Gate of God – ตอนที่ 398

“ลืมใครไปหรือเปล่า?!

ผู้เข้าสอบททุกคนต่างตกตะลึงเมื่อได้ยิน ฟาง เจิ้งจือ จากสิ่งที่พวกเขารู้ ฟาง เจิ้งจือ ไม่เคยเข้าเรียนที่ไหน

ถ้าเขาไม่เคยเข้าศึกษา เขาเข้าใจประวัติศาสตร์ได้ยังไง?

ยิ่งพูดถึงการที่ไม่รู้หนังสือแล้วสามารถอ่านกฎแห่งเต๋าได้ นั่นก็เป็นไปไม่ได้แล้ว

“หรือข้อมูลที่ได้มาจากตระกูลหนานกงจะผิด?”

“ฟาง เจิ้งจือ พูดว่า หนานกง เฮา ลืมใครบางคนไป? เป็นไปได้ยังไง?

“ใช่แล้ว! แม้ว่าข้าจะไม่ต้องสนใจคนพวกนี้ ข้าจำได้ว่าบางคนเคยบอกข้าถึงเรื่องของ 10 คนในประวัติศาสตร์ผู้สามารถรวบรวมได้มากกว่าร้อยเต๋า! หนานกง เฮา กำลังกล่าวถึงบุคคลทั้ง 10 ครบแล้ว ขาดใครไปอีกงั้นหรือ?

“ข้าคิดว่าเขาคงพยายามใช้วิธีอันไร้ยางอายทำให้พวกเราสับสน

ผู้เข้าสอบทั้งหมดต่างส่ายหน้าแล้วมองไปที่ ฟาง เจิ้งจือ อย่างรังเกียจ

แต่…

ไม่มีใครสามารถพูดได้ว่าเขาผิด

ทุกตำนานนั้นไม่สามารถพิสูจน์ได้  ไม่มีใครรู้ว่าที่ หนานกง เฮา พูดออกมาเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องเล่า

อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่สิ่งที่นักปราชญ์จะทำ

เนื่องจากผู้เข้าสอบทั้งหมดต่างก็คิดถึงสิ่งที่ ฟาง เจิ้งจือ ทำได้ หนานกง เฮา เองก็เช่นกัน แต่เขาก็ไม่ได้โกรธเคืองในคำถามของ ฟาง เจิ้งจือ

 

“ที่นายน้อยฟางพูดว่าข้าได้ลืมใครไปนั้น มีหลักฐานหรือไม่“น้ำเสียงของ หนานกง เฮา ไม่ดังแต่เสียงของเขาดูเคร่งขรึม

“ข้ามี” ฟาง เจิ้งจือ พยักหน้าอย่างไม่ลังเล

“เอาล่ะ ถ้าหากนายน้อยฟางสามารถพิสูจน์ได้ว่า ข้าได้ลืมใครไปจริงๆ ข้าจะยอมรับในความเขลาและขอโทษเจ้าอย่างไรก็ตาม ถ้าเจ้าไม่สามารถพิสูจน์ได้ โปรดขอโทษข้าด้วยสำหรับคำกล่าวหาเช่นนั้น!“หนานกง เฮา ตอบอย่างเท่าเทียม

ดวงตาของเขาส่องประกาย ท่าทีของเขาสุขุมเยือกเย็น อย่างไรก็ตามภายใต้ท่าทีเหล่านั้นก็เต็มไปด้วยความมั่นใจ

ผู้เข้าสอบทุกคนต่างยิ้มและหัวเราะเยาะเมื่อได้ยินเรื่องนี้

พวกเขาไม่เชื่อว่า ฟาง เจิ้งจือ จะสามารถหาหลักฐานเพื่อพิสูจน์คำพูดของเขาได้ มันเป็นความจริงที่มีการบันทึกเอาไว้ว่ามีเพียงสิบคนเท่านั้นที่ทำได้

ฟาง เจิ้งจือ เองก็ยิ้มเช่นกัน

มันเป็นความจริงที่มีการบันทึกเอาไว้ว่า 10 คนที่เข้าถึงเต๋ามากกว่าร้อย

แต่ทว่านั่นแค่หนังสือประวัติศาสตร์

 

“มีเพียง 10 คนที่เข้าถึงเต๋าได้มากกว่าร้อยงั้นรึ?“นี่เป็นครั้งแรกที่ ฟาง เจิ้งจือ ได้ยินเรื่องนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะ หนานกง เฮา เป็นคนพูด เขาไม่มีทางเชื่อ

อย่างไรก็ตามเขามีเต๋าจำนวนมากอยู่ในมิติพิเศษของเขา

ด้วยเหตุนี้เองเขาจึงคิดมาตลอดว่าการมีหนึ่งร้อย หรือหลายร้อยดวงในมิติพิเศษนั้นเป็นเรื่องปกติ

แน่นอนว่า ฟาง เจิ้งจือ ไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ปกติ ไม่มีใครเคยทำได้แบบเขามาก่อน และมันก็ไม่น่าเป็นไปได้ที่ในอนาคจะมีใครสามารถทำได้สำเร็จเช่นกัน

เขาไขปริศนาภาพเต๋าแห่งการสรรค์สร้างได้ตั้งแต่ 6 ขวบและเข้าถึงวถีแห่งเต๋าได้

มันเป็นเรื่องที่หาได้ยากมากในอาณาจักรเซี่ย ในอาณาจักร มีไม่ถึง 3 คนที่เข้าถึงเต๋าได้ก่อนอายุ 7 ขวบ

อัจฉริยะเหล่านี้ ล้วนได้รับการเรียนการสอนอย่างไร้ที่ติ และมีทรัพยากรมากมายให้พวกเขา

สำหรับบางคนที่จะทำสิ่งนี้โดยปราศจากความรู้ได้?

นั่นมันอาจจะยากเสียยิ่งกว่าการงมเข็มในมหาสมุทร

อย่างไรก็ตาม ฟาง เจิ้งจือ นับเป็นความอัศจรรย์ เขาเข้าถึงเต๋าได้ตั้งแต่ 6 ขวบแต่กลับไม่ได้เรียนรู้เรื่องอื่นๆเลย ไม่มีเลยจริงๆ

อย่างไรก็ตาม ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้โง่

 

เขามีวิธีการเป็นของตัวเอง เขาพัฒนาวิธีการนี้มาจากวิชาคณิตศาสตร์ที่เขาเรียนรู้มาตอนประถมหนึ่งบวกหนึ่งเท่ากับสอง  สองบวกหนึ่งเท่ากับสาม

เขาใช้ความรู้ทั่วไปแก้ปัญหาในการฝึกฝน และเขาเริ่มได้รับแรงฉุดบางอย่างในการฝึกฝน

ตั้งแต่เขาเข้าถึงเต๋าตอน 6 ขวบ เขาก็ทำอยู่เพียงสิ่งเดียวเท่านั้นเขาพยายามเข้าาถึงเต๋าให้มากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ ครูคนหนึ่งในโรงเรียนประถมของเขาได้สอนเขาไว้สิ่งหนึ่ง

 

สองย่อมดีกว่าหนึ่งอย่างแน่นอน!

นอกจากนี้ เมื่อตอนที่ ฟาง เจิ้งจือ เข้าถึงเต๋าที่สองของเขา มันต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงความสามารถของเขาเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว

เวลาผ่านพ้นไป เขายังคงเรียนรู้และเข้าถึงเต๋ามากขึ้นเรื่อยๆ

ฟาง เจิ้งจือ ไม่เคยหยุดพยายาม เขาใช้เวลาทุกวันตลอดปีเพื่อเข้าถึงเต๋าดวงใหม่ๆ หลังจากนั้น 2-3 ปี ต้นไม้ในมิติพิเศษของเขาก็ถูกเติมเต็มด้วยผลไม้มากมาย

ผลไม้มีหลากสีประดับอยู่บนต้นไม้ใหญ่ในมิติพิเศษของเขา  เขาเคยคิดว่าตัวเองนั้นเก่งที่สุด

อย่างไรก็ตามหลังจากออกจากหมู่บ้านภูเขาทางเหนือ เขาถึงเข้าใจว่าตัวเองเป็นกบในกะลา่

หมายความว่ามีคนทำได้แบบเขา?

ฟาง เจิ้งจือ ไม่รู้ ทั้งหมดที่เขารู้คือเขามีเต๋ามากกว่าร้อยดวงในมิติพิเศษ

 

ดังนั้นเมื่อเขาได้ยิน หนานกง เฮา เขาจึงยิ้มเยาะออกมา

หนานกง เฮา สามารถเห็นรอยยิ้ม ฟาง เจิ้งจือ ได้ เขาสัมผัสได้ถึงความมั่นใจภายใต้รอยยิ้มนั้น

อย่างไรก็ตามเขาไม่เข้าใจว่า ฟาง เจิ้งจือ ไปเอาความมั่นใจมาจากไหน?

จนกระทั่ง …

ฟาง เจิ้งจือ ยกมือขึ้นและชี้ไปที่ตัวเอง  จากนั้น ฟาง เจิ้งจือ ก็พูดสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด

“เจ้าลืมข้า!”ฟาง เจิ้งจือ ตอบอย่างเรียบง่าย   ราวกับเขาพูดเรื่องจริงออกมา

“เจ้าลืมข้า!

“ลืม…”

“ข้างั้นรึ?

คำพูดของ ฟาง เจิ้งจือ เรียบง่ายมาก อย่างไรก็ตามมันทำให้ผู้เข้าสอบรอบๆต่างถกเถียงกันด้วยความไม่เชื่อ

 

ทุกคนล้วนตกใจ

“ฟาง เจิ้งจือ พูดอะไรออกมานะ?

“น่าจะเป็น หนานกง เฮา ลืมเขานะ !

“ลืม? เขาหมายถึงอะไร?

 

“เขาน่าจะหมายความว่า หนานกง เฮา ไม่ได้กล่าวถึงชื่อเขา?

 

“โอ๊ย! ข้ารู้…แล้ว… มันหมายความว่ายังไง

“ไม่มีทาง มันเป็นไปไม่ได้?  ฟาง เจิ้งจือ ไม่เคยเข้าเรียน แต่กลับบอกว่าสามารถรวบรวมเต๋าได้มากกว่าร้อยดวง?

ทุกคนไม่สามารถซ่อนความตกใจเอาไว้ได้

ที่ หนานกง เฮา บอกว่าผู้ที่รวบรวมเต๋ามากกว่าร้อยดวง ไม่มีใครที่สามารถเข้าถึงระดับเซียนได้  มันก็เป็นแค่คำพูดเท่านั้น ความเป็นจริงจะมีสักกี่คนที่เป็นเซียนได้?

เซียน

นั้นราวกับเรื่องที่เป็นความฝัน  มันไม่ทางเป็นจริงได้ในหลายๆคน

 

ในทางตรงกันข้าม ผู้ที่รวบรวมเต๋าได้มากกว่าร้อยล้วนถูกเรียกว่าวีรบุรุษ 

แก้ไขแล้ว
มันเป็นความจริงที่คนจำนวนหนึ่งทำได้

สำหรับ หนานกง เฮา เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่ตกใจ

เพื่อที่จะเข้าใจเต๋านับร้อย จะต้องอาศัยพรสวรรค์เป็นอย่างมาก  รวมถึงมันเป็นเรื่องยากลำบากมากกว่าการที่จะฝึกฝนเต๋าดวงเดียวให้เชี่ยวชาญ

ที่สำคัญมันเป็นการตัดสินใจอันยิ่งใหญ่

คนผู้นั้นอาจจะสามารถเข้าถึงรดับสะท้อนสวรรค์ได้ภายในปีเดียว  อย่างไรก็ตามเขาเลือกที่จะกดระดับพลังไว้อยู่ที่ระดับผนวกดาราเพื่อรวบรวมและศึกษาเต๋า

เมื่อสี่ปีก่อน หนานกง เฮา ปฏิเสธการเข้าร่วมศาลาเต๋าสวรรค์ด้วยขออ้างที่บอกว่าพื้นฐานยังไม่ดีพอ  เขากลับไปที่ตระกูลกว่าสี่ปี

ตอนนั้นเขาก็คิดจะทำแบบนี้ด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม เขายอมแพ้  เพราะมันยากและใช้ความพยายามมากเกินไป  ยิ่งไปกว่านั้นไม่มีใครการันตีความสำเร็จได้

ถนนทุกสายล้วนมุ่งหน้าไปเมืองโรม  ทุกแนวทางในการบ่มเพาะพลังล้วนมีผลต่อความแข็งแกร่ง

ถ้ามีทางที่ง่ายและยากให้เลือก ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผู้คนจะเลือกอันไหน

 

หนานกง เฮา เลือกที่จะฝึกฝนพัฒนาหัวใจของตัวเอง

เช่นนั้นหลังจากฝึกมาสี่ปีเขาก็สามารถเข้าถึงระดับอภินิหารขั้นสูงสุดได้

ความก้าวหน้าของเขาน่ากลัวมาก

 

หนานกง เฮา เชื่อว่าเขาได้เลือกเส้นทางที่ดีที่สุดแล้ว

อย่างไรก็ตามเมื่อเขาพบว่า ฟาง เจิ้งจือ เลือกเส้นทางที่เขาไม่กล้าเลือก เขาก็รู้สึกแปลกๆในใจ

มันไม่สามารถอธิบายได้

ความอิจฉา? ไม่! เส้นทางที่เขาเลือกนั้นดีที่สุด!

อยากรู้อยากเห็น? ไม่! ประวัติศาสตร์ได้พิสูจน์แล้วว่าเส้นทางนั้นมีแต่ความตายที่รออยู่เท่านั้น!

หนานกง เฮา ไม่สามารถอธิบายความรู้สึกออกมาได้  เขารู้สึกอึดอัดเล็กน้อย

 

“เจ้ารวบรวมเต๋าได้มากกว่าร้อยดวงแล้ว?” หนานกง เฮา ไม่ได้สงสัย ฟาง เจิ้งจือ เพราะเขารู้ว่า ฟาง เจิ้งจือ พูดความจริง

อย่างไรก็ตามเขายังคงถามออกมา  เขาอยากรู้ว่าเส้นทางที่ ฟาง เจิ้งจือ เลือกไปไกลแค่ไหนแล้ว

“100 เต๋า? นั่นน้อยเกินไป!” ฟาง เจิ้งจือ ส่ายหน้าด้วยความดูถูก  เขาคิดว่า หนานกง เฮา ดูถูกเขา

100?

ไปตายเถอะ!

หนานกง เฮา ตกตะลึง  เขาไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากคำพูดของคนอื่นมากนัก  อย่างไรก็ตามเมื่อเขาได้ยินคำพูด ฟาง เจิ้งจือ ท่าทีของเขาก็เปลี่ยนไป

ผู้เข้าสอบคนอื่นๆก็ตกใจ

 

100 มันน้อยเกินไป?

เขามี 110 เต๋าหรือไงกัน?หรือ 120 เต๋า?

มันดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้

ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาคนที่รวบรวมเต๋าได้มากที่สุดคือ 183 ดวง  ยิ่งไปกว่านั้นเขาทำได้ตอนอายุเก้าสิบกว่าๆ

ฟาง เจิ้งจือ อายุเท่าไหร่?

เพียง 15 เท่านั้น!

 

เหยียน ซิว หันไปมอง ฟาง เจิ้งจือ  เขาเคยได้ยินว่า ฟาง เจิ้งจือ มีเต๋าในมิติพิเศษอยู่มากมาย

อย่างไรก็ตามเขาไม่รู้เหมือนกันว่า ฟาง เจิ้งจือ เข้าใจทั้งหมดได้ยังไง

“เป็นไปได้ไหมที่นายน้อยฟางจะรวบรวมได้มากกว่า 120 เต๋า?” หนานกง เฮา ได้สติอย่

Gate of God

Gate of God

GoG, 神门
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2015 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Gate of Godเรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset