Gate of God – ตอนที่ 380

เฉิน เฟยยู่ ยืนนิ่ง เขารู้ดีว่าวิชาที่เขาเห็นนั้นเป็นวิชาอันสุดยอดของกองตรวจการศักดิ์สิทธิ์

และเขาก็รู้ดียิ่งกว่าว่าใครเป็นผู้ยิงธนูนี้  เพราะระหว่างที่เขาอยู่บนหลังม้า ณ การแข่งขันล่าสัตว์ เขาเห็นอย่างชัดเจนว่า ฟาง เจิ้งจือ ใช้ธนูในการทำให้อันดับที่7และ8 บนทำเนียบมังกรดาวรุ่งบาดเจ็บอย่างหนัก

เขาไม่รู้ว่าทำไม ฟาง เจิ้งจือ ถึงยิงเขา

อย่างไรก็ตามเขาต้องการที่จะป้องกันการโจมตีครั้งนี้!

เพราะว่า

เข้าต้องการพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า ความแข็งแกร่งของ เฉิน เฟยยู่ นั้นห่างชั้นกับ เจียง เทียนหยิง และ ถัง จงหมิง เป็นอย่างมาก หรือแม้แต่ วู่ เฟิง กับ ฟาง เจิ้งจือ ก็ตาม

ดาบของเขาพุ่งออกไป เกิดเป็นห่าฝน

เฉิน เฟยยู่ เอาดาบมาทาบที่หน้าอก ดอกไม้สีขาวราวกับหิมะก็เบ่งบานขึ้นในทันทีหลังจากนั้น พายุที่รุนแรงเริ่มก่อตัวในอากาศ

“จงเปิดออก!“เฉิน เฟยยู่ ร้องตะโกน

ด้วยการตวัดดาบ พายุที่รุนแรงก็พัดออกมาจากปลายดาบของเขา และดอกไม้สีขาวก็แตกกลีบพัดไปตามพายุที่พุ่งออกมาจากปลายดาบอย่างรวดเร็วพลังของมันคล้ายกับวิชาคมดาบดอกท้อของ เหยียน ซิว เป็นอย่างมาก ก่อนที่มันจะพุ่งไปหาลูศรสีเขียวหยก

“ตูม!“เกิดเสียงดังก้อง  เศษซากของศรหยกเขียวกระจายไปทั่ว อย่างไรก็ตาม ในเวลาเดียวกันเศษซากเหล่านั้นก็รวมเข้ากับพายุที่ เฉิน เฟยยู่ สร้างออกมาด้วย

วิชาคมดาบดอกท้อ!

วิชาลับของกองตรวจการสุริยัน 1 ใน 13 กองตรวจการ วิชาดาบที่ครอบคลุมทั้งการป้องกันและการโจมตี

เมื่อเหล่านักปราชญ์รอบๆเห็นฉากนี้ สีหน้าของพวกเขาก็แข็งค้างไปในทันที พวกเขารู้ดีว่าศรหยกสีเขียวคืออะไร

เพราะว่า…

ตราบใดที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันล่าสัตว์และขี่ม้าไม่มีใครไม่รู้ว่าลูกศรนี้เป็นของ ฟาง เจิ้งจือและไม่มีใครที่จะไม่รู้ว่ามันมีพลังมากแค่ไหน

ในอาณาจักรเซี่ย อันดับ 7 บนทำเนียบมังกรดาวรุ่ง เจียง เทียนหยิง ผู้ที่เป็นเจ้าของวิชาเขตแดนผลึกสีม่วง ไม่มีทางที่จะป้องกันลูกศรนี้ได้

อย่างไรก็ตามเมื่อกี้นี้ เฉิน เฟยยู่ พึ่งจะ …

กันมันได้!?

และมันเป็นการป้องกันแบบตรงๆ

“อย่าบอกข้านะว่า … “

“เฉิน เฟยยู่ สามารถเข้าถึงระดับพลังใหม่ได้แล้ว?

“เป็นไปไม่ได้!“่

“ถ้าเขาไม่ได้เข้าถึงระดับพลังใหม่ เขาจะป้องกันการโจมตีนี้ได้ยังไง?

“เป็นไปได้ไหมที่ ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้ใช่พลังทั้งหมด เพื่อไม้ให้ เฉิน เฟยยู่ เป็นอันราย?

ขณะที่เหล่านักปราชญ์กำลังพยายามคาดเดาความเป็นไปได้ พวกเขาก็เข้าใจสิ่งนึงได้ในทันทีมันน่าจะเป็นเพราะ ฟาง เจิ้งจือ ออมมือให้

นั้นเพราะว่าถ้าการเข้าถึงระดับพลังใหม่คือคำตอบของเรื่องนี้

มันอาจจะเกินจริงไปหน่อย

นอกจากนี้ในตอนนี้ ฟาง เจิ้งจือ และ เฉิน เฟยยู่ ต่างมีฝีมือระดับเดียวกันทั้งคู่ ถ้าอธิบายว่า ฟาง เจิ้งจือ ออมมือให้กับ เฉิน เฟยยู่ มันดูมีเหตุผลชัดเจนมากกว่าเมื่อเทียบกับเรื่องการเข้าถึงระดับพลังใหม่ของ เฉิน เฟยยู่

หลังจากเหล่านักปราชญ์เข้าใจเรื่องนี้ พวกเขาทั้งหมดก็หันไปมองที่ ฟาง เจิ้งจือ ผู้ที่ยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล เพราะพวกเขาเข้าใจถึงเจตนาของ ฟาง เจิ้งจือ

“วางอาวุธของเจ้าและยอมจำนนซะ!“นักปราชญ์คนหนึ่งเริ่มตะโกนอย่างรวดเร็ว

“ถ้าเจ้าไม่ยอมล่ะก็ ข้าไม่สนใจที่จะต้องหักขาเจ้าทิ้ง!“นักปราชญ์อีกคนหนึ่งก็เริ่มตะโกนออกมาเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม เสียงตะโกนร้องเหล่านี้ ไม่ใช่สิ่งที่ เฉิน เฟยยู่ หวังจะได้ยิน ทุกคนไม่ควรชื่นชมในวิชาดาบของเขาอย่างนั้นหรือ?

นี่มันอะไรกัน!

ข้าได้ป้องกันวิชาล้านคมดาบของ ฟาง เจิ้งจือ ได้เชียวนะ!

เดี๋ยวก่อนสิ อย่าบอกนะว่าคนพวกนี้เชื่อว่า ฟาง เจิ้งจือ ตั้งใจออมมือ? หรือว่าการป้องกันวิชาล้านคมดาบของ ฟาง เจิ้งจือ นั้นจะไม่ได้พิสูจน์ให้ใครๆเชื่อได้ว่าเขาเข้าถึงระดับอภินิหารแล้ว?

เฉิน เฟยยู่ อยากจะร้องตะโกนออกมาดังๆ  พวกเจ้าตาบอดหรือไงกัน แหกตาดูดีๆสิ! ข้า เฉิน เฟยยู่ ได้เข้าถึงระดับพลังอภินิหารแล้ว ข้าแข็งแกร่งกว่า ฟาง เจิ้งจือ!

อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเปิดปากพูดมันกลับกลายเป็นอีกประโยคหนึ่งแทน

“ฟาง เจิ้งจือ ถ้าเจ้ากล้าก็ลองยิงมาอีกสิ!“นี่เป็นเพราะว่า เฉิน เฟยยู่ คิดว่าการยกย่องตัวเองเป็นสิ่งที่แปลกประหลาดมากกว่าการที่ถูกยกย่องโดยคนอื่น

ดังนั้นเขาจึงเตรียมที่จะรับลูกศรของ ฟาง เจิ้งจือ เพื่อยืนยันระดับพลังของเขา

แต่…

ฟาง เจิ้งจือ ผู้ที่ยืนอยู่ไม่ไกล เพียงแค่ชูนิ้วกลางให้และแสดงสีหน้าที่ค่อนข้างไม่พอใจและเย่อหยิ่งใส่เขา ก่อนที่จะถอนหายใจออกมาเบาๆ

“สมองเจ้าผิดปกติหรือไงกัน?

“สมองของข้าผิดปกติงั้นหรือ?!   น่าจะเป็นเจ้ามากกว่านะ  เห็นได้ชัดเจนว่าเจ้าเป็นคงยิงธนูใส่ข้า แต่เจ้ากลับบอกว่าข้าผิดปกติ?” เฉิน เฟยยู่ ตกตะลึงเป็นอย่างมาก

เขาไม่เข้าใจจริงๆ

ทำไมเรื่องอันไร้เหตุผลแบบนี้ถึงเกิดขึ้นมาบนโลก?

เจ้ายิงธนูใส่ข้า ข้าให้เจ้ายิงอีกครั้ง  แต่เจ้ากลับบอกว่าสมองข้าผิดปกติ!

ยิ่งไปกว่านั้น …

ทำไมนักปราชญ์และเหล่าทหารถึงมองมาที่เขาด้วยสายตาแปลกๆ มองทำไมกัน!  มันไม่ถูกต้อง ผลลัพธ์นั้นไม่เหมือนกับที่เขาคิดเลยแม้แต่น้อย

เฉิน เฟยยู่ รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังพังทลายลง  เขาคิดว่าเขาได้แสดงให้เหนถึงความแข็งแกร่งของตัวเองอย่างเพียงพอแล้ว

แต่ ไม่มีใครสักคนเชื่อเขา

มันน่าเศร้ามากและตัวเขาเองก็ไม่มีทางเลือก!

ในความเป็นจริง เฉิน เฟยยู่ เกี่ยวข้องกับสถานการณ์นี้มากเกินไป  ถ้าเขาเป็นผู้ชมเหตุการณ์นี้อยู่ด้านนอก มันจะง่ายมากที่เขาจะเข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้

เพราะเมื่อเปรียบเทียบระหว่างผู้เข้าสอบที่ตกรอบไปแล้วแต่มีพลังมากกว่าคนทั่วไปกับการที่กลยุทธ์ของ หนานกง เฮา นั้นถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง

เห็นได้ชัดว่าเรื่องไหนน่าสนใจมากกว่ากัน

เพราะ ฟาง เจิ้งจือ ได้เปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ในการต่อสู้อีกครั้ง

เหตุใดพื้นที่ที่เขายิงจึงสามารถพังการเคลื่อนไหวของกองทัพในกลยุทธ์กระดานแปดทิศได้?

มันเป็นคำถามที่กวนใจเหล่าแม่ทัพเป็นอย่างมาก  เพราะก่อนหน้านี้ ฟาง เจิ้งจือ ได้บอกว่าในสถานการณ์ที่ขอบเขตในการมองถูกบดบัง ไม่มีทางที่คนคนหนึ่งจะเห็นรูปแบบของการจัดวางกองทัพทั้งหมดได้?

อย่าบอกนะว่า…

ทันใดนั้น ในแววตาของเหล่าแม่ทัพกลายเป็นความหวาดกลัวอย่างมาก

ฟาง เจิ้งจือ รู้ว่าขอบเขตในการมองนั้นมีจำกัด

อย่างไรก็ตามตั้งแต่ที่ถึงทางออกของหุบเขาสายลม สายตาของเขาไม่เลื่อนออกจากมันเลยแม้แต่น้อย  นั่นหมายความว่าตลอดเวลาเขาสังเกตุการเคลื่อนทัพภายในกลยุทธ์กระดานแปดทิศมาตลอด

ถ้าเป็นเช่นนี้ ก็มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว

ฟาง เจิ้งจือ ได้คาดเดากฎการเคลื่อนไหวของกองทัพที่ด้านนอกหุบเขาจากการสังเกตุ ทั้งๆที่ขอบเขตในการมองของเขาถูกจำกัด

สวรรค์!

เขาทำเรื่องมหัศจรรย์อย่างนี้ได้ยังไง

เมื่อแม่ทัพแต่ละคนมองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ และนึกขึ้นได้ทันทีว่า ฟาง เจิ้งจือ นั้นเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในอาณาจักรเซี่ยตั้งแต่อดีตกาล

เด็กหนุ่มจากหมู่บ้านอันห่างไกล ไม่เคยเข้าศึกษาในหอแห่งเต๋ามาก่อน แต่เขาสามารถเป็นผู้ชนะทั้งสองด้านทั้งการทดสอบระดับมณฑล เมืองหลวง หรือระดับจักรรรดิก็ตาม

ที่สำคัญที่สุด ในการทดสอบระดับสภา เขาเองก็เป็นอันดับหนึ่งเช่นกัน  และเป็นคนที่เสมอกับ หนานกง เฮา  มันเป็นสิ่งที่ไม่มีใครเคยคิดมาก่อน

แต่ เขาสามารถทำมันได้

เหมือนที่ไม่นานมานี้ ไม่มีใครคิดว่า ฟาง เจิ้งจือ จะสามารถผ่านปราการธรรมชาติของดินแดนภูเขาทางใต้ หุบเขาสายลมมาได้ โดยไม่เสียทหารไปแม้แต่นายเดียว

ดังนั้นการที่เขาจะต่อสู้กับ หนานกง เฮา จะมีเรื่องนั้นเป็นไปไม่ได้อีก?

“เดินหน้า!  ต่อสู้เพื่อแม่ทัพฟาง!

“ใครที่ยอมแพ้จะได้รับการไว้ชีวิต!

“วางอาวุธของลงซะ พวกเราเป็นทหารของอาณาจักรเซี่ยเหมือนกันไม่จำเป็นต้องมาขัดแย้งกันอีก!

ตอนนี้เหล่าแม่ทัพนั้นต่างเต็มไปด้วยความฮึกเหิม  พวกเขาพุ่งเข้าไปในกลยุทธ์ที่ หนานกง เฮา วางไว้ที่ตอนนี้ได้พังทลายลงแล้วอย่างสมบูรณ์

ภายในถิ่นฐานวานรน้ำแข็ง

ทหารคนหนึ่งได้วิ่งมาจากประตูทางเข้าถิ่นฐานมาที่บ้านหินขนาดใหญ่จนเหงื่อนั้นท่วมเต็มใบหน้าเขา

“นายน้อย นายน้อย ข่าวร้าย กลยุทธ์ที่ท่านวางไว้ได้พังทลายลงแล้ว!“ทันทีที่เข้าไปในบ้านหิน เขาคุกเข่าลงและรีบรายงานออกมาทันที

“อะไรนะ!? พังทลาย? เป็นไปได้ยังไงกัน!?” ท่าทีของชายวัยกลางคนเปลี่ยนไปทันที

“มันพังทลายลงแล้วจริงๆ ฟาง เจิ้งจือ สั่งให้ทหารของเขาขว้างหอกและยิงธนูเพื่อทำลายโครงสร้างของกลยุทธ์  ตอนนี้ทหารที่อยู่ในนั้นถูกจับตัวได้เกือบหมดแล้ว!

“หอก และธนู? ฟาง เจิ้งจือ กล้าจริงๆงั้นรึ เขากล้าฆ่าทหารจำนวนมากอย่างงั้นรึ?

“ไม่ ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้ใช้มันเพื่อ… เขาทำให้กลยุทธ์เกิดช่องว่างขึ้น  มันทำให้ทหารไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ตามแผนที่วางไว้ จากนั้น … “

“ตามข้ามา พวกเราจะไปพบกับผู้สังเกตุการณ์!” ทันใดนั้นเสียงของ หนานกง เฮา ก็ดังออกมา  และตามด้วยร่างในชุดสีขาวที่ปรากฎออกมาทันที  ก่อนที่เขาจะเดินออกจากบ้านหินไป

Gate of God

Gate of God

GoG, 神门
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2015 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Gate of Godเรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset