ตอนแรกพวกเขาตัดสินใจเดินตาม เฉิน เฟยยู่ และ วู่ เฟิง เข้าไปในหุบเขาสายลม วางแผนที่จะรอจนกระทั่ง วู่ เฟิง และ เฉิน เฟยยู่ ลอบโจมตี หนานกง เฮา พวกเขาก็จะสังหารทั้งสองคนทิ้งซะ
อย่างไรก็ตามผลลัพธ์คือพวกเขาติดอยู่ในกลุยทธ์ที่ หนานกง เฮา วางไว้
ขณะที่พวกเขาคิดว่าตัวเองได้เจอปัญหาใหญ่ โชคของพวกเขาก็ปรากฎขึ้นอีกครั้ง ฟาง เจิ้งจือ สามารถจัดการกลยุทธ์ที่ หนานกง เฮา วางไว้ได้จริงๆและเขาทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นที่ทางออกของหุบเขาสายลม
สำหรับปีศาจทั้งสี่มันเหมือนกับโอกาสที่สวรรค์มอบให้
ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาไม่สามารถทนรอได้อีกต่อไป
ถ้าพวกเขายังรออีกจน ฟาง เจิ้งจือ สามารถออกมาจากหุบเขาสายลมได้ เมื่อถึงตอนนั้น ทหารหมาป่าเขาเงินที่อยู่ข้าง ฟาง เจิ้งจือ รวมถึงการเผชิญหน้ากับ หนานกง เฮา
พวกเขาก็จะไม่มีโอกาสอีกต่อไป
ดังนั้น…
ปีศาจที่ปลอมตัวมาจึงเลือกที่จะจู่โจมทันที
สิ่งที่เกิดหลังจากนั้นคือสิ่งที่ทุกคนได้เห็น แม้ ฟาง เจิ้งจือ จะรู้ตัวตนของพวกนั้น แต่เขาก็ไม่ได้ประกาศออกมาอย่างชัดเจน
ดังนั้นทำให้พวกมันมีโอกาสในการฆ่าคนอื่นอยู่
มันดูอาจจะเหมือนเกินจริง แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาก็เข้าทางพวกนั้นอยู่ดี เหล่าแม่ทัพไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมาในทันที
แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
ภายในหุบเขาสายลมไม่มีใครสามารถหยุดพวกเขาได้
และตอนนี้พวกเขาได้ฝ่าการปองกันอันสมบูรณ์แบบของหมาป่าเขาเงินมาได้จนถึงหน้าของ ฟาง เจิ้งจือ พวกเขามั่นใจว่าต่อให้ ฟาง เจิ้งจือ จะไปหลบอยู่หลังม้า ก็ไม่มีทางหลบการโจมตีของพวกเขาได้
เพราะการที่จะฟันร่างของคนคนหนึ่งให้กลายเป็นสองส่วนพร้อมกับม้าไม่ใช่เรื่องยากอะไร
และ…
ที่สำคัญที่สุดคือ ด้วยความสามารถของพวกเขา หลังจากสังหาร ฟาง เจิ้งจือ แล้วหนีไปอย่างปลอดภัยไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป
“ตาย!“
ปีศาจทั้งสี่ตะโกนออกมาพร้อมกัน
แสงสีเงินที่ปลายดาบพุ่งไปหา ฟาง เจิ้งจือ มันเคลื่อนที่มาด้วยความเร็วและบรรยากาศอันน่าหวาดกลัว
“เร็วเข้าปกป้องผู้ส่งสารฟาง!” เมื่อ เถิง ซือเซิง เห็นแสงที่เกิดขึ้น ท่าทีของเขาเปลี่ยนไปอย่างชัดเจนงานของเขาชัดเจนมากว่ามันไม่ใช่การปกป้อง ฟาง เจิ้งจือ
อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถปล่อยให้ ฟาง เจิ้งจือ ตายได้!
ในตอนนี้เอง แววตาของเหล่าทหารหมาป่าเขาเงินจ้องมองอย่างเปิดกว้าง แสงสีเงินจางๆที่กำลังส่องแสงอยู่ด้านหน้าพวกเขา ไม่ใช่เล็กๆเลยอย่างไรก็ตามพลังนี้ทำให้พวกเขาต่างรู้สึกถึงความหวาดกลัวจากข้างใน
นักรบของดินแดนภูเขาทางใต้เองก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน พวกเขาย่อมต้องมีความเกรงกลัวในใจเป็นปกติธรรมดา
อย่างไรก็ตามพวกเขาสามารถแปรเปลี่ยนความกลัวนี้ให้กลายเป็นความศรัทธาได้ ความศรัทธาที่รวมพวกเขาเป็นหนึ่งดั่งหินผาความศรัทธานี้ทำให้มั่นใจได้ว่าคำสั่งที่มอบให้จะบรรลุผลสำเร็จ
พวกเขายินดีที่จะเสียสละชีวิตของตัวเอง
เพราะฉะนั้นแล้ว ทันทีที่สิ้นเสียงประโยคของ เถิง ซือเซิง 2 ทหารหมาป่าเขาเงินด้านหลัง ฟาง เจิ้งจือ ก็พุ่งออกไปเหนือท้องฟ้าและใช้ร่างของตัวเองป้องกันแสงสีเงินด้านหน้า
ด้วยการที่มีทหารหมาป่าเขาเงินที่ด้านหลังของเขา ฟาง เจิ้งจือ ไม่สามารถหันหลังและวิ่งหนีไปได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อทหารหมาป่าเขาเงินพุ่งออกมา ปัญหาของเขาดูเหมือนจะจางหายไปทันที
มันเกิดช่องว่างที่ด้านหลังของเขาแล้ว
ช่องว่างนั้นทำให้เขาสามารวิ่งออกไปได้มากกว่าเดิมอีก 2-3 ก้าว แม้เขาจะไม่มั่นใจว่าตัวเองจะสามารถหลบหลีกการโจมตีจากแสงสีเงินนี้ได้ แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้มีความเป็นไปได้เพิ่มมากขึ้น
แต่อย่างไรก็ตาม ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้ทำเช่นนั้น
สามารถพูดได้ว่าถ้ามีช่องว่างเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาเขา ฟาง เจิ้งจือ จะไม่ลังเลแม้แต่น้อย
ฟาง เจิ้งจือ ไม่สนว่าคนอื่นจะคิดว่าเขานั้นไร้ยางอายแค่ไหน
อย่างไรก็ตามมันไม่ได้หมายความว่าเขาสามารถหลบอยู่หลังคนอื่นและดูพวกเขาใช่ร่างกายป้องกันแสงสีเงินจนบาดเจ็บได้
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นทหารหมาป่าเขาเงินที่พึ่งมีสัมพันธ์กันไม่นานก็ตาม
ตอนนั้นเอง ฟาง เจิ้งจือ เอามือทาบ ณ ตำแหน่งที่มิติพิเศษของเขาตั้งอยู่ ภายในนั้นมีของชิ้นหนึ่งอยู่
ชื่อของมันคือดาบไร้ร่องรอย!
ฟาง เจิ้งจือ ไม่รู้ว่าดาบไร้ร่องรอยจะสามารถป้องกันการโจมตีของแสงสีเงินนี้ได้ไหม แต่นั้นก็เป็นเพียงความหวังเดียวที่เขาจะคิดได้ แม้มันจะเป็นความหวังที่ริบหรี่มากก็ตามที
หลังจากที่ดาบเล่มนี้เคยรับการโจมตีของแม่ทัพไถ่มาแล้ว!
“ตึง!“
ในขณะนี้เสียงอันไพเราะมาก ๆ ก็ดังขึ้น มันไม่ได้ดังมาก แต่ดูเหมือนมันจะเต็มไปด้วยพลังที่น่ากลัว
“ตูม!“
เสียงดังขึ้น
แสงสีเงินดูเหมือนจะเข้าปะทะกับบางอย่างที่มาจากด้านข้าง มันค่อยๆสั่นท้านเล็กน้อย มันไม่ได้หายไป แต่เห็นได้ชัดเลยว่าพลังของมันลดลงเล็กน้อย
ทันใดนั้นเองกำปั้นของ เถิง ซือเซิง พุ่งออกไปอีกครั้ง
ออร่าสีเขียวแผ่ขยายคลุมรอบผิวของ เถิง ซือเซิง กำปั้นของเขาปะทะเข้ากับแสงสีเงินที่พุ่งเข้ามา มันทำให้แสงสีเงินสั่นสะท้านอีกครัง
มันเป็นการกระทำที่บังคับให้แสงสีเงินต้องเปลี่ยนทิศทางเล็กน้อย
เถิง ซือเซิง รู็ว่าทหารหมาป่าเขาเงินที่อยู่ด้านหลังเขาจะคอยปกป้อง ฟาง เจิ้งจือ อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่รู้คือ ถ้าบอกให้เขายืนดูเฉยๆละก็ไม่มีทางเป็นแบบนั้นแน่นอน
ดังนั้นเขาจึงต่อยออกไปเต็มแรง
แม้เขาจะไม่สามารถป้องกันได้อย่างสิ้นเชิง แต่การเปลี่ยนเส้นทางของมันเล็กน้อยก็เพียงพอที่จะปกป้องไว้ได้หลากหลายชีวิต
“ฟุ้บ!“
ในที่สุดแสงสีเงินก็พุ่งไปที่พื้น
เสียงร้องสองเสียงดังขึ้นในเวลาเดียวกัน เสียงหนึ่งเป็นเสียงร้องตกใจของม้า ฟาง เจิ้งจือมันไม่ใช่ม้าชั้นสูงนัก แต่ก็เป็น 1 ในสายพันธ์ชั้นยอดในเหล่าม้าทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ขาหน้าทั้งสองข้างของม้าตัวนั้นถูกตัดขาดด้วยแสงสีเงินที่พุ่งมา
เสียงอื่นๆก็ดังขึ้นชัดเจนมันเป็นเสียงของหมาป่าเขาเงินที่พุ่งขึ้นไปเหนือท้องฟ้าขาหน้าของมันก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน ขาทั้งสองข้างของมันถูกตัดจนกระเด็นขึ้นไปบนท้องฟ้าเช่นกัน
เลือดสาดกระเซ็นไปทั่ว…
ราวกับน้ำพุ
ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น หลังจากที่ตัดเลือดเนื้อของเหล่าสัตว์ป่าแล้วนั้น แสงสีเงินดูเหมือนไม่คิดจะหยุดเท่านั้นมันยังคงพุ่งไปด้านหน้าและตัดผ่านสิ่งต่างๆ
ทำให้ทหารหมาป่าเขาเงิน 2-3 คนแรกที่อยู่ด้านหลัง ฟาง เจิ้งจือ ได้รับบาดเจ็บ
อย่างไรก็ตามเสียงร้องเกิดขึ้นหลังจาก 2 เสียงแรก
เกิดจากการตัดผ่านเพียงครั้งเดียวเท่านั้น!
หลังจากเข้าปะทะกับพลังทั้งหมดของ เถิง ซือเซิง มันยังคงทำให้ทหารหมาป่าเขาเงินได้รับบาดเจ็บอยู่ 5-6 นาย
เพียงแค่นี้ ก็สามารถรู้ถึงความร้ายกาจของวิชานี้ได้แล้ว
มือของ ฟาง เจิ้งจือ ยังคงทาบที่อก เพราะว่าเขาเห็นว่าแสงสีเงินเบี่ยงไปในทิศทางอื่นแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ได้หยิบไร้ร่องรอยออกมาในทันที
จริงๆ เขาก็ไม่มั่นใจเต็ม 100% ว่าดาบไร้ร่องรอยจะสามารถป้องกันสิ่งนั้นได้
“หยุดพวกเขา!“
“พวกเขาไม่ใช่มนุษย์พวกเขาเป็นปีศาจ!“
“ปกป้องนักปราชญ์ พวกเราต้องไม่ให้ปีศาจพวกนั้นทำอันตรายอะไรอีก“
ขณะที่ ฟาง เจิ้งจือ จะตะโกนออกมานันเองว่าคนเหล่านี้เป็นปีศาจ ก็มีเสียงตะโกนดังขึ้นมาก่อนที่เขาจะได้พูดอะไร
มันทำให้เขาค่อนข้างสับสนเล็กน้อย
ทำไมกัน?
ใครกันที่มีการตอบสนองที่รวดเร็วเช่นนี้?
ในที่สุดเขาก็เห็นร่างที่ยืนอยู่ไม่ไกล
เขาเป็นคนหนุ่มที่ใส่ชุดเกราะสีเขียวหยกที่ออกแบบอย่างประณีต เขาถือขลุ่ยไว้ที่ปากของเขา ขณะที่อีกมือถือหน้ากากอยู่
ใต้เท้าของเขา ‘นายน้อยหลี่’ ที่ได้หมดสิ้นลมหายใจสุดท้ายแล้ว ได้เผยให้เห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริง ดวงตาปีศาจบนหน้าผากได้ปรากฎขึ้นมาให้เห็นชัดเจน
ในตอนนั้นเอง ฟาง เจิ้งจือ นึกถึงเสียงที่รื่นหู แต่เป็นน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความแข็งแกร่งถ้าเขาเดาไม่ผิด เสียงนั้นน่าจะเป็นเสียงจากขลุ่ยหยกของ วู่ เฟิง แน่
ดูเหมือนว่า …
เต๋าแห่งท่วงทำนองจะทรงพลังมากทีเดียว
เมื่อตอนที่ ฟาง เจิ้งจือ จับ วู่ เฟิง แน่นอนว่าเขาไม่เปิดโอกาสให้ วู่ เฟิง ได้ใช้เต๋าแห่งดนตรีนอกจากนี้ เขาไม่ได้ทิ้งขลุ่ยหยกเขียวไว้ให้ วู่ เฟิง ใช้มัน
ดังนั้นแม้จะรู้ชัดเจนว่า วู่ เฟิง ค่อนข้างแข็งแกร่ง
แต่เขาก็ยังไม่เคยเห็น วู่ เฟิง ใช้เต๋าแห่งท่วงทำนองจริงๆแม้แต่น้อย
นี่อาจนับเป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็น
มันทำให้เขาตกใจไม่มากก็น้อย ถึงแม้ว่าพลังจากเต๋าแห่งท่วงทำนองจะไม่ได้มีพลังมากนัก แต่ดูเหมือนจะมีข้อได้เปรียบที่ชัดเจน
คาวมเร็วของมันนั้นสูงมาก!
นอกจากนี้ นอกเหนือจากความเร็วแล้ว จุดที่ปรากฎขึ้นมาก็ลึกลับเป็นอย่างมากมันเป็นจริงสามารถที่จะตีเงินเรืองแสงที่แคบมากโดยใช้เสียงที่มีความแม่นยำเช่นจากระยะไกลดังกล่าวออกไป มันเป็นเรื่องยากมากที่แสงสีเงินเส้นบางๆสามารถควบคุมได้ด้วยเสียงเพื่อให้กระทบเป้ามาย
มันเกิดจากความแม่นยำและพลังของเต๋าแห่งท่วงทำนอง
ไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นๆจะเทียบได้
วู่ เฟิง!
นักปราชญ์ผู้เป็นอันดับ 3 บนทำเนียบมังกรดาวรุ่ง หนึ่งในศิษย์ของสี่เซียน พลังของเขาค่อนข้างน่าเหลือเชื่อ ข้าสงสัยจริงๆวาตัวข้าจะสามารถเอาชนะเต๋าแห่งท่วงทำนองได้ไหม?
ฟาง เจิ้งจือ ครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะหนึ่ง เขามีเพียงโอกาสห้าสิบเปอร์เซนต์เท่านั้นที่จะทำได้
ดังนั้นเขาจึงรีบเปลี่ยนความคิดอย่างรวดเร็ว ถ้าเขามีโอกาสสู้กับ วู่ เฟิง จริงๆ อย่างแรกเขาต้องมั่นใจว่าจะขโมยขลุ่ยหยกมาได้ก่อน หรือทำให้ วู่ เฟิง ไม่มีโอกาสจะเป่าขลุ่ย
ดวยวิธีนี้โอกาสที่จะชนะของเขาเพิ่มเป็นแปดสิบเปอร์เซนต์
แผนที่สมบูรณ์แบบ
แน่นอนว่า ฟาง เจิ้งจือ ไม่ต้องพิจรณาว่าเสียงมาจากที่ไหนอีกต่อไป เพราะเมื่อ วู่ เฟิง ลอกหน้ากากของนายน้อยหลี่ออก ความจริงก็ปรากฎขึ้นมาทันที
ยิ่งไปกว่านั้นการโจมตีอันรุนแรงของปีศาจทั้งสี่ก็เป็นการเปิดเผยเจตนาของพวกเขาแล้ว
“เร็วเข้า จับพวกเขา!“ในเวลานี้แม่ทัพไม่คิดจะรอให้ ฟาง เจิ้งจือ ออกคำสั่ง ทหารที่อยู่ด้านหลังทุกคนดึงธนูขึ้นมาทันที
เมื่อปีศาจทั้งสี่เห็นฉากที่เกิด ท่าทีของพวกเขาดูค่อนข้างเจ็บปวด
“ดูเหมือนว่าพวกเจ้าทั้งสี่จะมาจากเผ่าพันธุ์ปีศาจ!? อย่าหวังว่าจะทำร้ายคนของอาณาจักรเซี่ยได้ วันนี้ข้าจะสู้กับเจ้าจนชีวิตหาไม่!” ทันใดนั้นนักปราชญ์สองคนที่ตามทั้งสี่มาตะโกนขึ้นมาทันที ก่อนที่พวกเขาจะพุ่งผ่านปีศาจทั้งสี่และมายืนขวางหน้า ฟาง เจิ้งจือ เอาไว้