Gate of God – ตอนที่ 400

ตั้งแต่สมัยโบราณ ผู้คนมักต้องการแข่งขันเพื่อพิสูจน์ว่าใครจะเหนือกว่าใคร แต่บางคนนั้นมีระดับพลังสูงกว่า แต่อีกคนมีวิชาที่ดีกว่า

 

แล้วพวกเขาจะตัดสินได้อย่างไร?

วิธีที่ง่ายที่สุดคือการต่อสู้อย่างยุติธรรม

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ผู้เข้าสอบทั้งหมดได้ยินว่า ฟาง เจิ้งจือ มีเต๋ามากถึง 388 ดวงภายในมิติพิเศษ ก็ไม่มีใครสงสัยในความสามารถของเขาอีกต่อไป

ในประวัติศาสตร์ได้พิสูจน์แล้วว่ามีคนที่เข้าถึงเต๋าได้มากกว่า 100 ดวง เป็นดั่งวีรบุรุษที่น้อยคนจะเทียบได้

 

หนานกง เฮา เป็นเหมือนดาวที่ส่องประกายตั้งแต่ยังเด็ก เขาได้รับการยกย่องจากผู้คนรอบข้างตั้งแต่เด็ก

คำยกย่อง เชิดชูต่างๆมากมาย

เก่งกาจ สุขุม อัจฉริยะ และเป็นดั่งอนาคตของอาณาจักร

 

ใครที่ยืนอยู่จุดเดียวกับเขาย่อมมีความยโส

อย่างไรก็ตาม หนานกง เฮา นั้นไมใช่ เขารู้ดีว่ายิ่งขึ้นไปสูงเท่าไร ตอนตกลงมายิ่งแรงเท่านั้น เพราะงั้น เขาจึงไม่เคยหยุดฝึกฝน นั้นก็เพื่อพัฒนาตัวเอง

สำหรับการทดสอบระดับสภา แม้จะมีความได้เปรียบทุกอย่าง เขาก็ยังคงพยายามอ่านทางของฝ่ายตรงข้ามเสมอ

เขามีความรู้สึกว่าตราบใดที่เขาได้เตรียมการและพบจุดนั้นของ ฟาง เจิ้งจือ ชัยชนะก็เป็นสิ่งแน่นอน

แต่ตอนนี้?

ฟาง เจิ้งจือ โต้กลับได้เกือบจะสมบูรณ์แบบ ฟาง เจิ้งจือ ได้ทำลายแผนการของเขาทำให้เขาสงบใจลงไม่ได้

 

หนานกง เฮา ค่อยๆฟื้นสติกลับมาอย่างช้าๆ

เขาเงยหน้ามองขึ้นบนท้องฟ้าเขารู้สึกถึงสายลมของฤดุใบไม้ผลิและมองไปยังผู้เข้าสอบรอบๆตัวเขาที่กำลังตกตะลึง

เขารู้ดีว่าตอนนี้ ฟาง เจิ้งจือ อยู่ในระดับเดียวกับเขา

 

อย่างไรก็ตาม ถ้ามองมันในมุมกลับ…

ความได้เปรียบด้านความรู้ ความได้เปรียบทางความสามารถ ความได้เปรียบด้านภูมิศาตร์ …ในทุกๆความได้เปรียบของเขาถูกลบล้างโดย ฟาง เจิ้งจือ

หนานกง เฮา ไม่ได้คิดอะไรต่ออีก เขาไม่ได้พยายามที่จะตอบโต้อะไรกับ ฟาง เจิ้งจือ กลับกันเขาค่อยๆหยิบดาบขึ้นมา

“การต่อสู้ครั้งนี้ ข้าจะลดระดับพลังให้อยู่ในระดับสะท้อนสวรรค์” หนานกง เฮา เริ่มสั่นเล็กน้อยก่อนจะสงบใจลง

ผู้เข้าสอบคนอื่นๆต่างก็ผงะไปกับสิ่งที่ได้ยิน

“หนานกง เฮา ต้องการลดระดับพลังของตัวเองลงไปเพื่ออะไร? เขาพูดออกมาเอง? เกิดอะไรขึ้นกัน?

“ทำไมเขาถึงทำอย่างนั้น?

“ไม่แปลกใจเลยที่เขาเป็นสุดยอดอัจฉริยะ!

ผู้เข้าสอบบางคนไม่เข้าใจว่า หนานกง เฮา กำลังคิดอะไรอยู่ อย่างไรก็ตาม บางคนก็เข้าใจได้เกือบจะในทันที

ไม่ใช่เรื่องที่เข้าใจได้ยากเลยแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตาม บางคนอาจจะตัดสินใจเช่นเดียวกันนี้ ถ้าพวกเขาเองอยู่ในสถานการณ์นั้น การกระทำของ หนานกง เฮา ช่างน่าชื่นชม

อย่างที่พูดไป

ถ้าเขาไม่ตัดสินใจเช่นนั้น เขาก็ไม่ใช่ หนานกง เฮา

แขนของ หนานกง เฮา ตั้งมั่น ดวงตาของเขาส่องประกายราวกับแสงอาทิตย์

ความสับสนได้หายไปอย่างสิ้นเชิง

หนานกง เฮา รู้ถึงความเสี่ยงในการตัดสินใจแบบนี้ อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจเช่นนี้ทำให้เขารู้ว่าตัวเองนั้นเร่งรีบขนาดไหน

เขาจำไม่ได้ว่าครั้งสุดท้ายที่เขาตื่นเต้นในการต่อสู้กับใครบางคนคือเมื่อไหร่

แต่ตอนนี้…

เขารู้สึกร้อนรนมาก!

เมื่อเขาได้ยินว่า ฟาง เจิ้งจือ มีเต๋ามากถึง 388 ดวงอยู่ในมิติพิเศษ เขาก็มีอยู่สองทางเลือก หนึ่งคือเขาสามารถใช้พลังที่เหนือกว่าข่มเหง ฟาง เจิ้งจือ

อย่างไรก็ตามถ้าเขาทำเช่นนั้น ใจของเขาก็จะพ่ายแพ้ให้กับการต่อสู้

 

ศักดิ์ศรีของ หนานกง เฮา คอยฉุดรั้งไม่ให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ ฟาง เจิ้งจือ ลบล้างความเสียเปรียบที่มีต่อเขาไปได้ทั้งหมด

 

ความแข็งแกร่งจะยังคงแข็งแกร่งถ้าพวกเขามั่นใจมากพอ

คนเหล่านี้เท่านั้นที่จะยอมรับความเสี่ยงและผลักดันตัวเองไปให้ถึงขีดจำกัด

คนเหล่านี้เท่านั้นที่จะสามารถยืนอยู่บนจุดสุดยอดและกลายเป็นพลังที่แท้จริง

หนานกง เฮา สามารถเลือกทางที่ง่ายกว่า

เขาสามารถใช้พลังที่เหนือกว่าของเขาข่ม ฟาง เจิ้งจือ ได้ อย่างไรก็ตามนั่นหมายความว่า เขาไม่กล้าพอที่จะท่าทายและพิสูจน์ว่าวิธีการของเขานั้นถูกต้อง

การต่อสู้ครั้งนี้อาจทำลายชีวิตของเขา!

หนานกง เฮา เชื่อมั่นในการเลือกของเขา เขายินดีที่จะยอมจ่ายราคาแพงในทางที่เขาเลือก เขาไม่กลัวที่จะพ่ายแพ้ เขากล้าที่จะแพ้

 

แน่นอนว่า ฟาง เจิ้งจือเองก็ต้องมีความสามารถพอที่จะเอาชนะเขาเช่นกัน

ความสงบเยือกเย็นของ หนานกง เฮา ค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นความมั่นใจและความตื่นเต้น นี่คือความเร่งรีบที่เขารู้สึกว่าได้พบกับคู่ต่อสู้ที่คุ้มค่า

มีคนแข็งแกร่งที่มีเต๋ามากถึง 388 ดวงในมิติพิเศษได้ยังไงกัน?

หนานกง เฮา จ้องไปที่ ฟาง เจิ้งจือ เขาอยากจะถามตัวเอง ว่าจำนวนจะทำให้เกิดความแตกต่างหรือไม่ หรือสิ่งสำคัญอยู่ที่หัวใจ

ฟาง เจิ้งจือ ไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะได้รับโอกาสทองเช่นนี้

ในความจริงตอนที่เขารู้ว่า หนานกง เฮา เขาสู่ระดับอภินิหาร เขาอยากจะหันหลังกลับแล้วบอก หนานกง เฮา ว่าไว้คราวหน้า

แน่นอนเขาไม่ได้ทำเช่นนั้น

ไม่จำเป็นต้องอธิบายเหตุผลของเขา ในท้ายที่สุด เขาก็สามารถลบล้างความเสียเปรียบที่มีต่อ หนานกง เฮา ได้ จากนั้นเขาก็ได้รับข่าวดีอีกเรื่องหนึ่ง

หนานกง เฮา จะลดระดับพลังของตัวเองลง!

เดี๋ยวก่อน!

ถ้าหากว่า หนานกง เฮา พ่ายแพ้ มันจะถูกต้องงั้นหรือ?

ความตื่นเต้นของ ฟาง เจิ้งจือ คงอยู่ได้ไม่นาน เขาจำได้ว่าจุดประสงค์ที่ต้องต่อสู้กับ หนานกง เฮา ก็เพื่อคำสัญญาที่ให้ไว้กับ หนานกง มู่

ถ้าเขาเอาชนะ หนานกง เฮา ในตอนที่เขาลดระดับพลังของตัวเอง เขาคงไม่ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ตั้งใจ

นั่นคือสิ่งที่ ฟาง เจิ้งจือ คิด

แม้อย่างนั้นทั้งผู้เข้าสอบและเจ้าหน้าที่คิดว่า การที่ หนานกง เฮา จะลดระดับพลังของตัวเองนั้นหมายความว่าเขามั่นใจมากทีเดียว สิ่งนี้ทำให้เขาได้เปรียบเล็กน้อย

“ใครจะได้รับชัยชนะถ้าหากเขาทั้งคู่มีพลังอยู่ในระดับเดียวกัน?

“หนานกง เฮา อย่างแน่นอน! เพราะ หนานกง เฮา ได้รับเชิญให้เข้าร่วมศาลาเต๋าสวรรค์ตอนที่เขาอยู่ในระดับสะท้อนสวรรค์ นอกจากนี้หัวใจของ หนานกง เฮา เองก็แข็งแกร่ง”

“แม้ ฟาง เจิ้งจือ จะเข้าถึงเต๋าได้มากถึง 300 …ไม่สิ เกือบ 400 ดวง! ถ้าพูดอย่างมีเหตุผล ไม่มีใครที่มีพลังระดับเดียวกันสามารถต่อกรกับเขาได้

“แน่นอนว่า การต่อสู้ครั้งนี้ …คงยากที่จะคาดเดาได้!

ผู้เข้าสอบทั้งหมดเริ่มถกเถียงกันถึงความเป็นไปได้ทั้งหมดของการต่อสู้ครั้งนี้หลังจากที่ได้รู้ถึงจำนวนเต๋าในมิติพิเศษของ ฟาง เจิ้งจือ พวกเขาก็เริ่มคิดว่าการต่อสู้ครั้งนี้ มีความไม่เท่าเทียมน้อยกว่าที่พวกเขาคาดคิด

อย่างไรก็ตามในขณะที่ผู้เข้าสอบเหล่านี้คิดว่าการต่อสู้กำลังจะเริ่ม เสียงของ ฟาง เจิ้งจือ ก็ดังขึ้นมา

“ถ้าเจ้าไม่ใช้พลังทั้งหมดที่มี แล้วการต่อสู้ครั้งนี้มันจะไปมีความหมายอะไรกัน ตอนที่ข้าพูดว่ามันจะเป็นการต่อสู้ที่ยุติธรรม ข้าก็หมายความว่าเช่นนั้น! ข้าต้องการให้เจ้าใช้ความสามารถเต็มที่! ฉะนั้นแล้วโปรดทิ้งความสงสารนั้นไปและใช้พลังทั้งหมดซะ! ให้ข้าเห็นว่าเจ้าจะคุ้มคาพอให้ข้าได้ตวัดดาบ!“ฟาง เจิ้งจือ โบกดาบขึ้นไปกลางอากาศขณะที่เขาพูด

ผู้คนทั้งหมดเงียบ

พวกเขาทั้งหมดต่างเกรงกลัวในสิ่งที่ได้ยินคราวนี้พวกเขารู้สึกได้ถึงความน่าหวาดกลัวจาก ฟาง เจิ้งจือ

นี้คือความกล้าหาญที่จะเผชิญหน้ากับพลังมหาศาล

นี่มันยิ่งมีค่ามากกว่าความกล้าของ หนานกง เฮา

แสงอาทิตย์ส่องกระทบดาบไร้ร่องรอยของ ฟาง เจิ้งจือ ทำให้เกิดแสงสีม่วงส่องสว่างไปทั่ว

ท่าทีอันตื่นเต้นของ หนานกง เฮา แข้งค้างไปทันที

เขาไม่เคยรู้สึกแย่ขนาดนี้ก่อนการต่อสู้มาก่อน  แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกกดดันอย่างไม่น่าเชื่อ

แรงกดดันนี้ไม่ได้มาจากความสามารถหรือพลังของฝ่ายตรงข้าม!

มันมาจากหัวใจ!

 

หนานกง เฮา มั่นใจเป็นอย่างมากในตอนแรก  แต่เขาก็ต้องยอมรับว่า ฟาง เจิ้งจือ เชี่ยวชาญในด้านนี้มากกว่าเขา

เขาไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเขายังคงเป็นอย่างนี้  ทั้งหมดที่เขารู้ ตอนนี้แม้แต่จะดึงดาบออกมาเขายังทำไม่ได้

“การต่อสู้ที่เป็นธรรม? งั้นมาดูกันเจ้าจะทนได้สักรอบไหม!” ดวงตาของ หนานกง เฮา ลุกโชนราวกับดวงอาทิตย์

เมื่อตกอยู่ใต้ความกดดันอันยิ่งใหญ่

มีไม่กี่คนที่เลือกจะดึงดาบออกมาสู้

แต่ หนานกง เฮา ไม่ลังเลแม้แต่น้อย  เขารู้ว่าเขาได้ฝึกฝนตัวเองเป็นอย่างดีในด้านนี้  เขาไม่กลัวคนที่มีความสามารถเท่าเทียมกัน

 

วิชารบมังกรสามารถรับได้ทุกสิ่ง

ด้วยวิธีในการฝึกตนของเขา เขาสามารถรองรับได้ทุกอย่าง  เมตตา ปีศาจ บ้าคลั่ง เขาสามารถเข้าถึงแก่นแท้ของพวกมัน

 

ด้วยความสามารถของเขา ทำไมต้องสนกับความพ่ายแพ้เล็กๆด้วย

 

หนานกง เฮา ดึงดาบออกมา

 

แม้จะสูญเสียความได้เปรียบเขาก็ไม่ลังเล

มันดูเหมือนดาบธรรมดาๆ แต่ไม่มีอะไรที่มันไม่สามารถทำได้

ใบดาบพุ่งผ่านอากาศ

 

มันคล้ายกับการโจมตีที่ หนานกง เฮา โจมตีใส่ เฉิน เฟยยู่  ทุกคนรู้ว่าการโจมตีที่ธรรมดานี้แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก

ฟาง เจิ้งจือ ผงะไปเล็กน้อยเมื่อเห็นการโจมตีนี้

เขาคิดว่าหลังจากแลกเปลี่ยนความคิดกันเล็กน้อยแล้ว หนานกง เฮา จะพูดบางอย่างออกมา  ตัวอย่างเช่นอาจจะเป็นการโน้มน้าว ฟาง เจิ้งจือ

อย่างไรก็ตาม หนานกง เฮา ไม่ได้ทำอะไรแบบนั้น

เขาเลือกที่จะดึงดาบและเข้าโจมตี  เขาไม่ลังเลแม้แต่น้อยรวมถึงไม่พูดอะไรล่วงหน้าก่อนโจมตีแม้แต่น้อย

“ลอบโจมตี?” ฟาง เจิ้งจือ ต้องการจะกล่าวหา หนานกง เฮา แต่พบว่ามันไม่เหมาะสม

หนานกง เอา โจมตีเขาจากด้านหน้า  นอกจากนี้เป็นเขาเองที่เรียกร้องความเป็นธรรม

กล่าวได้ว่า ตอนนี้การต่อสู้เริ่มต้นขึ้นแล้ว!

มันเข้าใจได้ว่าทำไม หนานกง เฮา จึงโจมตี

ต่อให้มันจะแปลกๆ แต่ ฟาง เจิ้งจือ ก็ตอบสนองทันที  เขารีบโยนตะปูออกไปด้วยมือซ้ายทันที

วิชารบมังกรสามารถรองรับได้ทุกอย่าง?

งั้นลองรับตะปูไปหน่อย!

ฟาง เจิ้งจอ ไม่ได้หวังอะไรกับตะปูมากนัก  แต่มันเป็นนิสัยติดตัวของเขา

เช่นนั้นหลังจากปาตะปูออกไปเสร็จ เขาก็ตวัดดาบไร้ร่องรอยทันที

มีคำพูดหนึ่งในโลกก่อนของเขา “แม้นำไหลไปแล้วไม่มีวันหวนกลับ!”

 

แสงส่องออกมาจากดาบ

ลำแสงขนาดใหญ่พุ่งลงมาราวกับน้ำตกจากฟากฟ้า  มันพุ่งเข้าใส่ใบดาบของ หนานกง เฮา

ในเวลานั้นแสงสีเงินปะทะเข้ากับดาบแก้ว

 

อย่างไรก็ตาม …

 

ไม่มีเสียงดังหรือผลกระทบใดๆ มีแต่ความเงียบเท่านั้น

มันเป็นวิชาที่ ฟาง เจิ้งจือ ใช้มาหลายครั้ง

เขาเรียกวิชานี้ว่าภูเขาน้ำตก 

Gate of God

Gate of God

GoG, 神门
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2015 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Gate of Godเรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset