Gate of God – ตอนที่ 393

เฉิน เฟยยู่ รู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้ต่อสู้กับ หนานกง เฮา การที่เขาถูกจัดการได้ในกระบวนท่าเดียวจึงเป็นเรื่องน่าเศร้าไม่น้อย

ที่สำคัญ เขายังไม่รู้เลยว่าตัวเองแพ้ได้ยังไง 

อย่างไรก็ตาม …
แต่ไม่ว่าเขาจะสงสัยแค่ไหน ความจริงก็คือเขาได้แพ้แล้ว คำถามที่คาอยู่ในใจของผู้เข้าสอบก็ถูกทำให้กระจ่างแล้วเช่นกัน
สี่ปีที่แล้ว หนานกง เฮา ราวกับดาวที่สดใสที่สุดในอาณาจักร สี่ปีถัดมาสามารถใช้ได้เพียงคำเดียวเพื่ออธิบายความเก่งกาจของเขา

น่าสะพรึงกลัว!

ทั้งทรงพลังและเด็ดขาด  ยากที่จะมีใครต่อกรเขาได้
หนานกง เฮา โจมตีเพียงครั้งเดียว อย่างไรก็ตามการโจมตีนี้กลับทำให้ในใจของเหล่าผู้เข้าสอบหวาดหวั่น
ทุกคนมองหน้ากันด้วยความตกตะลึง  พวกเขาถึงกับพูดไม่ออก
ตอนที่ หนานกง เฮา โจมตี พวกเขาคิดเพียงว่ามันเป็นการโจมตีธรรมดาๆยกเว้นแค่ความเร็วเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อดาบเจาะผ่านกำแพงวารีของ เฉิน เฟยยู่ เข้าไป พวกเขาต่างเต็มไปด้วยความสงสัย
ในตอนนั้น…
ราวกับเวลาได้ถูกหยุดลง

ในตอนที่ดาบของ หนานกง เฮา สัมผัสกับกำแพงวารีมันก็เหมือนกับเขาได้หายไปทันที เหมือนกับเขาหายตัวเข้าไปในกำแพงวารี

แต่ผู้เข้าสอบทุกคนต่างรู้ดีว่าต่อให้ หนานกง เอา จะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่เขาก็ไม่สามารถเคลื่อนย้ายตัวเองผ่านกำแพงวารีได้
แม้แต่คนที่อยู่ในระดับจุติก็ใช่ว่าจะเคลื่อนย้ายผ่านสิ่งของได้(เทเลพอร์ต)
ดังนั้นไม่มีทางที่ หนานกง เฮา จะทำแบบนั้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อดาบของ หนานกง เฮา สัมผัสเข้ากับกำแพงวารีของ เฉิน เฟยยู่ หนานกง เฮา ดูเหมือนได้หายตัวไปทันที
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดขึ้น
มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว
เขาได้หลอมรวมเข้ากับกำแพงวารี

เมื่อดาบสัมผัสเข้ากับกำแพงวารีมันก็หลอมรวมเข้าด้วยกันทันที  ตอนนั้นเองที่ หนานกง เฮา และ กำแพงวารี ได้รวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
มันเป็นการหลอมรวมที่ไร้ที่ติ  มันเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้หยดน้ำที่เกิดจากกำแพงวารีที่ฉีกขาดไม่เข้าโจมตี กำแพงวารีจะไม่มีทางโจมตีใส่ตัวเอง

“เจ้าสามารถควบคุมทุกอย่างได้ แต่ข้าก็เช่นกัน!
ผู้เข้าสอบต่างนึกถึงสิ่งที่่ หนานกง เฮา ได้พูดเอาไว้ พวกเขาเข้าใจอย่างแท้จริงว่ามันหมายความว่าอะไร แม้แต่ตัว เฉิน เฟยยู่ เองก็รู้

อย่างไรก็ตาม …
พวกเขาไม่เชื่อ พวกเขาปฏิเสธที่จะเชื่อ!
เขาหลอมรวมตัวเองเข้ากับเต๋า!
มันเป็นเรื่องที่น่าหวาดหวั่นมาก?!
มันยิ่งกว่าความรุนแรงของสายน้ำอันเชี่ยวกราดหรือลมพายุเสียอีก 
สิ่งที่พวกเขาสงสัยว่า ตอนนี้ หนานกง เฮา จะเก่งกาจขนาดไหน ได้ถูกตอบแล้วเรียบร้อยแล้ว่

“เจ้าเห็นชัดเจนไหม?” ในที่สุด เหยียน ซิว ก็พูดออกมา เขาไม่ได้ชื่นชม หนานกง เฮา หรือบอกจุดอ่อนชอง หนานกง เฮา ออกมา
เขาแค่ถามคำถามธรรมดาๆออกมา
แต่ ฟาง เจิ้งจือ ก็เข้าใจได้ว่า เหยียน ซิว หมายความว่าอะไรทันที
“ข้ายังมีทหารจำนวนมาก และมีเวลาเหลือเฟือ  ถ้าข้าอยากเข้าไปดูใกล้ๆ ข้าก้มีตั้งหลายวิธีที่จะทำได้ ” ฟาง เจิ้งจือ ส่ายหัวเบาๆ
เขารู้ดีว่า เหยียน ซิว คิดอะไรอยู่ แต่เขาไม่อยากยอมรับมัน

“ถ้าข้าเดาไม่ผิด เจ้าคงไม่สามารถใช้ทหารที่ยืนอยู่ด้านหลังเจ้าได้  อย่างน้อยเจ้าก้ใช้พวกเขา เอาชนะ หนานกง เฮา ไม่ได้” เหยียน ซิว ส่ายหัวและพูดต่อ
“ทำไม?” ฟาง เจิ้งจือ ไม่เข้าใจ
“เพราะ หนานกง เฮา ออกมาจากถิ่นฐานคนเดียว!” เหยียน ซิว อธิบาย
มันไม่ใช่คำอธิบายที่ชัดเจน แต่ ฟาง เจิ้งจือ ก็เข้าใจได้ในทันที ใครจะกล้าออกมาคนเดียว ถ้าตัวเองไม่มีความมั่นใจว่าจะชนะ?
เห็นได้ชัดว่าไม่มี

หนานกง เฮา เดินทางไกลมาที่เมืองหลวง การเข้าร่วมการทดสอบของเขาไม่ได้เพียงเพื่ออันดับดีๆเท่านั้น
ความจริงที่เขามา…
เพื่อล้างความอับอายให้กับตระกูลหนานกง
ด้วยความคิดนี้ เขาตัดสินใจที่จะเดินออกมาเผชิญกับกองทัพนับครึ่งแสน
มันมีความหมายเพียงอย่างเดียว
หนานกง เฮา มั่นใจมาก เขารู้ว่าตัวเองจะชนะ  แต่ก็อย่างที่พูด เขาไม่มีทางเอาชนะทหารห้าหมื่นนายได้

หนึ่งสู้กับห้าหมื่น?
มันใกล้เคียงกับคำว่าเป็นไปไม่ได้  ตำนานต่างๆที่บอกว่าคนเดียวสามารถเอาชนะทั้งกองทัพได้มันก็เป็นเพียงแค่ตำนาน
ต่อให้ทหารทั้งห้าหมื่นนายยืนอยู่เฉยๆให้ฆ่า มันก็ใช้เวลาหลายวันหลายคนหว่าจะฆ่าได้ทั้งหมด  นอกจากนี้ในความเป์นจริงทหารเหล่านี้รู้วิธีหนีและต่อสู้

ฟาง เจิ้งจือ รู้สิ่งที่ เหยียน ซิว พูด แต่ ฟาง เจิ้งจือ ไม่รู้ว่า หนานกง เฮา จะทำให้กองทัพของเขาแพ้ได้ยังไง
คำสั่งทางทหาร?
หรือคำสั่งส่วนตัวขององค์จักรพรรดิ?
ฟาง เจิ้งจือ คิดได้ทันที เขารู้มาตลอดว่าการทดสอบด้านการต่อสู้มีเพื่อปกปิดบางอย่างที่ยิ่งใหญ่วก่า มันเกี่ยวของกับทหารทั้งหมดด้วย

เขาไม่รู้ว่าทหารจะถูกนำไปใช่ได้ยังไง
อย่างไรก็ตาม การที่เขาไม่รู้ใช่ว่า หนานกง เฮา จะไม่รู้
ดูเหมือนแผนการเบื้องหลังจะได้เริ่มไปแล้ว  ทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนเป็นส่วนหนึ่งของแผน
มันเป็นสิ่งที่ ฟาง เจิ้งจือ คาดเดา เหยียน ซิว ก้คิดแบบเดียวกัน อย่างไรก็ตาม เขาไม่รู้ ต่อให้พยายามมากแค่ไหน

“แม่ทัพหลี่ เอาทหารพันนายไปล้อม หนานกง เฮา เอาไว้!” ฟาง เจิ้งจือ ไม่สั่งให้ทั้งหองทัพเคลื่อนไปด้านหน้า การทำแบบนั้นไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเท่าไร
“รับทราบ!” แม่ทัพหลี่ ตอบรับทันที 

แม่ทัพเชื่อฟังคำสั่ง
มันเป็นเรื่งที่แปลก  ทำให้ ฟาง เจิ้งจือ สงสัยว่าตัวเองและ เหยียน ซิว คิดผิดหรือไม่
ทหารทั้งพันนายรวมกลุ่มกันอย่างรวดเร็ว
สามร้อยถือโล่ สามร้อยถือหอก สามร้อยถือดาบ และอีกหนึ่งรอยถือธนู

มันเป็นการจัดทัพที่เหมาะที่สุด  ถือเกราะยืนอยู่หน้าสุด ถือหอกยืนอยู่ตรงกลาง และนักธนูยืนหลังสุด ส่วนนักดาบคอยป้องกันด้านหลังอีกที  พวกเขาล้อมรอบ หนานกง เฮา…
“ตึง!
ทหารพันนายก้าวไปด้านหน้าอย่างพร้อมเพียง  พวกเขาเดินไปทาง หนานกง เฮา บรรยากาศแห่งความตายถูกปล่อยออกมา

ผู้เข้าสอบมอบไปด้วยความสับสน
พวกเขารู้สึกว่าวิธีที่มีเกียรติที่สุดคือแม่ทัพของทั้งสองฝ่ายออกมาสู้กัน  เพราะนี่คือการทดสอบด้านการต่อสู้และเป็นการทดสอบความเป็นผู้นำ
หนานกง เฮา นั้นแข็งแกร่งกว่า ฟาง เจิ้งจือ มาก สำหรับ ฟาง เจิ้งจือ การที่จะใช้กำลังทหารในการสู้ไม่ใช่เรื่องแปลก
ถ้าเป็นพวกเขาก็จะทำเช่นเดียวกัน
เฉิน เฟยยู่ ยืนนิ่ง เขาไม่รู้ว่าตัวเองควรกลับไปอยู่ในกองทัพ ฟาง เจิ้งจือ หรือคุกของถิ่นฐานวานรน้ำแข็งดี

หนานกง เฮา ยังคงยืนนิ่ง อย่างไรก็ตามเขายืนอย่างมั่นคงกว่า เฉิน เฟยยู่ ไม่มีส่วนไหนของร่างกายเขาขยับแม้แต่น้อย
ทหารพันนายเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว  ไม่นานพวกเขาก้ไปอยู่ หนานกง เฮา และล้อมเอาไว้
ฟาง เจิ้งจือ หันไปมอง เหยียน ซิว

สายตาของ เหยียน ซิว จับจ้องไปที่ถิ่นฐานวานรน้ำแข็ง ราวกับเขารอให้ใครปรากฎตัว
“มีคนอื่นอยู่ในถิ่นฐานวานรน้ำแข้งงั้นหรือ?” ฟาง เจิ้งจือ ถาม
“ข้าไม่แน่ใจ” เหยียน ซิว ส่ายหัว
“อืม งั้นก็รอดู” ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้า
อาจจะเป็นเพราะคำพูดของ ฟาง เจิ้งจือ แม่นยำเกินไป หรือ เหยียน ซิว มีเวทมนตร์ ทันใดนั้นมีร่างหนึ่งปรากฎขึ้นที่ประตูถิ่นฐาน
เป็นเด็กหนุ่มที่ขี่ม้าสีเขียว  เขาสวมชุดเกราะสีเขียว แต่ต่างจากของทหารอาณาจักรเซี่ย


“มึคำสั่ง!
นั่นหมายความว่าเขาเป็นผู้ส่งสาร
การที่เขาเปิดเผยตัวออกมานั้นหมายความว่าผู้รับสารอยู่ที่นี่
“นี่เป็นคำสั่งจากองค์รัชทายาท!
เสียงของเขาดังก้อง  ในเวลาเดียวกันเขาก็หยิบเหรียญตราขององค์รัชทายาทออกมา
ทหารและ หนานกง เฮา ต่างหยุดนิ่งทันที
ทุกคนต่างมองหน้ากัน  แม่ทัพหลี่ผู้ที่ควบคุมทหารพันนายก็มองไปทาง ฟาง เจิ้งจือ โดยอัตโนมัติ ก่อนที่เขาจะกระโดดลงจากหลังม้า และคุกเข่าลง

ฟาง เจิ้งจือ รวมถึงทุกคนก็เช่นกัน พวกเขารู้ว่าเหรียญตรานั้นหมายความว่าอะไร
นี่เป็นคำสั่งทหาร!
ต้องปฏิบัติตามเท่านั้น!
เหรียญตรานั้นแทนตัวตนขององค์รัชทายาท ซึ่งองค์รัชทายาทนั้นเป็นหัวหน้าผู้คุมสอบในครั้งนี้

หรือพูดง่ายๆ ถ้าไม่มีคำสั่งองค์จักรพรรดิ คำสั่งขององค์รัชทายาทก็ถือว่าเป็นที่สุด  พวกเขาไม่มีสิทธิถาม
ผู้เข้าสอบทุกคนคุกเข่าลง
ส่วน ฟาง เจิ้งจือ ไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้มากนัก อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นปฏิกริยาคนรอบๆเขาก้พอคาดเดาได้

อย่างไรก็ตาม ฟาง เจิ้งจือ ค่อนข้างผิดหวัง
เขาคิดว่า หนานกง เฮา จะมีคำสั่งลับจากองค์จักรพรรดิ อย่างไรก็ตามเขาไม่คิดว่าจะมาจากองค์รัชทายาท
แม้องค์รัชทายาทจะเป็นหัวหน้าผู้คุมสอบ แต่ก็ต้องทำตามกฎและไม่สามารถตัด ฟาง เจิ้งจือ ออกจากการทดสอบได้
เว้นแต่…

พวกเขากำลังจะประกาศสงครามกับดินแดนภูเขาทางใต้

ภายใต้สถานการณ์พิเศษเท่านั้นที่การทดสอบจะถูกหยุดลง  การทดสอบจะดำเนินต่อไปได้เมื่อทุกอย่างอยู่ในความปกติ
มันเป็นวิธีรักษาความเป็นธรรมในการทดสอบ
พวกเขากำลังจะเปิดฉากต่อสู้กัน?

ขณะที่ ฟาง เจิ้งจือ คิดถึงเรื่องนี้ ผู้ส่งสารก็ได้กวาดสายตามองทุกคนก่อนจะพูดออกมา
“คำสั่งขององค์รัชทายาทต้องปฏิบัติตามเท่านั้น!  ฟาง เจิ้งจือ ไม่ยอมมาในวันประกาศผลสอบนั่นเป็นความผิดงแรกของเขา! อย่างที่สองคือเขาไม่รายงานต่อองค์รัชทายาทเมื่อเข้าดินแดนภูเขาทางใต้  อย่างที่สามคือเขาไม่ได้รายงานผลการทดสอบด้านการต่อสู้ให้ทันเวลา  เขาได้ทำลายความสมบูรณ์แบบของการสอบ  องค์รัชทายาทสั่งให้ตัดสิทธิ์ ฟาง เจิ้งจือ ชั่วคราวเขาจะถูกเรียกตัวหลังจากการสอบสวนบอกว่าเขาไม่ได้ผิด!
เสียงของผู้ส่งสารดังมาก  ทุกคนล้วนได้ยินชัดเจน
อย่างไรก็ตามพวกเขาทั้งหมดต่างตะลึงโดยสิ่งที่พวกเขาได้ยิน

“ถูกตัดสิทธิ์ชั่วคร

Gate of God

Gate of God

GoG, 神门
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2015 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Gate of Godเรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset