…
ฟาง เจิ้งจือ ไม่รู้ว่าตัวเองตื่นอยู่หรือไม่ ทั้งหมดที่เขาจำได้คือหลังจากถูก เหยียน ซิว โจมตี เขาก็ฝัน
ฝันว่าเขาอยู่ในมิติพิเศษ
อย่างไรก็ตาม …
มันต่างไปจากมิติพิเศษของเขา เวลานี้ผลไม้บนต้นไม้ถูกประดับไปด้วยลวดลาย หมอกขาวส่องแสงเป็นประกาย
แน่นอนผลไม้ที่ดึงดูดความน่าสนใจที่สุดเป็นผลไม้สีม่วง
มันราวกับผลึกแก้วสีม่วงที่ส่องแสงแปลกๆออกมา มันสว่างขึ้นเรื่อยๆ สว่างจนทั้งมิติพิเศษกลายเป็นสีม่วง
ทั้งต้นไม้ ใบไม้ กิ่งก้าน ทุกส่วนล้วนเป็นสีม่วง แม้แต่มหาสมุทรอันกว้างใหญ๋ก็กลายเป็นสีม่วง
สีม่วงค่อยๆเข้มขึ้นเรื่อยๆ…
ฟาง เจิ้งจือ รู้สึกว่าความโกรธในใจของเขาค่อยๆเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกว่าเขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
ในท้ายที่สุด …
เมื่อเขาลืมตาขึ้นเขาก็เห็นเมืองโบราณ
เป็นเมืองที่สร้างจากหินสีแดง ถ้าดูจากไกลๆมันเหมือนสัตว์ร้ายตัวใหญ่ที่อาบโชกไปด้วยเลือดมากกว่า
มีสองคำเขียนด้วยสีแดงประดับอยู่ที่หน้าเมือง
เงาเลือด
ฟาง เจิ้งจือ รู้ว่ามันคือเมืองเงาเลือด แต่เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงฝันเห็นที่นี่ เพราะเขาไม่เคยมาที่นี่มาก่อน
เขาจะฝันถึงที่ที่เขาไม่เคยไปได้ยังไง?
แล้ว…
มันไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุด เรื่องสำคัญที่สุดคือเขาเห็นดาบ
ดาบที่พุ่งขึ้นไปยังสวรรค์และกลายเป็นมังกรขนาดมหึมา มันร้องคำรามจนพื้นดินสั่นสะเทือนราวกับดีใจที่ได้เป็นอิสระ
จากนั้นมันก็หันกลับมาและพุ่งลงไปใต้พื้นดินอีกครั้ง
มันเรียกว่า…
มังกรหวนกลับ!
…
มังกรสีม่วงบินวนอยู่บนท้องฟ้าก่อนที่มันจะกลายเป็นลำแสงสีม่วงพุ่งไปทางชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ข้างๆ วู่ ยี่
“ตาย!”
เสียงคำรามของมังกรนั้นทำให้ทุกคนที่ไดยินสั่นสะท้านไปถึงกระดูก
ชายวัยกลางคนมองไปยังลำแสงสีม่วง เขารู้ว่ามันมาจาก ฟาง เจิ้งจือ ที่อยู่ในระดับสะท้อนสวรรค์ขั้นสูงสุด
เขาไม่รู้สึกว่าการโจมตีนี้เป็นอันตรายต่อเขาแม้แต่น้อย
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเห็นลำแสงสีม่วงเข้ามาใกล้ คลื่นความกลัวก็เริ่มก่อตัวขึ้น ไม่รู้ว่าเป็นเพราะลำแสงนี้มีพลังพอที่จะทำลายทุกอยางที่ขวางทางมัน
หรือเพราะ…
บรรยากาศอันทรงพลังที่ถูกปล่อยออกมา
มันเป็นบรรยากาศอันโดดเดี่ยว ราวกับผู้ที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุด ราวกับการโจมีครั้งนี้แม้แต่ดวงดาวก็สามารถทำลายได้
ชายวัยกลางคนจับดาบแน่นตามสัญชาตญานทันที
เขาไม่รู้ว่าการโจมตีนี้แข็งแกร่งแค่ไหน อย่างไรก็ตามเขาสัมผัสได้ว่ามันทรงพลังมาก ทรงพลังจนเขาอยากจะหนี
อย่างไรก็ตาม เขาสามารถหลบได้?
ไม่!
เขาเป็นคนที่ยึดมั่นในตัวเองมาก
เขาทั้งมีความภาคภูมิใจและเย่อหยิ่งในตัวเอง ยิ่งไปกว่านั้น หยุน ชิงวู กำลังดูเขาอยู่
ดาบของเขาถูกทำสัญลักษณ์ไว้หลังจากเข้าปะทะกับ เหยียน ซิว อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้สนใจเรื่องนั้น
เหตุผลก็ง่ายๆ
เขาอยู่ในระดับจุติ ถือเป็นผู้ที่แข็งแกร่งผู้หนึ่ง
เขายกดาบขึ้น มันส่องแสงสีม่วงออกมา เขาพุ่งไปขางหน้าราวกับสายฟ้าปะทะเข้ากับลำแสงสีม่วง…
“ตูม!“
เกิดการระเบิดขึ้นขณะที่ลำแสงสีม่วงสองเส้นเข้าปะทะกันอย่างต่อเนื่อง เสียงคำรามของมังกรสีม่วงยังคงดังก้อง
จากนั้น ทุกอย่างก็เงียบลง
เสียงที่ได้ยินมีเพียงเสียงคำรามที่ยาวนานจากมังกร นอกจากนั้นก็ไม่มีเสียงอื่นอีก
ทุกคนต่างจดจ้องอยู่กับการต่อสู้
กองทัพของอาณาจักรเซี่ยทั้งห้าหมื่นนายต่างหยุดต่อสู้และดูลำแสงสีม่วงทั้งสองเข้าปะทะกัน ทหารของดินแดนภูเขาทางใต้ก็เช่นกัน พวกเขาหยุดดูด้วยความหวาดกลัว
ผู้เข้าสอบทุกคนแทบลืมหายใจ
เหล่าปีศาจด้วยเช่นกัน พวกเขาล้วนแข็งแกร่งและสัมผัสได้ถึงความทรงพลังของลำแสงทั้งสอง
หน่วยเกราะมังกรยังคงจับดาบอยู่ พวกเขาถูกฝึกฝนอย่างเข้มงวดแต่ก็ไม่สามารถต้านทานและหันมามองลำแสงสีม่วงทั้งสองเช่นกัน
ทุกคนที่อยู่ในสนามรบไม่มีใครไม่มองลำแสงทั้งสอง
ทุกคนมีเพียงความคิดเดียวในใจ …
ผู้ที่อยู่ในระดับสะท้อนสวรรค์ขั้นสูงจะต่อสู้กับผู้ที่อยู่ในระดับจุติได้ยังไง? นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายดูสูสีกัน
“ตูม…”
เสียงคำรามค่อยๆจางหายไปแทนที่ด้วยฝุ่นผงที่กระจายไปทั่วสนามรบ ก่อนที่จะมีหยาดฝนตกลงมา
มันทำให้พื้นดินกลายเป็นโคลน มันค่อยๆชะล้างเลือดที่พื้นดิน
สงครามหยุดลงชั่วคราว
ทุกฝ่ายต่างหยุดอยู่กับที่ ให้น้ำฝนไหลผ่านตัวของพวกเขาไป
มันหนาว…
แต่พวกเขาก็ดูไม่ได้ใส่ใจ
ผู้เข้าสอบทุกคนก็ถูกฝนตกใส่เช่นกัน ตามปกติ พวกเขาคงหาร้านอาหารดีๆเพื่อหลบฝน หรือโรงเตี้ยมดีๆเพื่อนั่งดื่ม อย่างน้อยที่สุดก็ใช้ความสามารถของพวกเขากันฝนออกไป
แต่ตอนนี้…
ไม่มีอะไรแบบนั้นเกิดขึ้น
ผู้เข้าสอบทุกคนยืนนิ่งอยู่กับที่ ปล่อยให้น้ำฝนไหลผ่านใบหน้าพวกเขา
“มันเกิดขึ้นได้ยังไง?“
“เป็นไปได้ยังไง”
“ข้ากำลังฝันอยู่งั้นรึ?“
เสียงพึมพัมของผู้เข้าสอบสามารถได้ยินได้
จากนั้นกองทัพก็เริ่มเคลื่อนไหว
ทหารของอาณาจักรเซี่ยยกหอกขึ้นด้วยความตื่นเต้น
ท่าทีของทหารดินแดนภูเขาทางใต้นั้นต่างแข็งค้าง พวกเขาไม่สามารถลบความตกใจออกไปได้จากสิ่งที่เห็น
ท่าทีของ ซิง ฉิงซุย นั้นเต็มไปด้วยความซับซ้อน อย่างไรก็ตามมีร่องรอยแห่งความแปลกใจ ราวกับเขาเห็นแสงสว่างท่ามกลางความมืดมิด
หนานกง เฮา จับดาบในมือแน่น มันไม่ใช่เพราะฝ่ายตรงข้าม
แต่มันมาจากหัวใจของเขา
“ฟาง เจิ้งจือ!” น้อยครั้งมากที่ ไป่ ซิง จะพูดชื่อของใครก็ตามขึ้นมาในสนามรบ อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้เขาตะโกนออกมา
ท่าทางของเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ
…
ฟาง เจิ้งจือ คิดว่าเขาอยู่ในความฝัน ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นความฝัน
ยิ่งไปกว่านั้น การที่เขาไปเยือนเมืองเงาเลือดมาเป็นเครื่องยืนยันชั้นดีว่าเป็นความฝัน
เพราะเขาอยู่ในความฝัน เขาจึงสัมผัสถึงความรู้สึกต่างๆไม่ได้มากนักนอกจากเจตจำนงแห่งการฆ่า
แต่ตอนนี้…
เขารู้สึกราวกับว่าฝันกลายเป็นความจริง
ดูเหมือนเขาจะกลับมาที่สนามรบ เขาเห็น เหยียน ซิว อยู่ด้านหน้าเขา ร่างกายของเขาส่องแสงสีแดงจางๆ
นอกจาก เหยียน ซิว เขาเห็นชายวัยกลางคนสองคนจ้องมองเขาอยู่ หนึ่งในนั้นถือดาบที่เปื้อนเลือด
แน่นอน เขาสามารถเห็นทุกอย่างได้ผ่านดวงตาสีม่วง แม้มันจะออกเป็นสีม่วงๆก็ตาม
ใบหน้าของชายวัยกลางคนทั้งสองก็เป็นสีม่วงเช่นกัน
ฟาง เจิ้งจือ อยากจะถามว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขากำลังต่อสู้กันอยู่?
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเห็น เหยียน ซิว ที่มีเลือดไหลออกมาจากปากและร่างกายลายเป็นสีแดง เขาก็ไม่คิดจะถามอะไรอีก เขาถูกกลืนกินด้วยความโกรธและความต้องการฆ่า
เหยียน ซิว บาดเจ็บ?
ฟาง เจิ้งจือ คิดว่าเขาอยู่ในความฝัน อย่างไรก็ตามเขาไม่คิดว่า เหยียน ซิว จะถูกจัดการจนมาอยู่ในสภาพนี้แม้แต่ในความฝันก็ตาม
เขาวางมือลงบนไหล่ของ เหยียน ซิว
เขาไม่ได้พูด เขารู้ว่าตัวเขากำลังถ่ายโอนความต้องการฆ่าไปยังหัวใจของ เหยียน ซิว และ เหยียน ซิว ต้องรู้ความหมายของเขาแน่นอน
แน่นอนว่ามันเป็นความจริง
เหยียน ซิว หลับตาและนั่งลง
ฟาง เจิ้งจือ หันไปหาชายวัยกลางคนทั้งสอง เขาเลือกชายวัยกลางคนที่ดาบเปื้อนเลือดได้อย่างแม่นยำ
“ตาย!”ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้คิดมาก
เพราะ…
นี่เป็นแค่ความฝัน
เขากระโจนออกไปทันที เขาไม่คิดถึงวิชาที่เขาต้องใช้มากนัก เขามีเพียงวิชาเดียวในหัวใจ สิ่งที่เขาพึ่งได้เห็นมา
วิชาที่แบ่งเมืองเงาเลือดออกเป็นสองส่วน และทิ้งร่องรอยไว้จนทุกวันนี้
มังกรสีม่วงพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า
ก่อนที่จะกลายเป็นลำแสงสีม่วง
ฟาง เจิ้งจือ คิดว่านี่เป็นแค่ความฝัน เขาไม่เคยคิดว่าเขาจะสามารถใช้วิชานั้นได้ พลังของมันนั้นเหลือเชื่อเกินไป
อยู่ดีๆฝนก็เริ่มตก
มันกระทบกับใบหน้าของเขา ทำให้เขารู้สึกเย็นเล็กน้อย แสงสีม่วงที่ส่องมาจากร่างเขาไม่ได้จางลงแม้แต่น้อย มันกลับเข้มขึ้นด้วยซ้ำ
โลกกลายเป็นสีมว่ง แม้แต่ฝนก็เป็นสีม่วง
นี่เป็นความฝัน?
ฝันสีม่วง?
…
“แคร้ง!“ดาบของชายวัยกลางคนร่วงลงมาที่พื้น ตอนนี้มันไม่ใช่ดาบอีกต่อไป มันมีแค่ด้ามไม่มีใบดาบ
ในฐานะผู้ที่อยู่ในระดับจุติ..
ดาบของเขาจะไม่มีทางพังได้ง่ายๆ เขาสามารถใช้เต๋าเพื่อคงสภาพมันได้ตลอดเวลา
แต่ความจริงคือดาบของเขาได้หักลง
มีเพียงคำอธิบายเดียวที่เป็นไปได้ เต๋าในระดับจุติไม่เพียงพอที่จะปกป้องดาบของเขา
สายตาของชายวัยกลางคนมองอย่างเลื่อนลอยก่อนจะค่อยๆกลายเป็นความโกรธ เขาไม่รู้ว่าเป็นไปได้ยังไง แต่ความจริงก็เปลี่ยนไม่ได้
“นายน้อย!” ชายวัยกลางคนหันไปมอง หยุน ชิงวู ที่อยู่บนหน้าผา
ชุดสีขาวของนางพริ้วไหวไปตามสายลม แต่เมื่อมันซับน้ำฝนมากขึ้นเรื่อยๆมันก็ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อีกต่อไป