของลมยิ่งเร็วมากเท่านั้น
สิ่งที่ ฟาง เจิ้งจือ ต้องการทำนั้นง่ายมาก เปลี่ยนความกดดันอากาศภายในหุบเขา เรื่องนี้อาจจะดูง่ายมาก แต่ก็ยากที่จะทำได้สำเร็จ
หากไม่มีสถานการณ์ที่พิเศษ มันคงเป็นไปไม่ไดที่จะทำมัน
อย่างไรก็ตาม เถิง ซือเซิง บอกว่าที่ท้ายหุบเขามีหินก้อนใหญ่ที่เอาไว้ควบคุมลม ดังนั้นข้างนหุบเขาจะต้องมีสิ่งที่ควบคุมความดันอากาศอยู่แน่นอน
ตราบที่เขาหาที่ตั้งของมันเจอ จากนั้นก็ใช้ความดันแบบพิเศษเพื่อทำใหเกิดการเปลียนแปลง ถ้าเป็นไปตามทฤษฎี สายลมในหุบเขาต้องหยุดลงแน่นอน
แน่นอนว่านี่เป็นเพียงทฤษฎีเท่านั้น
เขาจะสามารถทำมันได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับประสบการณ์
เถิง ซือเซิง ไม่เข้าใจสิ่งที่ ฟาง เจิ้งจือ คิดแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตามด้วยความยึดมั่นในหลักการทหารของเขา ต่อให้ไม่เข้าใจก็จะทำตามคำสั่งอยู่ดี
“เจ้าสามารถวาดภูมิประเทศในหุบเขาสายลมให้ข้าดูได้หรือไม่?” ฟาง เจิ้งจือ เตรียมจะตรวจสอบมันด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตาม เถิง ซือเซิง นั้นรู้ภูมิประเทศของที่นี่เป็นอย่างดี ช่วยให้เขาข้ามขั้นตอนไปได้มาก
“ข้าทำได้” เมื่อเขาได้ยินคำพูดของ ฟาง เจิ้งจือ เขาลังเลเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมา ลักษณะทางภูมิศาสตร์ของหุบเขาสายลมนั้นไม่ได้เป็นความลับอะไรมากมาย
ใครก็ตามที่เคยผ่านเพียงครั้งเดียวก็สามารถจำได้แล้ว
“งั้นแค่วาดมันบนพื้นก็พอ” ฟาง เจิ้งจือ ชี้ไปที่พื้นขณะที่เขาพูด
เถิง ซือเซิง ไม่พูดอะไรอีกต่อไป เขาค่อยๆวางอาวุธลงและวาดลงบนพื้นอย่างระมัดระวัง ไม่นานแผนที่ทางภูมศาสตร์ของหุบเขาสายลมก็ปรากฎขึ้นบนพื้น
ฟาง เจิ้งจือ มองไปยังแผนที่และคิดอย่างถี่ถ้วน
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ฟาง เจิ้งจือ จึงเลิกดูแผนที่และวาดอะไรบางอย่างข้างๆแทน
อีกด้าน เถิง ซือเซิง นั้นเห็นทุกอย่างจากด้านข้าง
อย่างไรก็ตาม
เขาไม่เข้าใจสิ่งที่ ฟาง เจิ้งจือ วาดออกมาแม้แต่น้อย
ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้ธิบายอะไรเพิ่มเติม เพราะเรื่องพวกนี้นั้นเกี่ยวกับหลักการทางฟิสิกส์ที่ซับซ้อนเกินไป ถ้าไม่ได้เรียนรู้เรื่องพวกนี้มาก็เป็นเรื่องยากที่คนธรรมดาจะเข้าใจ
เขาจึงไม่ได้อธิบาย สิ่งที่เขาต้องการคือให้ เถิง ซือเซิง ทำตามที่เขาบอกก็พอ
หลังจากวาดแผนที่เสร็จ ฟาง เจิ้งจือ พยายามเชื่อมทุกอย่างเข้าด้วยกัน
หลังจากผ่านไปอีกสักพัก
ในที่สุด ฟาง เจิ้งจือ ก็หยุด เขาชี้ไปที่ภาพที่เขาวาดและออกคำสั่งทหารทหารทั้ง 20 นาย
ขุดบริเวณนั้น ทำให้บริเวณนั้นลึกขึ้นและทำให้แถวนั้นกลายเป็นรูจำนวนมาก
ก้อนหินที่ขุดมาทั้งหมดถูกขนไปวางในริมภูเขาด้านหนึ่งตามที่ ฟาง เจิ้งจือ บอก ตอนนี้ ฟาง เจิ้งจือ พยายามจะสร้างกำแพงธรรมชาติที่สามารถเปลี่ยนแปลงความดันอากาศได้
เมื่อลมพัดผ่านมาที่จุดเปลี่ยนความดันอากาศ มันจะพัดต่อไปยังเส้นทางพิเศษที่ทำให้ลมพัดกลับเข้าไปในหุบเขาสายลม มันจะทำให้เกิดผลกระทบกับการไหลของลมภายในหุบเขา
สำหรับหินที่ขุดขึ้นมานั้นเขาเอาไปสร้างสวิตช์
การที่เขาครอบครองเต๋าจำนวนมากมาย
การเปลี่ยนรูปร่างของหินนั้นไม่ใช่สิ่งที่ยากเย็น ขณะที่ทหารทั้ง 20 คนกำลังยุ่งกับการขุด ฟาง เจิ้งจือ ก็ค่อยๆเปลี่ยนแปลงรูปร่างของก้อนหิน
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว 1 ชั่วโมงถัดมา มีหลุมมากมายเกิดขึ้นบนกำแพงภูเขา
ทุกคนทั้งนักปราชญ์เหล่าแม่ทัพรวมถึงทหารหมาป่าเขาเงินเอง
ไม่มีใครเข้าใจแม้แต่น้อย ฟาง เจิ้งจือ กำลังทำอะไรอยู่?
“ขุดหลุม?”
“อย่าบอกนะว่าเขาจะขุดหลุมในกำแพงเพื่อผ่านหุบเขาสายลมไป?”
“สมองเขาไม่ปกติดีอย่างนั้นรึ?”
“เขาวางแผนที่จะขุดไปนานแค่ไหนกัน?”
เมื่อเหล่านักปราชญ์เห็นฉากที่เกิดขึ้น ก็เริ่มรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาทันที
วู่ เฟิง และ เฉิน เฟยยู่ หัวเราะออกมาทันทีเมื่อเห็น เขาชื่นชมในจินตนาการของ ฟาง เจิ้งจือ จริงๆ เขาคิดได้แม้กระทั่งขุดอุโมงค์
อย่างไรก็ตาม
มันจะสามารถทำได้จริงงั้นรึ?
แน่นอนว่า ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้สนใจเหล่านักปราชญ์ เขากำลังยุ่งอยู่กับการตรวจดูรูบนกำแพงทั้ง 2 ด้าน เขาแม้แต่ลองเดินเข้าไปในหุบเขาสายลมในบางครั้ง เพื่อสัมผัสกับสายลมที่หนาวเย็นและรุนแรงราวกับคมดาบ
“ถ้าข้ามีเครื่องขุดเจาะถนน งานของข้าจะสมบูรณ์แบบกว่านี้!” ฟาง เจิ้งจือ พูดขึ้นมาขณะที่งานของเขานั้นใกล้จะเสร็จแล้ว
ในความเป็นจริงทหารหมาป่าเขาเงินนั้นแข็งแกร่งมาก
พวกเขาทำงานที่คนในโลกก่อนของเขาต้องใช้เวลากว่าสัปดาห์ให้เสร็จได้อย่างรวดเร็ว
ไม่นานหลุมขนาดใหญ่ทุกหลุมก็ถูกเชื่อมเข้าด้วยกัน พวกมันถูกขุดลงไปจนเชื่อมต่อกันคล้ายกับงูตัวใหญ่
อย่างไรก็ตาม ฟาง เจิ้งจือ รู้ชื่อที่แท้จริงของมัน มันคือกังหันลมขนาดใหญ่!
“ท่านผู้ส่งสารทุกอย่างเรียบร้อยตามที่ท่านต้องการแล้ว” เถิง ซือเซิง เป็นควบคุมทุกอย่างด้วยตนเองอยู่ด้านข้าง หลังจากเห็นทุกอย่างตามรูปที่ ฟาง เจิ้งจือ วาดไว้ เขาก็เดินเข้ามาหาทันที
“เยี่ยม ขอโทษที่ต้องรบกวนเจ้า!” ฟาง เจิ้งจือ ค่อนข้างตื่นเต้น เขารู้อย่างชัดเจนว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่เขาจะใชพิสูจน์ว่าความรู้สามารถใช้เปลี่ยนแปลงชะตากรรมได้หรือไม่
เขาหยิบหินจำนวนมากที่เขาเตรียมไว้ล่วงหน้า จากนั้นเขาก็พุ่งไปทางรูหนึ่งที่ขุดไว้
หลังจากนั้น ฟาง เจิ้งจือ ก็พุ่งเข้าไปทันที
การกระทำง่ายๆนี้ทำให้ เถิง ซือเซิง ตกตะลึงอีกครั้ง เขาคิดจะเล่นซ่อนแอบหรือไงกัน?
ไม่ไกลจากนั้นมาก ทหารทั้ง 40,000 นายรวมถึงเหล่านักปราชญ์เองก็เห็นสิ่งที่ ฟาง เจิ้งจือ ทำเช่นกัน พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากเบิกตากว้าง
“อย่าบอกนะว่าเขาคิดจะขุดอุโมงค์จริงๆ?”
“เขาพยายามจะทำอะไรกันแน่? อย่าบอกนะเขาคิดว่าการเคาะไปรอบๆหุบเขาสายลมจะทำให้ทำลายปราการธรรมชาติแห่งนี้ลงได้?”
“เขาไม่ได้ต้องการแค่จะผ่านหุบเขาสายลม แต่เขาจะเอาชนะมัน? เจ้าคิดว่ามันจะเป็นไปได้งั้นหรือ?”
“เห้อ ชื่อเสียงของอาณาจักรเซี่ยต้องย่อยยับในครั้งนี้แน่นอน”
เหล่านักปราชญ์ต่างได้ยินเสียงของลมก่อนที่มาถึงทางเข้าหุบเขา พวกเขาสามารถรู้ได้เลยว่ามันอันตรายขนาดไหน และเมื่อหันมามอง ฟาง เจิ้งจือ ที่กระโดดเข้าไปในรูที่เขาขุดไว้ พวกเขาก็ทำได้แค่ส่ายหัว
สำหรับ วู่ เฟิง และ เฉิน เฟยยู่
ตอนนี้พวกเขาไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก เพราะพวกเขารู้สถานะของตัวเองดี การไปว่า ฟาง เจิ้งจือ ว่าโง่ก็เหมือนการว่าตัวเองกลายๆ
แต่ ตอนนี้ทุกอย่างนั้นเปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์
ทันใดนั้นก็เกิดเสียงบางอย่างดังขึ้นมาจากกำแพงภูเขาบริเวณทางเข้าหุบเขาสายลม เสียงนั้นดังกึกก้องขึ้นเรื่อยๆ ราวกับทั้งหุบเขาจะถล่มลงมา
“โอ้ไม่นะ! กำแพงภูเขาจะถล่มลงมาจากการขุด”
“เจ้ากังวลอะไรกัน? เจ้าอยู่ห่างจากตรงนั้นต้องไกล ยังไงก็ไม่ตาย!”
“โอ้ใช่ ข้ากังวลเกินไปเอง!”
ขณะที่เหล่านักปราชญ์กำลังพูดคุยกันอยู่นั้น กระแสลมอันรุนแรงก็ได้พัดผ่านพวกเขาไป มันเป็นลมที่เร็วและรุนแรงยิ่งกว่าในหุบเขาสายลมเสียอีก
ในเวลาเดียวกัน ร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากรูบริเวณกำแพงภูเขา ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มอันสดใส
“เขายังกล้ายิ้มอีก!”
“ภูเขากำลังจะถล่ม แทนที่เขาจะหาทางเอาชีวิตรอดแต่กลับยิ้มออกมาแทน?”
“นั่นเป็นความจริงเหรอ? มีบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง!”
ในขณที่เหล่านักปราชญ์เตรียมจะถกเถียงกันต่อไป พวกเขาก็รู้สึกถึงบางอย่างแปลกๆ
มันเป็นความรู้สึกแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นในใจพวกเขา มันเป็นความรู้สึกที่ประหลาดมาก
“พวกเจ้ารู้สึกแปลกๆ มั้ย?”
“ทำไม ข้ารู้สึกว่าเสียงนั้นมันเกิดขึ้นที่รอบๆตัวพวกเรา!”
“เสียง?! มันดูเหมือนเสียงที่ดังอยู่ในหุบเขาสายลม”
“เสียงลมหายไปแล้วงั้นเหรอ?!”
ในที่สุดเหล่านักปราชญ์ก็ได้สติ ความรู้สึกแปลกๆของพวกเขานั้นเกิดขึ้นจากหุบเขาสายลม เสียงหวีดแหลมรอบๆตัวพวกเขา ดูเหมือนจะหยุดไปทันที
ทำไมถึงไม่มีเสียงอะไรเลยล่ะ?
อย่าบอกนะว่า
สายลมในหุบเขาได้หยุดลงแล้ว?
ทีละคน ทีละคน เริ่มมองไปที่หุบเขาสายลม ไม่นานดวงตาของพวกเขาก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ มันเป็นความรู้สึกตกใจที่มาจากก้นเบื้องของหัวใจพวกเขา
ทุกคนต่างจ้องเขม็งไปที่ทางเข้าหุบเขาสายลม
มีเพียงเสียงล่มเอื่อยๆเท่านั้น อย่างไรก็ตามนอกจากนั้นพวกเขาไม่ได้ยินเสียงหวีดของสายลมที่รุนแรงแม้แต่น้อย ลมอันรุนแรงที่พัดออกมาจากหุบเขาก็หายไปแล้วเช่นกัน
ผมของพวกเขาไม่ได้ปลิวไสวอีกต่อไป ร่างกายของพวกเขากลับมายืนตรงได้ปกติ
ลมในหุบเขา
ได้หยุดลงแล้วจริงๆ!
“เป็นไปไม่ได้!” เฉิน เฟยยู่ เชื่อในหลายๆสิ่ง อย่างเช่น เขายายามที่จะเชื่อว่าการที่ ฟาง เจิ้งจือ ลอบโจมตีเขานั้นมีการวางแผนมาก่อนแล้ว
อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถเชื่อได้ว่าลมในหุบเขานั้นจะสามารถหยุดลงได้จริงๆ
มันขัดแย้งกับสิ่งที่เขารู้มาตลอด มันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถอธิบายออกมาได้แม้แต่น้อย
มันเป็นลม!
ลมที่ไม่มีรูปร่าง ไม่สามารถจับต้องได้!
ในชื่อของ วู่ เฟิง นั้นก็มีคำว่าลมอยู่เช่นกัน เพราะเขาเชื่อว่าลมนั้นไม่สามารถมีอะไรมาขวางกั้นได้ เขาเชื่อว่าไม่มีอะไรที่สามารถเอาชนะและควบคุมลมได้ จนกระทั่งวันนี้
เขาได้พบกับเรื่องประหลาดยากที่จะอธิบาย
ลุมในหุบเขาถูกหยุดลง
นี่มันบ้าอะไรกัน!?
“ฟาง เจิ้งจือ ทำอะไรไปกันแน่? เขาทำอะไรลงไป!” วู่ เฟิง อยากจะปฏิเสธเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามความจริงย่อมเป็นความจริง
ด้วยความสามารถของเขา เขาสัมผัสได้อย่างชัดเจน
นี่เป็นความจริง!