เฉิน เฟยยู่ ยืนนิ่ง เขารู้ดีว่าวิชาที่เขาเห็นนั้นเป็นวิชาอันสุดยอดของกองตรวจการศักดิ์สิทธิ์
และเขาก็รู้ดียิ่งกว่าว่าใครเป็นผู้ยิงธนูนี้ เพราะระหว่างที่เขาอยู่บนหลังม้า ณ การแข่งขันล่าสัตว์ เขาเห็นอย่างชัดเจนว่า ฟาง เจิ้งจือ ใช้ธนูในการทำให้อันดับที่7และ8 บนทำเนียบมังกรดาวรุ่งบาดเจ็บอย่างหนัก
เขาไม่รู้ว่าทำไม ฟาง เจิ้งจือ ถึงยิงเขา
อย่างไรก็ตามเขาต้องการที่จะป้องกันการโจมตีครั้งนี้!
เพราะว่า
เข้าต้องการพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า ความแข็งแกร่งของ เฉิน เฟยยู่ นั้นห่างชั้นกับ เจียง เทียนหยิง และ ถัง จงหมิง เป็นอย่างมาก หรือแม้แต่ วู่ เฟิง กับ ฟาง เจิ้งจือ ก็ตาม
ดาบของเขาพุ่งออกไป เกิดเป็นห่าฝน
เฉิน เฟยยู่ เอาดาบมาทาบที่หน้าอก ดอกไม้สีขาวราวกับหิมะก็เบ่งบานขึ้นในทันทีหลังจากนั้น พายุที่รุนแรงเริ่มก่อตัวในอากาศ
“จงเปิดออก!“เฉิน เฟยยู่ ร้องตะโกน
ด้วยการตวัดดาบ พายุที่รุนแรงก็พัดออกมาจากปลายดาบของเขา และดอกไม้สีขาวก็แตกกลีบพัดไปตามพายุที่พุ่งออกมาจากปลายดาบอย่างรวดเร็วพลังของมันคล้ายกับวิชาคมดาบดอกท้อของ เหยียน ซิว เป็นอย่างมาก ก่อนที่มันจะพุ่งไปหาลูศรสีเขียวหยก
“ตูม!“เกิดเสียงดังก้อง เศษซากของศรหยกเขียวกระจายไปทั่ว อย่างไรก็ตาม ในเวลาเดียวกันเศษซากเหล่านั้นก็รวมเข้ากับพายุที่ เฉิน เฟยยู่ สร้างออกมาด้วย
วิชาคมดาบดอกท้อ!
วิชาลับของกองตรวจการสุริยัน 1 ใน 13 กองตรวจการ วิชาดาบที่ครอบคลุมทั้งการป้องกันและการโจมตี
เมื่อเหล่านักปราชญ์รอบๆเห็นฉากนี้ สีหน้าของพวกเขาก็แข็งค้างไปในทันที พวกเขารู้ดีว่าศรหยกสีเขียวคืออะไร
เพราะว่า…
ตราบใดที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันล่าสัตว์และขี่ม้าไม่มีใครไม่รู้ว่าลูกศรนี้เป็นของ ฟาง เจิ้งจือและไม่มีใครที่จะไม่รู้ว่ามันมีพลังมากแค่ไหน
ในอาณาจักรเซี่ย อันดับ 7 บนทำเนียบมังกรดาวรุ่ง เจียง เทียนหยิง ผู้ที่เป็นเจ้าของวิชาเขตแดนผลึกสีม่วง ไม่มีทางที่จะป้องกันลูกศรนี้ได้
อย่างไรก็ตามเมื่อกี้นี้ เฉิน เฟยยู่ พึ่งจะ …
กันมันได้!?
และมันเป็นการป้องกันแบบตรงๆ
“อย่าบอกข้านะว่า … “
“เฉิน เฟยยู่ สามารถเข้าถึงระดับพลังใหม่ได้แล้ว?“
“เป็นไปไม่ได้!“่
“ถ้าเขาไม่ได้เข้าถึงระดับพลังใหม่ เขาจะป้องกันการโจมตีนี้ได้ยังไง?“
“เป็นไปได้ไหมที่ ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้ใช่พลังทั้งหมด เพื่อไม้ให้ เฉิน เฟยยู่ เป็นอันราย?“
ขณะที่เหล่านักปราชญ์กำลังพยายามคาดเดาความเป็นไปได้ พวกเขาก็เข้าใจสิ่งนึงได้ในทันทีมันน่าจะเป็นเพราะ ฟาง เจิ้งจือ ออมมือให้
นั้นเพราะว่าถ้าการเข้าถึงระดับพลังใหม่คือคำตอบของเรื่องนี้
มันอาจจะเกินจริงไปหน่อย
นอกจากนี้ในตอนนี้ ฟาง เจิ้งจือ และ เฉิน เฟยยู่ ต่างมีฝีมือระดับเดียวกันทั้งคู่ ถ้าอธิบายว่า ฟาง เจิ้งจือ ออมมือให้กับ เฉิน เฟยยู่ มันดูมีเหตุผลชัดเจนมากกว่าเมื่อเทียบกับเรื่องการเข้าถึงระดับพลังใหม่ของ เฉิน เฟยยู่
หลังจากเหล่านักปราชญ์เข้าใจเรื่องนี้ พวกเขาทั้งหมดก็หันไปมองที่ ฟาง เจิ้งจือ ผู้ที่ยืนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล เพราะพวกเขาเข้าใจถึงเจตนาของ ฟาง เจิ้งจือ
“วางอาวุธของเจ้าและยอมจำนนซะ!“นักปราชญ์คนหนึ่งเริ่มตะโกนอย่างรวดเร็ว
“ถ้าเจ้าไม่ยอมล่ะก็ ข้าไม่สนใจที่จะต้องหักขาเจ้าทิ้ง!“นักปราชญ์อีกคนหนึ่งก็เริ่มตะโกนออกมาเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เสียงตะโกนร้องเหล่านี้ ไม่ใช่สิ่งที่ เฉิน เฟยยู่ หวังจะได้ยิน ทุกคนไม่ควรชื่นชมในวิชาดาบของเขาอย่างนั้นหรือ?
นี่มันอะไรกัน!
ข้าได้ป้องกันวิชาล้านคมดาบของ ฟาง เจิ้งจือ ได้เชียวนะ!
เดี๋ยวก่อนสิ อย่าบอกนะว่าคนพวกนี้เชื่อว่า ฟาง เจิ้งจือ ตั้งใจออมมือ? หรือว่าการป้องกันวิชาล้านคมดาบของ ฟาง เจิ้งจือ นั้นจะไม่ได้พิสูจน์ให้ใครๆเชื่อได้ว่าเขาเข้าถึงระดับอภินิหารแล้ว?
เฉิน เฟยยู่ อยากจะร้องตะโกนออกมาดังๆ พวกเจ้าตาบอดหรือไงกัน แหกตาดูดีๆสิ! ข้า เฉิน เฟยยู่ ได้เข้าถึงระดับพลังอภินิหารแล้ว ข้าแข็งแกร่งกว่า ฟาง เจิ้งจือ!
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเปิดปากพูดมันกลับกลายเป็นอีกประโยคหนึ่งแทน
“ฟาง เจิ้งจือ ถ้าเจ้ากล้าก็ลองยิงมาอีกสิ!“นี่เป็นเพราะว่า เฉิน เฟยยู่ คิดว่าการยกย่องตัวเองเป็นสิ่งที่แปลกประหลาดมากกว่าการที่ถูกยกย่องโดยคนอื่น
ดังนั้นเขาจึงเตรียมที่จะรับลูกศรของ ฟาง เจิ้งจือ เพื่อยืนยันระดับพลังของเขา
แต่…
ฟาง เจิ้งจือ ผู้ที่ยืนอยู่ไม่ไกล เพียงแค่ชูนิ้วกลางให้และแสดงสีหน้าที่ค่อนข้างไม่พอใจและเย่อหยิ่งใส่เขา ก่อนที่จะถอนหายใจออกมาเบาๆ
“สมองเจ้าผิดปกติหรือไงกัน?“
“สมองของข้าผิดปกติงั้นหรือ?! น่าจะเป็นเจ้ามากกว่านะ เห็นได้ชัดเจนว่าเจ้าเป็นคงยิงธนูใส่ข้า แต่เจ้ากลับบอกว่าข้าผิดปกติ?” เฉิน เฟยยู่ ตกตะลึงเป็นอย่างมาก
เขาไม่เข้าใจจริงๆ
ทำไมเรื่องอันไร้เหตุผลแบบนี้ถึงเกิดขึ้นมาบนโลก?
เจ้ายิงธนูใส่ข้า ข้าให้เจ้ายิงอีกครั้ง แต่เจ้ากลับบอกว่าสมองข้าผิดปกติ!
ยิ่งไปกว่านั้น …
ทำไมนักปราชญ์และเหล่าทหารถึงมองมาที่เขาด้วยสายตาแปลกๆ มองทำไมกัน! มันไม่ถูกต้อง ผลลัพธ์นั้นไม่เหมือนกับที่เขาคิดเลยแม้แต่น้อย
เฉิน เฟยยู่ รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังพังทลายลง เขาคิดว่าเขาได้แสดงให้เหนถึงความแข็งแกร่งของตัวเองอย่างเพียงพอแล้ว
แต่ ไม่มีใครสักคนเชื่อเขา
มันน่าเศร้ามากและตัวเขาเองก็ไม่มีทางเลือก!
ในความเป็นจริง เฉิน เฟยยู่ เกี่ยวข้องกับสถานการณ์นี้มากเกินไป ถ้าเขาเป็นผู้ชมเหตุการณ์นี้อยู่ด้านนอก มันจะง่ายมากที่เขาจะเข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้
เพราะเมื่อเปรียบเทียบระหว่างผู้เข้าสอบที่ตกรอบไปแล้วแต่มีพลังมากกว่าคนทั่วไปกับการที่กลยุทธ์ของ หนานกง เฮา นั้นถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง
เห็นได้ชัดว่าเรื่องไหนน่าสนใจมากกว่ากัน
เพราะ ฟาง เจิ้งจือ ได้เปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ในการต่อสู้อีกครั้ง
เหตุใดพื้นที่ที่เขายิงจึงสามารถพังการเคลื่อนไหวของกองทัพในกลยุทธ์กระดานแปดทิศได้?
มันเป็นคำถามที่กวนใจเหล่าแม่ทัพเป็นอย่างมาก เพราะก่อนหน้านี้ ฟาง เจิ้งจือ ได้บอกว่าในสถานการณ์ที่ขอบเขตในการมองถูกบดบัง ไม่มีทางที่คนคนหนึ่งจะเห็นรูปแบบของการจัดวางกองทัพทั้งหมดได้?
อย่าบอกนะว่า…
ทันใดนั้น ในแววตาของเหล่าแม่ทัพกลายเป็นความหวาดกลัวอย่างมาก
ฟาง เจิ้งจือ รู้ว่าขอบเขตในการมองนั้นมีจำกัด
อย่างไรก็ตามตั้งแต่ที่ถึงทางออกของหุบเขาสายลม สายตาของเขาไม่เลื่อนออกจากมันเลยแม้แต่น้อย นั่นหมายความว่าตลอดเวลาเขาสังเกตุการเคลื่อนทัพภายในกลยุทธ์กระดานแปดทิศมาตลอด
ถ้าเป็นเช่นนี้ ก็มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว
ฟาง เจิ้งจือ ได้คาดเดากฎการเคลื่อนไหวของกองทัพที่ด้านนอกหุบเขาจากการสังเกตุ ทั้งๆที่ขอบเขตในการมองของเขาถูกจำกัด
สวรรค์!
เขาทำเรื่องมหัศจรรย์อย่างนี้ได้ยังไง
เมื่อแม่ทัพแต่ละคนมองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ และนึกขึ้นได้ทันทีว่า ฟาง เจิ้งจือ นั้นเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในอาณาจักรเซี่ยตั้งแต่อดีตกาล
เด็กหนุ่มจากหมู่บ้านอันห่างไกล ไม่เคยเข้าศึกษาในหอแห่งเต๋ามาก่อน แต่เขาสามารถเป็นผู้ชนะทั้งสองด้านทั้งการทดสอบระดับมณฑล เมืองหลวง หรือระดับจักรรรดิก็ตาม
ที่สำคัญที่สุด ในการทดสอบระดับสภา เขาเองก็เป็นอันดับหนึ่งเช่นกัน และเป็นคนที่เสมอกับ หนานกง เฮา มันเป็นสิ่งที่ไม่มีใครเคยคิดมาก่อน
แต่ เขาสามารถทำมันได้
เหมือนที่ไม่นานมานี้ ไม่มีใครคิดว่า ฟาง เจิ้งจือ จะสามารถผ่านปราการธรรมชาติของดินแดนภูเขาทางใต้ หุบเขาสายลมมาได้ โดยไม่เสียทหารไปแม้แต่นายเดียว
ดังนั้นการที่เขาจะต่อสู้กับ หนานกง เฮา จะมีเรื่องนั้นเป็นไปไม่ได้อีก?
“เดินหน้า! ต่อสู้เพื่อแม่ทัพฟาง!“
“ใครที่ยอมแพ้จะได้รับการไว้ชีวิต!“
“วางอาวุธของลงซะ พวกเราเป็นทหารของอาณาจักรเซี่ยเหมือนกันไม่จำเป็นต้องมาขัดแย้งกันอีก!“
ตอนนี้เหล่าแม่ทัพนั้นต่างเต็มไปด้วยความฮึกเหิม พวกเขาพุ่งเข้าไปในกลยุทธ์ที่ หนานกง เฮา วางไว้ที่ตอนนี้ได้พังทลายลงแล้วอย่างสมบูรณ์
…
ภายในถิ่นฐานวานรน้ำแข็ง
ทหารคนหนึ่งได้วิ่งมาจากประตูทางเข้าถิ่นฐานมาที่บ้านหินขนาดใหญ่จนเหงื่อนั้นท่วมเต็มใบหน้าเขา
“นายน้อย นายน้อย ข่าวร้าย กลยุทธ์ที่ท่านวางไว้ได้พังทลายลงแล้ว!“ทันทีที่เข้าไปในบ้านหิน เขาคุกเข่าลงและรีบรายงานออกมาทันที
“อะไรนะ!? พังทลาย? เป็นไปได้ยังไงกัน!?” ท่าทีของชายวัยกลางคนเปลี่ยนไปทันที
“มันพังทลายลงแล้วจริงๆ ฟาง เจิ้งจือ สั่งให้ทหารของเขาขว้างหอกและยิงธนูเพื่อทำลายโครงสร้างของกลยุทธ์ ตอนนี้ทหารที่อยู่ในนั้นถูกจับตัวได้เกือบหมดแล้ว!“
“หอก และธนู? ฟาง เจิ้งจือ กล้าจริงๆงั้นรึ เขากล้าฆ่าทหารจำนวนมากอย่างงั้นรึ?“
“ไม่ ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้ใช้มันเพื่อ… เขาทำให้กลยุทธ์เกิดช่องว่างขึ้น มันทำให้ทหารไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ตามแผนที่วางไว้ จากนั้น … “
“ตามข้ามา พวกเราจะไปพบกับผู้สังเกตุการณ์!” ทันใดนั้นเสียงของ หนานกง เฮา ก็ดังออกมา และตามด้วยร่างในชุดสีขาวที่ปรากฎออกมาทันที ก่อนที่เขาจะเดินออกจากบ้านหินไป