เด็กหนุ่มที่เผชิญหน้ากับปีศาจระดับจุติได้ เด็กหนุ่มที่มีเต๋ามากถึง 388 ดวงอยู่ในมิติพิเศษ
ไป่ ซิง จะปล่อยให้คนแบบนี้มีชีวิตรอดต่อไปได้ยังไง?
“ปั้ง!“
บางอย่างกระทบกับไหน้าของ ไป่ ซิง อย่างจัง จากนั้นร่างของเขาก็พุ่งออกไปในอากาศราวกับว่าวที่สายขาด
เลือดไหลออกจากปากของ ไป่ ซิง
…
หนานกง เฮา รู้สึกทึ่งเล็กน้อย เขาไม่คิดว่า ไป่ ซิง จะหลบการโจมตีนี้ไม่ได้อย่างไรก็ตาม ความจริงก็คือการโจมตีนี้ปะทะเข้ากับ ไป่ ซิง จังๆ
มีบางอย่างผิดพลาด
หนานกง เฮา ไม่เคยเชื่อในโชค นอกจากนี้ เขาไม่เชื่อว่าฝ่ายตรงข้ามของเขาจะขุดหลุมฝังตัวเองเช่นนี้ระหว่างการต่อสู้
ไป่ ซิง เป็นตัวอย่างที่
ไม่ดี!
หนานกง เฮา มองไปที่ ไป่ ซิง แต่ ไป่ ซิง ไม่ได้มองเขา เขากลับมองไปที่ร่างที่กำลังต่อสู้กับ
วู่ ยี่
ไป่ ซิง ดูเหมือนจะไม่สนใจในความเจ็บปวด ในความจริงแล้ว ไป่ ซิง กำลังยิ้มอยู่ ดวงตาของเขาเป็นประกายราวกับดาวในท้องฟ้าที่ส่องสว่างยามค่ำคืน
ความผิดพลาด
อย่างแรกก็คือ ไป่ ซิง ล่อ เขา…
อย่างที่สองคือการใช้ประโยชน์จากความประมาทของฝ่ายตรงข้าม!
ความผิดพลาดของ ไป่ ซิง นั้นเกิดขึ้นอย่างชัดเจน ชัดเจนจนเกินไป เขาต้องการใช้การโจมตีของ หนานกง เฮา เพื่อลอบโจมตี ฟาง เจิ้งจือ
หนานกง เฮา สามารถคาดเดาเจตนาของ ไป่ ซิง ได้ก็เมื่อเขากระเด็นไปใกล้ ฟาง เจิ้งจือแล้ว
อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถหยุดการโจมตีนี้ได้ เพราะไ ป่ ซิง เคลื่อนที่ไม่ช้าไปกว่า หนานกง เฮา เลย
มีเพียงสองคนเท่านั้นที่สามารถหยุด ไป่ ซิง ได้
ก็คือ หนานกง เฮา และ ซิง หยวนกัว
ถ้า หนานกง เฮา ไม่สามารถป้องกันการดจมตีนี้ได้ ก็หมายความว่า ซิง หยวนกัว ก็ไม่สามารถทำได้ทันเช่นกันซิง หยวนกัว เองก็อยู่ห่างไกลมาก และเขาให้ความสำคัญอยู่กับการเคลื่อนทัพและออกคำสั่ง
ไป่ ซิง จึงใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้
ดังนั้นเขาจึงไม่ลังเลที่จะรับการโจมตีของ หนานกง เฮา เขาต้องการฆ่า ฟาง เจิ้งจือ ก่อนที่ ซิง หยวนกัว จะมีโอกาสจะรู้ตัว
อย่างไรก็ตาม … เหนือฟ้ายังคงมีฟ้าเสมอ
ไป่ ซิง ได้ลองคิดถึงคนที่สามารถหยุดเขาและรอโอกาสที่เหมาะจะโจมตี อย่างไรก็ตาม เขาไม่ทันคิดว่า ฟาง เจิ้งจือ กำลังคิดอะไรอยู่
ในความเป็นจริง…
ไม่มีใครคิดว่า ฟาง เจิ้งจือ จะทำอะไรต่อไป ต่อให้คิดก็ไม่มีใครเชื่อว่า ฟาง เจิ้งจือ จะกล้าทำแบบนี้
ไป่ ซิง คิดว่าเขาจะสามารถจบเรื่องนี้ได้หลังจากรับการโจมตีของ หนานกง เฮาอย่างไรก็ตาม ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้ต่อสู้กับ วู่ ยี่ อีกต่อไป เขาพุ่งไปหา หยุน ชิงวู แทน
ฝนยังคงตกอย่างต่อเนื่อง
ร่างที่ถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีม่วงพุ่งผ่านไปราวกับสายฟ้า ร่างนั้นเต้มไปด้วยจิตสังหาร
ไม่มีทหารของอาณาจักรเซี่ยคนไหนสามารถเชื่อในสิ่งที่เห็น ฟาง เจิ้งจือ ไล่ล่า หยุน ชิงวู
มันเหมือนรนหาที่ตาย
หยุน ชิงวู ได้รับการคุ้มกันจากหัวหน้าดินแดนปีศาจ ยิ่งไปกว่านั้นนางเป็นนายน้อยของเหล่าปีศาจ นางต้องมีสมบัติเพื่อสามารถใช้ปกป้องตัวเองได้แน่นอน
แค่ฆ่าแม่ทัพของฝ่ายศัตรูได้ ก็ถือว่าเป้นตำนานแล้ว อย่างไรก็ตาม แม้แต่ ซิง หยวนกัว เองก็ประหลาดใจ
เพราะ ฟาง เจิ้งจือ …
พุ่งตรงไปหานาง!
มันไม่บ้าคลั่งไปหน่อยหรือ?
ไม่มีใครอยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็น
อย่างไรก็ตาม เมื่อทหารของอาณาจักรเซี่ยเห็นร่างที่พุ่งมาหาพวกเขาอย่างรวดเร็ว พวกเขาก็เปิดเส้นทางให้ในทันที เพราะอย่างน้อยพวกเขาก็เป้นฝ่ายเดียวกันเหตุผลที่สำคัญกว่าก็คือ …
กลิ่นอายแห่งความตายที่ล้อมรอบร่างกายของ ฟาง เจิ้งจือ มันน่าหวาดกลัวจเกินไป
น่าหวาดกลัวจนทำให้พวกเขาตัวสั่น จิตสังหารกระจายไปทั่วอากาศ
ไป่ ซิง เองก็สั่นสะท้านอยู่ที่ตำแหน่งของเขา
เขาไม่เคยคิดเลยว่า ฟาง เจิ้งจือ จะสามารถหนีจาก วู่ ยี่ แล้วพุ่งตรงไปหา หยุน ชิงวู มันคือการฆ่าตัวตายชัดๆ
แม้แต่คนงี่เง่าก็ไม่ทำอย่างนั้น
มันคงเป็นเรื่องที่ต่างกันออกไป ถ้าเขาอยู่บนหน้าผาสูงและ หยุน ชิงวู อยู่ด้านล่างตอนนี้ ฟาง เจิ้งจือ พุ่งผ่านกองทัพเพื่อไปฆ่านางและปีศาจที่คุ้มกัน
แม้แต่ ซิง หยวนกัว ก็ไม่สามารถทำได้!
อย่างไรก็ตาม ฟาง เจิ้งจือ พยายามทำมันเด็กหนุ่มคนนี้กำลังจะกระทำการบางอย่างที่กล้าหาญและบ้าบิ่นจนเป็นตำนาน
…
หยุน ชิงวู ถอยหนีเพราะนางรู้สึกถึงกลิ่นอายแห่งความตายที่กำลังพุ่งมาหานาง
นางเปียกโชกไปด้วยน้ำฝน ผมของนางตกอยู่ที่หัวไล่ สายลมต้องการจะพัดผ้าคลุมหน้าให้พลิ้วไหวแต่มันกลับติดอยู่ที่ใบหน้า
“ไปลงนรกซะเถอะ! นายน้อย หนีไป“หัวหน้าดินแดนปีศาจสังเกตุเห็นถึงร่างสีม่วงที่พุ่งเข้ามาหา เขายิ้มด้วยความดูถูก
“ไม่เป็นไร”หยุน ชิงวู ส่ายหัวของนาง อารมณ์ของนางค่อนข้างขัดแย้ง ความรู้สึกของนางไม่สามารถอธิบายออกมาได้ และนางเองก็ไม่รู้ว่าอารมณ์ความรู้เหล่านี้มาจากที่ไหน
ในความจริงแล้ว นางไม่รู้สึกอะไรเลยตั้งแต่ครั้งแรกที่นางเห็น ฟาง เจิ้งจือ จนกระทั่งตอนนี้
อย่างไรก็ตาม …
นางไม่อาจลืมได้ว่า ฟาง เจิ้งจือ คือคนแรกที่เปิดผ้าคลุมหน้าของนางออกได้ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่ถึงสองครั้ง …
จะเกิดอะไรขึ้นถ้านางไม่ใช่นายน้อยของเหล่าปีศาจ?
เขาจะสามารถทำให้นางไว้วางใจได้หรือไม่?
นี่เป็นคำถามที่ หยุน ชิงวู ถามตัวเองอยู่หลายครั้ง คำถามอื่นๆก็คือ ถ้า ฟาง เจิ้งจือ ไม่มีความสามารถพอที่จะคุกคามอนาคตของเหล่าปีศาจได้ นางจะฆ่าเขาหรือไม่?
การฆ่ามนุษย์ที่มีพรสวรรค์เป็นสิ่งที่ปีศาจทำกันมาหลายต่อหลายปี
อย่างไรก็ตามเมื่อเผชิญหน้ากับความจริง อัจฉริยะที่แท้จริง นางกลับเกิดความลังเลที่จะฆ่าเขา
นี่เป็นความขัดแย้งอย่างแท้จริง
เพื่อไม่ให้เรื่องทุกอย่างแย่ลง หยุน ชิงวู ตัดสินใจจะฆ่า ฟาง เจิ้งจือ นางรู้ว่า ฟาง เจิ้งจือ ก็ต้องพยายามทำทุกอย่างเพื่อฆ่านางเช่นกัน
“เจ้า…คงต้องการฆ่าข้ามากเลยสินะ?” หยุน ชิงวู พึมพัมกับตัวเองขณะที่มองไปยังร่างสีม่วง
มันไม่ใช่คำถามที่นางควรถาม นางควรจะเป็นคนควบคุมสถานการณ์ทั้งหมด
คำถามนี้ดูโง่เง่าและไร้เดียงสามาก
แม้อย่างนั้น…
หยุน ชิงวู ก็ยังถามตัวเอง
อย่างไรก็ตามนางก็สามารถตอบตัวเองได้ในทันที ” ใช่ ในเมื่อข้าต้องการจะฆ่าเจ้า…มันก็แน่นอนที่เจ้าอยากจะฆ่าข้าเช่นกัน“
มีฉากหนึ่งผุดขึ้นมาในใจนาง
ตอนนั้น นางอยู่กับ ฟาง เจิ้งจือ เพียงลำพัง นางเล่นเพลงให้เขาฟัง ตอนนั้นนางมีวิธีมากมายเพื่อหยุดเขาไม่ให้ออกจากเรือไป และ ฟาง เจิ้งจือ ก็มีโอกาสฆ่านางได้มากมาย
อย่างไรก็ตามไม่มีใครคิดที่จะฆ่าอีกฝ่าย ราวกับทั้งสองเป็นเพื่อนที่มานั่งพูดคุยกันเท่านั้น
นั่นเป็นครั้งแรกที่ หยุน ชิงวู อยากพบมนุษย์ขึ้นมา
เป้าหมายของนางเพื่อฉลองที่ ฟาง เจิ้งจือ ได้อันดับหนึ่งในการทดสอบที่เมืองแม่น้ำแห่งความสัตย์เท่านั้น
ไม่กี่เดือนผ่านไป
พวกเขาได้พบกันอีกครั้ง
พวกเขากลายเป็นศัตรูกัน หยุน ชิงวู พยายามทุกหนทางเพื่อฆ่า ฟาง เจิ้งจือ และ ฟาง เจิ้งจือ ก็พยายามฝ่าพวกปีศาจเพื่อให้มาถึงตัวนาง
มนุษย์และปีศาจ
มันเป็นชะตากรรมของพวกเขา…
…
“หยุดเขา!“
“ปกป้องนายน้อย!“
“หน่วยเกราะมังกร เปิดเส้นทางให้ ฟาง เจิ้งจือ!“
หน่วยเกราะมังกรและปีศาจชั้นสูงเข้าปะทะกัน ปีศาจทำทุกอย่างเพื่อหยุด ฟาง เจิ้งจือ ขณะที่หน่วยเกราะมังกรพยายามไล่ปีศาจอกไปจากเส้นทาง
วู่ ยี่ หน้าซีด
ตั้งแต่ที่เขาเริ่มสู้กับ ฟาง เจิ้งจือ เขาสามารถสัมผัสได้ถึงจิตสังหารอันรุนแรง ราวกับเขาถูกโยนลงไปในขุมนรก
เขาแทบหายใจไม่ออกและการเคลื่อนไหวของเขาถูกจำกัด ทำให้เขาเสียเปรียบในการต่อสู้
“จิตสังหารของเขาแข็งแกร่งเกินไป! ทำไมถึงเป็นแบบนี้!?” วู่ ยี่ ไม่เข้าใจ ทำไมมนุษย์วัยเยาว์ถึงมีจิตสังหารได้รุนแรงขนาดนี้
ผ่านการต่อสู้มามาก?
ฟาง เจิ้งจือ ไม่ได้มีโอกาสเช่นนั้น
ความเกลียดชังและความโกรธตั้งแต่เด็ก?
ดูไม่น่าใช่ทั้งสอง!
ยิ่งไปกว่านั้นสายได้รายงานมาว่า ฟาง เจิ้งจือ โตมาในหมู่บ้านเล็กๆมีชีวตที่เป็นอิสระ เขาดูไม่ใช่คนที่เกลียดชังอะไรในโลกใบนี้
วู่ ยี่ ไม่สามารถเข้าใจได้
อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่มีทางยอมแพ้
แต่ความจริงตอนนี้คือเขากำลังจะแพ้
ยิ่งไปกวานั้น ฟาง เจิ้งจือ ได้เคลื่อนที่ผ่านเขาไปเพื่อตรงไปหา หยุน ชิงวู แล้ว
“จับเขา!” เสียงของ ไป่ ซิง ดังขึ้น มันทำให้ความกดดันของ วู่ ยี่ลดลงมาก
ก่อนที่เขาจะหันไปทาง ฟาง เจิ้งจือ
เขาไม่อยากจะเผชิญหน้ากับจิตสังหารอีกครั้ง อย่างไรก็ตามเมื่อเห็น ฟาง เจิ้งจือ พุ่งเข้าไปหา หยุน ชิงวู เขาก็ไม่ลังเล
เขาไม่ยอมให้ หยุน ชิงวู เป็นอะไรไปแม้แต่น้อย!
…
ฝนตกหนักทำให้การมองเห็นของทุกคนไม่ดีนัก จะสามารถรู้ว่าร่างที่เห็นเป็นใครได้ก็ต่อเมื่อคนนั้นเข้ามาใกล้เท่านั้น
อย่างไรก็ตามมี่ร่างหนึ่งที่ทุกคนเห็นชัดเจน
ร่างที่ปกคลุมด้วยแสงสีม่วง
เสียงฟ้าร้องและฟ้าผ่าดังสนั่น คลื่นจิตสังหารแผ่กระจายไปทั่วอากาศ เขารวดเร็วมาก ราวกับเป็นส่วนหนึ่งของสายฟ้า
“หยุดเขา!“
“หยุดเขา เร็วเข้า!“
เสียงแห่งความตื่นกลัวดังขึ้น ร่างสีดำทั้งหลายพาตัวเองมาหยุดไว้ด้านหน้าของร่างสีม่วงนั้น
“ตาย!” เสียงดังขึ้นมาจากเสียงสีม่วง
จากนั้นสายฟ้าสีม่วงก็พุ่งขึ้นมาจากพื้นดินไปสู้ท้องฟ้า ก่อนที่มันจะวนลงมาปะทะกับพื้นดินอีกครั้ง เกิดระเบิดดังสนั่นขึ้นตรงกลางของกลุ่มชายชุดดำ
มังกรหวนกลับ!
นี่เป็นวิชาที่ทรงพลังมากบวกกับจิตสังหารอันน่ากลัวยิ่งแล้วใหญ๋
“ตูม!“
รอยแยกขนาดใหญ๋เกิดขึ้นบนก้อนเมฆและพื้นดิน ขณะที่เลือดสาดกระเซ็นไปทั่ว